เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 114
ตอนที่ 114 สร้างพันธะสัญญา
“เอิ่ม.. ข้ามิคิดว่าจักเคยพบเห็นผู้ใดที่เฉลียวฉลาดอย่างที่เจ้าบอก!” หลงเฉินจ้องมองซุนอย่างพินิจพิจารณา แต่แล้วก็ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพึมพําออกไป ซุนเองก็ได้แต่จ้องมองหลงเฉินนิ่งเงียบ
“นี่เจ้า.. เจ้ามิคิดว่าข้าเฉลียวฉลาดหรอก? เจ้าเห็นว่าข้างโง่เขลานักหรืออย่างไร?!”
ซุนมิอาจทนต่อไปได้อีก นางกรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความโมโห และใบหน้าก็เริ่มแดงก่ำ
“เจ้ารึ?! จริงสินะ! ข้าลืมเจ้าไปเสียสนิทเลย!! เจ้านับเป็นคนเฉลียวฉลาดคนหนึ่งเท่าที่ข้าเคยรู้จักมา!!” หลงเฉินแสร้งทําเป็นพูดราวกับว่าตนรู้สักเช่นนั้นจริงๆ
“อืมม…” ซุนพึมพําอยู่ในลําคอ พร้อมกับพยักหน้าด้วยสีหน้าภูมิอกภูมิใจอีกครั้ง
“เจ้าช่วยข้าหน่อยจะได้หรือไม่ซุนคนเก่ง?” หลงเฉินจ้องมองซุนพร้อมกับเอ่ยขอร้อง
“อืมม.. เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนั้น และขอความช่วยเหลือจากข้าด้วยความจริงใจเช่นนี้ ข้าก็จะช่วยเจ้าสักครั้ง!” ซุนเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“กัดนิ้วของเจ้า หรือไม่ก็ใช้เข็มแทงให้โลหิตไหลออกมา จากนั้นใช้โลหิตของเจ้าเขียนสัญลักษณ์ลงไปบนเปลือกไข่” ซุนเอ่ยบอกหลงเฉิน
จากนั้นซุนก็ใช้นิ้วของตนเขียนสัญลักษณ์ประหลาดไว้ที่กลางหน้าผากของหลงเฉินและสัญลักษณ์ที่ว่านี้ก็ไปปรากฏเด่นชัดอยู่ภายในจิตใจของเขา
“เอาล่ะ.. จัดการใช้โลหิตของเจ้าเขียนสัญลักษณ์นี้ไว้บนเปลือกไข่ หากการทําพันธะสัญญาครั้งนี้ประสบความสําเร็จ โลหิตของเจ้าจักถูกไข่ใบนี้ดูดซับเข้าไป แต่หากมิสําเร็จ โลหิตของเจ้าก็จะยังคงอยู่เพียงแค่ด้านนอก และจะมิมีสิ่งใดเกิดขึ้น” ซุนอธิบายยิ้มๆ
หลงเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงทําการกัดนิ้วให้โลหิตไหลออกมา แล้วจึงใช้โลหิตของตนเขียนสัญลักษณ์ดังกล่าวลงไปบนเปลือกไข่ หลังจากที่เขียนสัญลักษณ์ประหลาดลงไปแล้ว หลงเฉินก็เฝ้าจ้องมองสัญลักษณ์บนเปลือกไข่ด้วยความหวัง
“มันจะยอมทําพันธะสัญญากับข้าหรือไม่นะ?!” หลงเฉินพึมพําออกมา
“ข้าเชื่อว่าจะมิมีปัญหาอันใด!” ซุนเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ดูสิ.. เริ่มมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว…”
หลงเฉินพึมพําออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อสังเกตเห็นว่าสัญลักษณ์ประหลาดนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแสงสีม่วงสุกสว่าง หลังจากนั้นจึงค่อยๆซึมหายเข้าไปในเปลือกไข่อย่างไร้ปัญหา
“สําเร็จ!!” หลงเฉินร้องตะโกนออกมด้วยความดีอกดีใจ
“ย่อมต้องสําเร็จเป็นแน่! อย่าลืมว่าโลหิตของเจ้าหาใช่โลหิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไปไม่ ฉะนั้นโอกาสที่จะไม่สําเร็จนั้นแทบจะมิมีเลย เว้นแต่ว่าภายในไข่จักเป็นสัตว์อสูรในตํานาน และเกลียดชังเจ้ามาก จนยินดีที่จะตายมากกว่าจะยอมผูกพันธะสัญญากับเจ้า” ซุนอธิบายยิ้มๆ
“หืมม.. ข้างในไข่คือสัตว์อสูรในตํานานงั้นรึ?!” หลงเฉินเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นเต้นทันที
“ข้ามิได้กล่าวเช่นนั้น! ข้าเพียงอธิบายให้เจ้าฟังว่า หากภายในไข่เป็นสัตว์อสูรในตํานานที่เกลียดชังเจ้ามาก มันก็อาจจะมียินยอมผูกพันธะสัญญากับเจ้าก็เป็นได้ แต่ข้าเองก็มมั่นใจว่าภายในจะใช่สัตว์อสูรในตํานานหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นจริงก็นับว่าเจ้าเป็นผู้ที่โชคดียิ่งนัก!” ซุนกล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“ข้าเริ่มรู้สึกคล้ายกับว่าจะสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตด้านในได้” หลงเฉินเอ่ยขึ้น
“เจ้าเห็นงั้นรึ? เจ้าเห็นภาพของสัตว์อสูรปรากฏขึ้นภายในจิตใจงั้นรึ? เช่นนั้นก็อนุญาตให้ข้าเข้าถึงความคิดของเจ้าที!! ข้าเองก็อยากจะเห็นมันด้วยเช่นกัน!” ซุนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“หาใช่เช่นนั้นไม่… ทุกครั้งที่ข้าพยายามที่จะสื่อสารกับมัน กลับพบเห็นแต่หมอกเต็มไปหมดและมิอาจเห็นภายในได้ชัดเจน..” หลงเฉินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่งุนงง
งั้นรี.. เช่นนั้นก็มิเป็นไร อีกหน่อยพวกเราก็คงได้เห็นเอง ข้ารู้สึกว่าคงจะใช้เวลาอีกไม่นานนัก” ซุนตอบพร้อมกับสายตาจับจ้องอยู่ที่ไข่ใบนั้น
“เอาล่ะ ข้าจะเริ่มฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อแล้ว ไว้พวกเราค่อยสนทนากันใหม่”
หลงเฉินเอ่ยบอกซุนพร้อมกับเตรียมตัวเริ่มฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อไป..
“เอ่อ เช่นนั้นก็ได้” ซุนพึมพําเสียงเบา จากนั้นก็หายวับไปในทันที
หลงเฉินเริ่มฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อทันที เขาเริ่มดูดซับเอาพลังชี้รอบตัวเข้าไปในร่างกาย ก่อนจะถูกจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธดูดซับเข้าไปอีกที แม้การฝึกฝนในโลกนี้จะก้าวหน้าได้ช้ากว่าในโลกทดสอบ แต่หลงเฉินก็รู้ดีว่าความก้าวหน้าที่รวดเร็วเช่นนี้ ก็ยังมิใช่เรื่อปกติอยู่ดี นั่นเพราะความก้าวหน้าที่เขาได้รับจากการฝึกวรยุทธบ่มเพาะเพียงแค่หนึ่งชั่วยามนั้น เทียบเท่ากับที่ผู้ฝึกยุทธทั่วไปต้องใช้เวลาเป็นวันเลยทีเดียว
ในระหว่างที่หลงเฉินกําลังทําการฝึกฝนวรยุทธบ่มเพาะอยู่นั้น ท่านปู่ของเขาก็ได้เข้าไปในราชสํานัก และเขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ในทันที
เวลานั้น จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิซุยนามเย่วหาน ที่กําลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ภายในท้องพระโรงว่าราชกิจอยู่พอดี ขันทีเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับกระซิบข้างหูขององค์จักรพรรดิ
“ฮ่าๆๆ เฒ่าหลงเหรินยังคงเป็นเช่นเดิมมิเปลี่ยนแปลง แม้ข้าจะบอกกับเขาว่า เขาสามารถเข้าออกภายในราชสํานักได้โดยมิต้องแจ้งให้ข้าทราบ แต่เขาก็ยังคงปฏิบัติตามกฎราชสํานักเช่นเคย เอาล่ะ…สั่งให้เขาเข้ามาได้”
จักรพรรดิเย่วหานหัวเราะร่วน พร้อมกับหันไปสั่งขันที่ให้ไปพาตัวหลงเหรินเข้ามา ขันที่ผู้นั้นรีบเดินออกไปทันที
ประตูท้องพระโรงเปิดออก หลงเหรินก้าวเท้าเดินเข้ามาด้านใน และตรงเข้าไปยืนอยู่ด้านหน้าของจักรพรรดิเย่วหน..
“วันนี้ลมอะไรพัดเข้ามาถึงที่นี่ได้?” องค์จักรพรรดิจ้องมองหลงเหรินพร้อมกับเอ่ยถาม
“ฝ่าพระบาท.. ข้ามาครั้งนี้เพื่อเชื้อเชิญพระองค์และเหล่าเชื้อพระวงศ์ ให้ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองที่จวนของข้ากระหม่อม เวลานี้หลานชายของกระหม่อมได้ตื่นขึ้นจากอาการหลับไหลอันยาวนานถึงสามปีแล้วพะยะค่ะ..” หลงเหรินเอ่ยบอกองค์จักรพรรดิด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“จริงรึ?! เขาตื่นขึ้นมาแล้วจริงรึ?! ข้าได้ยินมาว่าหมอเก่งๆทั่วทั้งจักรวรรดิต่างก็มิมีผู้ใดสามารถรักษาเขาให้หายได้มิใช่รึ? ทุกคนต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าหมดหนทางเยียวยา หรือภายในจักรวรรดิของข้ามีหมอเทวดาเกิดขึ้นใหม่งั้นรึ? ผู้ใดกันนะที่สามารถรักษาหลานชายของท่านได้ทั้งที่หมอเก่งๆมิมีผู้ใดรักษาได้”
องค์จักรพรรดิเย่วหานขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“หาใช่เช่นนั้นไม่ฝ่าบาท.. มีมีหมอใดทําการรักษาหลานชายของกระหม่อมได้ นอกเสียจากหมอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก.. หาไม่เทียนเอ๋อคงมิอาจตื่นขึ้นมาได้เป็นแน่!” หลงเหรินเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“หมอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกงั้นรึ? ผู้ใดกัน?! คนผู้นั้นอยู่ในจักรวรรดิของเราหรือไม่?!” จักรพรรดิเย่วหานเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
“กระหม่อมหมายถึงเทพเจ้าต่างหากฝ่าบาท เป็นเพราะความเมตตาของเทพเจ้า เทียนเอ๋อจึงตื่นขึ้นจากการหลับไหลได้โดยมิต้องได้รับการรักษาใดๆ” หลงเหรินอธิบายให้องค์จักรพรรดิฟัง
“ฮ่าๆๆ ที่แท้เจ้าก็พูดถึงเทพเจ้านี่เอง ทําให้ข้าอดสงสัยคลางแคลงใจไม่ได้” องค์จักรพรรดิหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เอาล่ะๆ ข้ารับคําเชิญของเจ้า และจะไปร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย!” องค์จักรพรรดิตอบรับคําเชิญของหลงเหรินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลงเหรินแย้มยิ้มออกมา และหันไปเชื้อเชิญเหล่าขุนนางคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในท้องพระโรงด้วย..
“ฝ่าบาท.. กระหม่อมขอตัวก่อน อภัยที่เข้ามาขัดการว่าราชการของพระองค์!” หลงเหรินเอ่ยกับจักรพรรดิเย่วหาน
“ตามสบาย!” องค์จักรพรรดิเอ่ยตอบหลงเหริน
หลงเหรินเดินออกจากท้องพระโรง หลังจากที่ออกจากราชสํานักไปแล้ว เขาก็ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก