เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 146
ตอนที่ 146 ทําลายชื่อเสียง
“เจ้าต้องการให้ข้าหักกระดูกส่วนใดของเจ้าดีล่ะ?! กระดูกแขนดีหรือไม่?!” หลงเฉินเอ่ย ถามในขณะที่ก้าวเดินเข้าไปหาต้วนฉู่ พร้อมกับใช้เท้าเหยียบแขนของเขาอย่างแรงจนกระดูกแตกละเอียด ทําให้ต้วนฉู่ถึงกับร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“หยุด!! ปล่อยคุณชายฉู่เดี๋ยวนี้!! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากําลังมีเรื่องอยู่กับผู้ใด?! หากเจ้ายังมิปล่อยคุณชายฉู่ไปล่ะก็ เจ้าจักต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่!!” หญิงสาวร้องตะโกนบอกเสียงดัง
หลงเฉินหันไปมองหญิงสาวพร้อมกับแสยะยิ้ม แม้หน้ากากจะปกปิดรอยยิ้มหยันของเขาไว้ แต่สายตาของเขาก็แสดงความเย้ยหยันออกมาอย่างชัดเจนในขณะที่จ้องมองหญิงสาวผู้นั้น หลงเฉินขยับเพียงเล็กน้อย ร่างของเขาก็หายจากจุดเดิม และไปปรากฏอยู่ข้างกายหญิงสาวในพริบตา และก่อนที่หญิงสาวจะทันได้รู้ตัว ฝ่ามือของหลงเฉินก็ได้พุ่งตรงเข้าที่ลําคอของนางอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่ฝ่ามือของหลงเฉินจะสัมผัสเข้ากับลําคอของหญิงสาว รัศมีพลังที่แข็งแกร่งพลันปรากฏขึ้น และได้ผลักร่างของหญิงสาวผู้นั้นเคลื่อนออกไปทางด้านข้าง ทําให้ฝ่ามือของหลงเฉินคว้าเข้ากับห้วงอากาศที่ว่างเปล่าแทน..
ร่างของชายชราผู้มีหนวดเคราขาวโพลน พลันปรากฏขึ้นข้างกายหลงเฉิน พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาดุดัน..
“ท่านผู้นี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าได้ทําผิดกฏร้ายแรงของหอหลอมกลั่นโอสถแห่งนี้? การก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นภายในหอหลอมกลั่นโอสถ นับเป็นความผิดร้ายแรง!”
ชายชราหนวดเคราขาวโพลนเป็นผู้เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ําเสียงดุดัน ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลงเฉิน..
“ท่านคงจะเป็นอาจารย์ผู้ดูแลหอหลอมกลั่นโอสถสาขานี้ที่พวกเขาพูดถึงสินะ?!”
“แน่นอน.. ข้าย่อมรู้ดีว่าตนเองทําอะไรลงไป สิ่งที่ข้าทําเมื่อครู่ก็เพื่อสั่งสอนคุณชายที่ยะโสโอหังผู้นี้อย่างไรเล่า? เขาควรต้องได้เรียนรู้ว่ามิควรหาเรื่องผู้อื่นก่อนเช่นนี้!” หลงเฉินเอ่ยตอบพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“แต่หอหลอมกลั่นโอสถแห่งนี้หาใช่สถานที่ที่ท่านจะอบรมสั่งสอนผู้ใดได้ตามใจชอบไม่” อาจารย์ก่ผู้ดูแลหอหลอมกลั่นโอสถเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ในขณะที่ก้มหน้าไปมองต้วนฉู่ซี่งกําลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“อ่อ.. เช่นนี้ย่อมหมายความว่าคนของหอหลอมกลั่นโอสถมีสิทธิ์ทําร้ายแขกได้เพียงฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายกลับมิสามารถตอบโต้ได้สินะ?!”
หลงเฉินที่ยังคงสวมหน้ากากเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงที่มิดังนัก คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น เพราะมิสามารถมองเห็นขั้นพลังบ่มเพาะของชายชราได้ ซึ่งปรากฏการณ์นี้สันนิษฐานได้เพียงข้อเดียวเท่านั้นคือ ขั้นพลังของชายชราเหนือกว่าอาณาจักรแก่นปราณทองคํา และต้องเป็นยอดฝีมือในอาณาจักรจุติพิภพเป็นแน่!
หลงเฉินมิอาจคาดเดาได้จริงๆว่า ชายชราผู้นี้อยู่ในขั้นใดของอาณาจักรจุติพิภพแล้วกันแน่ แต่เขาภาวนาขอให้อยู่ในขั้นต่ําที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นเพราะหากขั้นพลังของชายชราอยู่ต่ําว่าอาณาจักรจุติพิภพขั้นแปด หลงเฉินยังสามารถปลดปล่อยรัศมีพลังในขั้นแปดของอาณาจักรจุติพิภพออกมาข่มไว้ได้
อาจารย์ผู้ดูแลหอหลอมกลั่นโอสถแห่งนี้ หันมองไปทางต้วนฉู่และหญิงสาวที่เขาเพิ่งจะช่วยชีวิตไว้ พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเข้ม..
“ที่แขกท่านนี้กล่าว เป็นความจริงหรือไม่?” ชายชราเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองไปทางหญิงสาวที่มีสีหน้าคล้ายกําลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“มิจริงท่านอาจารย์! คนผู้นี้โกหก!!”
“แขกท่านนี้เข้ามาในหอหลอมกลั่นโอสถโดยอ้างว่าต้องการซื้อสมุนไพรและพืชพลังวิญญาณ แต่เมื่อมาถึงพบว่าข้าอยู่เพียงลําพังในห้อง เขาก็เริ่มแสดงกิริยามิเหมาะสม และพยายามที่จะลวนลามข้า!! บังเอิญว่าคุณชายฉู่มาพบเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เขาจึงได้พยายามห้ามปรามแขกท่านนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกแขกท่านนี้ทําร้ายร่างกาย..”
“ข้าจึงได้ร้องร้องตะโกนเรียกทหารที่อยู่ด้านล่างให้มาช่วย แต่คนผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก และได้ทําร้ายทหารทั้งหมดด้วยเช่นกัน จากนั้นยังคิดที่จะทําร้ายข้าด้วย หากท่านอาจารย์มิเข้ามาช่วยไว้เสียก่อน พวกเราคงถูกปีศาจตนนี้สังหารตายจนหมดแน่”
หญิงสาวบอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมกับจ้องมองอาจารย์ด้วยน้ําตานองหน้า
หลงเฉินได้ยินคําบอกเล่าของหญิงสาว ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังครู่หนึ่ง เวลานี้สายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้องมาทางเขา
“หลายปีมานี้ข้าพบเห็นผู้คนทําเรื่องไร้ยางอายมามากมาย แต่กลับมิเคยพบเห็นผู้ใดไร้ยางอายเช่นเจ้ามาก่อนเลยจริงๆ!”
หลังจากที่หยุดหัวเราะแล้ว หลงเฉินก็ร้องตะโกนออกไปเสียงดัง ดวงตาสีทองเป็นประกายทั้งสองข้างจับจ้องอยู่ที่ร่างของหญิงสาวผู้นั้น
“ท่านเป็นผู้ที่ก่อเรื่องในหอหลอมกลั่นโอสถของข้า อีกทั้งยังสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าเช่นนี้ ท่านบอกข้าทีว่า ข้าควรเชื่อคําพูดของท่าน หรือว่าควรเชื่อคําพูดคนของข้าดี?” อาจารย์กู่เอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน
“หากเจ้ามิอยากรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต ข้าว่าเจ้าจงใคร่ครวญด้วยเหตุผลให้ดีๆ!” หลงเฉินเอ่ยตอบพร้อมกับหัวเราะ
“ท่านกล่าวได้ถูกต้อง.. เวลานี้ข้าคิดหาได้หลายเหตุผลนัก! ประการแรก ข้ามสามารถมองเห็นขั้นพลังของท่าน ย่อมสันนิษฐานได้ว่า หากท่านมีใช้ยันต์ปิดบังขั้นพลังของตนเองไว้ ท่านก็ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าข้าเป็นแน่! และในเมื่อท่านกล้าลงมือทําร้ายคนในหอหลอมกลั่นโอสถเช่นนี้ ข้าย่อมเชื่อว่าเป็นเพราะเหตุผลข้อหลัง…”
อาจารย์คู่เอ่ยยิ้มๆ หญิงสาวและต้วนฉู่ถึงกับตกใจอย่างที่สุดเมื่อได้ยินคําพูดของอาจารย์ และเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองได้บังอาจมีเรื่องกับยอดฝีมือขั้นอาณาจักรจุติพิภพเข้าแล้ว
หลงเฉินภายใต้หน้ากากที่ปกปิดใบหน้าอยู่นั้น ถึงกับแอบถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอก และมั่นใจว่าชายชราที่อยู่ต่อหน้าตนเวลานี้ ย่อมแข็งแกร่งน้อยกว่าพลังบ่มเพาะลวงๆของตนเองเป็นแน่
“เจ้าคาดเดาได้ถูกต้อง!”
หลงเฉินปลดปล่อยรัศมีพลังในอาณาจักรจุติพิภพขั้นแปดออกมา ชายชราถึงกับขมวดคิ้วทันทีที่สัมผัสเข้ากับรัศมีพลังของหลงเฉิน นั่นเพราะเขาเองอยู่เพียงแค่อาณาจักรจุติพิภพขั้นหนึ่งเท่านั้น และนี่คือสาเหตุที่เขามิอาจประเมินขั้นที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้ แต่ก็คาดเดาว่าคงจะอยู่ในขั้นสูงของอาณาจักรจุติพิภพเป็นแน่
“เจ้าควรต้องอบรมสั่งสอนมารยาทให้กับศิษย์ของตนเองบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่นางผู้นี้!! เพียงแค่บังอาจลงมือกับผู้ที่อาวุโสกว่าเช่นข้าก็นับว่าแย่มากแล้ว แต่นี่นางกลับบังอาจสร้างเรื่องโกหกกล่าวหาข้าเลยทีเดียว!! หากเป็นผู้อื่นที่มิใช่ข้า.. ปานนี้ศรีษะของนางได้ร่วงหลุดจากบ่าไปกองกับพื้นนานแล้ว! หากมิใช่เพราะข้าปราณีแล้วล่ะก็ ป่านนี้นางคงจะมิมีลมหายใจแล้ว!”
“อาวุโส!! ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย! ข้าทําผิดครั้งใหญ่หลวงยิ่งนัก!”
ทันทีที่ได้สติและใคร่ครวญเรื่องราวจนเข้าใจแล้ว ต้วนฉู่ก็รีบฉวยโอกาสที่หลงเฉินกําลังโกรธเกรี้ยวหญิงสาว เอ่ยขออภัยและขอให้เขายกโทษให้กับตนด้วยน้ําตานองหน้า
หลงเฉินเดินตรงเข้าไปหาอาจารย์ผู้ดูแลหอหลอมกลั่นโอสถ พร้อมกับเอ่ยออกไปว่า..
“แม่นางผู้นี้มีเพียงไม่ยอมให้บริการข้าในฐานะแขกของหอหลอมกลั่นโอสถ อีกทั้งยังกล่าววาจาไร้สัมมาคาราวะต่อข้า สุดท้ายยังสร้างเรื่องโกหกทําลายชื่อเสียงของข้าเช่นนี้ เจ้าจักทําโทษนางอย่างเหมาะสมเอง หรือจักให้ข้าเป็นผู้ทําโทษนางด้วยตนเอง?”
หลงเฉินหันไปทางอาจารย์คู่พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงดุดัน สายตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของชายชรา..
“เป็นความจริงหรือไม่?! เจ้ามิยอมให้บริการแขกของหอหลอมกลั่นโอสถ อีกทั้งยังสร้างเรื่องโกหกใส่ร้ายเขาจริงหรือไม่? บอกความจริงกับข้ามา หากเจ้ากล้าโกหกข้าอีก รับรองได้ว่าเจ้าต้องมีจุดจบที่มิสวยงามแน่!”
อาจารย์อู่หันไปมองหญิงสาวด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน หญิงสาวถึงกับหวาดกลัวจนผงะถอยหลัง
“ข้า.. ข้าผิดไปแล้ว!! ข้าบังอาจโกหกท่านอาจารย์ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าได้วย!”
หญิงสาวร้องตะโกนออกมาพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นทันที!