เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 40
ตอนที่ 40 ผิดพลาดครั้งใหญ่
“เอาล่ะ.. ข้ากำลังรอให้พวกเจ้าตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง ผู้ใดจะเป็นคนลงมือดีล่ะ?” หลงเฉินกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมกับหันไปถามฝูชุน
“ปะ.. เป็น.. เป็นเรื่องเข้าใจผิดขอรับคุณชายหลง!” ฝูชุนตอบกลับพร้อมกับโบกไม้โบกมือปฏิเสธไปมา
“เข้าใจผิดงั้นรึ? เมื่อครู่ข้ายังได้ยินว่า เจ้าจักทำให้ครอบครัวของข้าต้องพังพินาศไปพร้อมกับข้าด้วย!” หลงเฉินย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และสีหน้าจริงจัง
“คะ.. คุณ.. คุณชายหลง ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย ที่บังอาจล่วงเกินท่าน ข้ามิรู้ว่าผู้ที่พูดเมื่อครู่นี้เป็นคนตระกูลหลง หากข้ารู้.. มีหรือที่ข้าจะบังอาจกล่าววาจาล่วงเกินท่านเช่นนั้น แม้แต่คิดข้ายังมิกล้าเลย.. ได้โปรดอภัยที่ข้ามีตาแต่หามีแววไม่ คุณชายหลงได้โปรดยกโทษให้กับข้าด้วยเถิด!” ฝูชุนระล่ำระลัก และร้องขอความเมตตาจากหลงเฉินไม่หยุด
“ไม่เป็นไร.. ทุกคนล้วนทำผิดพลาดได้ทั้งนั้น! ข้าเองก็หาใช่คนใจคอโหดเหี้ยมไม่ ข้าจะไม่ถือสาและยอมยกโทษให้กับเจ้าสักครั้ง แต่เจ้าต้องตัดขาทั้งสองข้างของเจ้าทิ้งซะ แล้วข้าจะยินยอมปล่อยเจ้ากลับไป..” หลงเฉินตอบฝูชุนกลับด้วยใบหน้าที่ยังคงเปื้อนยิ้มเช่นเคย
‘หากตัดขาพี่ชุนทิ้งทั้งสองข้างแล้ว เขาจะเดินกลับไปได้อย่างไรกัน?’ หนึ่งในลูกน้องของฝูชุนได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ
“พี่ชุน! หมอนี่เย่อหยิ่งจองหองเกินไปแล้ว ต่อให้มันเป็นคนตระกูลหลงแล้วอย่างไร? หมอนี่ยังเด็กนัก พวกเราสังหารมันแล้วทิ้งศพไว้ในป่าลึกเช่นนี้ ยังจะมีผู้ใดล่วงรู้ได้อีกเล่า?”
“ส่วนหญิงสาวทั้งสองนี้ หลังจากท่านสนุกกับพวกนางจนพอใจแล้ว ค่อยส่งพวกนางสองคนให้พวกข้าสนุกต่อ หลังจากที่ข้ากับลูกน้องคนอื่นๆ สนุกกับพวกนางจนหนำใจแล้ว ค่อยจัดการสังหารพวกนางทิ้งซะ แค่นี้ก็ไม่มีพยานรู้เห็นว่าผู้ใดสังหารเจ้าเด็กนี่แล้ว!”
ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในอาณาจักรผสานวิญญาณระดับสี่หยิบอาวุธของตนเองออกมา พร้อมกับร้องบอกฝูชุน..
“นี่เจ้าบังอาจพูดจาเช่นนี้กับคุณชายหลงได้อย่างไร?”
ฝูชุนร้องตะโกนออกมาพร้อมกับตบหน้าชายผู้นั้นอย่างแรง ร่างของมันกระเด็นถอยหลังลอยออกไปไกลถึงห้าสิบเมตร ก่อนจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง และร่วงลงพื้นในที่สุด
ลูกน้องของฝูชุนผู้นั้นรีบกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน และเดินกลับมาหาเขาทันที พร้อมกับเอ่ยขอโทษขอโพยหลงเฉิน เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดฝูชุนจึงได้ตบหน้าตนเช่นนี้
‘เจ้างั่งเอ๊ย! นี่แกกล้าพูดจาเช่นนั้นออกมาต่อหน้าหมอนี่ได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลหลงจะปล่อยให้ลูกหลานที่ยังเด็กเช่นนี้ ออกมาท่องป่าลึกตามลำพังโดยมิได้ส่งผู้อารักติตามมาคุ้มครองด้วย พวกมันคงจะซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากนี่นัก..’ ฝูชุนได้แต่คาดเดาอยู่ภายในใจ
“คุณชายฝู.. เจ้าเองเฉลียวฉลาดไม่เบาทีเดียว แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตัดขาทั้งสองข้างของเจ้าทิ้งอยู่ดี อ่อ.. แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดมาพบเห็นเข้า เพราะข้ามาที่นี่ตามลำพัง หาได้มีผู้อารักขาติดตามมาด้วยไม่!” หลงเฉินจงใจบอกกับฝูชุนไปเช่นนั้น
‘เจ้างั่งเอ๊ย! นี่มันคิดว่าข้าจะหลงกลมันง่ายๆหรืออย่างไร?’ ฝูชุนคิดตอบโต้อยู่ในใจ
“คุณชายหลง.. ต่อให้มิมีผู้อารักขาติดตามท่านมา ข้าก็มิกล้าทำร้ายท่านแน่ หากข้ารู้ก่อนว่าเป็นท่าน ข้าย่อมไม่กล้ากล่าววาจาเช่นนั้นแน่” ฝูชุนยังคงเจราอ้อนวอนต่อ
“ข้า.. เอ่อ..” ฝูชุนพยายามคิดหาคำพูดมาเอ่ยสรรเสริญชื่นชมเด็กหนุ่มผู้นี้ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้กล่าวอันใดออกมาอีก เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ร่างของเขาร่วงลงไปกองกับพื้น ก่อนจะพบว่าขาทั้งสองข้างของตนนั้นถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าตัดขาดทั้งสองข้างแล้ว
“คุณชายฝู เจ้ากล่าววาจาเยิ่นเย้อจนเกินไป!” หลงเฉินร้องบอกพร้อมกับจ้องมองร่างของฝูชุน ที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น
“เจ้า.. เจ้าเด็กชั่วช้า!! ข้าไม่สนอีกแล้วว่าเจ้าจักเป็นใคร.. ฆ่ามัน!!” ฝูชุนร้องตะโกนสั่งลูกน้องของตนด้วยความโกรธแค้น
ลูกน้องทั้งหมดของฝูชุนต่างก็ถืออาวุธของตนวิ่งเข้าใส่หลงเฉินทันที หลงเฉินถือดาบสะบั้นบรรพตของตนไว้ในมือ และจัดการกับลูกน้องของฝูชุนทั้งหมดภายในดาบเดียว แล้วจึงเก็บดาบกลับเข้าไปดังเดิม
ฝูชุนนอนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น ในขณะที่จ้องมองลูกน้องของตนถืออาวุธจู่โจมเข้าใส่ร่างของหลงเฉิน แต่ภาพที่เขาเห็นต่อจากนั้น ก็ทำให้ฝูชุนถึงกับขนหัวลุก และสะพรึงกลัวอย่างที่สุด นั่นเพราะหลงเฉินสามารถสังหารลูกน้องของเขาทั้งหมดได้ภายในดาบเดียว
“ห๊ะ?! นี่.. นี่เจ้า.. ในวัยเพียงเท่านี้แต่เจ้ากลับแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้เชียวรึ!!” ฝูชุนร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ และจ้องมองหลงเฉินด้วยความหวาดผวา..
“คุณชายฝู.. เจ้าทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงนัก! เมื่อครู่ข้ายังลังเลอยู่ว่าจะไว้ชีวิตเจ้าดีหรือไม่? แต่หลังจากที่เจ้าสั่งลูกน้องสังหารข้าเมื่อครู่ ข้าจึงได้คำตอบในใจแล้ว ต้องขอบใจที่เจ้าทำให้ข้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น!”
ฝูชุนมีสติเพียงแค่ได้เห็นดาบในมือของหลงเฉินปรากฏขึ้นตรงหน้าเท่านั้น จากนั้นเขาก็สิ้นใจตายในเวลาเพียงแค่ชั่วอึดใจ!
‘นี่.. นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่? เหตุใดข้าสังหารผู้คนตายไปมากมายเช่นนี้ แต่กลับมิรู้สึกผิดในใจเลยแม้แต่น้อย? ต่อให้พวกมันชั่วช้าสมควรตายก็ตามทีเถิด แต่เหตุใดการสังหารเข่นฆ่าผู้คนจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับข้าไปได้? ราวกับว่าผู้ใดที่บังอาจมีเรื่องมีราวกับข้า มันผู้นั้นจักต้องมีโทษตายสถานเดียว..’
‘แต่.. แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งของจิตใจที่บอกกับข้าให้เยือกเย็นกว่านี้..’
ระหว่างที่หลงเฉินครุ่นคิดสงสัยอยู่ภายในใจนั้น เขาก็หันไปทางหญิงสาวทั้งสองคน ซึ่งกำลังยืนมองด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน..
“มีอะไรรึ?!” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยสีหน้าแววตาประหลาดใจ เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองกำลังจ้องมองเขาราวกับพบเห็นภูติผีปีศาจ
“เอ่อ.. นะ.. นายน้อยหลง ข้ากับน้องสาวขอบคุณท่านมากที่ช่วยพวกเราสองคนในวันนี้ หาไม่แล้ว.. พวกเราสองคนคงต้องถูกคนชั่วช้าเหล่านั้นย่ำยีแน่!”
หนึ่งในหญิงสาวทั้งสองเดินตรงเข้ามาหาหลงเฉิน นางสวมเสื้อคลุมสีดำ และสวมแว่นตาดูงดงามน่ารักไม่น้อย
“มิเป็นไร! ข้าหาได้ต้องการช่วยพวกเจ้าสองคนไม่ เพียงแต่พวกมันบังอาจกล่าววาจาสามหาวต่อหน้าข้าว่า มิมีผู้ใดจักกล้าช่วยพวกเจ้าทั้งคน มิหนำซ้ำยังกล้าล่วงเกินตระกูลหลงของข้า เอาล่ะ.. พวกเจ้าสองคนลุกขึ้นเถิด!” หลงเฉินเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องมองไปทางหญิงสาวชุดดำที่สวมแว่นตา..
“พวกเจ้าควรจะรีบกลับบ้านได้แล้ว ที่นี่หาใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับสตรีนัก!” หลงเฉินกล่าวต่อ
“นายน้อยหลง.. ซวี่ทำถูกแล้ว พวกเราอยากจะขอบคุณที่ท่านช่วยชีวิตของพวกเราไว้ พวกเราไม่มีครอบครัว พวกเรามาที่นี่เพื่อล่าสัตว์อสูร เพื่อนำไปขายนำเงินมาใช้หนี้..” หญิงสาวผู้เป็นน้องอธิบาย
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอให้พวกเจ้าโชคดี!” หลงเฉินกล่าวสั้นๆเพียงเท่านั้น แล้วจึงเดินจากไปทันที
“นายน้อยหลง.. ประเดี๋ยวก่อน!”
เสียงของสองพี่น้องร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเห็นหลงเฉินรีบร้อนเดินจากไปเช่นนั้น!