เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 88
ตอนที่ 88 ศึกษากฏใหม่
อักขระโบราณนี้มีสีดำสนิท แต่ก็มีแสงสว่างเปล่งประกายออกมาจากสีดำมืดนั้นเป็นครั้งคราว หลงเฉินคาดเดาเอาจากลักษณะของตัวอักษรว่า มันน่าจะหมายถึงห้วงมิติ..
หลงเฉินจ้องมองแก่นปราณสีแดง และพบว่ายังคงเป็นสีแดงเปล่งประกายอยู่ในห้วงฝึกยุทธของเขาเช่นเดิม หลังจากสำรวจดูจนพอใจแล้ว หลงเฉินก็ถอนญาณหยั่งรู้ของตนออกจากห้วงฝึกยุทธ
“สัญลักษณ์ใหม่บนหลังมือของจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธนั่น.. มันคือสิ่งใดกัน?” หลงเฉินจ้องมองซุนพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
“เจ้ามิจำเป็นต้องกังวลใจในเรื่องนั้น สิ่งนั้นเป็นเพียงแค่การบ่งบอกว่าเจ้าได้ศึกษากฏแห่งห้วงมิติแล้ว อักขระบนหลังมือของจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธนั้นแปลว่ากฏแห่งห้วงมิติ และสัมพันธ์กับห้วงมิติ” ซุนเอ่ยตอบหลงเฉิน
“อ่อ.. แล้วที่เจ้าบอกกับข้าว่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายใช้เวลานานหลายปีในการเรียนรู้กฏนั้น เจ้าหมายถึงการสร้างเมล็ดพันธุ์แห่งกฏขึ้นเท่านั้นหรอกรึ?” หลงเฉินเอ่ยถาม
“ถูกต้อง! ผู้ฝึกยุทธที่ศึกษากฏด้วยตนเองโดยมิได้รับการช่วยเหลือจากภายนอก ทุกคนล้วนต้องเริ่มจากการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งกฏขึ้นหลังจากที่ต้องพรากเพียรอย่างหนักมานานหลายปี ผู้ฝึกยุทธที่มิมีสายเลือดของท่านอาจารย์ แม้จักใช้ลูกแก้วแห่งกฏเพื่อทำความเข้าใจกฏ ก็จักมิสามารถได้รับแม้แต่เมล็ดพันธุ์แห่งกฏ ลูกแก้วจักช่วยพวกเขาได้เพียงแค่ครึ่งทางเท่านั้น พวกเขาจักสามารถศึกษาหลายสิ่งเกี่ยวกับกฏจากลูกแก้วได้ยกเว้นเรื่องหลักๆอย่างแก่นของกฏนั้นๆ หลังจากนั้นพวกเขายังจะต้องพากเพียรอย่างหนัก เพื่อทำให้ตนเองสามารถเข้าใจสาระสำคัญของกฏนั้นๆได้ หลังจากทำความเข้าใจกฏนั้นๆได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในที่สุดจึงจักสามารถสร้างเมล็ดพันธุ์แห่งกฏขึ้นได้ แต่ถึงกระนั้น.. เมล็ดพันธุ์แห่งกฏที่ก่อตัวขึ้นจักเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ปกติธรรมดา ในขณะที่ลูกแก้วของท่านอาจารย์ที่สร้างขึ้นให้กับทายาทผู้สืบสายเลือดนั้น เมล็ดพันธุ์แห่งกฏที่ได้รับจักมีความพิเศษ..” ซุนกล่าวอธิบาย
“พิเศษ?! พิเศษอย่างไรกัน?” หลงเฉินเอ่ยถาม
“เมื่อเวลานั้นมาถึงเจ้าก็จักรู้เอง เอาล่ะ.. ข้าพูดมากจนรู้สึกเหนื่อยแล้ว อีกอย่าง.. พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมากเกินไปแล้ว เจ้าไม่คิดที่จะออกไปข้างนอกบ้างหรอกรึ?” ซุนเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน
“ในเมื่อข้าศึกษากฏจนเข้าใจและผ่านการทดสอบได้แล้ว เมื่อใดข้าจึงจักสามารถออกจากดินแดนนี้ไปได้?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“หลังจากปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งกฏได้สำเร็จแล้ว หลังจากนั้นสามวันเจ้าก็จักสามารถออกจากโลกนี้ได้ เวลานี้ด้านนอกเป็นเวลาค่ำคืนแล้ว เจ้ามิคิดที่จะออกไปสนทนากับหัวหน้าเผ่าตลอดทั้งคืนหน่อยรึ?” ซุนเอ่ยถามพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“ในเมื่อดึกแล้วข้าก็จักอยู่ที่นี่ฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อ เช้าจึงค่อยออกไป..” หลงเฉินเอ่ยตอบ
“แต่เดี๋ยวก่อน.. ข้ายังมิได้ให้อาหารไข่นั่นเลย!” หลงเฉินจ้องมองซุนพร้อมกับนำไข่ออกมาจากแหวนบรรจุ
“ข้ามิอาจปล่อยให้เจ้าหนูของข้าหิวได้..”
หลงเฉินเอ่ยยิ้มๆ และเริ่มป้อนพลังชี่ให้กับไข่อสูร หลังจากเสร็จแล้ว เขาก็ได้นำไข่กลับไปไว้ในแหวนดังเดิม และเริ่มฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อ
สี่ชั่วยามผ่านไป.. หลงเฉินก็สามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นสี่ชั้นยอดได้ หลังจากนั้นเขาก็ยังคงฝึกวรยุทธบ่มเพาะต่อจนสามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นห้า และเกือบจะเข้าสู่ชั้นยอดได้ หลงเฉินจึงฝึกปรือต่อและในที่สุดก็สามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นหกชั้นต้นได้ เขาจึงได้หยุดการฝึกปรือไว้เพียงเท่านั้น
“ข้าคงจักต้องคิดถึงโลกนี้ และการฝึกวรยุทธบ่มเพาะที่ก้าวหน้ารวดเร็วอย่างยิ่งยวดของที่นี่เป็นแน่” หลงเฉินเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“อู้.. ข้าไม่คิดว่าเจ้าจักรู้สึกเช่นนั้น!” ซุนเอ่ยตอบด้วยสีหน้าที่มีเลศนัย
“ยังมีเวลาอีกสองสามวัน ข้าจักสามารถศึกษากฏแห่งน้ำแข็งต่อได้หรือไม่? มันเป็นกฏที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยทีเดียว” หลงเฉินเอ่ยถาม
“เจ้าสามารถลองดูได้..” ซุนยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยตอบ
“เอิ่ม.. ลูกแก้วนั่นหายไปไหลแล้วล่ะ?”
หลงเฉินร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกันหันมองไปทั่วภายในอาราม แต่กลับมิพบเห็นลูกแก้วกฏแห่งน้ำแข็งเลยแม้แต่น้อย จึงมองกลับเข้าไปในแหวนบรรจุของตน แต่ก็มิพบเห็นลูกแก้วอยู่ภายในเช่นกัน
“เจ้าลืมลูกแก้วกฏแห่งน้ำแข็งไปก่อน เหตุใดจึงมิคิดลองศึกษากฏแห่งไม้ดูบ้างเล่า?” ซุนเอ่ยถามพร้อมกับหัวเราะออกมา
หลงเฉินเร่งเดินตรงไปยังลูกแก้วกฏแห่งไม้ซึ่งวางอยู่ตรงกลางห้องด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย เมื่อไปถึงหลงเฉินก็เอื้อมมือออกไปเพื่อที่จะยกลูกแก้วตรงหน้า แต่กลับพบว่ามือของเขานั้นได้ทะลุผ่านลูกแก้ว ราวกับว่าลูกแก้วนั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
“เหตุใดเจ้าจึงมิบอกข้ามาตามตรง..” หลงเฉินเอ่ยกับซุนที่ยืนยิ้มกริ่มด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ได้.. ได้.. ข้าจักบอกเจ้า เจ้าสามารถศึกษากฏในโลกนี้เพื่อผ่านการทดสอบ แต่ก็มีข้อจำกัด ในเมื่อเจ้าผ่านการทดสอบแล้ว เจ้าก็จักไม่สามารถเข้าถึงลูกแก้วอื่นได้อีก หากเจ้าต้องการศึกษากฏแห่งน้ำแข็งจากลูกแก้ว เจ้าจักต้องไปค้นหาลูกแก้วในโลกจริง” ซุนอธิบาย
“เอาล่ะ.. ข้าเข้าใจแล้วว่าเกิดอันใดขึ้นกับลูกแก้วกฏแห่งไม้ แต่ลูกแก้วกฎแห่งน้ำแข็งเล่า? จู่ๆมันหายไปได้อย่างไร?” หลงเฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“มันมิได้หายไปไหน แต่เมื่อเจ้าทำการศึกษากฏแห่งห้วงมิติไปแล้ว มักจึงกลับไปอยู่ที่เดิม ที่ซึ่งเจ้านำมันมาอย่างไรเล่า ข้าคิดว่ามันคงจะกลับไปอยู่ในอารามของเผ่าแบนชีแล้วเวลานี้” ซุนเอ่ยตอบ
“เฮ้อ.. มีกฏและข้อห้ามมากมายเหลือเกิน ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก! ในเมื่อภารกิจที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว เช่นนั้นก็ออกไปด้านนอกกันดีกว่า” หลงเฉินเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวเดินออกไป
ทันทีที่หลงเฉินเปิดประตูออกไป ก็พบว่ามีทหารอารักขานั่งอยู่ห่างจากอารามออกไปมากมาย พวกเขาต่างก็ดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า สายตาของทหารทุกคนต่างก็กำลังจับจ้องมาทางประตูอารามที่หลงเฉินก้าวเดินออกมา และเมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืน และรีบวิ่งตรงเข้าไปหาหลงเฉินราวกับฝูงหมาป่าผู้หิวโหยที่ได้เห็นเหยื่อ หลงเฉินจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้างุนงงสงสัย
“ท่าน.. ท่านปรมาจารย์หลงเฉิน!! ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว!” หนึ่งในทหารอารักขาร้องตะโกนออกมาพร้อมกับหายใจเหนื่อยหอบ
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้ากันแน่? เหตุใดพวกเจ้าจึงดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเยี่ยงนี้ แล้วน้ำเสียงของเจ้า.. แหบแห้งราวกับผ่านการร้องตะโกนมาตลอดทั้งวันทั้งคืน?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
“หาใช่ทั้งวันทั้งคืนไม่ แต่พวกเราร้องตะโกนเรียกท่านมานานสองสามวันแล้ว พวกเราต่างก็สลับสับเปลี่ยนกันมาร้องตะโกนเรียกท่าน” หนึ่งในทหารอารักขากล่าวตอบ
“ไฉนจึงต้องทำเช่นนั้นด้วย?” หลงเฉินเอ่ยถาม
“ท่านปรมาจารย์เฉิน ที่พวกเราร้องตะโกนเรียกท่านเพราะไม่สามารถเข้าไปภายในอารามได้ รอบอารามมีปราการขวางกั้นไว้ ท่านต้องรีบไปที่บ้านของท่านหัวหน้าเผ่าโดยเร็วที่สุด ย้ำว่าโดยเร็วที่สุดมากๆ!” หัวหน้าทหารอารักขาร้องบอกหลงเฉินด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
“ปรากการอันใดกัน?” หลงเฉินเอ่ยถามพร้อมกับหันมองไปรอบๆ
“อ้าว.. ปราการนั่นหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
เหล่าทหารอารักขาต่างพากันหันมองไปรอบตัวด้วยสีหน้าตกอกตกใจและงุนงง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าพวกตนได้วิ่งผ่านปรากการนั้นเข้ามาได้แล้ว และเวลานี้พวกเขาก็ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า..
“ก่อนหน้านี้มีปราการอยู่ที่นี่” หัวหน้าทหารองค์รักษ์ชี้บอก
“แต่ลืมเรื่องปรากการนั่นไปก่อนเถิด พวกเราได้เตรียมม้าไว้ให้ท่านแล้ว ได้โปรดไปที่บ้านของหัวหน้าเผ่าโดยเร็วที่สุด!” หัวหน้าทหารอารักขาย้ำกับหลงเฉินอีกครา
หลงเฉินรีบปีนขึ้นไปบนหลังม้า และออกเดินทางไปที่คฤหาสน์ของเท็นช่าอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงแค่สั้นๆ หลงเฉินก็ไปถึงบ้านของหัวหน้าเผ่าเอลเฟีย เขาลงจากหลังม้าเคาะประตู ทันทีที่ประตูเปิดออกเขาก็ก้าวเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้าเผ่าเท็นช่าอยู่ที่ใด?” หลงเฉินเอ่ยถามชายชราที่มาเปิดประตูให้
“ท่านหัวหน้าเผ่าไปทำสงครามพร้อมกับกองทัพ ข้าจักพาท่านไปพบคุณชาย เขาจักบอกเล่าทุกอย่างให้ท่านฟัง เวลานี้เขากำลังรอท่านอยู่ด้านใน”
ชายชราเอ่ยบอกพร้อมกับเดินนำหลงเฉินที่กำลังนึกประหลาดใจกับคำว่า ‘สงคราม’ ของชายชรา และคิดว่าคงจักได้คำตอบที่กระจ่างจากเทอรร่า