เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 99
ตอนที่ 99 มิใช่เรื่องที่ต้องกังวล
“นี่.. เลิกหลบซ่อนได้แล้ว!! มาให้ข้าจัดการให้จบสิ้นโดยเร็ว ข้าต้องกลับไปยังโลกของข้าแล้ว มิมีเวลามาเล่นซ่อนหากับเจ้าเช่นนี้!” หลงเฉินร้องตะโกนบอกจักรพรรดิเชนเทียในขณะที่ยังคงบินไปตามหาด้วยความเร็ว แต่ไม่ว่าหาอย่างไรก็หาไม่พบ..
“ดูเหมือนข้าคงต้องหยุดพักหน่อยแล้ว..” หลงเฉินพึมพำกับตนเองเมื่อสัมผัสได้ว่าพลังชี่เริ่มจะร่อยหรอลงแล้ว แต่ทันทีที่เขาหยุดบินนั้น เขาก็สังเกตเห็นใครบางคนที่อยู่ไกลออกไป กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
รอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลงเฉิน เขาเร่งกระพือปีกอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่นานร่างของหลงเฉินก็บินอยู่เหนือศรีษะของผู้ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอยู่นั้น โดยที่มันเองก็มิรู้ตัวเช่นกัน
“บาลังสหายเฒ่า.. เจ้ากล่าวได้ถูกต้องนัก! พวกเรามิควรตั้งตัวเป็นศัตรูกับมนุษย์ผู้นั้นเลย พวกเราควรที่จะอยู่กับเผ่าอื่นอย่างสันติรวมทั้งมนุษย์ด้วย.. แต่พวกข้ากลับมิฟังคำเตือนของเจ้า และกลับเลือกเส้นทางที่ชักนำเผ่าของเราไปสู่ความหายนะ สหาย.. เผ่าพันธุ์อสูรกายกำลังจักเข้าสู่การล่มสลายอย่างแท้จริงแล้ว..”
จักรพรรดิเชนเทียที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีนั้น ก็ได้บ่นพึมพำกับตนเองไปด้วย..
“สหายของเจ้าดูเหมือนจักเป็นผู้ที่มีเหตุมีผลยิ่งนัก ข้านึกอัศจรรย์ใจไม่น้อยที่พบว่ามีบุคคลเช่นนี้อยู่ในเผ่าของเจ้าด้วย!”
เสียงร้องตะโกนดังมาจากเบื้องบน ทำให้จักรพรรดิเชนเทียที่วิ่งอยู่นั้นถึงกับชะงัก และมันก็พอที่จะคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของผู้ใด
“เป็นเจ้าจริงๆด้วยมนุษย์.. ในที่สุดเจ้าก็ตามล่าข้ามาถึงที่นี่ได้แล้ว เจ้าจักลงมือสังหารข้าเลยหรือไม่?” จักรพรรดิเชนเทียนเอ่ยถามโดยที่มิเงยหน้าขึ้นมอง แต่เวลานี้เขาได้หยุดวิ่งแล้ว
หลงเฉินร่อนลงมาจากท้องนภาเบื้องบน ปีกมารสวรรค์พลันอันตธานหายไป และร่างของเขาก็กำลังยืนอยู่ด้านหลังของจักรพรรดิเชนเทีย
“มิมีอสูรกายตนใดที่เข้าร่วมสงครามครั้งนี้แล้ว จักสามารถรอดชีวิตไปได้!” หลงเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“แล้วเหล่าอสูรกายที่มิได้เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วยเล่า?” จักรพรรดิเชนเทียเอ่ยถามโดยที่มิหันกลับไปมองด้านหลังของตน
“เหตุใดพวกมันจึงมิเข้าร่วมสงครามด้วยเล่า?” หลงเฉินเอ่ยถาม
“เหล่าอสูรกายที่อยู่แนวหลัง ล้วนเป็นเพียงแค่เด็กน้อยและคนชราเท่านั้น!” จักรพรรดิเชนเทียเอ่ยตอบ
“มิมีจอมราชันย์ หรือจักรพรรดิหลงเหลืออยู่เลยงั้นรึ? แล้วบาลังสหายเฒ่าที่เจ้าพูดถึงเมื่อครู่คือผู้ใดกัน?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยความสนอกสนใจ
“นอกจากข้าแล้ว เขาก็เป็นจักรพรรดิเพียงองค์เดียวของเผ่าอสูรกายที่ยังมีชีวิตอยู่ บาลังคัดค้านการทำสงครามครั้งนี้ เขาต้องการให้เกิดความสงบสันติ แต่ทารัสต้องการที่จะแก้แค้นมนุษย์ และข้าเองก็เห็นด้วยกับแผนการของทารัส ท้ายที่สุด.. สงครามครั้งนี้จึงได้เกิดขึ้น!” จักรพรรดิเชนเทียตอบกลับไปตามความจริง
“อ่อ.. ในเมื่อเสียงคัดค้านมีถึงสองเสียงเช่นนี้ พวกเจ้าจึงทำการประกาศสงครามสินะ แล้วเหตุใดเขาจึงมิเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วยเล่า? หรือเพราะพวกเจ้าคิดว่าเพียงแค่พวกเจ้าสองคนก็มากพอแล้ว จึงให้เขาอยู่ดูแลแนวหลังเช่นนี้?” หลงเฉินเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ
“หาใช่เช่นนั้นไม่! บาลังคัดค้านการทำสงครามตั้งแต่แรก เขาจึงมิต้องการเข้าร่วมศึกสงครามครั้งนี้ และตัดสินใจที่จะอยู่แนวหลังคอยดูแลอสูรกายรุ่นใหม่แทน” จักรพรรดิเชนเทียนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“หึ.. เจ้าคิดว่าข้าจักเชื่อคำพูดของเจ้างั้นรึ?! เป็นไปได้อย่างไรกันที่เขาจักมิชื่นชอบการทำสงคราม และมิต้องการแก้แค้นข้า?” หลงเฉินถามขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ครุ่นคิด
“เขามิชื่นชอบการทำสงครามจริงๆ และมิต้องการแก้แค้นด้วย เขาเชื่อว่าการแก้แค้นรังแต่จักนำพาความหายนะมาสู่เผ่าอสูรกาย ฉะนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการทำสงครามครั้งนี้!” จักรพรรดิเชนเทียตอบโต้กลับทันที
“ข้ามิมีเหตุผลอันใดที่จักต้องเชื่อคำพูดของเจ้า หลังจากที่ข้าสังหารเจ้าแล้ว ข้าจักไปที่เผ่าอสูรกายสำรวจดูด้วยตาตัวเอง หากพบว่าทุกคนกระหายสงครามเช่นเจ้า ข้าจักสังหารพวกมันทิ้งให้หมด” หลงเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จักมิยอมให้เจ้าสังหารผู้บริสุทธิ์ในเผ่าของข้าเป็นแน่!”
จักรพรรดิเชนเทียคำรามกึกก้อง มันหันหน้ากลับมาประจันกับหลงเฉิน และพุ่งหมัดที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่งนั้นเข้าใส่ร่างของหลงเฉินทันที
แต่น่าแปลก.. เมื่อจักรพรรดิเชนเทียหันกลับมา พร้อมกับชกกำปั้นตรงเข้าใส่ร่างที่ยืนอยู่ด้านหลังของตนก่อนหน้านี้ มันกลับพบว่ามิมีผู้ใดอยู่ตรงนั้นแล้ว และกำปั้นของมันก็พุ่งผ่านอากาศว่างเปล่าไป แต่เมื่อจักรพรรดิเชนเทียหันหน้ากลับไปอีกครั้ง กำปั้นข้างหนึ่งก็ได้กระแทกเข้าใส่ใบหน้าของมันอย่างแรง จนร่างถึงกับลอยละลิ่วออกไปไกล
“เจ้าคิดว่าจักสามารถหยุดข้าได้งั้นรึ?” หลงเฉินเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า
“ต่อให้ข้ามิสามารถหยุดเจ้าได้ ก็จักมิยอมอยู่เฉย และปล่อยให้เจ้าสังหารผู้บริสุทธิ์ที่มิได้รู้เห็นในสงครามครั้งนี้ได้แน่!” จักรพรรดิเชนเทียร้องคำรามกึกก้อง
“โลกันตร์ไททัน!!”
จักรพรรดิอสูรกายร้องคำรามออกมา ในขณะทีดวงตาทั้งคู่ของมันพลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ผืนปฐพีได้เปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงในบัดดล เปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชนปรากฏขึ้น แม้แต่น้ำในแม่น้ำสายเล็กๆที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ยังถึงกับระเหยเหือดแห้งไปจนหมดอย่างรวดเร็ว
“ไม่เลวทีเดียว หากข้ามิมีปีก คงจักได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วเป็นแน่!” หลงเฉินเอ่ยยิ้มๆ
จักรพรรดิเชนเทียนจ้องมองหลงเฉินที่บินอยู่บนท้องฟ้าด้วยปีกมารสวรรค์..
“พวกเรารู้แล้วว่าท่านนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด! แต่เหตุใดท่านจึงมิลงมาต่อสู้กับข้าตัวต่อตัวเล่า? เหตุใดยังคงเอาแต่บินหนีหลบการจู่โจมของข้าเช่นนี้?” จักรพรรดิเชนเทียนเงยหน้าขึ้นมองหลงเฉินพร้อมกับร้องตะโกนท้าทาย
“ข้ามิเห็นเหตุผลที่จักต้องทำเช่นนั้น แต่หากเจ้าต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของข้า ข้าก็จักลงไปต่อสู้กับเจ้าสักครั้ง!”
หลงเฉินเอ่ยตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมกับร่อนลงกลางทะเลเพลิงที่กำลังลุกโชน แต่ปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ก็ปรากฏสู่สายตาของจักรพรรดิเชนเทียน นั่นเพราะเปลวเพลิงร้อนแรงที่กำลังลุกโชนอยู่นั้น ราวกับถูกแช่แข็งอยู่กลางอากาศ มิสามารถลามเลียเข้าใกล้ร่างของหลงเฉินได้เลยแม้แต่น้อย
“ท่านคงจะใช้ปราการชนิดเดียวกับที่ใช้ป้องกันการจู่โจมของจอมราชันย์อสูรกายก่อนหน้านี้สินะ!!” จักรพรรดิเชนเทียเอ่ยออกมาเสียงดัง
“ข้าจักใช้สิ่งใดก็เป็นเรื่องของข้า หาใช่เรื่องของเจ้าไม่! เจ้าเองก็เช่นกัน.. ในเมื่อพวกเราต่างก็ต่อสู้กันตัวต่อตัว เจ้าเองก็อย่าหลบการจู่โจมของข้าก็แล้วกัน!! ฮ่าๆๆๆ” หลงเฉินร้องตะโกนบอกจักรพรรดิเชนเทียพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“เพลงดาบยอดเซียนเจ็ดกระบวน วิถีที่สอง – คลื่นสังหาร!“
หลงเฉินร้องคำรามกึกก้องพร้อมกับใช้ดาบราชันย์ในมือ จู่โจมเข้าใส่ร่างของจักรพรรดิเชนเทียทันที..
“ภูษาเหล็ก!”
สิ้นเสียงร้องตะโกนของจักรพรรดิเชนเทีย ลำตัวของมันก็เปลี่ยนเป็นเกราะเหล็กที่แข็งแกร่งขึ้นมาทันที!
“ปราการป้องกัน!” จักรพรรดิเชนเทียยังได้สร้างปราการป้องกันขึ้นอีกชั้นนอกเหนือจากภูษาเหล็กบนร่าง เพื่อป้องกันการโจมตีจากหลงเฉิน
แต่ดาบราชันย์ของหลงเฉินก็สามารถทำลายปราการกีดขวางนั้นแตกสลายได้ในทันที เมื่อเห็นปราการแตกสลายไปต่อหน้าเช่นนั้น จักรพรรดิเชนเทียก็ใช้ดาบในมือของตนฟันเข้าใส่ร่างของหลงเฉินที่ก้าวตรงเข้ามาทันที แต่เมื่อดาบของมันปะทะเข้ากับดาบราชันย์ของหลงเฉิน ก็ถึงกับหักสะบั้นใช้การไม่ได้ในทันที แต่นั่นก็เพียงพอที่จะลดทอนพลังโจมตีที่รุนแรงของหลงเฉินได้ในระดับหนึ่ง
แต่ถึงแม้ว่าพลังโจมตีจักถูกลดทอนให้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่เมื่อปะทะเข้ากับหน้าอกของจักรพรรดิเชนเทียนที่สวมภูษาเหล็ก ร่างใหญ่ยักษ์ของมันก็ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้น และบาดแผลขนาดใหญ่จากคมดาบก็ปรากฏขึ้นที่หน้าอกของมันทันที
“ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว!!”
หลงเฉินร้องคำรามออกมา และร่างของเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเชนเทียที่กำลังร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ท่าน.. ได้โปรดสังหารข้า ผู้ที่ได้ทำผิดพลาดโดยมิหยุดยั้งสงครามครั้งนี้ด้วยเถิด! แต่.. ได้โปรดไว้ชีวิตเหล่าอสูรกายที่บริสุทธิ์ด้วย โดยเฉพาะบาลัง.. ผู้ที่คัดค้านการทำสงครามครั้งนี้มาโดยตลอด!”
จักรพรรดิเชนเทียพยายามข่มความเจ็บปวด และกล่าวอ้อนวอนหลงเฉิน..
“เจ้ามิคู่ควรที่จะกล่าวว่าข้าควรทำสิ่งใด หรือมิควรทำสิ่งใด! ข้าจักเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้.. ได้เวลาที่เจ้าจักต้องตายแล้ว!”
หลงเฉินร้องบอก พร้อมกับใช้ดาบราชันย์ในมือตัดศรีษะของจักรพรรดิเชนเทียนขาดออกจากร่างทันที!
“ความจริงเจ้าเองก็มิต้องกังวลใจไป เพราะข้าหาได้ต้องการสังหารผู้บริสุทธิ์ที่มิได้เกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ไม่ และที่สำคัญ.. ข้าก็มิได้มีเวลามากพอที่จักเดินทางไปสำรวจเผ่าอสูรกายด้วยตนเอง ข้าเหลือเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันที่จะอยู่ที่นี่เท่านั้น ข้าสู้เอาเวลาที่เหลือไปฝึกวรยุทธบ่มเพาะมิดีกว่ารึ?” หลงเฉินบอกกับร่างไร้วิญญาณของเชนเทีย..
“ส่วนเรื่องของบาลังที่เจ้ากล่าวถึงนั้น.. หากเป็นความจริง ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เขาจักได้นำความสงสันติมาสู่เผ่าอสูรกายของเจ้า จนกว่าจักมีอสูรกายเลวร้ายเช่นพวกเจ้าเกิดมาอีกครั้ง แต่นั่นก็หาใช่เรื่องที่ข้าต้องกังวลไม่..”
หลงเฉินเอ่ยจบก็เริ่มเดินทางกลับ..