เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1027
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1027 มิติช่องว่างที่น่าทึ่ง
แปลโดย iPAT
ย้อนกลับไปไม่นาน
เมื่อไม่พบอิงอู๋เซี่ย ฟางหยวนหยุดลอยอยู่กลางอากาศด้วยความรู้สึกหดหู่
แผนเดิมของเขาไร้ที่ติ
การทิ้งเจตจำนงปลอมและเจตจำนงพิเศษไว้ในร่างเดิมทำให้เขามีโอกาสสูงมากที่จะประสบความสำเร็จ
แต่ผลลัพธ์กลับล้มเหลว
ฟางหยวนไม่รู้ว่าเขาเคยประสบความสำเร็จมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เป็นเพราะเจตจำนงสวรรค์ที่กระตุ้นใช้วิญญาณกาลเวลาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะพ่ายแพ้แต่เขาก็พยายามแก้ไขสถานการณ์
ในความเป็นจริงเขาเตรียมใจมาแล้ว นี่คือประสบการณ์ที่เขาได้รับหลังจากใช้ชีวิตมาหลายร้อยปี
ไม่ว่าแผนการจะยอดเยี่ยมเพียงใด มันก็มีโอกาสล้มเหลว กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณและนิกายเงาจะวางแผนการทั้งหมดมานานหลายหมื่นปี แต่สุดท้ายพวกเขายังล้มเหลว
ในโลกใบนี้ไม่มีผู้ใดที่ไม่เคยล้มเหลว
ฟางหยวนพยายามคาดเดาสถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ย
สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คืออิงอู๋เซี่ยเผชิญหน้ากับผู้อมตะภาคใต้ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปยังภูเขาอี้เทียน
หากเป็นกรณีนี้ มันยังไม่เลวร้ายที่สุด แผนการของฟางหยวนยังสามารถดำเนินต่อ
เมื่อฟางหยวนค้นพบอิงอู๋เซี่ย เขาจะได้รับวิญญาณทั้งหมดกลับคืน
แต่นี่ไม่ใช่กรณีเดียวที่เป็นไปได้
ฟางหยวนเป็นคนรอบคอบ เขาจะคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและเตรียมตัวรับมือกับมันเอาไว้เสมอ
‘แล้วสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือสิ่งใด?’ ฟางหยวนคิดขณะลอยอยู่กลางอากาศ
สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คืออิงอู๋เซี่ยค้นพบแผนการของเขาและต่อต้านมันโดยใช้ประโยชน์จากไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง จากนั้นก็เดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวเพื่อฉกชิงสมบัติทั้งหมดของฟางหยวน
กรณีนี้มีความเป็นไปได้สูง
จากมุมมองของฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง มันไม่ใช่เรื่องยากที่อิงอู๋เซี่ยจะค้นพบเจตจำนงปลอมและเจตจำนงพิเศษของฟางหยวน
สิ่งสำคัญก็คืออาณาจักรแห่งความฝันขนาดมหึมาที่ภูเขาอี้เทียน
แม้อิงอู๋เซี่ยจะต้องการกลับไปช่วยร่างกลักที่ถูกขังไว้ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่เขามีวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันน้อยเกินไปและไม่สามารถทำสิ่งใด
ร่างกายาแห่งความฝันของอิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันอยู่จำนวนหนึ่ง แต่หลังจากกายาแห่งความฝันระเบิดตัวเอง ผู้ใดจะรู้ว่าวิญญาณเหล่านั้นจะยังอยู่หรือไม่ วิญญาณเป็นสิ่งบอบบาง พวกมันอาจถูกทำลายได้ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวของเด็กน้อย
กระทั่งวิญญาณเหล่านั้นจะยังคงอยู่ แต่อาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดขึ้นใหญ่โตเกินไป สถานะปัจจุบันของอิงอู๋เซี่ยไม่สามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและนำวิญญาณเหล่านั้นกลับคืน
ฟางหยวนคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดและหยุดไล่ล่า
เขาบินลงสู่ภูเขาลูกหนึ่งก่อนจะนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่และเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง
เขายืมวิญญาณระดับห้าจำนวนสี่ดวงมาจากเฮากงตง
หนึ่งคือวิญญาณเขม่าควัน สองคือวิญญาณอาภรณ์เพลิง อีกสองดวงคือวิญญาณเชื่อมโยงสวรรค์และวิญญาณสัมผัสศักดิ์สิทธิ์
วิญญาณสองดวงหลังเป็นวิญญาณที่ใช้เชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง
หากเขามีวิญญาณสองดวงนี้ตั้งแต่แรก เขาจะสามารถซื้อวิญญาณที่จำเป็นจากสวรรค์สีเหลืองได้โดยตรงและไม่ต้องยืมวิญญาณจากเฮากงตง
ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณทั้งสี่ดวงก่อนจะใช้งานพวกมัน
ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาในการเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลือง
อย่างไรก็ตามเพียงเมื่อฟางหยวนกระตุ้นใช้งานพวกมัน ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตกใจ
นี่เป็นความตกใจครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขากำเนิดใหม่
แม้ฟางหยวนจะรู้ว่าเบื้องหลังนิกายเงาคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่ฟางหยวนก็ยังตกใจกับเรื่องนี้
จิตใจของฟางหยวนสั่นไหวอย่างไม่สามารถระงับ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นและเต็มไปด้วยความงุนงง
“เย็นไว้” เขาบอกตนเองแต่หัวใจของเขายังเต้นระรัว
เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างของตนอีกครั้ง
ตะลึง!
ตะลึงเป็นครั้งที่สอง
เขาขมวดคิ้วลึกและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
มิติช่องว่างของเขาน่าทึ่งมาก!
‘หากข้าไม่เห็นสิ่งนี้ด้วยตาของตนเอง ข้าจะไม่เชื่อว่ามีมิติช่องว่างเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ!’ ฟางหยวนคิด
ในความเป็นจริงเขาเตรียมใจไว้แล้ว
เทพปีศาจจิตวิญญาณทุ่มเทความพยายามหลายหมื่นปีเพื่อสิ่งใด?
เขาต้องการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับเก้า!
เขาใช้ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทั้งสิบ บูชายัญผู้อมตะภาคใต้จำนวนนับไม่ถ้วนรวมถึงกองกำลังพันธมิตรผีดิบ สุดท้ายเทพปีศาจจิตวิญญาณยังเสียสละตนเองและเผชิญหน้ากับภัยพิบัติมากมายเพื่อสิ่งนี้!
ความยากลำบากของมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้อมตะระดับแปดจะสามารถจินตนาการถึง เพียงการรวบรวมสุดยอดกายาทั้งสิบ มันก็ยากมากแล้วโดยไม่ต้องกล่าวถึงการเตรียมการมานานกว่าหลายหมื่นปี
หลังจากใช้จ่ายทรัพยากรจำนวนมหาศาลและพึ่งพาการเสียสละมากมาย วิญญาณระดับเก้าถึงถูกหลอมสร้างขึ้น
แม้ฟางหยวนจะไม่รู้รายละเอียดในเชิงลึก แต่เขารู้ว่าวิญญาณทารกอมตะย่อมไม่ธรรมดา
วิญญาณระดับเก้ามีสถานะไม่ต่างจากผู้อมตะระดับเก้า มันทั้งหายากและทรงพลัง
ฟางหยวนเคยสัมผัสความยิ่งใหญ่ของวิญญาณระดับเก้ามาก่อน
มันก็คือวิญญาณสติปัญญา
กล่าวถึงวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนไม่แม้แต่จะสามารถปรับแต่งมัน
เขาทำได้เพียงอาบแสงแห่งปัญญา นี่ไม่ต่างจากการเห็นอาหารอันโอชะวางอยู่ตรงหน้าแต่ทำได้เพียงจ้องมองและดมกลิ่น
ถึงกระนั้นกลิ่นของมันก็น่าอัศจรรย์และทำให้ฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มหาศาล
ปราศจากแสงแห่งปัญญา ฟางหยวนจะมาไม่ถึงจุดนี้
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากลับได้รับวิญญาณระดับเก้าดวงที่สอง!
มันก็คือวิญญาณทารกอมตะและครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสูดดมแต่เขายังสามารถกลืนกินมันเข้าไปทั้งตัว!
‘เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ แน่นอนว่ามันย่อมมีเบื้องหลัง’ ความคิดนี้ติดอยู่ในใจของฟางหยวนตลอดมา
แต่เขาต้องไล่ล่าอิงอู๋เซี่ยและไม่มีเวลาสำรวจความลึกลับของร่างกายนี้
หลังจากล้มเหลวในการตามจับอิงอู๋เซี่ย เขาพยายามแก้ไขสถานการณ์โดยการเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลือง
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างของตน
แค่เพียงแวบแรก มันก็ทำให้เขาตกตะลึงไปแล้ว
ทิวทัศน์ของมิติช่องว่างแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ มันเกินกว่าจินตนาการของฟางหยวนไปไกลมาก
แม้มันจะเป็นมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับหกแต่มันกลับใหญ่โตมาก
ใหญ่โตถึงระดับใด?
สำหรับผู้อมตะระดับหก มิติช่องว่างระดับต่ำมีพื้นที่ไม่เกินสองพันตารางกิโลเมตร มิติช่องว่างระดับกลางมีพื้นที่ประมาณสองพันถึงสี่พันตารางกิโลเมตร นี่เป็นมิติช่องว่างของผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่
มีผู้อมตะไม่มากที่ครอบครองมิติช่องว่างระดับสูงเช่นไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่ถึงกระนั้นมันก็มีพื้นที่เพียงสี่พันเจ็ดร้อยถึงหกพันตารางกิโลเมตรเท่านั้น
หากเป็นมิติช่องว่างระดับสูงสุดของสุดยอดกายาทั้งสิบเช่นไห่ลั่วหลัน มันมีพื้นที่มากกว่าหกพันเจ็ดร้อยแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นสามพันตารางกิโลเมตร
มิติช่องว่างระดับสูงสุดหาได้ยากมากเนื่องจากมนุษย์ที่ครอบครองหนึ่งในสิบสุดยอดกายามักจะตกตายไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ
แน่นอนว่าเมื่อสุดยอดกายาสามารถบรรลุสู่ขอบเขตอมตะ พวกเขาจะได้รับทรัพยากรมหาศาล
มิติช่องว่างระดับสูงสุดไม่เพียงมีพื้นที่มากกว่า มันยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากกว่า และสามารถผลิตทรัพยากรได้มากกว่า กล่าวได้ว่าพวกเขามีอนาคตที่สดใสมาก
ผู้อมตะมากมายประสบปัญหาในการบ่มเพาะ
เหตุผลสำคัญเกิดจากมิติช่องว่างที่ไม่สามารถผลิตทรัพยากรได้เพียงพอต่อความต้องการของพวกเขา
เมื่อฝูงสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในมิติช่องว่างของพวกเขามีมากเกินไป พวกเขาต้องขายบางส่วนออกไป เมื่อมนุษย์กลายพันธุ์ขยายเผ่าพันธุ์ พวกเขาต้องขายพวกมันไปเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็นพืชพันธุ์การเกษตร หากมีมากเกินไป พวกมันก็ต้องถูกกำจัด
ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งมีสัตว์อสูรมากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งสืบพันธุ์มากเท่านั้น ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งมีมนุษย์กลายพันธุ์มากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งขยายเผ่าพันธุ์มากเท่านั้น ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งมีพืชพันธุ์มากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งเติบโตและแพร่พันธุ์มากเท่านั้น
แต่ผู้อมตะไม่มีทางเลือก
เพราะมิติช่องว่างของพวกเขาเล็กเกินไป
ดังนั้นผู้อมตะทุกคนจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มขนาดมิติช่องว่างของตน ตัวอย่างเช่นวิญญาณขยายอาณาเขตที่สามารถเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ นี่เป็นหนึ่งในวิธีขยายพื้นที่ของมิติช่องว่าง