เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1044
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1044 หายนะไล่ล่า
แปลโดย iPAT
ภาคกลาง ถ้ำนรกใต้พิภพ
การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยค่อนข้างน่าเกลียด
ด้านหน้าเขาคือไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับเจ็ดซื่อหนิว
ท่ามกลางคนทั้งสี่ ซื่อหนิวแข็งแกร่งที่สุด ติดตามมาด้วยไห่ลั่วหลัน และไท่เป่ยหยุนเฉิง ด้านอิงอู๋เซี่ย ตอนนี้เขาอยู่ในร่างผีดิบอมตะและถือครองวิญญาณอมตะที่ยืมมา สำหรับวิญญาณอมตะของฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยยังไม่ได้ปรับแต่งพวกมัน ดังนั้นพลังการต่อสู้ของเขาจึงอยู่ในจุดต่ำสุด
ไห่ลั่วหลันถูกอิงอู๋เซี่ยบังคับให้ยอมจำนน แม้นางจะได้รับการปลดปล่อยจากข้อตกลงของฟางหยวน แต่ตอนนี้นางกลับกลายเป็นคนรับใช้ของอิงอู๋เซี่ย
ซื่อหนิวเป็นบริวารที่ภักดีต่ออิงอู๋เซี่ยอย่างสมบูรณ์
และไท่เป่ยหยุนเฉิงที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆไม่มีข้อสงสัยในตัวอิงอู๋เซี่ยแม้แต่น้อย หลังจากทั้งหมดอิงอู๋เซี่ยกับไห่ลั่วหลันทำงานร่วมกันอยู่ในความมืดเพื่อหลอกลวงไท่เป่ยหยุนเฉิง
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงมองไปข้างหน้าและถามด้วยความสงสัย
ซื่อหนิวตอบ “ถ้ำนรกใต้พิภพไม่ใช่สถานที่ที่เงียบสงบ มันจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเป็นครั้งคราว นั่นอาจทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่”
ดวงตาของไห่ลั่วหลันส่องประกายเย็นชา “ที่นี่น่ากลัวเกินไป”
ซื่อหนิวพยักหน้า “ถูกต้อง ถ้ำนรกใต้พิภพเป็นสถานที่อันตราย มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรและซากปรักหักพัง พลังงานแห่งความตายจะหลอมรวมกับเลือดและซากศพ สุดท้ายมันจะให้กำเนิดสัตว์อสูรเดียวดายบนเส้นทางแห่งเลือดและอื่นๆ นายท่าน ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?”
อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ
เขาคิด ‘เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดที่นิกายเงาสร้างขึ้น ข้าต้องการออกจากถ้ำนรกใต้พิภพแต่หลังจากเกิดแผ่นดินไหว พวกเรากลับติดอยู่ที่นี่’
‘มันคือเจตจำนงสวรรค์!’
‘ร่างหลักของข้าต่อต้านสวรรค์และทำให้พลังงานของเจตจำนงสวรรค์ถูกใช้จ่ายไปมากมาย ตอนนี้ดูเหมือนมันจะฟื้นตัวขึ้นแล้ว’
‘วิญญาณกาลเวลาอยู่กับข้าแต่มันเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งสวรรค์ สถานการณ์ของข้าไม่ต่างจากการถือคบเพลิงอยู่ในความมืด’
‘หากข้าไม่มีวิธีตรวจสอบและไม่ยอมแพ้บางสิ่ง ข้าอาจถูกขังอยู่ที่นี่ หากข้ายังดื้อรั้นที่จะจับวิญญาณอมตะป่า ข้าอาจพบกับผู้อมตะบางคน ก่อนหน้านี้ข้าใช้ค่ายกลวิญญาณไปแล้ว วังสวรรค์จะต้องค้นพบเงื่อนงำบางอย่าง’
อิงอู๋เซี่ยได้รับข้อมูลมาจากเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา นี่ทำให้เขาเข้าใจเจตจำนงสวรรค์อย่างลึกซึ้ง
เจตจำนงสวรรค์มีขีดจำกัดของมันเอง พลังงานของมันจะถูกใช้ไปเช่นกัน แต่เนื่องจากรากฐานของมันคือโลกทั้งใบ เจตจำนงสวรรค์จึงไม่สามารถถูกทำลายได้โดยง่ายและจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
เกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนอยู่ถูกขังอยู่ในความมืดอย่างสมบูรณ์ ในแง่มุมนี้ความรู้ของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับอิงอู๋เซี่ย
‘ความยากลำบากที่เจตจำนงสวรรค์สร้างขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากเทพอมตะกลุ่มดาว!’
‘ข้าจำเป็นต้องหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อเดินทางไปทั้งห้าภูมิภาค ด้วยการรวบรวมกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงา ข้าจะสามารถสะสมความแข็งแกร่งเพื่อช่วยร่างหลัก’
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่อิงอู๋เซี่ยจะนึกถึงฟางหยวน
ความเกลียดชังที่มีต่อฟางหยวนปะทุขึ้นอีกครั้ง
‘ย้อนกลับไปเมื่อพวกเราคิดค้นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ ร่างหลักคำนึงถึงกำแพงภูมิภาคเช่นกัน ฟางหยวนไม่เพียงสามารถเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคแต่กลิ่นอายของเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงตามภูมิภาคที่เขาอยู่’
‘แต่อย่าคิดว่าเจ้าจะมีช่วงเวลาที่ง่ายดาย แม้เจ้าจะกลายเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ แต่เจตจำนงสวรรค์ยังสามารถสร้างสถานการณ์ที่ยุ่งยากขึ้นรอบตัวเจ้า’
‘นอกจากนี้ภัยพิบัติที่เจ้าต้องเผชิญจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เจตจำนงสวรรค์จะกำจัดเจ้า’
‘ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดพ้นภัยพิบัติทั้งหมดและมาให้ข้าจัดการ!’
แม้อิงอู๋เซี่ยจะเกลียดชังฟางหยวนแต่เรื่องเร่งด่วนของเขาในเวลานี้คือช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
หากดวงวิญญาณติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันเป็นเวลานาน มันจะค่อยๆถูกทำลายและสูญสลายไปในที่สุด
เปรียบเทียบกับการช่วยร่างหลัก เรื่องของฟางหยวนถือเป็นปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงต้องหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นอันดับแรกเพื่อรวบรวมกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงา
…..
ภาคใต้
วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติกำลังถูกกระตุ้นใช้งาน
ร่างของฟางหยวนเหมือนดาบที่พุ่งผ่านอากาศและทิ้งเส้นสายสีขาวเอาไว้ข้างหลัง
การใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเพียงอย่างเดียวจะไม่ทิ้งเส้นสายเหล่านี้
แต่ตอนนี้ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัส บนบาดแผลของเขายังมีร่องรอยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเมฆาเครือบคลุมอยู่ นั่นทำให้เมฆสีขาวก่อตัวขึ้นเป็นทางยาว
ฟางหยวนขมวดคิ้วลึกด้วยใบหน้าซีดขาว
ด้านหลังห่างออกไปประมาณสิบลี้มีสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลฝูงใหญ่กำลังไล่ล่าเขา
สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บก็คือสัตว์อสูรเหล่านี้
แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณอมตะดาบบิน แต่ร่างกายของสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลสามารถฟื้นตัวไม่ต่างจากอสูรโคลนเดียวดาย นี่ทำให้ฟางหยวนพบกับเรื่องยุ่งยากอีกครั้ง
‘ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ โป้ชิงสร้างท่าไม้ตายอมตะภัยพิบัติหมื่นดาบขึ้นมาโดยใช้วิญญาณอมตะดาบบินเป็นแกนกลางเพื่อส่งดาบนับหมื่นเล่มออกไปราวกับสายฝน หลังจากกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าต้องค้นหาท่าไม้ตายนี้และปิดจุดอ่อนของข้า!’ ฟางหยวนคิด
หลังจากค้นพบความลับของร่างใหม่ ฟางหยวนทิ้งแผนเดิมและต้องการเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคเพื่อกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
แต่โดยไม่คาดคิดเขากลับพบฝูงสัตว์อสูรกลุ่มนี้
สัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลเป็นสัตว์อสูรหายากไม่เพียงในภาคใต้แต่รวมถึงอีกสี่ภูมิภาค ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงหากจะบอกว่าพวกมันเกือบสูญพันธุ์ไปแล้ว
แต่ฟางหยวนกลับพบฝูงสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด!
ร่างกายของพวกมันไม่ต่างจากก้อนเมฆ
แม้ฟางหยวนจะตรวจสอบพื้นที่รอบๆตลอดเวลา แต่เขาไม่มีวิญญาณอมตะสายตรวจสอบ เพียงท่าไม้ตายระดับมนุษย์สายตรวจสอบไม่สามารถตรวจพบการคงอยู่ของพวกมัน
หลังการต่อสู้ที่รุนแรง ฟางหยวนสามารถหลบหนี แต่สัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป
เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีม่วงเริ่มปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของฟางหยวน
มันก็คือกำแพงพลังงานของภาคใต้
ฟางหยวนมีความสุขมากขณะที่เขาเลิกใช้วิญญาณดาบทะลวงมิติ
เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ฟางหยวนจะใช้วิญญาณดาบทะลวงมิติเพื่อสร้างระยะห่างออกจากศัตรูเท่านั้น
เมื่อฟางหยวนเปลี่ยนเป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ ฝูงสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลก็เคลื่อนที่ใกล้เข้ามาอีกครั้ง
แต่ฟางหยวนก็ทะยานร่างเข้าไปในกำแพงภูมิภาคโดยไม่ลังเล
แน่นอนว่าสิ่งกีดขวางคือศูนย์
ราวกับกำแพงภูมิภาคเป็นเพียงภาพลวงตา
ฟางหยวนกำหมัดแน่นอย่างมีความสุข “ดังคาด! วิญญาณทารกอมตะช่างอัศจรรย์นัก แม้ข้าจะไม่มีวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าก็สามารถเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคได้อย่างอิสระ!”
ฟางหยวนไม่เพียงพิจารณาถึงเรื่องนี้
“นี่คือตัวช่วยชั้นยอดของข้า การต่อสู้กับฉีช่ายเป็นตัวอย่างที่ดี จากนี้ไปข้าสามารถล่อผู้อมตะให้เข้ามาในกำแพงภูมิภาคและสังหารพวกเขา!”
แต่ความตื่นเต้นอยู่ได้ไม่นานก่อนที่ฟางหยวนจะขมวดคิ้วลึก
เพราะเขาตระหนักว่าสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลยังไล่ล่าเขามาอย่างไม่ลดละ
การคาดเดาของฟางหยวนได้รับการยืนยันแล้ว ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจ ‘ข้ารู้อยู่แล้ว ข้าช่างโชคร้ายนัก’
‘สัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลเกือบสูญพันธุ์ไปแล้ว แม้พวกมันจะเหลืออยู่ พวกมันก็อาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเท่านั้น’
‘สัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลฝูงนี้มีร่างกายสีขาว พวกมันคงบินลงมาจากสวรรค์สีขาวเพื่อผสมพันธุ์’
‘ข้าโชคไม่ดีที่พบสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลหลังจากพวกมันพึ่งผสมพันธุ์ โชคของข้าช่าง…’ ฟางหยวนรู้สึกพูดไม่ออก
‘กล่าวไปแล้วข้าได้เชื่อมโยงโชคกับผู้โชคดีหลายคน แม้ดวงวิญญาณกับร่างกายของข้าจะแยกออกจากกัน แต่โชคของข้าไม่ควรเลวร้ายถึงเพียงนี้ อย่าบอกว่าข้าใช้จ่ายโชคดีจำนวนมากไปกับวิญญาณทารกอมตะ ดังนั้นตอนนี้โชคของข้าจึงกลายเป็นเลวร้าย’
ความจริงก็คือฟางหยวนบินชนสถานที่วางไข่ของสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลทำให้พวกมันโกรธแค้นและต้องการกำจัดฟางหยวน
ตราบเท่าที่บาดแผลยังอยู่บนร่างกายของฟางหยวน พวกมันก็สามารถติดตามเขาไปได้ทุกหนทุกแห่ง
ปัญหาก็คือสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลฝูงนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค!