เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1153
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1153 การต่อสู้ระยะยาว
แปลโดย iPAT
กำแพงพลังงานสีฟ้าปิดบังวิสัยทัศน์ของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเอาไว้
มันคือกำแพงภูมิภาค!
ทะเลไหลเชี่ยวอยู่ใกล้กับกำแพงภูมิภาค ด้วยเหตุนี้เมื่อฟางหยวนเดินทางจากภาคใต้ไปยังภาคเหนือ เขาจึงเข้าใกล้ทะเลไหลเชี่ยวและพบกับหลิวชิงหยู
อิงอู๋เซี่ยใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเดินทางมาที่นี่โดยตรง
“เราจะข้ามไปอีกครั้งงั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันถอนหายใจ
“คนก่อนหน้านี้คือผู้ใด?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงถาม
“ศัตรู ศัตรูที่แข็งแกร่ง! อย่ามองเพียงการบ่มเพาะระดับหกของเขาเพราะแท้จริงแล้วเขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด!” อิงอู๋เซี่ยมองไท่เป่ยหยุนเฉิงและเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง
ไท่เป่ยหยุนเฉิงอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “พลังการต่อสู้ระดับแปด!”
ไห่ลั่วหลันแสร้งตกใจเช่นกัน “ไม่แปลกใจเลยที่เราต้องถอย”
ซื่อหนิวไม่กล่าวสิ่งใด
ไท่เป่ยหยุนเฉิงแสดงออกด้วยความโศกเศร้า “เห้อ…เนื่องจากเขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด หลิวชิงหยูคงจบสิ้นแล้ว น่าเสียดาย…”
“สามารถตายเพื่อนิกายเงาถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา” ซื่อหนิวกล่าว
“ไปเถอะ เขาอาจไล่ล่าพวกเรา อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่สามารถท่องเที่ยวไปในสวรรค์ทั้งเก้า หากมันมาจากสวรรค์ทั้งเก้า มันจะสามารถเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคได้อย่างอิสระ” ไห่ลั่วหลันลอบส่งข้อความเตือนอิงอู๋เซี่ย
อิงอู๋เซี่ยมองนางและตอบ “ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าตรวจสอบมาแล้ว อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดของฟางหยวนมาจากไห่ฟาน อินทรีย์ตัวนี้ถูกเลี้ยงไว้ในภาคเหนือ หากมันเข้าสู่กำแพงภูมิภาค มันจะถูกกดดัน ตอนนี้ถือว่าพวกเราค่อนข้างปลอดภัย”
“เป็นเช่นนั้น?” ไห่ลั่วหลันตะลึง
“ตอนนี้พวกเราจะไปที่ใด? เราไม่สามารถกลับไปที่ภาคกลาง เราจะไปภาคใต้เลยหรือไม่?” ไห่ลั่วหลันถาม
อิงอู๋เซี่ยยิ้มก่อนจะปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณบางดวงออกมาจากร่างกาย
เขาหันหน้ามองไปยังทิศทางของทะเลไหลเชี่ยว
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาทำให้เกิดเสียงเบาๆ
ลมทะเลพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของผู้อมตะทั้งสี่
“รอ” อิงอู๋เซี่ยกล่าวเพียงคำเดียว
“รอสิ่งใด?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงรู้สึกสับสน
“รอศัตรู” อิงอู๋เซี่ยตอบ
ผู้อมตะอีกสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงง
ก่อนหน้านี้พวกเขารีบร้อนล่าถอยออกมา แล้วเหตุใดตอนนี้พวกเขาถึงต้องรอ? ศัตรูมีพลังการต่อสู้ระดับแปด พวกเขาจะรอให้ศัตรูมาฆ่างั้นหรือ?
การแสดงออกของไห่ลั่วหลันเปลี่ยนไป “ข้าเข้าใจแล้ว!”
“มันคือ?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งถาม
ซื่อหนิวไม่ได้แสดงออกแต่ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ไห่ลั่วหลันยิ้ม “ไม่อยากรู้งั้นหรือว่าเขารู้ตำแหน่งของพวกเราได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้เขารู้ที่อยู่ของพวกเขาอย่างชัดเจน”
เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของซื่อหนิวเปลี่ยนไป
ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าวเสียงต่ำ “ไห่ลั่วหลัน เจ้าหมายความว่ามีคนทรยศอยู่ในกลุ่มพวกเรางั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้ พวกเราทั้งสี่จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? เว้นเพียงหลิวชิงหยูจะเป็นสายลับ เดี๋ยว! ข้อตกลงพันธมิตรถูกใช้ประโยชน์งั้นหรือ?”
“ความน่าจะเป็นที่บางคนจะทรยศมีต่ำมาก” อิงอู๋เซี่ยส่ายศีรษะ
เขามองไท่เป่ยหยุนเฉิง
แม้ไท่เป่ยหยุนเฉิงจะถูกขังไว้ในความมืดแต่เขาก็อยู่ภายใต้ข้อตกลงพันธมิตรของอิงอู๋เซี่ย เขาไม่สามารถทรยศ
“เหตุผลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือเขามีวิธีตรวจสอบที่สามารถติดตามตำแหน่งของพวกเรา” อิงอู๋เซี่ยกล่าว
“แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราอยู่ในฐานทัพและแทบไม่ได้ออกมาภายนอก” ไท่เป่ยหยุนเฉิงขมวดคิ้ว
ไห่ลั่วหลันยิ้ม “วิญญาณอมตะมีอยู่มากมาย มีวิธีการที่ยอดเยี่ยมและไม่น่าเชื่ออยู่นับไม่ถ้วน”
“นั่นเป็นเรื่องจริง” ไท่เป่ยหยุนเฉิงพยักหน้า
ไห่ลั่วหลันกล่าวต่อ “หากเราไม่สามารถหาวิธีรับมือ ไม่ว่าพวกเราจะไปที่ใด ศัตรูก็จะพบพวกเรา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”
“ดังนั้นนายท่านจึงตัดสินใจรออยู่ที่นี่เพื่อให้อีกฝ่ายใช้วิธีตรวจสอบของเขา ข้าเข้าใจแล้ว” ซื่อหนิวเข้าใจในที่สุด
ความคิดมากมายก่อตัวและพุ่งชนกันอยู่ในใจของอิงอู๋เซี่ย
แม้เขาจะอยู่ในร่างผีดิบอมตะและไม่สามารถคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เขามีวิธีการมากมายที่สามารถปิดข้อบกพร่องนี้
อิงอู๋เซี่ยคิดอย่างรวดเร็ว ‘ฟางหยวนใช้วิธีใดในการค้นหาตำแหน่งของข้า’
‘ข้ามาที่ทะเลตะวันออกอย่างลับๆ แล้วข้อมูลรั่วไหลได้อย่างไร? เขาสามารถหาตำแหน่งของข้าจากภาคเหนือได้อย่างไร?’
‘นั่นเป็นไปไม่ได้! กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถสรุปสิ่งใดหลังจากที่ข้าใช้ค่ายกลวิญญาณปกปิดร่องรอย’
‘ไม่ว่าสิ่งใดจะอยู่ในมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งนี้!’
เจตจำนงสวรรค์!
อิงอู๋เซี่ยมีคำตอบอยู่ในใจ
‘เมื่อข้าได้รับการแจ้งเตือนจากเจตจำนงสวรรค์ เป็นไปได้ที่ฟางหยวนจะได้รับการแจ้งเตือนในลักษณะเดียวกัน?’
สิ่งนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด
แต่อิงอู๋เซี่ยยังไม่พอใจกับคำตอบนี้
‘หากคนที่อยู่ในสถานการณ์นี้ไม่ใช่ข้าแต่เป็นฟางหยวน เขาจะทำอย่างไร? เขาจะคิดอย่างไร?’
‘เขาจะพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้’
‘แล้วสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่จะเป็นไปได้คือสิ่งใด?’
อิงอู๋เซี่ยถามตัวเองและได้รับคำตอบ ‘อีกฝ่ายมีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบที่สามารถทะลวงผ่านกำแพงภูมิภาคและยืนยันตำแหน่งของข้า’
อิงอู๋เซี่ยยิ้มเยาะ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?
แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขากลับแข็งค้าง
เขานึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง!
ฟางหยวนมีเบาะแสที่สำคัญที่สุดมาตลอด นั่นคือโชคที่เชื่อมต่อกันของพวกเขา
วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชค!
แรกเริ่มอิงอู๋เซี่ยไม่มีทางเลือกและต้องขายวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคในสวรรค์สีเหลือง
หลังจากทำธุรกรรมกับฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยได้รับวัสดุในการหลอมรวมที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงนำวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคกลับคืนมาจากสวรรค์สีเหลือง
แม้ฟางหยวนจะมีร่างกายใหม่แต่ผลกระทบของวิญญาณเชื่อมโยงโชคยังคงอยู่ ดังนั้นโชคของฟางหยวนจึงยังเชื่อมต่อกับโชคของไห่ลั่วหลัน
อิงอู๋เซี่ยได้รับข้อมูลมากมายจากนิกายเงาเกี่ยวกับวิธีการต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ มีประเด็นหนึ่งกล่าวว่าโชคชะตาเป็นเรื่องยากที่จะท้าทายแต่โชคสามารถใช้ประโยชน์
โชคเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเจตจำนงสวรรค์
แล้วผู้ใดโชคดีกว่ากัน?
โดยไม่ต้องคาดเดา มันเป็นฟางหยวนที่มีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข!
ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข อิงอู๋เซี่ยรู้เรื่องนี้จากผมที่หก
ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคเชื่อมต่อโชคกับไห่ลั่วหลัน
แม้ไห่ลั่วหลันจะไม่เต็มใจแต่นางก็ไม่สามารถต่อต้าน
ด้วยวิธีนี้อิงอู๋เซี่ยกับฟางหยวนจึงมีโชคที่เชื่อมต่อถึงกัน
‘หากเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์นี้และใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชค แม้เราจะอยู่ต่างภูมิภาค เขาก็สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของข้า กรณีนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก’
‘เส้นทางแห่งโชค…’
ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยสั่นสะท้านขึ้น
เขาเห็นมัน!
ด้วยการใช้วิญญาณอมตะตรวจสอบโชค เขาเห็นโชคของเขาและโชคของไห่ลั่วหลันเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อย
‘ดังคาด! วิธีบนเส้นทางแห่งโชค! ฟางหยวนช่างน่าประทับใจนัก ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากมันได้จริงๆ แต่น่าเสียดายที่ข้าค้นพบวิธีการของเจ้าแล้ว’
ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายสดใส
อย่างไรก็ตามกระทั่งอิงอู๋เซี่ยจะรู้แต่เขาก็ไม่สามารถทำลายการเชื่อมต่อของโชค
เขาไม่มีวิญญาณอมตะตัดโชค
แต่เขามีวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากมาย บางทีมันอาจสามารถแทรกแซงโชค
เขาทดลองทีละอย่างแต่ผลลัพธ์กลับไม่ดีนัก
โชคยังสั่นสะเทือน
ในความเป็นจริงอิงอู๋เซี่ยสามารถใช้วิธีกำจัดไห่ลั่วหลันได้โดยตรง
แต่แตกต่างจากหลิวชิงหยู ไห่ลั่วหลันเป็นตัวหมากที่ไม่สามารถโยนทิ้งโดยง่าย
นางมีคุณค่า หากสูญเสียนาง พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่ใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยนจึงล้มเลิกความคิดที่จะกำจัดนางทิ้งไป
‘เช่นนั้นการเข้าสู่มิติช่องว่างจะช่วยได้หรือไม่?’
อิงอู๋เซี่ยเข้าไปในมิติช่องว่างของซื่อหนิวและพบว่าด้วยการใช้วิธีนี้ผสานกับวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ โชคบนศีรษะของเขาหยุดสั่นสะเทือน
เขาสั่งให้ไห่ลั่วหลันเข้าสู่มิติช่องว่างของซื่อหนิว
จากนั้นไท่เป่ยหยุนเฉิงกับซื่อหนิงก็เข้าสู่กำแพงภูมิภาค
ด้านฟางหยวน เขาพึ่งออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยูและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคอีกครั้ง
เขาสัมผัสได้ถึงโชคที่เชื่อมต่อกับเขาจากหลายสถานที่
ทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคใต้
ท่ามกลางสถานที่เหล่านั้น เขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อโชคที่ชัดเจนจากทะเลตะวันออก
ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคมีระยะการตรวจสอบที่ยาวไกลมากแต่ผลกระทบของมันไม่โดดเด่นนัก หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนเชื่อมต่อโชคเอาไว้ก่อนหน้า เขาจะไม่สามารถตรวจสอบข้ามภูมิภาค
“พวกเขาอยู่ที่ขอบกำแพงภูมิภาค ค่ายกลวิญญาณนี้ช่างน่าทึ่งนัก”
“ฮืม! แม้ชัยชนะเป็นเรื่องยากที่จะได้มา แต่ข้าจะไล่ล่าพวกเจ้า แม้ข้าจะไม่สามารถสังหารพวกเจ้า ข้าก็จะทำให้พวกเจ้าอ่อนแอลง ตราบเท่าที่ข้าป้องกันไม่ให้พวกเขาสามารถช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ชัยชนะจะเป็นของข้าในที่สุด”
“แปลก เหตุใดพวกเขาถึงหยุดเคลื่อนไหว?”
“หือ?”
ทันใดนั้นฟางหยวนพลันแสดงออกด้วยความประหลาดใจ
คนสองคนหายไปจากความรู้สึกของเขา
“โอ้ พวกเขารู้สึกตัวแล้ว ช่างรวดเร็วนัก” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
ด้วยวิธีนี้เขาจึงไม่สามารถไล่ล่าฝ่ายตรงข้าม
“แต่ตราบเท่าที่โชคยังเชื่อมต่อกัน พวกเจ้าจะถูกคุกคามจากท่าไม้ตายอมตะของข้า ข้าจะใช้ท่าไม้ตายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อตรวจสอบตำแหน่งของพวกเจ้า พวกเจ้าจงระวังตัวไว้ให้ดี เมื่อข้าพบพวกเจ้า พวกเจ้าต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล!”
“สิ่งนี้จะทำให้เกิดการต่อสู้ระยะยาว แต่หากพวกเจ้าทำลายการเชื่อมต่อโชค ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการงั้นหรือ?”
“เอาล่ะ ลืมมันไปก่อน ตอนนี้ข้าควรจะไปรับรางวัลในทะเลไหลเชี่ยว”