เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1199
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1199 ลดแลกแจกแถม
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนพยักหน้าเห็นด้วย
นี่เป็นราคาที่ยุติธรรม ดวงวิญญาณของผู้อมตะมีค่ามากขึ้นเพราะมันสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว
เมื่อพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์ก่อตั้งขึ้น เผ่ามนุษย์หินร้องขอวิญญาณความเด็ดเดี่ยวจำนวนมาก เนื่องจากพวกเขามีความต้องการสินค้าชนิดนี้สูงมาก
อย่างไรก็ตามวิญญาณความเด็ดเดี่ยวมักถูกขายในสวรรค์สีเหลือง พวกเขาไม่สามารถลดราคา
ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามนุษย์หินกับนิกายหลางหยามีความใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวส่วนใหญ่ยังถูกขายในสวรรค์สีเหลือง
แดนน้ำแข็งของภาคเหนือขาดแคลนทรัพยากร เผ่ามนุษย์หินไม่สามารถจ่ายในราคาที่นิกายหลางหยาพึงพอใจ
เพื่อผลประโยชน์ของนิกายหลางหยา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถขายสินค้าส่วนใหญ่ให้กับเผ่ามนุษย์หิน
เผ่ามนุษย์หินไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใด
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวยังเป็นสินค้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโดยเฉพาะเมื่อผู้อมตะภาคใต้กำลังสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขาต้องการวิญญาณความเด็ดเดี่ยวจำนวนมาก
เรื่องนี้ยังทำให้เกิดการค้าขายวิญญาณความเด็ดเดี่ยวในตลาดมืด
วิญญาณความเด็ดเดี่ยวถูกขายต่อในราคาที่สูงมาก
นิกายหลางหยาขึ้นราคาวิญญาณความเด็ดเดี่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก
ท่ามกลางแหล่งรายได้ทั้งหมดของฟางหยวน ธุรกรรมวิญญาณความเด็ดเดี่ยวทำกำไรให้เขามากที่สุด
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับดวงวิญญาณของผู้อมตะไว้และกล่าว “ด้วยดวงวิญญาณของผู้อมตะ เราสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้มากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ดวงวิญญาณของผู้อมตะไม่ใช่สิ่งที่หาได้โดยง่าย การลงทุนในไท่ชิวยังเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ฟางหยวน หากเจ้ามีเวลาว่าง เดินทางไปที่ไท่ชิวสักสองสามครั้ง แม้ดวงวิญญาณของสัตว์อสูรหรือพืชอสูรอาจด้อยกว่าดวงวิญญาณของผู้อมตะ แต่เราสามารถใช้พวกมันทดแทน หากเจ้าลงมือด้วยตนเอง เราจะพัฒนาไท่ชิวได้เร็วขึ้น”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้จักความสามารถของฟางหยวน
ฟางหยวนตอบ “ข้าจะเข้าร่วมงานประลองทุ่งโลหิตเร็วๆนี้ ข้าเกรงว่าข้าคงไม่สามารถแบ่งความสนใจ นี่คือดวงวิญญาณของผู้อมตะดวงที่สอง ข้าหวังว่าผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจะตรวจสอบคุณภาพของมัน”
“ดวงที่สอง?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขมวดคิ้วแต่เขาไม่แปลกใจ
เขารู้จักฟางหยวนและไม่แปลกใจหากฟางหยวนจะขายดวงวิญญาณของผู้อมตะสองสามดวง
“นี่เป็นดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหค” แต่สิ่งนี้ทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาประหลาดใจเล็กน้อย
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หายากมาก เขาไม่คาดหวังว่าฟางหยวนจะมีดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหค
“เจ้าสังหารเขางั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามอย่างไม่เป็นทางการ
ฟางหยวนยิ้ม “ถูกต้อง”
นี่เป็นดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคเจิ้งหลิง ดวงวิญญาณของผู้อมตะคนแรกคือปีศาจอมตะเซี่ยซ่งซื่อ
นิกายหลางหยาเป็นกองกำลงเผ่ามนุษย์ขน นอกจากนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ไม่รู้จักผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคผู้นี้ ดังนั้นเขาจึงรับมันไว้
ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงได้แต้มผลงานมาหลายร้อยแต้ม
แต่ฟางหยวนยังนำดวงวิญญาณของผู้อมตะคนที่สามออกมา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายิ้ม “ดูเหมือนเจ้าจะตั้งใจขายดวงวิญญาณของผู้อมตะ เช่นนั้นก็นำทั้งหมดที่เจ้ามีออกมา!”
“ได้” ฟางหยวนนำดวงวิญญาณของผู้อมตะออกมาทีละดวง
เขามีดวงวิญญาณของผู้อมตะจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็นดวงวิญญาณของตงฟางชางหาน เซี่ยซ่งซื่อ เจิ้งหลิน และคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผู้อมตะจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและทะเลไหลเชี่ยว
เมื่อฟางหยวนนำดวงวิญญาณของผู้อมตะออกมาสามดวง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายิ้ม
แต่เมื่อฟางหยวนนำดวงวิญญาณของผู้อมตะดวงที่สิบออกมา การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเริ่มเปลี่ยนไป “เจ้าฆ่าคนไปมากเท่าใด?”
ฟางหยวนยิ้ม “มันเป็นเพียงความโชคดีเท่านั้น”
เขายังนำดวงวิญญาณของผู้อมตะออกมาอย่างต่อเนื่อง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกใจมาก
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าจึงสามารถละทิ้งเผ่ามนุษย์และเข้าข้างพวกเรา!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกพูดไม่ออก
“เจ้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก!”
“เจ้าพึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะแต่กลับสามารถสังหารผู้คนมากมาย เจ้าเหมือนเทพปีศาจจิตวิญญาณวัยเยาว์!”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่นเมื่อได้ยินชื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณ “นอกจากดวงวิญญาณของผู้อมตะ ข้ายังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะของผู้อมตะบนเส้นทางสายต่างๆ ข้ามีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและท่าไม้ตายอมตะมากมาย ข้ามีกระทั่งท่าไม้ตายอมตะเขตแดน และมีแผนที่ล่าสุดของแต่ละภูมิภาค ข้าจะมอบมันให้กับนิกายเพื่อให้สหายร่วมนิกายสามารถเดินทางในโลกภายนอกได้สะดวกยิ่งขึ้น”
ฟางหยวนกำลังลดราคาครั้งใหญ่
ฟางหยวนสังหารผู้คนมากมายและได้รับข้อมูลปริมาณมหาศาลจากการค้นวิญญาณ
ข้อมูลและสมบัติส่วนใหญ่ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามาจากบรรพชนผมยาวในอดีต บางส่วนเป็นสิ่งที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาซื้อมาจากสวรรค์สีเหลือง
อย่างไรก็ตามพวกมันเป็นข้อมูลที่เก่าแก่มากแล้ว แตกต่างจากข้อมูลของฟางหยวน พวกมันเป็นข้อมูลใหม่ กระทั่งสวรรค์สีเหลืองก็ไม่มีขาย
นี่ทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถปฏิเสธ
เขาแตกต่างจากจิตวิญญาณแผ่นดินหยางหยาคนก่อนหน้า จิตวิญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนสนใจเพียงการหลอมรวมวิญญาณขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนใหม่มีความทะเยอทะยานที่จะนำนิกายหลางหยาปกครองโลก
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนส่วนใหญ่ของนิกายหลางหยาหันมาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
นิกายหลางหยาต้องรวบรวมข้อมูลทุกประเภทเช่นเดียวกับกองกำลังมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังตระกูลฮวงจินของภาคเหนือหรือสิบนิกายโบราณของภาคกลาง
ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงได้รับแต้มผลงานจำนวนมหาศาล
ในเมืองเมฆาอื่น
ผมที่สิบสองอยู่ระหว่างการหลอมรวมวิญญาณ
“โอ้ ไม่ ข้าพลาด!” การแสดงออกของผมที่สิบสองเปลี่ยนไปเมื่อไฟในการควบคุมของเขาอ่อนกำลังลง
เขากระตุ้นใช้วิญญาณก่อนจะพ่นเลือดคำโตออกมา
“พรวด!”
เปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอีกครั้ง ร่างของผมที่สิบสองสั่นสะท้านขึ้น เขาได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ ร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเลือด
แต่ดวงตาของเขายังจดจ่ออยู่กับกองไฟ
หลังจากไม่นานกองไฟก็ดับมอดลง
ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมหยุดการทำงานขณะที่วิญญาณเจตจำนงของตนเองมากกว่าหนึ่งร้อยดวงจะปรากฏขึ้น
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนของนิกายหลางหยาเติบโตขึ้นภายใต้การดูแลของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า พวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมที่ไม่ธรรมดาแต่มีพลังการต่อสู้ต่ำ
วิญญาณเจตจำนงของตนเองเหล่านี้เป็นวิญญาณระดับห้า แต่ผมที่สิบสองสามารถหลอมรวมพวกมันขึ้นมาได้ในครั้งเดียว นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดาบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของผมที่สิบสอง
ผมที่สิบสองคิด ‘โชคดีที่ข้าเสียสละตนเองเพื่อชดเชยความผิดพลาด มิฉะนั้นวิญญาณเหล่านี้จะถูกทำลายทั้งหมด นอกจากนั้นข้ายังต้องเสียค่าชดเชยสามเท่า’
เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตวิญญาณเจตจำนงของตนเอง ฟางหยวนไม่เพียงใช้แต้มผลงานเพื่อดึงดูดผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน แต่ฟางหยวนยังเป็นผู้จัดหาวัสดุในการหลอมรวมทั้งหมด
ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไม่เหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป
ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจึงเต็มไปด้วยความเคารพต่อฟางหยวน ยิ่งไปกว่านั้นสภาพคล่องทางการเงินของฟางหยวนยังทำให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนยอมรับความแตกต่างระหว่างพวกเขา
ผมที่สิบสองรู้สึกเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
‘การหลอมรวมวิญญาณเจตจำนงของตนเองสิบเอ็ดรอบโดยไม่หยุดพักทำให้ร่างกายและจิตใจของข้าเหนื่อยล้าเกินไป ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือคำเตือนว่าข้าต้องพัก แต่ข้าจะรับภารกิจนี้อีกในอนาคตเพื่อแลกกับหินวิญญาณอมตะ’
เมื่อนึกถึงหินวิญญาณอมตะ ผมที่สิบสองแสดงออกด้วยความขมขื่น
“สัตว์อสูรเดียวดายไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลี้ยงดู”
“สัตว์อสูรเดียวดายมีความอยากอาหารสูงมาก นี่เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ ทุกเดือนข้าต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพื่อเลี้ยงดูพวกมัน!”
“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือวิญญาณทาสอมตะไม่ใช่ของข้า ทุกครั้งที่ข้ายืมมันมาใช้งาน ข้าต้องจ่ายด้วยแต้มผลงาน!”
“พิจารณาในระยะยาว ข้าต้องซื้อวิญญาณทาสอมตะมาไว้ในการครอบครอง แต่วิญญาณทาสอมตะระดับหกต้องใช้แต้มผลงานถึงหนึ่งหมื่นแต้ม!”
ผมที่สิบสองนำวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา
วิญญาณดวงนี้บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับแต้มผลงานของสมาชิกที่ให้การสนับสนุนนิกายหลางหยาเอาไว้
ผมที่สิบสองพบชื่อของเขาในครึ่งบนของรายชื่อทั้งหมดอย่างง่ายดาย
“มากกว่าหกร้อยแต้ม แต่ข้ายังห่างไกลจากเป้าหมาย!” ผมที่สิบสองเผยรอยยิ้มขมขื่น เส้นทางของเขายังอีกยาวไกล
“แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆก็อยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกันกับข้า หลายคนยังเลวร้ายกว่าข้าอีกด้วย”
“ข้อได้เปรียบของข้าคือข้าบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งทาส ข้ามีสัตว์อสูรเดียวดายหลายตัว ข้าสามารถเก็บแต้มผลงานได้เร็วกว่าคนอื่นๆ”