เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1263
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1263 เลือดไหลนอง
แปลโดย iPAT
ท่าไม้ตายอมตะหอกแสงตะวันประสบความสำเร็จ!
“ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” จ้าวเหลียนหยุนเต็มไปด้วยความมั่นใจ นางค่อยๆยกหอกแสงตะวันขึ้นและชี้ไปที่จ้าวผูด้วยเจตนาสังหาร
จ้าวผูมองหอกแสงตะวันในมือของจ้าวเหลียนหยุนและยกย่อง “เป็นหอกที่น่าประทับใจ ทั้งอุณหภูมิและความเปล่งประกาย เมื่อมันระเบิด มันจะมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว แต่…”
ทันใดนั้นเขากลับเผยรอยยิ้มราวกับแผนการของเขาประสบความสำเร็จแล้ว
เขากล่าว “ตอนนี้เจ้าไม่รู้สึกแปลกๆบ้างงั้นหรือ?”
“อันใด?” เป็นเพียงเวลานี้ที่จ้าวเหลียนหยุนสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไหลลงมาจากริมฝีปากของนาง
นางใช้มือซ้ายเช็ดเบาๆและพบว่ามันคือเลือด!
นางเริ่มมีเลือดออกตั้งแต่เมื่อใด?
“นี่คือ!?” รูม่านตาของจ้าวเหลียนหยุนหดเล็กลงพร้อมกับร่างกายของนางที่เริ่มสั่นสะท้านขึ้น
“มันคือท่าไม้ตายของข้าโลหิตไหลนอง”
“เป็นไปไม่ได้! ชัดเจนว่าเจ้า…” จ้าวเหลียนหยุนพยายามกล่าวแต่เลือดยิ่งไหลออกมาจากปากของนางมากขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าต้องการกล่าวว่าข้าไม่ได้แสดงท่าทางว่ากำลังกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะงั้นหรือ? อันที่จริงข้ากระตุ้นใช้งานมันไปแล้ว เจ้าเพียงไม่รู้เท่านั้น” จ้าวผูหัวเราะ
“เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันคือทักษะแบ่งจิต!?” อวี๋อี้เย่ซือเบิกตากว้าง
จ้าวผูชำเลืองมองเด็กหนุ่ม “เจ้าหนู เจ้าค่อนข้างมีความรู้”
ในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะ มีวิธีการและทักษะมากมายตัวอย่างเช่นนางมารผลาญสวรรค์สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไฟสองท่าหรือมากกว่าพร้อมกันเพื่อสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้น
อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนของฟางหยวน มันเป็นการผสานเส้นทางความแข็งแกร่งและทาสเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกองทัพภูตมนุษย์จำนวนมาก นอกจากนั้นเขายังสามารถหลอมรวมพวกมันให้เป็นกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเพื่อเพิ่มพลังโจมตี ท่าไม้ตายเหล่านี้ล้วนใช้ทักษะการแบ่งจิตเพื่อทำงานหลายอย่างพร้อมกันทั้งสิ้น
วิธีของจ้าวผูก็เช่นกัน หากเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะโลหิตไหลนองโดยตรง จ้าวเหลียนหยุนจะตระหนักถึงมันและระวังตัวมากขึ้น สุดท้ายนางอาจสามารถหลบเลี่ยง
อย่างไรก็ตามเมื่อจ้าวผูใช้ท่าไม้ตายหลายท่าพร้อมกัน จ้าวเหลียนหยุนจึงไม่พบสิ่งผิดปกติและถูกลอบโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะโหลิตไหลนองอย่างลับๆ
‘บัดซบ! เขาซ่อนมันไว้ เขาแสร้งโจมตีโซ่เงินสังหารของข้าแต่แอบซ่อนแผนการชั่วร้ายเอาไว้!’
ตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนพบว่านอกจากปาก เลือดยังเริ่มไหลออกจากจมูก รูหู และดวงตาของนางเช่นกัน
จ้าวเหลียนหยุนนึกถึงช่วงเวลาที่นางเห็นอวี๋อี้เย่ซือครั้งแรก
‘ข้าถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนั่น!’
‘หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าจะจบลงในสภาพเดียวกับอวี๋อี้เย่ซือ?’
‘ช่างเจ้าเล่ห์นัก!’
ด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน จ้าวเหลียนหยุนส่งหอกแสงตะวันออกไป
แต่จ้าวผูเตรียมพร้อมไว้แล้ว เขาเห็นตั้งแต่จ้าวเหลียนหยุนเริ่มขยับไหล่
หอกแสงตะวันไม่สามารถติดตามเป้าหมายแต่มันเร็วมาก
มันเคลื่อนที่ผ่านจ้าวผูและทะลวงกำแพงห้องโถงออกไปด้านนอกก่อนจะเกิดการระเบิด
‘ทรงพลังนัก! หากข้าถูกโจมตีด้วยสิ่งนี้…’ ร่างกายของจ้าวผูเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ‘โชคดีที่พวกเขาถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของข้าแล้ว’
“โอ้” อวี๋อี้เย่ซือถอนหายใจและเดินเข้าไปหาจ้าวเหลียนหยุนเพื่อต่อสู้เคียงข้างนาง
ขวัญกำลังใจของจ้าวเหลียนหยุนลดลงอย่างรวดเร็ว นางมีประสบการณ์การต่อสู้จริงน้อยมาก นี่ทำให้สภาพจิตใจของนางได้รับอิทธิพลอย่างง่ายดายหลังจากท่าไม้ตายอมตะหอกแสงตะวันกลายเป็นการสูญเสียที่ไร้ประโยชน์
“อาการบาดเจ็บของเจ้า…” จ้าวเหลียนหยุนมองอวี๋อี้เย่ซือด้วยความกังวล
อาการบาดเจ็บของอวี๋อี้เย่ซือยังไม่ดีขึ้น
จ้าวผูหัวเราะ “พวกเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าได้พักผ่อนจริงๆงั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ตราบเท่าที่พวกเจ้าถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของข้า พวกเจ้าก็ไม่สามารถทำสิ่งใด เว้นเพียงข้าจะยกเลิกมันด้วยตนเอง “
“แต่ข้าค่อนข้างใจดี ข้าจะอนุญาตให้พวกเจ้ายอมจำนน ตราบเท่าที่พวกเจ้าคุกเข่าร้องขอความเมตตาและมอบวิญญาณอมตะของพวกเจ้าให้ข้า ข้าจะรับพวกเจ้าเป็นทาสและไว้ชีวิตพวกเจ้า”
“ฝันไปเถอะ!” จ้าวเหลียนหยุนกัดฟันปฏิเสธ
จ้าวผูไม่สนใจทัศนคติของนางและหัวเราะ “การต่อสู้ถูกตัดสินแล้ว พวกเจ้ายังไม่รู้สถานการณ์ของตนเองอีกงั้นหรือ? คนฉลาดย่อมสามารถยอมแพ้ พวกเจ้ายังเด็ก หากตาย มันก็จบ แต่ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวัง”
อวี๋อี้เย่ซือเย้ยหยัน “ข้าไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บและทำได้เพียงปล่อยให้เลือดไหลต่อไป แต่ข้าก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก ข้าอนุมานแล้วว่าตราบเท่าที่เราสามารถสังหารเจ้า อาการบาดเจ็บของเราจะฟื้นฟูขึ้นด้วยตัวมันเอง”
“โอ้?” การแสดงออกของจ้าวผูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาต้องประเมินอวี๋อี้เย่ซือสูงขึ้น “เด็กน้อย ข้าต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเจ้าอีกครั้ง”
อวี๋อี้เย่ซือเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดยังต้องขอคำแนะนำจากเขา
อวี๋อี้เย่ซือไม่เพียงเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวมวิญญาณแต่เขายังมีทักษะในการพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวม
หลังจากทั้งหมดเส้นทางแห่งการหลอมรวมกับเส้นทางแห่งปัญญามีความใกล้ชิดและสามารถทำงานร่วมกัน
นี่เป็นสาเหตุที่อวี๋อี้เย่ซือสามารถอนุมานท่าไม้ตายของจ้าวผู
“เราต้องฆ่าเขา จากนั้นเลือดจะหยุดไหล หากเขาไม่ตาย พวกเราจะตาย!”
พวกเขาถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้แห่งชีวิตและความตายอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง
“ไป!” จ้าวเหลียนหยุนพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล
“เด็กดื้อ ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้า!” จ้าวผูหัวเราะเสียงดังและพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งสองฝ่ายไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้
โซ่เงินสังหารถูกส่งออกมาขณะที่จ้าวผูพ่นเลือดไปที่โซ่สามเส้น
โซ่เงินสลายกลายเป็นบ่อเลือดทันที
“แปดประตูหลอมรวม ประตูที่สาม ประตูมือ เปิด!” อวี๋อี้เย่ซือฉวยโอกาสส่งฝ่ามือพุ่งเข้าโจมตีจ้าวผูจากระยะไกล
เงาฝ่ามือปะทะแผ่นหลังของจ้าวผูด้วยความเร็วสูง
จ้าวผูกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เลือดที่กระเด็นออกมากลับช่วยปิดบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจ้าวผู เขาคิด ‘แปลก เหตุใดการโจมตีของเด็กผู้นี้ทรงพลังขึ้นเรื่อย!”
อวี๋อี้เย่ซืออาจเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมแต่พลังการต่อสู้ของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียงพอ เขาจะสามารถค้นหาจุดอ่อนของเป้าหมาย นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะแปดประตูหลอมรวมของเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และปลดปล่อยคุณสมบัติบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อศัตรูผู้นั้นโดยเฉพาะ
อวี๋อี้เย่ซือและจ้าวเหลียนหยุนรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถหลบหนีและต้องระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ออกมาเท่านั้น