เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1314
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1314 ผลไม้เขากวาง
แปลโดย iPAT
ภาคใต้ ตระกูลวู
ในห้องลับ ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
เส้นผมของเขาพลิ้วไหวอยู่ในอากาศ กลิ่นอายของวิญญาณจำนวนมากเล็ดรอดออกมาจากร่างกายของเขา
“ขั้นตอนสำคัญ…” ฟางหยวนพึมพำ สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว
เขากระตุ้นใช้งานวิญญาณระดับมนุษย์อย่างระมัดระวัง
มันเป็นเพียงวิญญาณระดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งโลหะ
ในเวลาปกติ มันไม่มีความเสี่ยง แต่สถานการณ์นี้แตกต่างออกไป
“บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้น
ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปาก
“ข้าล้มเหลวอีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจยาว
เขาค่อยๆลอยลงบนพื้นและตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตน
“โชคดีที่ข้าใช้เพียงวิญญาณระดับหนึ่ง อาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาและไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณบุรุษคนก่อนหน้า มันจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ฟางหยวนพยายามพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ
ท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระใช้วิญญาณอมตะความคิดวัชระระดับหกเป็นแกนกลาง ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายนี้เอาชนะเซี่ยเฟยกุ้ย
หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ฟางหยวนรู้สึกว่าท่าไม้ตายดังกล่าวยังไม่น่าพอใจ มันยังสามารถพัฒนาไปได้อีก
ฟางหยวนให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้
ด้วยความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระ
“น่าเสียดายแม้ข้าจะมีความก้าวหน้าแต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีนัก ดูเหมือนระดับความสำเร็จของข้ายังไม่เพียงพอ ตอนนี้ข้าทำได้เพียงเท่านี้”
ฟางหยวนถอนหายใจ
ในความเป็นจริงพัฒนาการของเขาถือว่าอัศจรรย์มากแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับผู้อมตะคนอื่นๆ
ในอดีตอสูรสายฟ้ายังต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อคิดค้นท่าไม้ตายเทพสายฟ้า ความเร็วในการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะของเขายังไม่แม้แต่จะถึงสิบในร้อยส่วนของฟางหยวน
อย่างไรก็ตามมันเป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับฟางหยวนที่จะยอมแพ้ในตอนนี้
เพราะเขามีวิธีเพิ่มระดับความสำเร็จที่รวดเร็ว ตราบเท่าที่ความสำเร็จของเขาพุ่งสูงขึ้น เขาจะสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระได้ในพริบตา
หลังจากขายปลามังกร สถานะทางการเงินของฟางหยวนเริ่มดีขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีพลังงานอมตะมากพอที่จะทดลองท่าไม้ตายอมตะ
กล่าวไปแล้วการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะถือว่าสิ้นเปลืองมาก ตัวอย่างเช่นหากความพยายามล้มเหลว ผู้อมตะอาจได้รับบาดเจ็บ วิญญาณอาจถูกทำลาย พลังงานอมตะถูกใช้จ่าย และวิญญาณอมตะอาจได้รับความเสียหาย
ในทางตรงข้ามหากผู้อมตะมีระดับความสำเร็จสูงพอ การพัฒนาท่าไม้ตายอมตะจะเป็นไปอย่างง่ายดาย มันจะช่วยประหยัดเวลา ความพยายาม และทรัพยากรไปได้มาก
ระดับความสำเร็จในปัจจุบันของฟางหยวนยังไม่เพียงพอให้เขาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ แม้เขาจะสามารถทำได้ แต่เขาก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง
เขาไตร่ตรองและเลือกยอมแพ้โครงการนี้
หลังจากพักผ่อน ฟางหยวนส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังสวรรค์สีเหลือง
“ข้าจะจ่ายหนึ่งพันสามร้อยหินวิญญาณอมตะสำหรับผลไม้เขากวางทั้งหมดของท่าน” ฟางหยวนกล่าว
ผู้ขายส่ายศีรษะ “ราคาที่ข้าเสนอต่ำมากแล้ว ท่านมาที่นี่สามครั้งแล้ว หากท่านต้องการซื้อจริงๆ เพิ่มอีกสองร้อยหินวิญญาณอมตะและรับมันไป”
ผลไม้เขากวางเป็นทรัพยากรอมตะระดับหก
มันไม่ใช่สมบัติหายากแต่มีไม่กี่คนที่ขายมันเนื่องจากมันไม่ได้รับความนิยม
อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องการมันเพื่อให้อาหารวิญญาณความคิดวัชระ
ฟางหยวนไม่ตอบรับแต่เลือกลดจำนวนสินค้า
ผลไม้เขากวางของร้านนี้มีคุณภาพสูงสุด ราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ดังนั้นเขาจึงมาที่ร้านนี้หลายครั้ง
ผลไม้เขากวางมีขนาดเท่ากำปั้นทารก มันไม่ได้เติบโตขึ้นบนต้นไม้แต่เติบโตขึ้นบนเขากวางอสูรเดียวดาย
‘ตอนนี้ข้าควรซื้อผลไม้เขากวางเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อให้อาหารครั้งแรกกับวิญญาณความคิดวัชระ’
‘เมื่อข้ามีเงินทุนมากพอในอนาคต ข้าอาจซื้อวิธีเพาะเลี้ยงผลไม้เขากวางและสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง’
‘เรื่องที่ข้าจะผลิตมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโอกาสในอนาคต’
ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “เช่นนั้นให้ข้าตรวจสอบอีกครั้ง”
แต่ในเวลานี้เจตจำนงของผู้อมตะที่อยู่ตรงหน้าฟางหยวนกลับสั่นสะท้านขึ้น เขาเร่งกล่าว “ร่างหลักของข้ามาแล้ว เขาบอกว่าเขาจะพูดคุยเกี่ยวกับราคาสินค้ากับท่านด้วยตนเอง’
ฟางหยวนมีความสุขมาก
เขากำลังรอสถานการณ์นี้อยู่
ผู้อมตะมักทิ้งเจตจำนงของตนไว้ในสวรรค์สีเหลืองเพื่อขายสินค้าของพวกเขา
อย่างไรก็ตามแม้เจตจำนงจะสามารถสื่อสารและดำเนินทางทั้งหมด แต่มันต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของร่างหลักอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้ไม่สามารถต่อรองได้
แต่เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ขายสินค้าเข้ามาในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนจะสามารถเจรจาต่อรอง
มีหลายสิ่งที่ต้องพูดคุย
“ข้าต้องการผลไม้เขากวางเพื่อเป็นอาหรให้กับวิญญาณอมตะ”
“หากเราสามารถบรรลุข้อตกลง นี่จะไม่ใช่ธุรกรรมสุดท้าย”
“ข้าเสนอหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันสามร้อยก้อน”
ฟางหยวนเริ่มเจรจา
ผู้ขายลังเล “นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา ข้าจะเชื่อคำสัญญาปากเปล่าของท่านได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า ลืมไปได้เลย ข้าต้องการหนึ่งพันสี่ร้อยหินวิญญาณอมตะ”
“เมื่อเราทำธุรกรรมถึงสามครั้ง ราคาจะลดลงเหลือหนึ่งพันสามร้อย ท่านคิดอย่างไร?”
เห็นได้ชัดว่าผู้ขายก็ไม่โง่ เขาค่อนข้างฉลาด
ฟางหยวนปฏิเสธ “หากข้ามีเงินมากพอข้าจะไม่ทำให้ยุ่งยากเช่นนี้ หนึ่งพันสามร้อยห้าสิบได้หรือไม่?”
ผู้ขายฝืนยิ้ม “เอาล่ะ หากไม่ใช่เพราะความจำเป็นเร่งด่วนของข้าและความจริงที่ว่าผลไม้เขากวางเหล่านี้ขายออกได้ช้า ข้าจะไม่ตกลงกับราคาของท่าน”
ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเสร็จสิ้นธุรกรรมนี้ ปัญหาการให้อาหารวิญญาณความคิดวัชระได้รับการแก้ไขในที่สุด
ต่อไปเป็นอาหารของวิญญาณอมตะเต่าพยากรณ์
วิญญาณอมตะดวงนี้กินสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร
โดยธรรมชาติแล้วมันไม่ใช่สาหร่ายทั่วไปแต่เป็นสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพ สิ่งนี้เป็นทรัพยากรอมตะระดับหก
ปัจจุบันฟางหยวนกำลังขาดแคลนทุนทรัพย์ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจซื้อและเก็บสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพเอาไว้
เขาจะพิจารณาเกี่ยวกับการสร้างแหล่งอาหารขึ้นมาด้วยตนเองในอนาคต
สำหรับวิญญาณวันอมตะ มันกินสายธารแห่งกาลเวลาเป็นอาหารและไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
หากเปรียบเทียบกับผลไม้เขากวาง ผู้ขายสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพมีมากมายในสวรรค์สีเหลือง
แต่ฟางหยวนไม่สามารถทำข้อตกลงกับพวกเขา
ประเด็นคือราคา
แต่เขาไม่รีบ ยังมีเวลาเหลืออยู่ก่อนจะถึงเวลาให้อาหารวิญญาณอมตะเต่าพยากรณ์
‘โชคดีที่ข้าสร้างทะเลเกล็ดมังกรสำเร็จ ตราบเท่าที่มันยังสร้างผลผลิต ข้าจะทำเงินได้มากมายในอนาคต’
‘ต่อไปคือการสร้างถ้ำขดด้ายเพื่อเพาะเลี้ยงแมงมุมหน้าคน’
ฟางหยวนคิดมาแล้ว ตลาดการค้าแมงมุมหน้าคนใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลทรายตะวันตก แม้ความต้องการมันจะไม่สูงเท่าปลามังกรแต่มันยังค่อนข้างดี
แต่ตอนนี้ฟางหยวนยังขาดแคลนทุนทรัพย์และต้องการเวลาเพื่อสะสมความมั่งคั่ง
‘จากสถานการณ์นี้ข้าประเมินว่าต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนก่อนที่ข้าจะสามารถรวบรวมเงินทุนก้อนแรกและเริ่มสร้างถ้ำหดด้าย’
‘หวังว่าตระกูลวูจะมีเสถียรภาพในช่วงเวลานี้และให้ข้ากลับไปยังค่ายกลวิญญาณ’
ตัวตนของวูอี้ไห่จำกัดเสรีภาพของฟางหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลวูที่ไม่เป็นผลดีต่อเขา
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาวูหยงส่งกลุ่มผู้อมตะของตระกูลวูออกไปจัดการปัญหาที่เกิดจากกองกำลังต่างๆตลอดเวลา มีการสูญเสียและมีกำไร ศักดิ์ศรีของตระกูลวูตกต่ำลง แต่ในความเป็นจริงมีความเสียหายไม่มากต่อผลประโยชน์ของพวกเขา
ดังนั้นสถานการณ์ของตระกูลวูจึงยังไม่เลวร้ายนัก
วูหยงต้องการกู้คืนชื่อเสียงของพวกเขาขณะที่กองกำลังอื่นๆไม่พอใจและต้องการคว้าผลประโยชน์บางอย่าง
การเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังฝ่ายธรรมะแตกต่างจากฝ่ายปีศาจ
การเผชิญหน้าของฝ่ายปีศาจมีเพียงความรุนแรงและป่าเถื่อนขณะที่การเผชิญหน้าของฝ่ายธรรมะเป็นเรื่องของการพ่นน้ำลายและมักใช้เวลาที่ยาวนาน มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะต่อสู้กันโดยปราศจากข้อแม้ พวกเขาจะไม่ต่อสู้กันจนตัวตาย
ด้วยเหตุนี้วันเวลาที่สงบสุขของฟางหยวนจึงอยู่ได้ไม่นาน
ไม่กี่วันต่อมาเขาได้รับภารกิจใหม่จากวูหยง
“หอยทากภูเขา? สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา?”
คิ้วของฟางหยวนขมวดบาง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความมั่นใจที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ แต่สถานการณ์ปัจจุบันดูไม่ดีนัก
ก่อนหน้านี้แม้ฟางหยวนจะสามารถแก้ปัญหาของยอดเขาเยือกแข็ง แต่ในความเป็นจริงผลลัพธ์ที่ปรากฏยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับตระกูลวู เขาสร้างข้อตกลงห้าปีและยังปล้นสะดมทรัพยากรของยอดเขาเยือแข็ง
นี่เป็นความตั้งใจของฟางหยวนที่จะทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีนักให้กับวูหยง ตัวตนระดับสูงไม่ชอบใช้งานคนเช่นนี้ หากพวกเขาส่งฟางหยวนไปยังค่ายกลวิญญาณ มันจะตรงกับความปรารถนาของฟางหยวน
แต่ปัจจุบันตระกูลวูกำลังขาดแคลนกำลังคนขณะที่อาณาเขตของพวกเขากว้างใหญ่เกินไป ปัญหาเรื่องหอยทากเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน วูหยงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้งานฟางหยวนอีกครั้ง