เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1340
Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1340 ไท่เมียนเฉิน
ภาคใต้ ตระกูลไท่ ภูเขาหว่านเจิ้ง
“ครืน…”
เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นจากหุบเขา
ที่ก้นเหวมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
นางดูกล้าหาญและว่องไว คิ้วของนางแหลมคมเหมือนดาบ ดวงตาส่องประกายราวกับดวงดาว ขณะที่ร่างกายของนางทั้งสูงและสง่างาม
นางมองขึ้นไปด้านบน
หินก้อนใหญ่เท่าบ้านกำลังตกลงมาจากหน้าผา
หญิงสาวสูดหายใจลึก ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย นางปิดเปลือกตาลง
ในจังหวะที่หินยักษ์กำลังจะทับร่างของนาง นางเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง
แสงสีทองส่องประกายราวกับดวงตะวันในเสี้ยวพริบตาก่อนจะหายไป
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับเศษฝุ่นควันที่กระจัดกระจายออกไปรอบๆ
ร่างของหญิงสาวถูกอาบด้วยฝุ่นละอองแต่ใบหน้าของนางยังแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่
“ดี ไท่รั่วหนาน เจ้าประสบความสำเร็จในการใช้ท่าไม้ตายที่ข้าสอน เจ้าผ่านการทดสอบสุดท้ายแล้ว จากนี้ไปเจ้าจะติดตามข้าและฝึกฝน ข้าจะสอนวิธีการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะให้เจ้า” เสียงดังขึ้นในหุบเขา
หญิงสาวคุกเข่าลงบนพื้น “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผู้อาวุโสสูงสุด”
“เจ้าเกลียดชังความชั่วร้ายมากและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าเหมาะสมกับมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็กของข้า เดิมทีบิดาของเจ้าเป็นคนที่ข้าเลือก แต่ผู้ใดจะคิดว่าบุตรสาวของเขาจะมีพรสวรรค์มากกว่าเขา หือ?” เสียงสายเดิมหยุดลงอย่างกะทันหัน
แต่ในไม่ช้าไท่รั่วหนานก็ได้ยิน “มีเรื่องด่วน อยู่ที่นี่และฝึกฝนท่าไม้ตายที่ข้าสอนต่อไป ตอนนี้เจ้ายังไม่ชำนาญมากพอ เจ้าต้องฝึกฝนให้มากขึ้น เมื่อข้ากลับมา เราจะดำเนินการขั้นต่อไป”
“ทราบแล้ว” หญิงสาวโค้งคำนับด้วยความเคารพ ความตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้าของนางอย่างไม่สามารถปิดบัง
“ในที่สุดข้าก็ทำได้ ท่านพ่อโปรดมองข้าจากสวรรค์ ข้าจะกลายเป็นผู้อมตะและได้รับความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”
“โลกนี้มืดมนและโกลาหลเกินไป มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้ข้าสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดและให้รางวัลแก่ผู้ที่กระทำความดี ความยุติธรรมจะชนะ โลกจะน่าอยู่มากขึ้น!”
…..
“จางลี่ นางสารเลวที่สังหารสามีของตนเอง ผู้ใดจะคิดว่าน้องชายของข้าจะหลงรักคนเช่นเจ้าและจบชีวิตลงเช่นนี้ เจ้าช่างโหดเหี้ยมนัก วันนี้ข้าจะตัดเจ้าออกเป็นชิ้นๆ เจ้าจะตายโดยปราศจากซากศพ!” ผู้อมตะหนุ่มตะโกนด้วยความโกรธและระเบิดกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมา
ฟางหยวน “…”
ตั้งแต่เขาผ่านอาณาจักรแห่งความฝันเกี่ยวกับจ้าวเย่ฮุ้ย เขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งความมืด แต่หลังจากนั้นเขากลับพบอาณาจักรแห่งความฝันที่ไร้สาระมาตลอด
หลังจากรอสักพัก ในที่สุดเขาก็พบอาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงของผู้อมตะ สุดท้ายเขากลายเป็นผู้อมตะหญิงในอาณาจักรแห่งความฝันนี้และค่อนข้างน่าขันเพราะผู้อมตะหญิงผู้นี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์
นี่เป็นสาขาย่อยของเส้นทางแห่งปัญญา มันใช้อารมณ์ในการต่อสู้และใช้มนต์เสน่ห์ในการล่อลวงศัตรู
ตอนนี้ฟางหยวนคือผู้อมตะหญิงในชุดสีชมพูที่มีร่างกายเย้ายวนใจ
ฟางหยวนรู้สึกพูดไม่ออก
นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่มีปัญหาอีกครั้ง เขาต้องแสดงเป็นตัวละครนี้เพื่อคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน
แน่นอนว่าการกลายเป็นผู้หญิงไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน
และสิ่งที่ทำให้ฟางหยวนมีความสุขเล็กน้อยก็คือผู้อมตะหญิงผู้นี้มีวิญญาณอมตะมากมาย
‘ข้าต้องลองใช้วิญญาณเหล่านี้ก่อน’ ฟางหยวนส่งพลังวิญญาณให้กับวิญญาณอมตะดวงหนึ่ง
เสียงร้องที่เย้าย้วนดังขึ้นจากวิญญาณดวงนี้และทำให้ผู้อมตะหนุ่มรู้สึกอ่อนแรงขณะที่เจตจนาสังหารของเขาลดลง
เขากัดฟันกล่าว “หญิงแพศยา เจ้ากล้าเล่นลูกไม้กับข้างั้นหรือ? รับนี่!”
หลังกล่าวจบคำ เขาผลักฝ่ามือส่งพายุหมุนขนาดใหญ่เข้าโจมตีฟางหยวนทันที
ฟางหยวนถอยกลับพร้อมกับกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะดวงที่สอง
กระโปรงของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นหมอกสีชมพูและพาฟางหยวนถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของมันน่าประทับใจมากเพราะมันไม่ด้อยกว่าวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ สิ่งที่น่าเสียใจเพียงอย่างเดียวคือยิ่งเขาใช้งานมันมากเท่าใด หมอกสีชมพูก็ยิ่งบางลงเท่านั้น ตอนนี้ต้นขาและต้นแขนของเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
แต่ฟางหยวนไม่กลัวที่จะเปลือยกาย ความคิดเรื่องเขินอายไม่เหลืออยู่ในตัวเขาอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือความฝัน
สิ่งที่ต้องระวังก็คือวิญญาณอมตะดวงนี้ใช้งานได้ไม่นาน
“หลบหนีงั้นหรือ? แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตายในวันนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าและล้างแค้นให้น้องชายของข้า ข้าจะทำทุกวิถีทางโดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น!”
ผู้อมตะหนุ่มตะโกนด้วยดวงตาสีแดงเลือด
ในเวลาเดียวกันเขาก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
สายลมสีเขียวควบรวมและกลายเป็นกริชเล็กๆอยู่ในมือของเขา
‘โอ้ ไม่’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
‘วิญญาณอมตะหนึ่งหรือสองดวงนี้ไม่สามารถหยุดท่าไม้ตายอมตะ และข้าไม่รู้ว่าจางลี่ผู้นี้มีท่าไม้ตายอมตะใด’
ฟางหยวนรีบใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเมื่อรู้สึกถึงความยากลำบาก
พลังงานลึกลับพุ่งเข้าสู่มิติช่องว่างของเขา วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์หลายสิบดวงถูกกระตุ้นใช้งานภายใต้การควบคุมของพลังงานลึกลับสายนี้
‘นี่คือ?’ ฟางหยวนรู้สึกยินดี
ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ท่าไม้ตายอมตะที่ไม่รู้จักถูกกระตุ้นใช้งานทันที
ฟางหยวนไม่รู้ว่าท่าไม้ตายอมตะนี้สามารถทำสิ่งใดหรือส่งผลกระทบอย่างไร
แต่ไม่มีเวลาให้คิดเพราะผู้อมตะหนุ่มส่งกริชหยกออกมาแล้ว
ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่าไม้ตายนี้เท่านั้น
ภายใต้อิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนโบกมือและกระซิบ “อัญเชิญภูตผี!”
มันเป็นเสียงที่เย้ายวนมาก กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกขนลุก
หลังจากนั้นมีภูตผีปรากฏขึ้นจริงๆ
ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับเจ็ดบินเข้าเผชิญหน้ากับกริชหยกโดยตรง
การแสดงออกของผู้อมตะหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อเห็นภูตผีตนนี้ เขาตะโกน “น้องชาย!”
ปรากฏว่าผู้อมตะหญิงจางลี่ฆ่าสามีของนางและปรับแต่งดวงวิญญาณของเขาให้เป็นนักฆ่า
ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้และเกิดแรงบันดาลใจทันที เขาตะโกน “ตราบเท่าที่ข้าหยุดใช้ท่าไม้ตายนี้ ดวงวิญญาณของน้องชายเจ้าจะปลอดภัย ทำลายมันหากมีความกล้า!”
ผู้อมตะหนุ่มโกรธจัด แต่เขาเกรงว่าจะทำร้ายน้องชายของตน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าต่อสู้
ฟางหยวนมีความสุขมาก เขาเร่งโจมตีและทำให้สถานการณ์เกิดเสถียรภาพ
ครู่ต่อมาเขาก็สามารถกำจัดศัตรู
เขาประสบความสำเร็จในการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน
ฟางหยวนกลับสู่โลกแห่งความจริง
“อาณาจักรแห่งความฝันนี้มีเพียงฉากเดียว” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝันขนาดเล็ก
ฟางหยวนตรวจสอบและพบว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“เส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์ไม่เคยถูกแยกออกจากเส้นทางแห่งปัญญา ไม่มีเส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์อยู่บนโลกใบนี้ มีเพียงเส้นทางแห่งปัญญา ดังนั้นความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าจึงเพิ่มสูงขึ้น”
“สำหรับเส้นทางแห่งภูตผี บางทีจางลี่อาจบ่มเพาะเส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางรอง ภูตผีที่นางเรียกออกมาเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”
เขาวิเคราะห์และตรวจสอบความสำเร็จของตนอีกครั้ง
ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแปดสายได้แก่ เส้นทางแห่งเลือด เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางแห่งดวงดาว เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งความมืด และเส้นทางแห่งค่ายกล
เขาเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชค เส้นทางแห่งดาบอยู่ในระดับสามัญ เส้นทางแห่งจิตวิญญาณอยู่ในระดับสามัญเช่นกัน แต่หลังจากคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝันของจางลี่ เขากลายเป็นกึ่งผู้เชี่ยวชาญาบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
“ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญภูตผีค่อนข้างน่าสนใจ แม้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าจะไม่เพียงพอ แต่ข้าเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา มีความเป็นไปได้ที่ข้าจะสามารถใช้ท่าไม้ตายลักษณะนี้ ข้าสามารถเลียนแบบมันและสร้างท่าไม้ตายที่คล้ายคลึงกันได้”
“แต่กระทั่งข้าจะสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะนี้ มันก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการพัฒนาท่าไม้ตายกระดองเต่าวัชระ”
ผู้อมตะทั่วไปจะมีความสุขหากมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะใหม่ๆ
แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป
ระดับความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เขามีแรงบันดาลใจใหม่ๆนับไม่ถ้วน เขาต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง
นี่เป็นปัญหาแต่ก็เป็นปัญหาที่ดี
ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดอนุญาตให้เขาสร้างท่าไม้ตายอมตะที่สามารถปกปิดตัวตนของเขา
ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลทำให้เขาได้รับแนวคิดใหม่เกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ
สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้นมาก
หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันของจางลี่ อาณาจักรแห่งความฝันต่อไปไม่เหมาะสมที่จะสำรวจ
ฟางหยวนจึงหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ
ขณะที่ฟางหยวนกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง ไท่เมี่ยนเฉินได้พบกับเฉียวจื่อไคและวูหยงในที่สุด
ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้อยู่ในชุดเกราะเบาและมีหน้ากากเหล็กอยู่บนใบหน้า
ผู้อมตะทุกคนที่ฝึกฝนมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็กต้องมีหัวใจแห่งความยุติธรรมและผู้สืบทอดมรดกนี้จะมีทักษะในการสืบสวนสูงมาก
หลังจากเห็นซากศพของผู้อมตะตระกูลวูทั้งสอง ไท่เมี่ยนเฉินประกาศทันที “นี่ไม่ใช่เฉียวจื่อไค”
เฉียวจื่อไคถอนหายใจ
“มันคือผู้ใด?” วูหยงถาม
“มีคนเลียนแบบท่าไม้ตายอมตะของเขา นี่คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์” ไท่เมี่ยนเฉินตอบ “ท่านวูหยง ข้าสงสัยว่าท่านเคยได้ยินชื่อปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดหรือไม่?”
วูหยงขมวดคิ้ว “เจ้าหมายถึงมรดกที่แท้จริงภาพลวงตาทั้งเจ็ดงั้นหรือ? กล่าวกันว่าผู้อมตะที่สืบทอดมรดกนี้สามารถเลียนแบบท่าไม้ตายเกือบทุกชนิด”
ไท่เมี่ยนเฉินพยักหน้า “หอปราบมารของตระกูลไท่เคยมีปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด เราไม่สามารถจัดการเขาและรับมรดกที่แท้จริงนี้ แต่เรารู้ความลับมากมาย มรดกที่แท้จริงนี้มีเจ็ดชั้น ผู้สืบทอดสามารถเลือกสืบทอดแต่ละชั้นหรืออาจรับสืบทอดทั้งหมด แต่หลังจากรับสืบทอดมรดก พวกเขาต้องรับเงื่อนไขหนึ่งในอนาคต พวกเขาต้องทำงานให้กับบางคน”
“ตระกูลของเราค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด”
“น่าสนใจ” วูหยงพยักหน้าและขมวดคิ้วลึก
แม้จะรู้ความจริงแล้วอย่างไร?
ปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดคือผู้ใด? กองกำลังหรือผู้ใดอยู่เบื้องหลังเขา?
วูหยงยังไม่รู้คำตอบของปัญหานี้!
แต่ในเวลาต่อมาคำกล่าวของไท่เมี่ยนเฉินกลับทำให้วูหยงเลิกขมวดคิ้ว