เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1632 คนหลอกลวง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1632 คนหลอกลวง
ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!
มังกรจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีชายชราราวกับคลื่นน้ำ
หลังจากเข้าใจสถานการณ์ ฟางหยวนเลิกใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและเริ่มใช้วิธีอื่นๆ ในแง่นี้ฟางหยวนมีท่าไม้ตายที่มีประโยชน์มากมาย
ชายชรากันเสียงเย็นแต่ไม่แปลกใจ
ก่อนมาที่นี่เขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอแล้ว เขารู้จักท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรของฟางหยวน
“ปลาไหลจะทําสิ่งใดข้าได้” ชายชราลอยอยู่กลางอากาศและรอให้ฝูงมังกรเคลื่อนที่ใกล้เข้า
เสื้อคลุมเพลิงสุริยันลุกไหม้ขึ้นบนร่างกายของเขา
ฝูงมังกรเริ่มส่งเสียงคํารามที่แปลกประหลาด พวกมันกลายเป็นมันงงและบินไปรอบๆแบบสุ่ม
จากนั้นเปลวเพลิงก็ลุกไหม้ขึ้นบนร่างของฝูงมังกรและเผาทําลายพวกมัน
ชายชราไม่ขยับเขยื้อนแต่มังกรดาบบรรพกาลจํานวนมากกลับถูกเผาตาย พวกมันไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาแม้แต่น้อย
“ท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมเพลิงสุริยัน!” รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง นี่คือพลังอํานาจที่แท้จริงของท่าไม้ตายนี้ มันสามารถป้องกันและโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เช่นนั้นลองตราประทับเหล่าโป” ฟางหยวนคิด
เขาปลอมตัวเป็นมังกรดาบบรรพกาลและผสานตัวเองเข้าไปในกองทัพมังกรเพื่อเข้าใกล้ชายชรา
แต่ก่อนที่เขาจะสามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป เขากลับถูกค้นพบเนื่องจากกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ของท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปรัวไหลออกมา
ชายชราพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนราวกับสายฟ้าโดยไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายของเขา
“บึม บึม บึม”
ชายชราโจมตีอย่างบ้าคลั่งแต่เกราะหวนคืนสะท้อนกลับทั้งหมด
ฟางหยวนไม่พูด เขาอดทนต่อการโจมตีของชายชรากระทั่งท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปพร้อมใช้งาน
ชายชราระวังตัวมากขึ้น เมื่อฟางหยวนส่งตราประทับเหล่าโปออกไป ชายชราสามารถหลบ แต่มันยังปะทะไหล่ของเขาเล็กน้อย
ชายชรารู้สึกว่างเปล่าทันที ขณะเดียวกันเสื้อคลุมเพลิงสุริยันก็อ่อนแอลงสี่สิบส่วน
“เป็นท่าไม้ตายที่อัศจรรย์นัก แต่มันไม่สามารถทําลายเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของข้า!” ชายชราเย้ยหยันขณะถอยกลับไปรักษาตัว
ความเร็วของเขาเหนือกว่าฟางหยวน มันยากที่ฟางหยวนจะโจมตีต่อเนื่อง
ชายชราสามารถพักหายใจ หลังจากชั่วครู่อาการบาดเจ็บของเขาก็หายเป็นปกติ เสื้อคลุมเพลิงสุริยันลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปน่ากลัวมาก ดังนั้นชายชราจึงไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนสามารถใช้งานมันได้อีกต่อไป
เสื้อคลุมเพลิงสุริยันมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยม ฟางหยวนรู้สึกเหมือนเขากําลังเผชิญหน้าอยู่กับเกราะหวนคืนของตนเอง
“จิตวิญญาณของชายชราผู้นี้ไม่ใช่จุดอ่อนของเขา แม้จะเป็นเพียงการเล็มหญ้า แต่ฟางหยวนก็ได้รับข้อมูลที่มีค่า
ตราประทับเหล่าโปมีเป้าหมายที่จิตวิญญาณของศัตรู แต่ชายชราเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีประสบการณ์และรากฐานที่ลึกล้ำ เขาไม่มีจุดอ่อนที่ชัดเจน การป้องกันจิตวิญญาณของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง
ฟางหยวนประเมินและตระหนักว่ากระทั่งตราประทับเหล่าโปจะโจมตีชายชราได้อย่างแม่นยํา แต่มันยังไม่สามารถฆ่าเขาในครั้งเดียว
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปคู่กับท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันเพื่อจับกุมผู้อมตระะดับแปดของวังสวรรค์
แต่ในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้ ชายชราทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของฟางหยวนและบังคับให้อิงอู๋เซี่ยหลับใหลอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
หากคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ยังอยู่ ฟางหยวนจะได้รับความช่วยเหลือจากอิงอู๋เซี่ยและมีโอกาสได้รับชัยชนะ
แต่ชายชรากลับซุ่มโจมตีและทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่แรก นั่นทําให้ฟางหยวนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
สถานการณ์ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฟางหยวน เขาตกเป็นฝ่ายถูกซุ่มโจมตี เขาต้องหลบหนีเท่านั้น
ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!
ฟางหยวนยังส่งกองทัพมังกรออกมา
ชายชราเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่เขาไม่สามารถผ่อนคลายจิตใจหรือประมาท
เขาหรี่ตามองขณะที่ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงมังกรดาบบรรพกาลอีกครั้ง เขาควรค้นหาตัวจริงของฟางหยวนหรือกําจัดมังกรดาบบรรพกาลทั้งหมด
หากเขาไม่ฆ่าฟางหยวน ฝูงมังกรจะปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น แต่ชายชราตระหนักว่า “ข้าเกรงว่าวิธีการตรวจสอบของข้าจะไม่สามารถเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาต้องมีแผนอื่น!”
ชายชราแสดงออกอย่างเย่อหยิ่งและดุร้าย แต่ในใจของเขากลับสงบมาก
เขามีประสบการณ์มากมาย แม้ตอนนี้เขาจะสามารถรักษาความได้เปรียบ แต่หากเขาพลาดพลั้ง ฟางหยวนอาจพลิกสถานการณ์
ชายชราคํารามขณะที่เปลวไฟพุ่งออกไปรอบๆราวกับทะเลเพลิง
ฝูงมังกรดาบบรรพกาลเริ่มละลายราวกับเทียนที่ถูกเผาไหม้
การตัดสินใจของชายชราทําให้ฟางหยวนรู้สึกกังวล
เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะใช้กลยุทธ์ต่อไป เขาควบคุมฝูงมังกรดาบบรรพกาลพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะ
ค่ายกลวิญญาณอมตะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อมตะภาคกลาง เมื่อพวกเขาเห็นฝูงมังกรจํานวนมหาศาลพุ่งเข้าโจมตี พวกเขาต้องการตอบโต้ แต่ชายชราเร่งติดต่อพวกเขา “อย่าเคลื่อนไหว! ฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสูงมากและมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา ยิ่งใช้งานค่ายกลวิญญาณมากเท่าใด เขาก็จะพบข้อบกพร่องของมันมากเท่านั้น ข้าจะจัดการปลาไหลเหล่านี้เอง”
ชายชราไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวน เขาใช้ทะเลเพลิงกําจัดฝูงมังกรดาบบรรพกาลอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่อาณาจักรแห่งความฝัน
ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน!
เขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝัน
“โอ้ ไม่ ปีศาจตนนี้ช่างมีความพยายามนัก!” การแสดงออกของชายชราเปลี่ยนไป ฟางหยวนใช้กลยุทธ์มากมายและยากที่จะมองเห็นแผนการที่แท้จริงของเขา
ฟางหยวนเปิดทางเข้ามิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องการส่งร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ย ไหลัวหลัน ไปหนิงปิง และเทพธิดาเมี่ยวหยินเข้าไปภายใน
แต่ในจังหวะนี้ชายชรากลับกรีดร้องด้วยความโกรธ “ปีศาจ อย่าแม้แต่จะคิด!”
“บึม!”
ท่าไม้ตายอมตะระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ฟางหยวนไม่จําเป็นต้องหันหลังกลับ เขารู้ว่านี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีที่รุนแรงที่สุดของชายชรา
“ข้าต้องไม่ล้มเหลว!” ในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนทุ่มสุดตัว
เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อเร่งเวลาที่อยู่รอบตัวให้เดินเร็วขึ้น
เขานําคนอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิและปล่อยให้การโจมตีของชายชราปะทะแผ่นหลังของเขา แรงกระแทกส่งเขาบินออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ นี่ทําให้เขาสูญเสียน้ำในแม่น้ำหวนคืนไปสิบห้าส่วน ขณะเดียวกันฟางหยวนยังกระอักเลือดออกมาและรู้สึกเวียนศีรษะจากแรงกระแทก
นอกจากนั้นเขายังช่วยเหลือสมาชิกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เขาไม่สามารถเข้าถึงเทพธิดาเมี่ยวหยินที่หมดสติอยู่ นั่นทําให้นางถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
เทพธิดาเมี่ยวหยินตาย ณ จุดเกิดเหตุ
ฟางหยวนคํารามเสียงดังขณะที่เขาส่งฝูงมังกรดาบบรรพกาลพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะ
ตอนนี้ชายชรารู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเริ่มโจมตีฟางหยวนอย่างบ้าคลั่ง
แต่ฟางหยวนมีเกราะหวนคืน เขาเพิกเฉยต่อชายชราอย่างสิ้นเชิงและให้ความสนใจกับการโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะเท่านั้น
“ฟางหยวน อย่าคิดว่าจะสามารถออกไป!” ชายชราคํารามขณะที่เปลวเพลิงกลืนกินฟางหยวนเข้าไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ากําลังดิ้นรนอยู่หน้าประตูนรก!” ชายชราพุ่งเข้าโจมตีแผ่นหลังของฟางหยวนและส่งเขาบินออกไป
เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของฟางหยวน เขาอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชมาก แต่ดวงตาของเขายังเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เขายังโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไม่หยุดยั้ง
“ไร้ประโยชน์! เจ้าไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ ดูแม่นาหวนคืนของเจ้า มันกําลังจะถูกใช้ไปจนหมด!” ชายชราเย้ยหยันและยิ่งโจมตีฟางหยวนมากขึ้น
แม้เกราะหวนคืนจะสามารถสะท้อนการโจมตีทั้งหมด แต่ชายชรามีเสื้อคลุมเพลิงสุริยัน เขา สามารถต่อต้านการโจมตีที่ถูกสะท้อนกลับมา
คํากล่าวของเขาไม่ผิด ฟางหยวนต่อสู้มานาน แม่น้ำหวนคืนถูกใช้ไปมากแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเกราะหวนคืนของเขาจะบางลงเรื่อยๆ
เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนคํารามและเตรียมใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปอีกครั้ง
รูม่านตาของชายชราหดเล็กลง เขาหยุดโจมตีและเริ่มป้องกันตัว
ฟางหยวนสะบัดฝามือออกไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้โจมตีชายชราแต่ยิงไปที่ค่ายกลวิญญาณอมตะ
“อา…” ผู้อมตะระดับเจ็ดที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะเสียชีวิตทันที
“อันใด!?” ผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆตกตะลึงและรู้สึกพูดไม่ออก
ฟางหยวนค้นพบแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะและสามารถสังหารคนควบคุมได้อย่างรวดเร็ว
ตราประทับเหล่าโปสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้
“เร็วเข้า ซ่อมแซมรูช่องโหว่!” กลุ่มผู้อมตะภาคกลางตะโกน
อีกด้านหนึ่งชายชราคํารามและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง
ฟางหยวนใช้เกราะหวนคืนปกป้องตนเอง
ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์เริ่มพังทลายลงที่ละน้อย มันไม่สามารถต่อต้านการคลี่คลายของฟางหยวน
“เป็นไปได้อย่างไร?” ทุกคนตะลึงกับความสามารถในการอนุมานของฟางหยวน
“เร็ว ตรงนั่น!” บางคนตะโกน
ฟางหยวนหัวเราะ “ลาก่อน”
“เจ้าออกไปไม่ได้!” เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้น ชายชราพยายามซ่อนรูช่องโหว่ที่อยู่ด้านหลัง
ผู้อมตะภาคกลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ฟางหยวนยังพุ่งตรงเข้าหาชายชราและกล่าวด้วยเจตนาสังหาร “จงหายไป”
ชายชราหัวเราะ “ไร้ประโยชน์ เจ้าไม่สามารถจัดการเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของข้า!”
ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดลงเรื่อยๆ
ผู้อมตะภาคกลางบางคนตะโกน “ปิดกั้นฟางหยวน เราต้องการเวลาเพียงห้าลมหายใจ!”
ชายชราเย้ยหยัน “ไม่ใช่เพียงห้าลมหายใจ แม้จะดือ?”
ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขากลายเป็นแข็งค้าง เขามองฟางหยวนที่กําลังเตรียมท่าไม้ตายอมตะด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
กลิ่นอายของเขาถูกปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์
เขาประกบฝ่ามือทั้งสองข้างกลางหน้าอก ต่อมาเขายกฝ่ามือข้างขวาขึ้นเหนือศีรษะ
“ท่าไม้ตายนี้…” ชายชราไม่สามารถเผยรอยยิ้มได้อีกต่อไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว
มันคือท่าไม้ตายอมตะดาบห้าดัชนี
ลมหายใจแรก
ดาบแรก!
แสงดาบพุ่งออกมาจากนิ้วโป้งของเขารวดมาก!
ความเร็วของแสงดาบเหนือความคาดหมาย
เมื่อมันถูกยิงออก มันก็พุ่งเข้าปะทะหน้าผากของชายชราทันที
ร่างของชายชราสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง เสื้อคลุมเพลิงสุริยันอ่อนแอลงห้าสิบส่วน
ลมหายใจที่สอง
ดาบที่สอง!
ชายชราคํารามและระเบิดพลังออกมาอีกครั้ง
แสงดาบทําให้เสื้อคลุมเพลิงสุริยันอ่อนแอลงอีกหน
ลมหายใจที่สาม
ดาบที่สาม!
ใบหน้าของชายชรากลายเป็นซีดเผือด เขากัดฟันแน่นและพยายามขยายพลังอํานาจของเสื้อคลุมเพลิงสุริยัน ก่อนหน้านี้มันมีขนาดเท่ารถม้า แต่ตอนนี้มันมีขนาดเท่าบ้าน
ชายชราคําราม “นี่เป็นจุดสูงสุดของเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของเข้า เข้ามา! การโจมตีของเจ้าไม่สามารถทะลวงผ่านมัน!”
ทันทีที่ชายชรากล่าวจบ แสงดาบก็พุ่งเข้าระเบิดทําลายเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของเขาและทําให้มันกลับสู่สภาพเดิม
ดาบห้าดัชนีจะทรงพลังขึ้นทุกครั้งที่ปล่อยออกมา
ลมหายใจที่สี่
ดาบที่สี่
ชายชราปิดกั้นดาบเล่มที่สี่อย่างหมดสิ้นหนทาง เขาต้องล่าถอยออกไปขณะที่เขาแทบไม่สามารถคงสภาพเสื้อคลุมเพลิงสุริยันเอาไว้
ลมหายใจที่ห้า
ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก “เสื้อคลุมอันใด ช่างน่าขันนัก หลี่ฮวง เจ้าสามารถเริ่มเตรียมงานศพของเจ้าตั้งแต่ตอนนี้ มันกําลังจะจบ ดาบที่ห้า!”
หัวใจของชายชราแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ไม่โม้ชิง อย่าคิดว่าจะสามารถฆ่าข้า!”
เปลวไฟลุกไหม้ขึ้น เขาแยกร่างหลายสิบร่างและบินหนีไปทุกทิศทาง
ฟางหยวนไม่สนใจ เขาบินออกจากรูช่องโหว่และกลับสู่สายธารแห่งกาลเวลาทันที
เพียงเมื่อฟางหยวนจากไป ค่ายกลวิญญาณอมตะก็ปิดรูช่องโหว่และผนึกพื้นที่ภายในเอาไว้อย่างแน่นหนาอีกครั้ง
แต่ฟางหยวนหนีไปแล้ว ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะกลายเป็นเงียบสนิท
ผู้อมตะภาคกลางตะลึง
ร่างแยกเพลิงหายไปและทิ้งไว้เพียงร่างหลักของชายชราเท่านั้น
ตอนนี้ใบหน้าของเขากลายเป็นแดงกําด้วยความโกรธ ความกลัว ความอัปยศ ความเกลียดชัง และเจตนาสังหาร
ชายชราเงยหน้าคํารามเสียงดัง
“ดาบเล่มที่ห้าอยู่ที่ใด!?”
“ฟางหยวน!”
“คนหลอกลวง!”