เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1634 หนึ่งโจมตี หนึ่งป้องกัน
บทที่ 1634 หนึ่งโจมตี หนึ่งป้องกัน
ฟางหยวนสูดหายใจลึกและเปิดเปลือกตาขึ้น
ที่นี่คือถ้ําใต้พิภพ มีดวงไฟที่น่าขนลุกอยู่บนกําแพง มันคือค่ายกลวิญญาณ แม้มันจะไม่แข็งแกร่งนัก แต่มันยังสามารถแจ้งเตือนเขา
ฟางหยวนถูกซุ่มโจมตีโดยวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลา เขาดิ้นรนต่อสู้เพื่อหาทางรอด
หลังจากหลบหนีจากกลุ่มของซิงเย่ ฟางหยวนออกจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลามายังภาคใต้
ภายใต้เป็นฐานทัพใหญ่ของนิกายเงา ราชันภูเขาม่วงจัดตั้งถ้ําเพลิงภูตผีเอาไว้หลายแห่ง ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางมายังถ้ําเพลิงภูตผีแห่งหนึ่งเพื่อพักฟื้น
แม้เขาจะมีเกราะหวนคืน แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้ตลอดเวลา เขาต้องพึ่งพาเสื้อคลุมฤดูหนาว ยังไม่ต้องกล่าวถึงการต่อสู้กับชายชราหลี่ฮวง แต่ฟางหยวนยังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังไม่น้อย
ฟางหยวนตรวจสอบร่างกายของตนก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
หลังจากพักฟื้นมาสองสามวัน ร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์ ด้วยร่างทารกอมตะที่ไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋า การรักษาจึงมีประสิทธิภาพสูงมาก
ลิ้นจี่ขาวอมตะระดับแปดของเขาเพิ่มขึ้นแล้วแต่มันยังอยู่ในระดับที่ไม่ปลอดภัย
ฟางหยวนเดินไปรอบๆและพิจารณาสถานการณ์ด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
ครั้งนี้เขาล้มเหลวในสายธารแห่งกาลเวลา ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าเขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิต
ฟางหยวนไม่รู้สึกกลัวและไม่มีความสุขมากนัก กรณีดังกล่าวอยู่ในความคาดหมายของเขา
รากฐานของวังสวรรค์ลึกเกินไป
การเติบโตของฟางหยวนยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของวังสวรรค์
ด้วยรากฐานอันยิ่งใหญ่ พวกเขาสามารถกําหราบฟางหยวน การต่อสู้ในสายธารแห่งกาลเวลาเป็นการยืนยันเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนได้เปรียบวังสวรรค์เพราะเขาใช้วิธีลอบโจมตีโดยไม่ให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัว
ฟางหยวนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนและทําให้แผนการของวังสวรรค์ล้มเหลวหลายครั้ง
แต่ทุกครั้งวงสวรรค์จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมและระวังตัวมากขึ้น ในการต่อสู้ที่ต้องเผชิญหน้าโดยตรง ความแข็งแกร่งของฟางหยวนยังไม่เพียงพอ
วังสวรรค์ไม่ได้มีเพียงรากฐานที่แข็งแกร่งแต่ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือความคิดที่เป็นหนึ่งเดียว
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้แข็งแกร่งเช่นกันแต่พวกเขาให้ความสําคัญกับประโยชน์ส่วนตนเป็นอันดับแรก นั่นทําให้พวกเขาไม่สามารถจัดการฟางหยวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่วังสวรรค์กดดันฟางหยวนมาตลอด
หากไม่ใช่เพราะแผนการและอุบายของฟางหยวนแต่เป็นปีศาจอมตะตนอื่น พวกเขาอาจถูกจับหรือสังหารไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปการจัดเตรียมของวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลาจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น โอกาสที่จะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงจะลดน้อยลง เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ฟางหยวนจะสามารถทําสิ่งใดได้บ้าง?
“ข้าใช้ลิ้นจี่ขาวอมตะไปเกือบหมดแล้ว”
แม่น้ําหวนคืนแทบไม่เหมือนน้ํา มันไม่สามารถใช้งานมันได้ในระยะนี้
แม่น้ําหวนคืนแตกต่างจากภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปที่ฟางหยวนสามารถซ่อมแซมได้อย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนไม่ได้ขาดวิธีฟื้นฟูแต่ทุกวิธีต่างมีค่าใช้จ่ายมหาศาล
ในอนาคตอันใกล้นี้ฟางหยวนจะไม่สามารถใช้เกราะหวนคืนได้อีก
อย่างไรก็ตามเขายังมีท่าไม้ตายอมตะของเสี่ยชาที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง
“แต่ครั้งนี้ข้าเปิดเผยวิธีการของข้ามากเกินไป
อสูรปีแรกกําเนิด กรรไกรฤดูใบไม้ผลิ พัดฤดูร้อน และท่าไม้ตายอมตะอื่นๆถูกเปิดเผย สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของฟางหยวน แต่การเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาถือเป็นความล้มเหลวและเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากที่สุด
แต่ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้มันเท่านั้น
“อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าข้าไม่มีกําไร
ฟางหยวนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวังสวรรค์เพิ่มเติม
พวกเขามีวิธีลึกลับที่สามารถทําให้วิญญาณกาลเวลาตอบสนอง
สิ่งนี้ไม่อยู่ในความคาดหมายของฟางหยวน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนตระหนักว่าเป้าหมายที่แท้จริงของค่ายกลวิญญาณอมตะที่ซุ่มโจมตีเขา ไม่ใช่เขา แต่เป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง
วิญญาณกาลเวลาเป็นกุญแจสําคัญในการเปิดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง
แล้ววังสวรรค์จะไม่ค้นคว้าเรื่องนี้ได้อย่างไร แม้พวกเขาจะไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณกาลเวลา แต่พวกเขายังมีวิธีที่สามารถเลียนแบบได้ในระดับที่ค่อนข้างดี
“หลี่ฮวง ชิงเย่” ผู้อมตะระดับแปดคนใหม่ของวังสวรรค์ปรากฏตัวขึ้น
สมาชิกวังสวรรค์มาจากนิกายโบราณทั้งสิบของภาคกลาง บางครั้งผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่สองสามคนจะตื่นขึ้นมาจากสุสานอมตะ
วังสวรรค์ดํารงอยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่มีผู้ใดรู้ว่ารากฐานที่แท้จริงของวังสวรรค์ลึกเพียงใด
ในชีวิตแรกของฟางหยวน วังสวรรค์สามารถปกครองภาคกลางและกระทั่งสามารถทําลายกองกําลังใหญ่มากมายของภูมิภาคอื่น
อาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่กล้าโจมตีวังสวรรค์โดยตรง เขาต้องแทรกซึมเข้าสู่วังสวรรค์และดําเนินการอย่างช้าๆ
“คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง…ไม่ คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ข้าทําลายไปก่อนหน้านี้ไม่ได้ สูญเสียแกนกลางไปมากนัก แม้มันจะถูกทําลาย วังสวรรค์ก็ยังสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ แต่ข้าเกรงว่าครั้งหน้าข้าต้องเผชิญหน้ากับคฤหาสน์วิญญาณอมตะมากกว่าสี่หลัง!!
ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหาได้ยากแม้แต่ในวังสวรรค์
แต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสามารถสร้างขึ้นโดยใช้ชิ้นส่วนของคฤหาสน์วิญญาณอมตะอื่นๆหรือวิญญาณอมตะที่อยู่ในคลังสมบัติของพวกเขา
หลังจากสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา วังสวรรค์จะสามารถส่งผู้อมตะจํานวนมากบนเส้นทางสายอื่นเข้าไปเพื่อเฝ้าระวังสายธารแห่งกาลเวลา
แผนการล่อลวงศัตรูออกมาไม่มีประโยชน์
วังสวรรค์เป็นถ้ําสวรรค์อันดับหนึ่งของโลกใบนี้ มันไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย แม้ฟางหยวนจะต้องการบุกโจมตีวังสวรรค์โดยตรง แต่เขาจะไม่สามารถหาทางเข้า กระทั่งเขาจะสามารถเข้าไปภายใน เขาก็จะได้รับการต้อนรับด้วยความโกรธแค้นจากวังสวรรค์ ผู้อมตะระดับแปดหลายคนอาจตื่นขึ้นจากสุสานอมตะและปลิดชีพเขา
แม้ฟางหยวนจะโจมตีสิบนิกายโบราณของภาคกลาง เขาก็ยังไม่สามารถล้มล้างวังสวรรค์ นอกจากนั้นฝ่ายตรงข้ามยังมีผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญาเช่นเทพธิดาจื่อเว่ย
สายตาของฟางหยวนเย็นเยียบราวกับน้ําแข็ง เขาตระหนักอย่างชัดเจนว่าเพื่อให้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง เขาต้องเผชิญหน้ากับวังสวรรค์เท่านั้น
ยิ่งวังสวรรค์ปกป้องสายธารแห่งกาลเวลามากเท่าใด มันก็ยิ่งบ่งบอกว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมีความสําคัญมากเท่านั้น ความหวังในการทําลายวิญญาณชะตากรรมของฟางหยวนยังมีอยู่
“ข้าต้องดําเนินการอย่างรวดเร็ว!”
วังสวรรค์มีวิธีการมากมาย พวกเขาอาจพบมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงก่อนหน้าฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงต้องทะลวงการป้องกันนี้เพื่อไปยังเกาะบัวหินก่อนที่วังสวรรค์จะประสบความสําเร็จและได้รับสิ่งที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้
สําหรับสิ่งที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้ ฟางหยวนไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด กระทั่งวังสวรรค์ก็อาจไม่รู้เช่นกัน
วังสวรรค์ไม่ได้ปิดบังแผนการปกป้องสายธารแห่งกาลเวลา เนื่องจากพวกเขามีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธี นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่กลัวว่าฟางหยวนจะไม่มา
วิญญาณชะตากรรมกําลังฟื้นตัว ฟางหยวนต้องก้าวข้ามการป้องกันของวังสวรรค์และรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเพื่อหาโอกาสทําลายวิญญาณชะตากรรม แม้เขาจะต้องเสี่ยงด้วยชีวิต เขาก็ต้องไป!
ไม่มีกลอุบายหรือทางลัด ข้าต้องเพิ่มความแข็งแกร่งและเติบโตต่อไปเพื่อฝ่าฟันอุปสรรค์เหล่านี้ และรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง!”
เมื่อฟางหยวนบรรลุเป้าหมายนี้ เขาจะมีคุณสมบัติและความสามารถในการท้าทายวังสวรรค์ต่อไป