เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1716 สัตว์อสูรในตํานานอันดับหนึ่ง
บทที่ 1716 สัตว์อสูรในตํานานอันดับหนึ่ง
สมรภูมิถ้ํามังกรเร้น
ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลายโดยกลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออก มีเพียงพื้นที่ส่วนควบคุมของมันเท่านั้นที่ยังทํางานอยู่
ผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาแทบไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ หลานชายของเขาอยู่ด้านข้างรอกําลังเสริมจากวังสวรรค์อย่างสิ้นหวัง
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกปิดล้อมพื้นที่ส่วนควบคุมของค่ายกลวิญญาณอมตะเอาไว้
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฮัว ฮัวช่ายหยุน ปล่อยอสูรเมฆาแรกกําเนิดออกมา
“กระทั่งแกนกลางของค่ายกลยังสามารถต่อต้านการกัดกร่อนของอสูรเมฆาแรกกําเนิดของข้า” ฮัวช่ายหยุนถอนหายใจ
“โฮก…”
เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงมังกรคํารามดังขึ้นมาจากส่วนลึกของรอยแยกและทําให้พื้นดินสั่นสะเทือน หินเริ่มถล่มลงมาจากหน้าผา
เฉินกงเจิ้งกระตุ้น “ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลายไปมากกว่าครึ่ง มันไม่สามารถปราบปรามที่จางเฉิงได้อีกต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เราต้องดําเนินการเดี๋ยวนี้”
ตี้จางเฉินเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันถูกสร้างขึ้นจากปราณปฐพีรวมถึงความเกลียดชัง ความโกรธ และความแค้นของคนภาคกลาง
มันเกิดมาพร้อมกับเจตนาสังหารที่มีต่อมนุษย์ สิ่งสําคัญที่สุดคือหากแหล่งที่มาของมันไม่ถูกทําลาย มันจะไม่มีวันตาย ครั้งหนึ่งมันเคยสร้างปัญหาให้กับวังสวรรค์ ผู้อมตะของทะเลตะวันออก ไม่ต้องการต่อสู้กับจางเฉินโดยไร้เหตุผล พวกเขาต้องการนําวังมังกรกลับไปเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงเท่านั้น หากตี้จางเฉินถูกปลดปล่อย มันจะสร้างปัญหาให้กับวังสวรรค์และภาคกลางต่อไป
“มันพร้อมแล้ว” ซึ่งฉีหยวนพยักหน้า
ท่าไม้ตายอมตะแสงทําลายกระจก!
“เพล้ง!”
ค่ายกลวิญญาณอมตะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระจกและเผยให้เห็นผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงกับฟงชานจื่อที่อยู่ภายใน
“บัดซบ!” ฟงชานจื่อกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและเร่งล่าถอย
ท่าไม้ตายอมตะแสงทําลายกระจกทรงพลังมาก มันเป็นท่าไม้ตายที่ซ่งฉีหยวนภาคภู มิใจ แต่ส่วนใหญ่เขาจะใช้กับค่ายกลวิญญาณอมตะ
เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะพังทลาย ตี้จางเฉินเริ่มดิ้นรนและกรีดร้อง
“เร็วเข้า ไม่มีเวลาแล้ว!” ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเร่งโจมตี
“ข้ากําลังจะตาย!” ฟงชานจื่อถอยหลัง เขาหวาดกลัวจนใบหน้ากลายเป็นบิดเบี้ยว
ผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงถอนหายใจลึก เขาไม่สามารถต่อสู้อีกต่อไป และทําได้เพียงรอคอยความตายเท่านั้น
“อย่าฆ่าเขา ให้ข้าจับเขาทั้งเป็น!” เฉินกงเจิ้งกล่าว
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกหยุดมือ พวกเขาค่อนข้างแปลกใจที่เฉินกงเจิ้งมีวิธีจับผู้อมตะระดับแปด
“ทุกคน ระวังตัวให้ดี” เฉินกงเจิ้งเผยรอยยิ้มมั่นใจ “ไป!”
เส้นไหมจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ารัดพันร่างกายของผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงราวกับดักแด้
“นี่เป็นท่าไม้ตายใหม่ที่ข้าพึ่งสร้างขึ้นเร็วๆนี้ มันเรียกว่าเสียงสะท้อน!” เฉินกงเจิ้งอธิบาย
ผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงโกรธจัด เขาเตรียมตัวสําหรับความตายแล้ว แต่ผู้อมตะของทะเลตะวันออกกลับต้องการจับเขาทั้งเป็น นี่เป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเงียบ
ท่าไม้ตายอมตะของเฉินกงเจิ้งสามารถจับผู้อมตะระดับแปดได้จริงๆ แม้ผู้อมตะเฒ่าไปเฟิงจะไม่สามารถป้องกันตัว แต่ท่าไม้ตายของเฉินกงเจิ้งก็ยังเป็นภัยคุกคามสําหรับทุกคน
ผู้เฒ่าไปเฟิงไม่สามารถต่อต้าน สําหรับฟงชานจื่อ กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของวันออกไม่สนใจเขา
การจับกุมผู้อมตะระดับแปดที่มีชีวิตมีค่ามากกว่าผู้อมตะระดับแปดที่ตายแล้ว ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงการจับกุมผู้อมตะระดับแปดที่มีชีวิตก็จะทําให้เขาได้รับชื่อเสียง ชื่อเสียงของเฉินกงเจิ้งและตระกูลเฉินของทะเลตะวันออกจะพุ่งทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกคนอื่นๆเริ่มมองหาคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกร
พวกเขาร่วมตัวกันเพื่อสิ่งนี้
ในไม่ช้าจางหยินก็พบบางสิ่ง
“ตรงนั้น!” เขาชี้นิ้วออกไปด้วยความตื่นเต้นก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบางอย่าง
หลังจากจางหยินใช้ท่าไม้ตายอมตะ คฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ปรากฏขึ้น มันลอยอยู่เหนือศีรษะของทุกคน
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกรู้สึกสนุกสนาน
นอกจากเฉินกงเจิ้ง คนอื่นๆเร่งเข้าไปหาวังมังกร
เฉินกงเจิ้งให้ความสําคัญกับการจับกุมผู้อมตะเฒ่าไปเฟิง เขาไม่กังวล ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกทําข้อตกลงกันแล้ว กฏคือหากพวกเขาได้รับวังมังกร ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งตามความพยายามของแต่ละคน
ตั้งแต่วังมังกรปรากฏขึ้น ซึ่งฉีหยวนและคนอื่นๆพยายามยึดครองมัน อย่างไรก็ตามวังมังกรกลับไม่ยอมรับพวกเขา
“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!” การต่อต้านของวังมังกรทําให้กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกรู้สึกยิ่งตื่นเต้น ความปรารถนาที่จะครอบครองมันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไป
พวกเขาเริ่มเรียนรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ของมันทีละน้อย
“เป็นเช่นนี้”
“วังสวรรค์วางวังมังกรไว้ที่นี่เพราะต้องการใช้มันกําหราบตี้จางเฉิง!”
“แม้ตี้จางเฉิงจะเกิดจากพลังงานด้านลบของมนุษย์แต่มันยังเป็นมังกร มีความเป็นไปได้ที่มันจะถูกกําหราบโดยวังมังกร”
“ราชันมังกรวางแผนมาเป็นอย่างดี ตอนนี้เส้นโลหิตปฐพี่ทั้งห้าภูมิภาคกําลังรวมตัว พลังของตี้จางเฉิงมาจากปราณปฐพี หากมันรวมกันแล้ว พลังอํานาจของจางเฉินจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยห้าเท่า!”
“อย่าลืมว่าหลังจากกําแพงภูมิภาคหายไป โลกจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เมื่อเวลานั้นมาถึง ความหวาดกลัว ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา และอารมณ์ด้านลบอื่นๆจะปะทุขึ้น นี่จะทําให้พลังอํานาจของตี้เจิ้งเฉิงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง”
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกพูดคุย บางคนถึงกับอ้าปากค้าง
ด้วยวิธีนี้ จางเฉินอาจกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
พลังอํานาจของมันอาจบรรลุถึงกึ่งระดับก้า!
“ไม่แปลกใจเลยที่ราชันมังกรจ่ายราคามหาศาลเพื่อให้ได้รับวังมังกร เขาต้องการหยิบยืมพลังอํานาจของมันเพื่อควบคุมสถานการณ์
“โชคดีที่เราสามารถหยุดแผนการของวังสวรรค์ มิฉะนั้นเราจะพบปัญหาใหญ่ในสงครามมหาภูมิภาค”
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกรู้สึกยินดี
“ไม่แปลกใจเลยที่เราได้ยินเสียงคํารามของจางเฉิน แม้เราจะทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่มันก็ยังไม่หลบหนี
“ตอนนี้วังมังกรกําลังปราบปรามมัน เราต้องรออีกสักพัก”
“ถูกต้องหลังจากวังมังกรสามารถกําหราบตี้จางเฉิง ไม่เพียงเราจะได้รับวังมังกร แต่เรายังจะได้รับสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย”
“หากวังสวรรค์รู้เรื่องนี้ พวกเขาต้องอาเจียนออกมาเป็นเลือด!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ”
จักรพรรดิท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!
ฟางหยวนพยายามขโมยวิญญาณอย่างต่อเนื่องขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์พยายามหลีกเลี่ยง
มือปีศาจปล้นวิญญาณสามารถขโมยวิญญาณอมตะระดับแปดแม้พวกมันจะซ่อนอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะ
แก่นแท้ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็คือการรวมตัวกันของวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมหาศาล มือปีศาจปล้นวิญญาณสามารถขโมยวิญญาณจากมิติช่องว่างของผู้อมตะ ดังนั้นมันยิ่งง่ายกว่าที่จะขโมยวิญญาณอมตะที่อยู่ด้านนอก
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามือปีศาจปล้นวิญญาณเป็นวิธีตอบโต้คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ดีที่สุด
ฟางหยวนอาศัยมือปีศาจปล้นวิญญาณโจมตีและขโมยวิญญาณจํานวนมาก
คฤหาสน์วิญญาณอมตะบางหลัง อาจมีวิธีต่อต้านมือปีศาจปล้นวิญญาณแต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ไม่มี
แนวป้องกันที่วังสวรรค์สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันกลายเป็นสับสนวุ่นวายด้วยการแทรกแซงของฟางหยวน
“วายร้ายฟางหยวน รับความตาย!” ในช่วงเวลาวิกฤต หลี่ฮวงพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยเสื้อคลุมเพลิงสุริยัน
คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์ไม่สามารถจัดการฟางหยวนแต่ผู้อมตะสามารถทําได้
การขโมยวิญญาณอมตะจากมิติช่องว่างของผู้อมตะยากกว่าการขโมยวิญญาณอมตะจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลี่ฮวงมีเสื้อคลุมเพลิงสุริยันที่สามารถป้องกันมื่อปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวน
ฟางหยวนเห็นหลี่ฮวงพุ่งเข้ามา เขาไม่ถอยแต่ทะยานร่างไปข้างหน้า “หลี่ฮวง ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว ข้ากําลังรอเจ้าอยู่”
ฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิดและส่งกรรไกรฤดูใบไม้ผลิพุ่งออกไป
จากนั้นเขายังสะบัดพัดขนาดใหญ่ส่งสายลมกรรโชกตามออกไป
ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!
“อันใด!?” หลี่ฮวงตกตะลึง เสื้อคลุมเพลิงสุริยันของเขาฉีกขาด การป้องกันของเขาลดลงอย่างมาก
หลี่ฮวงถูกส่งลอยกลับหลังอย่างไม่สามารถต่อต้าน
“พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?” ใบหน้าของหลี่ฮวงกลายเป็นน่าเกลียด
เขาพยายามใช้เสื้อคลุมเพลิงสุริยันอีกครั้ง นี่เป็นท่าไม้ตายที่สามารถใช้ทับซ้อนกัน แต่มันต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า