เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1749 การกําเนิดใหม่ของร่างแยก
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1749 การกําเนิดใหม่ของร่างแยก
ท่ามกลางความมืด
แม่น้ําที่มองไม่เห็นจุดเริ่มต้นไหลไปข้างหน้าราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด
มันคือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สายธารแห่งกาลเวลา!
ระลอกคลื่นจํานวนนับไม่ถ้วนส่องแสงหลากหลายสีสันทําให้มันดูเป็นฉากที่งดงาม
ทุกระลอกคลื่นคือเรื่องราว มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
สายธารแห่งกาลเวลาเหมือนทุ่งดอกไม้ไฟที่ส่องประกายระยิบระยับและเจิดจ้า
วิญญาณดวงหนึ่งเรืองแสงสีเขียวมรกตบินทวนกระแสน้ําไปตามสายธารแห่งกาลเวลา
มันมีรูปร่างเหมือนจักจั่นไม้ที่มีลวดลายวงปีของต้นไม้อยู่บนพื้นผิว ปีกบนแผ่นหลังของมันใหญ่โตและโปร่งแสงเหมือนใบไม้สองใบซ้อนทับกัน
เปรียบเทียบกับสายธารแห่งกาลเวลา วิญญาณดวงนี้เล็กยิ่งกว่ามด
เมื่อมันพุ่งลงไปในน้ํา มันสร้างระลอกคลื่นสาดกระเซ็นออกไปรอบๆแต่มันยังสามารถลงจอดได้อย่างมั่นคง
สวรรค์สีเหลือง
ความโกลาหลทําให้กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์
มันเป็นความโกลาหลที่เกิดขึ้นจากกระดูกซี่โครงสามซี่และภาพฉากการต่อสู้
“เป็นไปได้อย่างไร ปีศาจฟางหยวนมีพลัง
ระดับนแลวงนหรอ!?
“เห้อ…การเติบโตของเขารวดเร็วเกินไป เขากลายเป็นเจ้าเหนือหัวบนเส้นทางสายปีศาจของยุคนี้ไปแล้ว”
“ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกและใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกําเนิดใหม่ เขามีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในการบ่มเพาะ”
“ข้าจํานางได้ นี่คือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าของวังสวรรค์ ผู้ใดจะคิดว่านางจะถูกฟางหยวนปราบปรามจริงๆ!”
“จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลาน นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ในอดีต นางยังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ?”
“วังสวรรค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกําลังอันดับหนึ่ง พวกเขาพยายามจับฟางหยวนและต้องส่งผู้อมตะระดับแปดออกมา แต่ดูสิ่งนี้ ฟางหยวนสามารถเอาชนะขณะที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”
เจตจํานงของกลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่รู้จบสิ้น
ร่างของเทพธิดาจ่อเว่ยสั่นสะท้านขึ้นด้วยความโกรธ
ฟางหยวนไม่เพียงขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าแต่เขายังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อแสดงภาพการต่อสู้ระหว่างเขากับจิ้งหลานอย่างต่อเนื่อง
โดยธรรมชาติแล้วเขาเลือกที่จะแสดงภาพในช่วงเวลาที่เขาโจมตีจิ้งหลานเท่านั้น
“เราควรรายงานเรื่องนี้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าหรือไม่?” เฉินอี้ถาม
ฟางหยวนใช้กองทัพมังกรดาบบรรพกาลและหมอกสับสนเพื่อหลบหนีจากจิ้งหลาน
เมื่อจิ้งหลานไล่ล่าเขาอีกครั้ง ฟางหยวนก็จากไปไกลแล้ว
เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนขณะที่จิ้งหลานก็ไม่สามารถทําสิ่งใด
“จื่อเว่ย ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่ใด?” จิ้งหลานตะโกนถามเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยความโกรธ
จิ้งหลานถูกบังคับให้หยุดไล่ล่าแต่นางยังกัดฟันแน่นและต้องการฆ่าฟางหยวนเพื่อลบล้างความอับอายของตน
เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบไปชั่วขณะก่อนจะแจ้งผลลัพธ์กับจิ้งหลาน
“ว่าไงนะ!? เจ้าไม่สามารถค้นหาตําแหน่งของเขางั้นหรือ?” จึงหลานไม่พอใจ
“ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เขาจะไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างแน่นอน เราเตรียมการบางอย่างไว้แล้ว แม้เราจะล้มเหลวในครั้งนี้แต่เราก็ได้กําไรมหาศาลเช่นกัน ไม่เพียงเราจะทําให้เขาสูญเสียพลังงานอมตะจํานวนมากเรายัง บังคับให้เขาเปิดไพ่หลายใบ ผู้อมตะเช่นเขาจะถูกกําจัดในการต่อสู้เพียงครั้งเดียวได้อย่าง ไร?” เทพธิดาจื่อเว่ยปลอบโยนจิ้งหลาน
จิ้งหลานเงียบ
ไม่นานหลังจากนั้นนางก็ถอนหายใจยาว นางสงบจิตใจลงแล้ว
“ข้าประเมินเขาต่ําเกินไป คนผู้นี้มีพรสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อ เขาคู่ควรที่จะถูกคัดเลือกโดยเจตจํานงสวรรค์และนิกายเงา ครั้งต่อไปที่เราพบกัน ข้าจะไม่ทําพลาดเช่นครั้งนี้”
จิ้งหลานไม่ใช่คนบ้าระห่ํา หลังจากได้รับการแจ้งเตือน นางก็สามารถสงบอารมณ์และยอมรับความผิดพลาดของตนเองอย่างตรงไปตรงมา
“หากเปรียบเทียบกับฟางหยวน มีเรื่องที่น่าอึดอัดใจยิ่งกว่า…” เทพธิดาอเว่ยแจ้งข่าวเกี่ยวกับสวรรค์สีเหลืองกับจิ้งหลาน
หัวใจที่พึ่งสงบลงของจิ้งหลานปะทุขึ้นอีกครั้งด้วยความโกรธ
“กระไรนะ!? ชายผู้นี้กล้าขายกระดูกซี่โครงของข้าจริงๆงั้นหรือ? ยืม ช่างอุกอาจนัก!”
จิ้งหลานเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและเห็นกระดูกซี่โครงของนางถูกวางขาย ความโกรธของนางพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาของนางกลายเป็นแดงก่ํา
ไม่นานหลังจากนั้นนางยังเห็นภาพฉากการต่อสู้ที่ฟางหยวนกําลังทุบตีนาง นี่ทําให้นางกัดกรามจนแทบหัก “บัดซบ! คนสารเลว…ในอนาคตเมื่อเขาอยู่ในกํามือของข้า ข้าจะถลกหนัก ดังเส้นเอ็น และเลาะกระดูกของเขาออกมา!”
ฟางหยวนที่กําลังล่าถอยเย้ยหยันอยู่ในใจ
แม้เขาจะแพ้จิ้งหลานในการต่อสู้แต่ผลลัพธ์กลับทําให้จิ้งหลานสูญเสียชื่อเสียงและความรุ่งโรจนในอดีต
กระดูกซี่โครงสามซี่และภาพการต่อสู้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฟางหยวน
“ชนะหรือแพ้เป็นเรื่องรองในการต่อสู้ สิ่งสําคัญกว่าคือกําไรหรือขาดทุน แม้ข้าจะแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้แต่ข้าได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว
ฟางหยวนพยายามนําอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับมาแต่ถูกขัดขวางโดยลั่วเว่ยหยิน
ก่อนหน้านี้ฟงจิวเก้อบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและค้นพบการคงอยู่ของวิญญาณ สติปัญญานอกจากนี้เขายังนําฟางเลิ้งและภูเขาตงฮันไป
ฟางหยวนจุดชนวนภูเขาตงฮันทําให้เทพปีศาจจิตวิญญาณฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลานซุ่มโจมตีฟางหยวนแต่ฟางหยวนสามารถหลบหนีเนื่องจากหลายปัจจัย
“วังสวรรค์ค้นพบและบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาจะโจมตีอีกครั้งอย่างแน่นอนแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีความสําคัญอย่างมากต่อข้า ข้าจะสูญเสียมันไปไม่ได้”
“ข้าต้องรวบรวมกําลังรบเพื่อต่อต้านการรุกรานครั้งต่อไปของวังสวรรค์ พันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์สามารถใช้งาน
“ชื่อเสียงของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการต่อสู้ครั้งนี้ ความคิดเห็นของข้าจะส่งอิทธิพลต่อพวกเขาและอาจถูกมองว่าเป็นความหวังในการต่อสู้
ขณะที่เขากําลังหลบหนี ผู้อมตะหลายคนในสวรรค์สีเหลืองสอบถามราคากระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า
แต่เหตุใดเขาต้องขายให้คนเหล่านี้?
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทําลายชื่อเสียงของวังสวรรค์และเป็นโอกาสสร้างขึ้นเสียงให้กับตัวเขาเอง เขาจะไม่โลภทํากําไรและขายกระดูกซี่โครงทั้งสามออกไป
“ข้าต้องคว้าทุกโอกาสเพื่อสร้างความเสียหายให้กับวังสวรรค์ ขณะเดียวกันข้าก็ต้องปลุกความกล้าหาญของผู้อมตะคนอื่นๆ เมื่อช่วงเวลาสําคัญในอนาคตมาถึง พวกเขาจะมีความกล้าต่อต้านวังสวรรค์
“นอกจากนั้นลูกค้าเหล่านี้จะไม่ใช่สมาชิกวังสวรรค์งั้นหรือ? ต้องมีอย่างแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจะเป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าฮ่า
ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก
เขายังสามารถหัวเราะในช่วงเวลาที่ยากลําบาก
วังสวรรค์ค้นพบแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขารู้ที่ตั้งของมัน นี่ทําให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่ปลอดภัย
หากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกยึดครอง ฟางหยวนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนิกายหลางหยา แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถือเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่สําหรับเขา
แต่มันไม่ง่ายที่จะต่อต้านวังสวรรค์
เพียงเขาและพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์จะต่อต้านวังสวรรค์ได้จริงๆงั้นหรือ?
“ยังไม่ถึงเวลายอมแพ้!”
“เมื่อข้ากลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าจะซึมซับความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว แม้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะพ่ายแพ้และถูกยึดครอง แต่ข้าก็ต้องรีบเค้นผลประโยชน์จากนิกายหลางหยาให้ได้มากที่สุด”
ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดเรื่องนี้ ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
สาเหตุเป็นเพราะร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนบอกข้อมูลล้ําค่ากับเขา
“ร่างแยกของข้ากําเนิดใหม่แล้ว?
“วิญญาณกาลเวลานําเจตจํานงของร่างแยกเดินทางกลับมาจากอนาคต”
“ดังนั้นความพยายามทั้งหมดของข้าก็ล้มเหลว วังสวรรค์สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม!”
ในไม่ช้าฟางหยวนก็สงบจิตใจลง สายตาของเขากลายเป็นมืดมิดราวกับขุมนรก
เมื่อเขามอบวิญญาณกาลเวลาให้กับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เขาก็คาดเดาถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ความแข็งแกร่งของวังสวรรค์
“แต่นี่ไม่น่าสนใจกว่างั้นหรือ?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น รอยยิ้มปรากฏ ขึ้นบนใบหน้าของเขาแต่มันเต็มไปด้วยความเย็นชาและบ้าคลั่ง
แม้เขาจะล้มเหลวนับหมื่นครั้ง ล้านครั้ง หรือหลายร้อยหลายพันล้านครั้ง ตราบเท่าที่ยังมีโอกาสฟางหยวนก็ไม่ยอมแพ้