เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1756 เจ้ายังไม่เข้าใจอีกงั้นหรือ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1756 เจ้ายังไม่เข้าใจอีกงั้นหรือ
ฟางหยวนกําลังรอคอย
เขายังมีเวลาอีกมาก
แม้เขาจะสังหารเฉิงตู้กับเจ้าหญิงนิทราไปแล้วและกระทั่งไปยังสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงรวมถึงยึดครองวิญญาณอมตะปาจากภาคใต้ แต่เขายังมีเวลาอีกสองสามวันก่อนที่จางจื่อจะนําเพลิงชีวิตออกมาขายในสวรรค์สีเหลือง
ในชีวิตก่อนหน้า ข้าใช้เวลาสองสามเดือนเพื่อคิดค้นท่าไม้ตายอมตะราชันภูต
แต่ตอนนี้ข้าลงมือทําทันที ข้าสามารถประหยัดเวลาและความพยายามอย่างมาก
หลายวันที่ผ่านมาฟางหยวนไม่ได้ทิ้งเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปทั้งห้าภูมิภาคเพื่อเก็บเกี่ยวทรัพยากรจากร่องลึกใต้พิภพ นั่นทําให้เขาได้รับกําไรมหาศาล
ท่ามกลางทรัพยากรเหล่านั้น เขาได้รับวิญญาณอมตะปาระดับหกจํานวนสามดวง
โชคของฟางหยวนแย่กว่าชีวิตก่อนห้าแต่เขาก็ยังสามารถทํากําไรเพราะเขามีข้อมูลที่ชัดเจน
ร่องลึกใต้พิภพเกิดขึ้นจากเจตจํานงสวรรค์ ไม่มีผู้อมตะคนใดสามารถทํานายมันได้ล่วงหน้า นอกจากนั้นมันยังยากที่จะสํารวจ
กระทั่งกองกําลังใหญ่ก็ยังประสบปัญหาในการสํารวจร่องลึกใต้พิภพและไม่สามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรได้ในระยะเวลาสั้นๆ
แต่ฟางหยวนรู้ว่าสถานที่ใดมีทรัพยากรชนิดใด นั่นทําให้เขาสามารถเดินทางไปยังจุดหมายที่เขาต้องการได้โดยตรง
ทั้งหมดต้องขอบคุณข้อมูลที่เขารวบรวมในชีวิตก่อนหน้า
“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าไม่สามารถสํารวจร่องลึกใต้พิภพ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าเพียงลําพัง ข้าไม่สามารถแข่งขันกับกองกําลังใหญ่
สิ่งสําคัญที่สุดคือวังสวรรค์กดดันข้าเป็นอย่างมาก ข้าต้องต่อต้านพวกเขาขณะเดียวกันก็ต้องค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ข้าไม่มีเวลาหรือพลังงานพอที่จะสนใจร่องลึกใต้พิภพ
“แต่ตอนนี้ดูเหมือนร่องลึกใต้พิภพจะมีค่าจริงๆ มันสามารถกระตุ้นความโลภของผู้คนได้โดยไม่ยาก
และนี่ยังเป็นเพียงสถานการณ์ในเวลานี้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าร่องลึกใต้พิภพจะยิ่งสร้างความโกลาหลมากขึ้น ทรัพยากรจะปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
“การปะทุขึ้นของทรัพยากรจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้อมตะและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นก็จะกระตุ้นความทะเยอทะยานของพวกเขาต่อไป ในชีวิตก่อนหน้า ทรัพยากรเหล่านี้มีบทบบาทสําคัญที่ทําให้ผู้อมตะของทั้งสี่ภูมิภาคบุกโจมตีภาคกลาง ในชีวิตแรกของข้า สาเหตุหลักๆที่ทําให้เกิดสงครามห้าภูมิภาคก็มาจากทรัพยากรและอาณาจักรแห่งความฝันที่ปรากฏขึ้น”
บางเวลาฟางหยวนจะวิเคราะห์สถานการณ์และปรับปรุงแผนการของเขา
การกําเนิดใหม่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนหน้า
สิ่งสําคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งและอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของเขาเกินกว่าการกําเนิดใหม่ครั้งก่อนๆ
ด้วยความแข็งแกร่งและอิทธิพล ปรากฏการณ์หยดหมึกจากการกําเนิดใหม่ของเขาจะมีความสําคัญมากขึ้น
ฟางหยวนดําเนินการตามแผนของตนเองและเตรียมพร้อมสําหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
เป็นไปตามความคาดหมาย ปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ
ไม่กี่วันต่อมาฟางหยวนตรวจสอบสวรรค์สีเหลืองแต่ยังไม่พบร่องรอยของจางจื่อ
ในชีวิตก่อนหน้า จางจื่อนําเพลิงชีวิตออกมาขายในเวลานี้
ฟางหยวนเร่งตรวจสอบ โชคดีที่ข้อมูลของจางจื่อหาไม่ยาก
ผู้อมตะจางจื่อแห่งนิกายวิหารสวรรค์สีดําพ่ายแพ้ให้กับผู้อมตะกังหยางของนิกายกระเรียนอมตะในการประลอง เมื่อพวกเขาพบเพลิงชีวิต มันจึงตกอยู่ในมือของผู้อมตะกังหยาง”
นิกายกระเรียนอมตะและนิกายวิหารสวรรค์สีดําเป็นส่วนหนึ่งของสิบนิกายโบราณ
ในแง่ของความแข็งแกร่ง นิกายกระเรียนอมตะด้อยกว่านิกายวิหารสวรรค์สีดํา แต่ในแง่ของพลังการต่อสู้ส่วนบุคคล ผู้อมตะกังหยางเหนือกว่าผู้อมตะจางจือ
จางจื่อเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขาธรรมดามาก กังหยางเป็นผู้อมตะที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี เขายังเคยร่วมเดินทางไปยังภาคเหนือกับคณะเดินทางของฟงจิวเก้อเพื่อตรวจสอบการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
ข่าวเรื่องจางจื่อพ่ายแพ้ให้กับกังหยางแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่เป็นการกระทําของนิกายกระเรียนอมตะ
นิกายกระเรียนอมตะอ่อนแอกว่านิกายวิหารสวรรค์สีดํา พวกเขาต้องใช้ทุกโอกาสเพื่อเพิ่มชื่อเสียง ชัยชนะครั้งนี้เป็นโอกาสที่พวกเขารอคอย
ชัยชนะของกังหยางไม่ใช่เรื่องแปลก สิ่งที่ฟางหยวนสนใจคือเหตุใดกังหยางจึงปรากฏตัวขึ้น
ในชีวิตก่อนหน้ากังหยางไม่ปรากฏตัว นั่นทําให้จางจื่อได้รับเพลิงชีวิตโดยไร้สิ่งกีดขวาง
“นี่ไม่ใช่เรื่องดี”
“แตกต่างจากจางจื่อ กังหยางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟ เพลิงชีวิตมีประโยชน์กับเขา
“แม้มันจะไร้ประโยชน์ แต่กังหยางอาจมอบมันให้นิกายกระเรียนอมตะ เขาแตกต่างจากจางจื่อ เขามีความแข็งแกร่งและสถานะที่สูงกว่า หากเขามอบมันให้นิกาย เขาจะได้รับรางวัลไม่น้อย”
ฟางหยวนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ตอนนี้แผนการรวบรวมเพลิงชีวิตของเขาพบปัญหา เขาต้องหามันจากแหล่งอื่น
อย่างไรก็ตามกังหยางกลับนําเพลิงชีวิตออกมาวางขายในสวรรค์สีเหลืองโดยไม่คาดคิด
ฟางหยวนตกใจเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจเจตนาของกังหยาง
กล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือมันเป็นความตั้งใจของนิกายกระเรียนอมตะ
นิกายกระเรียนอมตะเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดี พวกเขาต้องการกระจายข่าวและเพิ่มชื่อ เสียงการนําเพลิงชีวิตออกมาขายจะทําให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย นี่เหมือนกับฟางหยวนที่ขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า
หลังจากเข้าใจเรื่องนี้ ฟางหยวนก็กลายเป็นหนึ่งในลูกค้าของกังหยาง
เพลิงชีวิตเป็นทรัพยากรอมตะหายาก ราคาของมันสูงแต่ไม่ถึงกับไร้สาระ
ในชีวิตก่อนหน้า จางจื่อไม่รู้คุณค่าของมัน ดังนั้นฟางหยวนจึงซื้อมันได้ในราคาต่ำ แต่ครั้งนี้ทั้งหยางรู้คุณค่าของเพลิงชีวิต เขาขายมันในราคาที่เหมาะสม
“ดูเหมือนข้าต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้น
ฟางหยวนเตรียมพร้อมทางจิตใจมาแล้วแต่การแข่งขันทําให้ราคาของเพลิงชีวิตพุ่งขึ้นไปถึงระดับที่ไร้สาระ
ฟางหยวนตระหนักว่านี่เป็นการแสดงละครของนิกายกระเรียนอมตะ พวกเขาตั้งใจปั่นราคา
ยิ่งราคาของเพลิงชีวิตสูงเท่าใด ข่าวก็จะแพร่กระจายออกไปมากเท่านั้น
เมื่อผู้คนพูดถึงเพลิงชีวิต พวกเขาจะละเลยกังหยางและนิกายกระเรียนอมตะได้อย่างไร?
ฟางหยวนทําได้เพียงเผยรอยยิ้มขมขึ้นกับเรื่องนี้
เพลิงชีวิตสําคัญกับเขามาก แม้ราคาจะสูง แต่เขาก็ต้องซื้อ
ท้ายที่สุดวิธีอื่นไม่น่าเชื่อถือ เวลาเป็นสิ่งสําคัญ หากเขาใช้เวลามากเกินไป แผนการของเขาจะถูกทําลาย
เมื่อได้รับเพลิงชีวิต ฟางหยวนส่งมอบทรัพยากรหลักทั้งหมดให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทันที
หลังจากเตรียมการมาหลายวัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็นํากลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนและฟางหยวนเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว
“เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยม!” ฟางหยวนยกย่อง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ “ทั้งค่ายกลวิญญาณอมตะและเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะต่างยอดเยี่ยม ผู้อาวุโสฟางหยวน เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะของเจ้าช่างน่าเหลือเชื่อนัก ด้วยการประเมินของข้า เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนนี้มีโอกาสประสบความสําเร็จสี่สิบส่วน!”
ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “ถูกต้อง นี่คือเหตุผลที่ข้าต้องการหลอมรวมวิญญาณดวงนี้เพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้และจัดการวงสวรรค์ เอาล่ะ มาเริ่มกันเถอะ”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสฟางหยวน เจ้าขาดประสบการณ์ในการหลอมรวมวิญญาณ เจ้าจะหลอมรวมมันด้วยตนเองจริงๆงั้นหรือ?”
ฟางหยวนพยักหน้า “การหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้มีความสําคัญมากโดยเฉพาะกับข้า ข้าต้องลงมือด้วยตนเอง แม้มันจะล้มเหลว ข้าก็จะไม่เสียใจ อย่ากังวล ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ข้าจะไม่ขัดขวางท่าน ข้ารู้ขีดจํากัดของตนเอง”
“เมื่อเจ้ายืนยันเช่นนี้ เราก็จะทํามัน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจก่อนจะเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก
จากนั้นผมที่สาม ผมที่สี่ ผมที่หก ผมที่เจ็ด และผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆก็ตามเข้าไป ฟางหยวนเป็นคนสุดท้าย
ค่ายกลวิญญาณอมตะเริ่มทํางาน
แสงสว่างขึ้น ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทุกประเภทถูกใช้งาน กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดาย
เพลิงชีวิตและวิญญาณใบมีดถูกปรับแต่งเป็นอันดับแรก ติดตามมาด้วยทรายโลหิต เลือดจากหัวใจ และวัสดุอื่นๆ
ในกระบวนการนี้ฟางหยวนทําหลายสิ่งแต่พวกมันล้วนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
หลายวันต่อมาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนต่างแสดงออกด้วยความยินดี
วิญญาณอมตะเริ่มก่อตัวขึ้น
พวกเขาอยู่ห่างจากความสําเร็จเพียงไม่กี่ก้าว
ทันใดนั้นแสงสว่างกลับปะทุขึ้น ฝุ่นควันลอยออกมา กลิ่นเหม็นไหม้ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ การหลอมรวมวิญญาณประสบปัญหา
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและคนอื่นๆตกใจมาก พวกเขาพยายามกอบกู้สถานการณ์ด้วยความวุ่นวาย
ฟางหยวนแนะนําให้สร้างค่ายกลวิญญาณอมตะชั่วคราวเพื่อช่วยสนับสนุนการหลอมรวมและกําจัดสิ่งสกปรกทั้งหมด
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่มีทางเลือกและต้องยอมรับข้อเสนอของฟางหยวน
เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะใหม่ถูกสร้างขึ้น ฟางหยวนกล่าว “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งโปรดเข้าสู่ค่ายกล!”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่มีข้อสงสัย ในสถานการณ์นี้มีเขาเพียงผู้เดียวที่สามารถทําได้
แต่เมื่อเขาเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะ เขากลับถูกกดขี่ “ฟางหยวน เจ้าพยายามทําสิ่งใด?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทั้งโกรธและตกใจมาก
“จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เจ้ายังไม่เข้าใจอีกขั้นหรือ?” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง