เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 186 หยิ่งทรนง
ด้วยความเร็วของร่างแยกเงาของไป๋หลงก็มาถึงสถาบันเทพมารที่ยามนี้มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด…ซึ้งการที่อยู่ๆศิษย์ภายในสถาบันปรากฏตัวขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเข้าออกภายในสถาบันแห่งนี้..
” เจ้าชื่ออะไร? ”
ผู้อาวุโสคนนึงเอ่ยขึ้นพลางมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของร่างแยกที่ไป๋หลงสร้างขึ้นให้เหมือนกับตนเอง…..
” เรียนผู้อาวุโส ศิษย์มีชื่อว่าไป๋หลง พึ่งกลับมาจากการเดินทางที่ทำภารกิจร่วมกับผู้อาวุโสอีกท่านนึงที่เชี่ยวชาญการใช้ธาตุน้ำแข็ง..แต่ตอนนี้ท่านยังไม่สามารถกลับมาได้เพราะเหตุสุดวิสัย..จึงให้ข้ากลับมากล่าวรายงานแทนท่าน.. ”
ร่างแยกเงาจดจำทุกกิริยาบทของไป๋หลงได้อย่างชัดเจนจึงสามารถแสดงออกมาได้แทบจะไร้ที่ติ..
ผู้อาวุโสอีกคนกำลังเปิดรายชื่อบันทึกการเข้าออกภายในเขตสถาบัน..
” เจอแล้ว!! ไป๋หลงกับผู้อาวุโสสายหลักอีกหนึ่งท่านออกเดินทางไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ตามที่เด็กนั่นกล่าวจริงๆ.. ”
ผู้อาวุโสที่กำลังยืนสำรวจไป๋หลงทุกระเบียบนิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นอย่างที่ลงข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้จึงตัดสินใจเชื่อและปล่อยให้ร่างแยกเงาของไป๋หลงเข้า…
” เจ้าก็รีบๆได้แล้วการประลองเพื่อเป็นศิษย์แลกเปลี่ยนกับสถาบันเทพมังกรกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว.. ”
ผู้อาวุโสอีกครกล่าวบอกร่างแยกเงา..
” การประลอง? ศิษย์แลกเปลี่ยน? ”
” ใช่แล้วเจ้าคงยังจะไม่รู้เนื่องจากเจ้าไม่ได้อยู่ในสถาบัน..เรื่องก็คือ… ”
หลังจากร่างแยกเงาได้ฟังจนจบก็ขอตัวลามุ่งหน้าไปยังสถานที่แข่งขันในทันที..เพราะกองกำลังและศิษย์ทั้งหมดล้วนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น..
………………………………………………………………….
ณ สนามประลองภายในเขตของสถาบัน
การประลองทั้งหมดถูกจับคู่ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน..และวันนี้ก็เป็นการประลองวันแรก..ศิษย์สายหลักระดับสูงขึ้นไปมักจะไม่สนใจการประลองเช่นนี้แต่…
ในเมื่อเป็นการประลองเพื่อเป็นศิษย์แลกเปลี่ยนกับสถาบันเทพมังกรที่ว่ากันว่ามีวิชาการทำลายล้างชั้นสูง..เป็นสถาที่เน้นการโจมตีและพลังทำลายล้างเป็นหลัก..จึงได้รับขนานนามว่าเป็นสถาบันที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุด…
และยังมีมังกรชั้นสูงที่ส่งบุตรหลานเข้าศึกษา…หนึ่งในมังกรชั้นสูงที่ถูกส่งเข้ามาศึกษาในสถาบันเทพมังกร..มังกรราชันย์!!
มังกรราชันย์แตกต่างจากมังกรทั่วไปทั้งเชื้อสายและพลังภูมิปัญญารวมถึงอื่นๆที่สายพันธุ์มังกรชั้นสูงทั่วไปมิอาจเทียบ…แต่ถึงกระนั้น เหิงฟู เองก็เป็นมังกรสายเลือดที่แท้จริง(ตอนที่122) แตกต่างจากมังกรราชันย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น..
………………………………………………………………
เวลานี้พิธีเปิดถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้การควบคุมของผู้อำนวยการแห่งสถาบันเทพมาร..สนามประลองถูกทำให้ขยายใหญ่ขึ้น..และเป็นที่โล่งกว้าง..
รูปแบบสนามประลองถูกปรับให้เหมาะสมกับจำนวนคนในการแข่งขัน..และสนามประบองจะถูกเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆในการแข่งแต่ละรอบ..
” อย่างที่ข้าได้แจ้งไว้ในกำหนดการในการประลองรอบแรก..พวกเจ้าในแต่ละกองกำลังจะต้องส่งตัวแทนลงสนามเพียง30 คนเท่านั้น..และข้าก็เชื่อว่าพวกเจ้าได้ทำการคัดเลือกบุคคลที่มีความพร้อมและความสามารถในกองกำลังของพวกเจ้าให้เหลือเพียง30คนเท่านั้น..ข้าขอเปิดพิธีการแข่งขัน ณ บัดนี้!!! ”
เฮ!!!
พลุหลากสีถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า..ในขณะเวลาเที่ยงตรง..
” ต้องรีบแล้ว…หากช้ากว่านี้จะไม่ทันการเร่งความเร็วสักหน่อยแล้วกัน..ตรงไปจากนี้ถ้าเดินก็ราวๆ 15 นาที..ช้าเกินไป ”
ร่างแยกเงาของไป๋หลงกล่าวขึ้นก่อนจะเพิ่มระดับความเร็วขึ้นขณะหนึ่ง..ถึงแม้จะเป็นเพียงร่างเงา..แต่ก็สามารถใช้พลังเป็นของตนเองออกมาได้..ถึงจะถูกถอดแบบออกมาจากร่างหลักซึ่งก็คือไป๋หลง..แต่ความสามารถส่วนใหญ่ของร่างเงาก็คือทักษะอื่นๆจะถูกจำกัดให้อยู่ในระดับต่ำทั้งหมด..
ตึง!!
ร่างแยกเงาของไป๋หลง..เพียงเหยียบย่างหนึ่งก้าวความเร็วก็เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมามหาศาบ..
” นั้นมันอะไร..ราวกับข้าเห็นคนวิ่งผ่านไป? ”
” เจ้าจะบ้ารึไง..เจ้ากับข้าก็ยืนกันอยู่ตรงนี้ไม่เห็นมีใครผ่านมาเลย..เจ้าคงจะตาฝาดไปเองนั้นแหละทำหน้าที่ต่อได้แล้ว..เดี๋ยวก็โดนตำหนิเอาหรอก ”
เวรยามสองคนที่พูดคุยกันถึงเหตุการณ์เมื่อครู่..ความเร็วเมื่อครู่แทบจะเรียกได้ว่ารวดเร็วเกือบเทียบเท่าไป๋หลงเลยทีเดียว..
ณ..มุมหนึ่งในโรงน้ำชาของสถาบัน
” เด็กนั่นน่าสนใจทีเดียวเจ้าว่าไหม? เทียนหยก? ”
สตรีนางหนึ่งที่งดงามราวกับรูปภาพในเทพนิยาย..เลือนผมสีทองที่ถูกปกปิดไว้อย่างดีภายใต้การปกปิดของอุปกรณ์อักขระ..
” ความเร็วระดับนั้น..ข้ายังเร็วได้กว่า..เหนือกว่าผู้ใดในใต้หล้า..ไม่มีใครที่ข้าคิดว่าชนะไม่ได้!! ”
เด็กหนุ่มเลือนผมสีแดงนัยน์ตาสีทอง..ภายในแววตาเปรียบเสมือนกับดวงตาของสัตว์เลื้อยคลาน..มังกร!!
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เด็กหนุ่มสวมใส่อยู่มีตราสัญลักษณ์มังกรทองอยู่ตรงอกด้านขวา..ศิษย์สายหลักแห่วสถาบันเทพมังกร..
” เฮ้อ..เด็กน้อยเทียนหยกเอ๋ย การที่ข้าพาเจ้ามายังสถาบันเทพมารแห่งนี้เผื่อว่าเจ้าจะเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ..หากเจ้าเอาแต่ดูถูกและหยิ่ง ทรนงในตนเองเช่นนี้..เจ้าจะไม่มีโอกาสมองเห็นความอ่อนแอของตัวเองได้เลย!! ”
จบ…