เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 2 ฝึกฝน
วันนี้ เป็นวันที่ไป๋หลงต้องทำการฝึกฝนบ่มเพาะพลัง เมื่อคืนเกือบทั้งคืนไป๋หลงได้นั่งสมาธิจนเริ่มเห็นภาพบางอย่างในนิมิต…แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดนั้นทำให้ไป๋หลงเก็บไปคิด แต่ไป๋หลงคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องทั่วๆไปของการนั่งสมาธิ จึงไม่ได้ใส่ใจอีก 5 เดือนข้างหน้า ไป๋หลงจะอายุครบ7ปีแล้ว ทำให้ไป๋หลงรู้สึกดีใจเพราะเมื่อถึงวันเกิดจะได้ของขวัญตลอด แต่เรื่องนี้เอาไว้คิดทีหลังตอนนี้ เรื่องฝึกสำคัญที่สุด…
“ไป๋หลง เอาล่ะวันนี้ข้าจะให้เจ้าฝึกวิชาในหอคำภีย์แห่งนี้”
ไป๋หยางบอกกล่าวแก่ไป๋หลงซึ่งตอนนี้ไป๋หลงได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของหอคัมภีย์ ข้างในมีคำภีนับหมื่นเล่มมีทั้งหมด10ชั้นด้วยกันคาดว่าเดินดูทั้งหมดก็คงจะไม่หมด ข้างในนี้ใหญ่โตมากก มีชั้นวางตำราเรียบร้อย มีตะเกียงทั่วห้องทำให้ไม่เป็นปัญหาด้าน ความมืดเพราะในนี้แทบจะสว่างเทียบเท่ากับกลางวัน…
“ท่านพ่อ ท่านจะให้ข้าฝึกยังไงรึ ข้าไม่รู้จักตำราสักเล่มว่าเล่มไหน เป็นยังไงบ้าง?”
ไป๋หลงถามไป๋หยวนด้วยท่าทีที่สงสัยว่าตนควรฝึกอย่างไร เมื่อไป๋หยางเห็นแบบนั้นก็เริ่มอธิบายทันที..
” ฟังให้ดีนะไป๋หลง คำภีร์ฝึกยุทธในแต่ละชั้นนั้นขึ้นอยู่กับความยาก..ชั้นแรกคือง่ายต่อการฝึกฝนส่วนชั้น10นั้นข้ายังไม่อาจฝึกได้เลยในบางวิชา ที่ข้านำเจ้ามาก็เพื่อ ให้เจ้า ได้เลือกตำราที่เจ้าคิดว่าไม่เกินความสามารถของเจ้า และข้าก็มีของบางอย่างให้เจ้าด้วย ”
ไปหยางพูดจบก็นำของบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ มันเป็นขวดใส่โอสถไว้ข้างใน เป็นโอสถสีม่วงที่มองแล้วให้ความรู้สึกพลังที่อัดแน่นอยู่ในนั้น ไป๋หลงรับมาและมองหน้าผู้เป็นบิดาตน ด้วยความขี้สงสัยจึงถามไป..
“ท่านพ่อโอสถนี้มันถือโอสถอะไรอย่างงั้นเหรอ ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ที่ข้าเคยเห็นในสมุดภาพคือ มีสี เทา เขียว เหลือง และ สีขาว ที่เหลือเหมือนเนื้อหามันขาดหายไปข้าเลยรู้เพียงเท่านี้”
“เจ้าไม่ต้องสนใจหรอกไม่ช้าเจ้าก็จะรู้เองข้ามีเรื่องต้องไปทำก่อนเดี๋ยวข้าจะกลับเข้ามาตอนเย็นๆ เจ้าจงตั้งใจฝึกล่ะ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”
ไป๋หยางกล่าวจบ ก็โดนออกไป เหลือไว้เพียง ไป๋หลงในห้องคัมภีร์ ไป๋หลงเดินสำรวจไปทีละชั้นๆ ผ่านไป 2 ชั่วยาม ไป๋หลงได้อ่านตำราทั่วไปเกี่ยวกับโอสถจนในที่สุดไป๋หลงก็รู้ว่าโอสถที่พ่อของตนให้นั้น คือโอสถระดับจักรพรรดิ หาได้ยากยิ่ง ยิ่งกว่าการหาคือการสร้างโอสถต่างหากที่ยากกว่า…นี้ทำให้ไป๋หลงรู้สึกว่าบิดาของตนนั้นฝากความหวังไว้กับตนมากแค่ไหน ไป๋หลง เดินขึ้นไปบนชั้น 5 จนในที่สุด ไป๋หลงสะดุดเข้ากับวิชานึงเข้า มันคือวิชา ฝ่ามือสยบสรรพสิ่ง เป็นวิชาที่ พลังทำร้ายสูง กินวงกว้าง มีทั้งหมด 3 ขั้นในการฝึก
ขั้นแรก ฝ่ามือสยบปัฐพี
ขั้นสอง ฝ่ามือสยบมาร
ขั้นสาม ฝ่ามือสยบสรรพสิ่ง
ทั้ง3ขั้นนี้ ฝ่ามือขั้นแรกฝึกง่ายสุด แต่พลังจะน้อยกว่าขั้นที่สองและขั้นที่3 ส่วนขั้นที่สองพลังทำลายจะเพิ่มขึ้น การฝึกก็จะยากตามไปด้วย ส่วนขั้นสามพลังทำลายล้างสูงสามารถสู้กับคนที่มีพลังเยอะกว่าตัวเองได้ถึง2ขั้นด้วยกัน เมื่อไป๋หลง อ่านทำความเข้าใจจนหมดไป๋หลงเดินไปที่ห้องห้องหนึ่งเป็นห้องที่ใช้ฝึกวิชา
ไป๋หลง เดินไปตรงกลางแล้วนั่งทำสมาธิเริ่มทำการฝึกเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม ไป๋หลง สำเร็จวิชานี้แล้วทั้งสามขั้น ปกติคนส่วนใหญ่ใช้ว่าประมาณ10 ปี ต่อให้เป็นอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ยังต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าจะสำเร็จ แต่ไป๋หลง กลับฝึกได้ไม่กี่ชั่วยาม เมื่อไป๋หลงฝึกเสร็จก็นำโอสถ ในขวดที่มีอยู่ข้างใน10 เม็ด ไป๋หลง กินเข้าไปเม็ดนึงก็เริ่มทำการดูดซับพลังจากโอสถ ผ่านไปไม่นานไป๋หลง ก็เลื่อนระดับ…
ตู้มม!!
นักรบหลอมรวม ขั้น3
4
5
6
7
8
“อีกนิดเดียวแท้ๆโอสถระดับจักรพรรดิทำให้พลังข้าเพิ่มเร็วขนาดนี้เลยเหรอ น่าแปลก ยิ่งใกล้ถึงวันเกิดทีไรพลังก็จะขึ้นทุกครั้ง หรือเราจะคิดไปเอง ค่อยถามท่านพ่อดูดีกว่า ตอนนี้เหลือเวลา กว่าจะท่านพ่อจะมา ขอฝึกเล่นๆก็แล้วกัน ”
ไป๋หลงทำการเดินอ่านคัมภีรย์ในชั้นที่5 จนหมดแต่ สะดุดตาเข้ากับตำราเล่มนึง ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นตำราเกี่ยวกับ การบอกถึงวิธีการ ดึงเอาอาวุธที่อยู่ในจิตใจออกมา แต่ไป๋หลงยังไม่คิดที่จะฝึกในตอนนี้ เพราะคิดว่ายังไม่จำเป็น
เวลาได้ร่วงเลยมาจนถึง ตอนเย็น ไป๋หยาง ก็เดินเข้ามาภายในหอคัมภีร์ เมื่อกวาดสายตามองไปทั่วก็เห็นร่างของไป๋หลงกำลังนั่งสมาธิอยู่ จึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะเรียกไป๋หลง แต่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น เมื่อ ปีกของไป๋หลงกำลังเพิ่มขึ้นมาอีก1คู่ ภายในห้องคัมภีร์…
เกิดความปั่นป่วนทางกระแสพลังขึ้น ไป๋หยางได้สังเกตุเห็น ปีกที่เพิ่มออกมาหนึ่งคู่นั้นเหมือนคู่แรกทุกประการ จนในที่สุดเหตุการณ์นี้ก็สิ้นสุดลงปีกนั้นก็สลายหายไป ไป๋หลงลืมตาขึ้นเห็นผู้เป็นพ่อเข้ามาไม่ทันได้สังเกตรอบตัว
“ท่านพ่อข้าฝึกเสร็จแล้วเดี๋ยวพรุ้งนี้ข้าขอเข้าไปในเมืองได้ไหม?”
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจนทำให้ผู้เป็นพ่อต้องใจอ่อนทุกที ไป๋หยางไม่รู้สึกตกตะลึงเท่าไรนักเพราะมันเป็นเรื่องปกติของเผ่าชั้นนสูงแต่…ไป๋หลงไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง!!
“ได้แต่เจ้าต้องเอาชนะ อสูรองค์รักษ์ ที่ ข้าเตรียมไว้ให้เจ้ายินดีหรือไม่”
ไป๋หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ แต่ จริงๆแล้วไป๋หยางต้องการจะดูฝีมือว่าบุตรของตนนั้นก้าวหน้าเพียงใด จึงได้สร้างข้อเสนอนี้ขึ้น..
” ได้ข้าขอรับคำท้า!!”
จบ….