เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 335 จุดสิ้นสุดของสงคราม 2
“ มหาเทพศักดิสิทธิ์เฮร่า เทพแห่งการเริ่มต้นและสรรค์สร้าง!!! ”
มหาเทพศักดิ์สิทธิ์เฮร่า เทพแห่งสวรรค์แห่งการกำเนิดและการแปดเปื้อนในเวลาเดียวกัน..ศึกสงครามระหว่างเทพปีศาจรวมถึงความรักต้องห้ามระหว่างเทพและปีศาจที่เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคบรรพกาล…ผู้นำทัพสรรค์ที่แหกกฎที่ทำการแหกกฎสวรรค์ในเวลานั้น มหาเทพเฮร่า….ในเวลานั้นถือว่าเป็นเรื่องราวที่ ใหญ่โตจนสั่นคลอนสวรรค์…
เหล่าเทพและสัตว์เทพทั้งล้วนคุกเข่าลงต่อหน้ามหาเทพเฮร่า…แม้มหาเทพเฮร่าจะทำการแหกกฎสวรรค์…แต่ก็ยังคงได้รับการเคารพจากเหล่าเทพ แม้จะเป็นเพียงร่างที่เกิดจากตะกอนพลังที่ออกมาจากบัลลังก์สวรรค์ก็ตาม…
“ ไม่ทราบว่าท่านคือ…”
ไป๋หลงเองก็พอจะมองเหตุการณ์โดยภาพรวมว่า สตรีเทพเบื้องหน้าย่อมไม่ใช่เทพสวรรค์ทั่วไปอย่างแน่นอน…และสายเลือดเทพภายในร่างของไป๋หลงกำลังสั่นไหวอย่างมิอาจหักห้าม…
“ จะหยุดการต่อสู้ที่ไร้สาระเช่นนี้ได้รึยัง.. ”
เพียงแค่น้ำเสียงที่เอ่ยวาจาออกมากลับมีพลังอำนาจที่สะกดข่มทั้งแดนสวรรค์ไว้ได้…นี่คือสัตว์ประหลาดเหนือสัตว์ประหลาดโดยแท้จริง แต่ไป๋หลงกลับไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด กลับกันไป๋หลงกลับรู้สึกเคารพและให้เกียรติสตรีเทพผู้นี้อย่างเห็นได้ชัด..
“ เจ้าคือลูกหลานของเราสินะ…เจ้ามีนามว่าอะไรอย่างงั้นหรือ.. ”
“ ข้าผู้เยาว์มีนามว่าไป๋หลง เป็นบุตรของเทพมารอัลบาร์และมหาเทพราฟาเอล… ”
ไป๋หลงสลายพลังทั้งหมด อุโรโบรอส และ พยัคฆ์สวรรค์กลืนนภา ก็ถูกเรียกกลับมาไว้ในสัญลักษณ์แห่งเทพมารตามเดิม…ทุกสายตาล้วนจับจ้องมายังเฮร่าอย่างไม่วางตาด้วยความงามและความแข็งแกร่งของนาง แม้จะเป็นเพียงร่างที่เกิดขึ้นจากกลุ่มก้อนพลังที่เฮร่าเหลือเอาไว้…การปรากฎตัวของนางถือเป็นจุดแปรผันที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้…
“ อย่างงั้นเองสินะ…บุตรที่เกิดจากสายเลือดเทพมารและเทพบริสุทธิ์ สายเลือดของตัวเจ้าสนับสนุนซึ่งกันและกัน…มิหนำซ้ำเจ้ายังมีพลังนั้นไว้ในครอบครองด้วยสินะ…แต่เจ้าเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้เพราะมันอาจจะสังหารเทพสวรรค์ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการจากการกระทำครั้งนี้ถูกต้องหรือไม่.. ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นสองข้างพร้อมกับส่ายหัวไปมา…
“ ท่านมองตัวข้าทะลุปรุโปร่งเลยสินะ…ก็เป็นอย่างที่ท่านกล่าวมา การต่อสู้ครั้งนี้ข้าเพียงแค่ต้องการให้เทพสวรรค์ ตุลาการสวรรค์ รวมถึงสภาเทพทำการขอโทษแม่ของข้าและยอมรับในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะสังหารใครอยู่แล้ว เพราะถ้าเทพสวรรค์ตายไปหนึ่ง กองกำลังของเราก็จะมีกำลังถดถอย ข้าจึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้มัน… ”
เฮร่าพยักหน้าพร้อมกับปริยิ้มอ่อนออกมา…ในเวลานี้การสูญเสียเทพสวรรค์ไปแม้แต่คนเดียวก็ส่งผลกระทบต่อของทัพสวรรค์ได้..ถึงจะมีกองกำลังเทพตกสวรรค์ ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของมิคาเอลก็ตามที
“ ซุส ฮาเดส อาเธน่า แล้วก็โพไซดอน จงมาตามคำเรียกของข้า..รวมถึงเจ้าด้วยเซฟีร่า.. ”
เพียงแค่เฮร่ากล่าวขึ้น 4 เทพแกนนำก็ปรากฎตัวในท่านั่งชันเข่าอยู่เบื้องหน้าเฮร่า..รวมถึงเซฟีร่าที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเฮร่า ว่ากันตามศักดิ์เฮร่าและเซฟีร่ามีศักดิ์เท่ากัน..เซฟีร่าจึงไม่ได้นั่งชันเข่าแต่อย่างใด…
“ ที่เรียกพวกเจ้ามาก็มีเพียงแค่เรื่องเดียวที่จะฝากฝังพวกเจ้า..ไม่ใช่ในฐานะอดีตผู้นำสวรรค์ แต่เป็นในฐานะอาจารย์ของพวกเจ้า จงสนับสนุนเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด นี่คือสิ่งที่อาจารย์อยากจะขอพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย..ส่วนเจ้าเซฟีร่า ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้คุมกฎของทั้งสามโลก…ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ต้องการพูดกับเจ้าเป็นการส่วนตัว.. ”
เซฟีร่าพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูมิติเข้าไปในช่องว่างแห่งกาลเวลา..สี่เทพแกนนำต่างแสดงสีหน้าและความกังวลใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด…
“ ทะ ท่านอาจารย์เรื่องที่ท่านกล่าวมาใช่ว่าจะรับปากไม่ได้แต่เด็กคนนี้… ”
ฮาเดสกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขัดเป็นครั้งแรก…เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสนและคิดถึงผู้เป็นอาจารย์…
“ เจ้ากังวลเรื่องความสามารถของเด็กคนนี้ ในตัวของเด็กผู้มีสายเลือดของข้าไหลเวียลอยู่อย่างงั้นหรือ…ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็จะพูดให้พวกเจ้าทั้งหมดได้รับรู้ พวกเจ้ารู้ไหม ทำไมพวกเจ้าในที่ถึงยังไม่อยู่ในสภาพปางตาย หรือบาดเจ็บสาหัส..หากหลานของข้าต้องการสังหารพวกเจ้าจริง..เกร็ดหิมะหมื่นปี ที่หลานของข้าครอบครองคงจะแช่แข็งดวงจิตของพวกเจ้าจนกลับเข้าสู่กระแสลำธารกันหมดแล้ว… ”
ไป๋หลงที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา ไม่คิดว่าเฮร่าจะกล่าวเช่นนี้ต่อหน้าเหล่าเทพนับหมื่น…แต่ในน้ำเสียงบางช่วงไป๋หลงกลับรู้สึกแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก..
“ นี่ข้าคิดไปเอง… หรือท่านฑวดของข้ากำลังพูดออกมาด้วยความสะใจ… ”
………………………………………………………………………….
อีกด้าน…
อู้เฉียงหลักจากค้นพบประตูลับทางเดินใต้ดิน…นี่เป็นเวลาถึง2 ชั่วยามแล้วด้วยกันที่อยู่ข้างล่างนี่ ทางเดินที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินสีดำมันวาวชั้นดี ทางตรงยาวราวกับว่าทางเดินสายนี้ไม่มีที่สิ้นสุด…
มีเพียงแค่ความสว่างจากเปลวเพลิงที่อู้เฉียงสร้างขึ้นเท่านั้น…
“ ทำไมทางเดินข้างล่างนี่มันถึงยาวได้ขนาดนี้ เดินมาจะ2ชั่วยามแล้วข้ายังไม่เห็นปลายทางเลย…มีบางอย่างแปลกๆ.. ”
อู้เฉียงเริ่มสังเกตุได้ถึงบางอย่างราวกับว่าตนนั้นกำลังเดินอยู่ที่เดิมในขณะที่เมดูซ่าบิดขี้เกียจพลางง่วงนอนใช้มืดอันเรียวงาม มาปิดปากของตัวเองตอนง่วงเอาไว้…
ไม่ได้มีทีท่ากังวลแม้แต่น้อย…
“ เจ้าพึ่งจะรู้ตัวอย่างงั้นเหรอ…เฮ้อ ข้าก็เฝ้าดูว่าเจ้าจะจับจุดสังเกตุได้เมื่อไหร่…เจ้าเดินไปมาที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม… ”
“ แล้วทำไมท่านไม่บอกข้า!! ”
“ ก็เจ้าไม่ได้ถามข้านี่น่า…เพราะฉะนั้นเจ้าจะโทษข้าไม่ได้…สิ่งที่เจ้าเผชิญอยู่ก็คือภาพลวงตาจากพลังบางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับข้า…แต่ในกรณีที่ข้าบาดเจ็บจาดบาดแผลของซุสอยู่ก็ไม่แน่.. ”
เมดูซ่าพูดขึ้นก่อนจะดีดนิ้วหนึ่งครั้งจนเกิดเสียงคล้ายกับกระจกแก้วได้แตกออก..
“ เพล้ง!! ”
สภาพแวดล้อมโดยรอบกำลังแปรเปลี่ยนจนอู้เฉียงเบิกตากว้างออกมาพร้อมกับความตื่นเต้น..
“ ไป๋หลงเจ้าต้องไม่เชื่อแน่ว่าข้าเจอกับอะไร!! ”
จบ..