เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 336 จุดสิ้นสุดของสงคราม 3 จบ
สภาพแวดล้อมโดยรอบกำลังแปรเปลี่ยนจนอู้เฉียงเบิกตากว้างออกมาพร้อมกับความตื่นเต้น..
“ ไป๋หลงเจ้าต้องไม่เชื่อแน่ว่าข้าเจอกับอะไร… ”
สาเหตุที่อู้เฉียงกล่าวขึ้นพลางนึกถึงไป๋หลงแน่นอนว่าสิ่งที่อู้เฉียงพบเจอคือกองสมบัติจำนวนมหาศาล..แก้วแหวน เงินทอง ตลอดจนตำรายุทธเก่าแก่..และศาสตราวุธที่ถูกตั้งเรียงรายเอาไว้…
“ ข้าไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเจ้านั่น มาเจอกองสมบัติขนาดนี้จะแสดงสีหน้าแบบไหนออกมา… ”
อู้เฉียงส่ายหน้าไปมากับความคิดของไป๋หลง…ซึ่งอู้เฉียงย่อมคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอนจากอุปนิสัยของไป๋หลง…
“ ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนกันแน่… ”
“ ที่นี่ก็คือคลังสมบัติลับของจักรพรรดิ์รุ่นก่อนหน้านี้ละมั้ง…เพราะอาณาจักรแห่งนี้ล่มสลายลงเนื่องจากภัยพิบัติธรรมชาติ…อาจเป็นไปได้ว่าม่านพลังที่ป้องกันมวลน้ำมหาศาลเอาไว้..มีไว้เพื่อปกป้องคลังสมบัติแม้เจ้าของอย่างจักรพรรดิ์ผู้เป็นเจ้าของจะตายไปแล้วก็ตามที… ”
เมดูซ่าเอ่ยปากบอกอู้เฉียงพลางเดินสำรวจโดยรอบ…
“ ไม่มีกับดักใดๆทั้งสิ้น…แต่ก็น่าแปลกม่านพลังที่ปกป้องคลังสมบัติแห่งนี้..ไม่น่าจะปกป้องสมบัติทั่วไปเป็นแน่อาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็เป็นได้…แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงดูธรรมดาเกินไป… ”
สิ่งที่เมดูซ่าคิดอยู่ภายในใจตอนนี้คือความสงสัย ณ สถานแห่งนี้…ม่านพลังนี้ปกป้องสิ่งใดกันแน่..ในขณะนั้นเองดูเหมือนว่าอู้เฉียงจะเจอเข้ากับบางอย่าง…
“ ท่านเมดูซ่า สิ่งนี้คืออะไรอย่างงั้นหรือ? ข้าเห็นมันเป็นลูกแก้วสีส้มตั้งไว้ข้าเลยหยิบขึ้นมาดู.. ”
อู้เฉียงกล่าวถามเมดูซ่าด้วยความสงสัย..แต่เมดูซ่ากลับแสดงท่าทีที่แปลกประหลาดออกไป ดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับสัญชาติญาณที่บ่งบอกถึง ความอันตราย!!!
“ เอามันออกไปไกลข้าเดี๋ยวนี้!! ”
ตู้มมม!!!
เมดูซ่าเผลอระเบิดพลังออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ..เฟิงหวงที่อยู่ในสภาวะหลับไหลชั่วคราวในตอนนี้ไม่อาจจะออกมาช่วยอู้เฉียงได้..ถ้าเป็นปกติอู้เฉียงคงถูกแรงกดดันจากความต่างของชนชั้นพลังจนต้องร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ..แต่ทว่า ลูกแก้วสีส้มกลับเปล่งแสงสว่างจ้าออกมาปกป้องอู้เฉียงจากการระเบิดพลังของเมดูซ่า…
พลังที่เมดูซ่าเผลอระเบิดออกมาถูกทำให้สลายไปในทันที…
“ ข้าขอโทษ… ”
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายพันปี ที่เมดูซ่านั้นกล่าวขอโทษออกมา..แม้แต่อู้เฉียงก็ทำตัวไม่ถูกก่อนจะตั้งลูกแก้วนั้นไว้ที่เดิมแต่ทว่า…
“ อะไรเนี่ย!!! ”
ลูกแก้วสีส้มที่อู้เฉียงวางไว้กลับลอยมาอยู่ในมือของอู้เฉียงอีกครั้ง..
“ สิ่งนั้นคือ ไข่มุกสุริยะเทพ เป็นสิ่งที่เทพแห่งดวงตะวันเหลือเอาไว้ก่อนจะกลับเข้าสู่กระแสลำธารแห่งชีวิต..โดยปกติแล้ว เงื่อนไขการครอบครองนั้นจะเรียกว่าง่ายก็ง่าย หรือจะยากก็ว่ายาก..คือบุคคลผู้นั้นต้องมีเชื้อสายหรือโลหิตของวิหคสวรรค์ไหลเวียนอยู่ภายในร่าง…และทันที่เจ้าแตะมัน…ไข่มุกสุริยะเทพก็เป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์..เมื่อครู่ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้..เพราะข้าไม่คิดว่าสิ่งนี้จะแรกฎต่อหน้าข้าอีก…. ”
น้ำเสียงของเมดูซ่านั้นแฝงไปด้วยความหวาดกลัวบางอย่าง..
“ แล้วเหตุใดท่านถึงแสดงท่าทีเช่นนั้นออกมา… ”
“ โดยธรรมชาติแล้ว แสงสว่างและความมืดย่อมมิอาจเข้าหากันได้และเป็นธาตุที่ตรงกันข้ามกัน..ตัวข้าที่มีพลังด้านมืดชั้นสูงบริสุทธิ์อยู่ภายในร่าง..มิอาจที่จะเข้าใกล้ไข่มุกสุริยะเทพ ซึ่งเป็นธาตุแสงบริสุทธิ์ทีมีพลังเทียบเท่ากับดวงตะวัน…เท่านี้ก็กระจ่างแจ้งแล้วม่านพลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องไข่มุกเทพสุริยะ… ”
“ เดี๋ยวๆๆเดี๋ยวนะ…แล้วทำไมมันถึงมาตกอยู่ที่พื้นแบบนี้…ถ้าเป็นแบบที่ท่านว่า นี่มันก็สมบัติระดับเทวะเลยนะ!!!… ”
อู้เฉียงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงท่าทีตกตะลึงออกมา…เพราะไข่มุกเม็ดนี้ย่อมเป็นกำลังรบให้ตนได้อย่างมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย..
ในขณะที่อู้เฉียงและเมดูซ่ากำลังพูดคุยกันอยู่นั้นก็ปรากฎร่างของบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง…เสื้อผ้าอาภรณ์ที่มีลักษณะเป็นลวดลายสีทอง..และมงกุฎสีทองเด่นชัดที่อยู่เหนือศรีษะย่อมคาดการณ์ได้ทันทีว่าบุคคลปริศนาผู้นี้คือ..จักรพรรดิ์ที่ลวงลับไปแล้ว…
“ ก็แหม..ข้าอยู่ดูแลคลังสมบัติตัวเองมาเป็นหมื่นๆปีแล้วในที่สุดก็หาผู้ครอบครองไข่มุกสุริยะเทพได้ทั้งทีจะเก็บซ่อนเอาไว้ทำไม ตั้งๆไว้บนทางเดินนี่แหละ จะได้เห็นชัดๆหน่อยและอีกอย่าง ข้าก็เบื่อหน่ายที่นี่เต็มทีแล้ว…เจ้าอยากได้อะไรก็หยิบไปตามใจชอบเลยนะ..ข้าจะได้ไปเกิดใหม่สักที… ”
“ นี่ท่านเป็น… ”
อู้เฉียงเอามือไปแตะร่างของคนผู้นี้แต่ทว่ากลับทะลุไปอีกด้าน..ไม่อาจจับต้องร่างกายได้…
“ ข้าคือจักรพรรดิ์ เทียร์โอ ที่ 12 เป็นจักรพรรดิ์ผู้ปกครองอาณาจักรที่ล่มสลายแห่งนี้…ถึงตัวข้าจะตายไปนานแล้วก็เถอะ..พูดง่ายๆก็คือ ผี… ”
“ ………………”
………………………………………………………
อีกด้านหนึ่งของทวีปจรัสแสง..
ตั้งแต่ที่ครบกำหนดวันที่ได้ทำการสัญญาเอาไว้ว่าจะมอบตัวผู้ถือครองพลังวิหคสวรรค์..ซึ่งแน่นอนทางฝ่ายมนุษย์ไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ได้กล่าวไว้ ทำให้ในตอนนี้เผ่าปีศาจออกอาละวาดทุกหนแห่ง…
เผ่าปีศาจมากมายถูกปลดผนึกออกมา..พระจันทร์ถูกย้อมไปด้วยสีแดงโลหิต…ทั้วยุทธภพเกิดความปั่นป่วน สำนักฝึกยุทธต่างร่วมมือผนึกกำลังกันปกป้องชาวบ้าน…
ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นปีศาจธรรมดาสามัญทั่วไปมิสามารถทำอะไรเหล่าเจ้าสำนักได้…แต่เมื่อเทียบกับปีศาจระดับกลางเป็นต้นไปหากไม่ร่วมมือกันก็มีสิทธิพลาดท่าได้เช่นกัน…
เฉกเช่นสำนักหนึ่งในยุทธภพที่พลาดท่าโชคร้ายดูถูกฝีมือเผ่าปีศาจจนเกินไป ถูกฆ่าล้างบางทั้งสำนัก..แต่ที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้นคือ การข่มขืนศิษย์หญิงก่อนจะทำการสังหารทิ้ง..แต่ดูเหมือนว่าจะมีปีศาจระดับสูงตนหนึ่งเห็นเข้าพอดี…
เพียงเสี้ยววินาที..ลำแสงสีแดงดำก็เจาะกะโหลกเผ่าปีศาจชั้นต่ำตนนั้นในทันที…ก่อนที่ปีศาจระดับสูงตนนั้นจะบินลงมาพร้อมกับมองไปยังสภาพศพของศิษย์หญิงผู้นั้น…..
“ เห~ เจ้านี่ก็แปลกเนอะ เป็นปีศาจชั้นสูงแท้ๆแต่กลับมีความรู้สึกสงสารมนุษย์.. ”
ปีศาจหนุ่มผมขาวที่ตามมาด้วยก็ลงมายืนขนาบข้างกับปีศาจผมสีดำนัยน์ตาสีแดงโลหิตมรกต..ใบหน้าที่ขาวซีด..ราวกับไร้ซึ่งโลหิตไหลเวียล..ให้ความรู้สึกราวกับว่าศพเดินได้…
“ ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่มนุษย์เพศหญิงผู้นี้คือนักรบ..การตายของนางก็เพื่อปกป้องผู้ที่อ่อนแอ นางไม่ควรที่จะถูกกระทำเช่นนี้..การกระทำเช่นนั้น ไม่ได้ต่างไปจากสัตว์เดรัจฉานแม้แต่น้อย…ปีศาจอย่างเจ้าที่สนุกแต่กับการฆ่าฟันคงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเรื่องที่ข้าพูดไป… ”
ปีศาจผมขาวแสยะยิ้มออกมาชั่วขณะ…ขณะนั้นเองปีศาจผมดำผู้นั้นก็ได้ทำบางอย่างที่แม้แต่ปีศาจผมขาวยังต้องเบิกตากว้าง…
“ นี่เจ้าหยุด!! เจ้าจะทำบ้าอะไร เจ้าจะชุบชีวิตมนุษย์อย่างงั้นเหรอ..อย่าทำอะไรบ้าๆ ข้าขอเตือน.. ”
“ ข้าก็บ้าอยู่ตั้งนานแล้ว.. ”
“ นี่เจ้า—- ”
หลังจากที่ปีศาจผมดำเอามือไปแตะที่ใบหน้าของศิษย์หญิงผู้นั้นก่อนที่เปลวเพลิงสีฟ้าจะลุกท่วมตัวนาง บาดแผลทั้งหมดค่อยๆถูกรักษา…เปลวไฟสีฟ้าค่อยๆอ่อนลง…
ศิษย์หญิงผู้นั้นลืมตาตื่นขึ้นมา…ด้วยความหวาดกลัวก่อนหน้าและจากที่นางถูกกระทำก่อนที่นางจะตาย..ศิษย์หญิงผู้นั้นหยิบกระบี่ที่ตั้งไว้ก่อนจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของปีศาจผมดำ…
“ นังมนุษย์สารเลวบังอาจ— ”
“ หยุด!!! ”
ปีศาจผมดำยกมือห้ามปีศาจผมขาวเอาไว้…เพื่อไม่ให้นางต้องตายเป็นครั้งที่สอง..
“ หนีไปซะ…หนีไปให้ไกลที่สุด..”
ศิษย์หญิงผู้นั้นสติหลุดก่อนจะดึงดาบที่ปักคาท้องของปีศาจตนนั้นออกมาและวิ่งหนีไปด้วยความสติแตก..ส่วน บาดแผลที่ถูกแทงสมานอย่างรวดเร็ว..เป็นพลังฟื้นตัวที่น่าสะพรึงยิ่ง..
ปีศาจผมขาวแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่ไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด…
“ เจ้ามันบ้าไปแล้ว…เลเวีย.. ”
จบตอน