เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 359 การถือกำเนิดใหม่และการดับสูญ
สามารถแลกชีวิตให้กันได้..ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะมีคนใดคนหนึ่งหายไปตลอดกาล..นั่นก็คือผลร้ายของเคล็ดวิชาสองประสาน..และตัวตนที่จะต้องถูกลบให้หายไปก็ถือ..เหิงหวง!!
“ สองประสานรวมเป็นหนึ่ง!! ”
เคล็ดวิชาบรรพกาลที่หายสาบสูญไปจากยุทธภพนับหมื่นนับแสนปี บัดนี้ได้ถูกนำออกมาใช้อีกครั้ง..การรวมใจเป็นหนึ่งและการเสียสละครั้งยิ้งใหญ่..
สัตว์อสูรในพันธะโลหิตและผู้เป็นนายจะต้องรวมกันเป็นจิตเดียวกายเดียวไม่อาจมีสอง..นั่นก็หมายถึงจะต้องมีตัวตนของคนใดคนหนึ่งหายไปตลอดกาลไม่อาจกลับสู่กระแสลำธารแห่งวิญญาณได้เฉกเช่นเดียวกับดวงวิญญาณอื่นๆ..
บัดนี้วิหคสวรรค์อัมตะได้ถือกำเนิดใหม่ ณ ใต้ท้องทะเลที่ส่องแสงสว่าง ทำให้ทั่วทั้งก้นมหาสมุทรที่มืดมิดกลับสว่างไสว สามารถมองเห็นโดยรอบได้อย่างชัดเจน..
ตึงง!!!
“ สถานการณ์อยู่เหนือความคาดหมาย ถอย!! ”
เดียร์รอสกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลเพราะระดับพลังที่สุดแสนจะหยั่งถึงเบื้องหน้านี้นั้นอันตรายเกินไป…
“ ใครอนุญาตให้พวกเจ้าไปจากที่แห่งนี่.. ”
สุรเสียงที่เต็มไปด้วยพลังและความน่าเกรงขามสะกดปีศาจชั้นสูงทั้งสองเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น..
เปลวเพลิงทั้งหมดค่อยๆหายไป..ปรากฎรูปลักษณ์ชายหนุ่มที่แม้แต่เมดูซ่าได้เห็นย่อมเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี..
เส้นผมสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงนัยต์ตาสีแดงที่มองเข้าไปคล้ายกับถูกต้องมนต์สะกด คิ้วสีแดงดูเฉียบคมราวกับกระบี่..
ผิวกายขาวเรียบเนียลร่างกายล่ำสันสมชายชาตรีมัดกล้ามทั่วทั้งร่างกายสามารถเห็นได้ชัดขึ้นอย่างชัดเจน..
“ นี่มัน..สองประสานรวมเป็นหนึ่ง..ข้าคิดว่ามันเคล็ดวิชาที่หายสาบสูญไปแล้ว..แต่นี่มัน..ก็หมายความว่าเฟิงหวงรวมจิตวิญญาณเข้ากับเจ้าเป็นหนึ่งเดียวนั่นก็หมายความว่าจิตดั้งเดิมของเฟิงหวงนั้นได้หายจากโลกนี้ไปแล้ว…เท่ากับว่าเด็กคนนั้น.. ”
เมดูซ่ามองพินิจทั้งระดับพลังที่มีมหาศาลจนน่าอัศจรรย์และรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปนั่น…
“ อู้เฉียงในตอนนี้คือ วิหคสวรรค์ที่ถือกำเนิดใหม่ขึ้นอย่างสมบูรณ์!! ”
ทั้งเดียร์รอสและเซร่าต่างคาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น..
“ ร่างสถิตของวิหคสวรรค์รวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวแล้วใต้ท้องทะเลแบบนี้เราเสียเปรียบถอยกันก่อนเถอะ..หลังจากนั้นคทอยว่ากันอีกที.. ”
“ ข้าก็อยากทำเช่นนั้นแต่ดูเหมือนว่า..เด็กนั่นจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆอย่างแน่นอน.. ”
อู้เฉียงค่อยๆลงมาแตะพื้นเคียงข้างกับเมดูซ่าพร้อมกับรักษาบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ขึ้นทั้งหมด..
“ ข้าขอโทษท่านด้วยที่ต้องทำให้ท่านเจ็บตัวเช่นนี้.. ”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงแตกต่างจากน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด…แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปแต่นิสัยนั้นยังคงเดิม
“ หึ บาดแผลแค่นี้ไม่ต้องให้เจ้าช่วยข้าก็รักษาตนเองได้..อย่าอวดเก่งไปหน่อยเลยเด็กน้อย.. ”
“ ก็จริงของท่าน..ข้าขอสะสางปัญหาที่อยู่เบื้องหน้านี้ก่อนแต่ทว่าก่อนอื่น.. ”
ปกติแล้วนั้นหากเมดูซ่าเรียกอู้เฉียงว่าเด็กน้อยจะต้องแสดงท่าทีโวยวายออกมา..แต่บัดนี้ตัวชายหนุ่มกลับนิ่งสงบไม่แม้แต่ที่จะโต้เถียงหรือแสดงท่าทางที่ไม่ชอบใจออกมา..
แม้แต่เมดูซ่ายังอดที่จะตกตะลึงไม่ได้..
อู้เฉียงกางฝ่ามือออกไปพร้อมกับส่งคลื่นพลังสีส้มอ่อนไปหล่อเลี้ยงม่านพลังจนกลับมาอยู่ในสภาวะปกติน้ำที่ไหลเข้ามาค่อยๆหยุดไหลลงอย่างช้าๆ!!
ขณะเดียวเดียร์รอสและเซร่ามองหน้ากันราวกับว่ามีแผนการบางอย่าง..แต่ทว่า..
“ อย่าคิดว่าจะหนีพ้น.. ”
“ !!!! ”
เพียงชั่วพริบตาอู้เฉียงก็มาโผล่ตรงข้างหลังของเซร่าและเดียร์รอสพร้อมกับจับไหล่ของทั้งสองเอาไว้..ซึ่งแน่นอนว่าตามสัญชาติญาณการต่อสู้ย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่าหากไม่ต่อสู้แบบเอาจริงละก็..ตัวมันจะต้องเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบและพ่ายแพ้อย่างแน่นอน..
……………………………………………………
ขณะเดียวกัน ณ แดนสวรรค์ ท่ามกลางการประชุมของ4มหาเทพแห่งแดนสวรรค์
เทพทั้งหมดตามรับรู้ได้ถึงการถือกำเนิดใหม่ของวิหคสวรรค์นั่นก็หมายความว่า..
“ เฟิงหวงนางได้ใช้เคล็ดวิชา สองประสานรวมเป็นหนึ่ง..ตอนนี้ร่างสถิตของวิหคสวรรค์กลับกลายเป็นวิหคสวรรค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว..อะไรกันที่ทำให้นางทำเช่นนั้น.. ”
อาเธน่ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย..
การถือกำเนิดใหม่ของวิหคสวรรค์แม้แต่สัตว์อสูรเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือก็ยังสัมผัสได้ได้ถึงการสูญเสียและการกำเนิดใหม่..
ตัวตนของเฟิงหวงนั้นได้ตายจากไปแล้ว..
ไป๋หลงที่ได้ฟังเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ถึงสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีเพราะตนนั้นก็รู้ถึงความสามารถของเคล็ดวิชานี้เช่นกัน…
“ อู้เฉียงเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่… ”
…………………………………………………….
ณ ห้วงมิติจิต..
“ นางทำไปจนได้สินะ..”
เต่าทมิฬกล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกที่ราวกับว่าสหายคนสำคัญนั้นได้หายตายจากไปแล้ว..
“ นี่เป็นการตัดสินใจของนาง…ไม่แน่ว่านางนั้นอาจจะรู้อยู่ก่อนแล้วก็เป็นได้ว่าต้องมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น..และนางก็ยอมรับและพร้อมที่จะทำมัน ”
มังกรทองอย่างหวงหลงเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเฟิงหวงนั้นจะทำอะไรที่บ้าบิ่นได้ขนาดนี้…
“ ว่าแต่เจ้าเถอะ ได้ข่าวบาดเจ็บสาหัสเอาการนี่ เจ้าแมวน้อย.. ”
หวงหลงกล่าวขึ้นพลางชายตามองพยัคฆ์สวรรค์ที่กำลังทำหน้าซึม..เพราะหากให้พูดกันตามตรงแล้วเฟิงหวงและไป๋หู่นั้นเป็นสหายที่อยู่ร่วมกันมาอย่างช้านาน
นับตั้งแต่ทั้งสี่ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพยัคฆ์สวรรค์และวิหคอัมตะ ดูเหมือนจะมีความสนิทสนมมากกว่าสัตว์เทพตนอื่น..
แม้จะทะเลาะกันบ่อยก็ตามที..
“ นะ..นี่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ..ถ้าข้าเป็นแมวเจ้ามันก็เป็นกิ้งกือ ไม้เดือน..ใช่ไหมเจ้านก— ”
ไป๋หู่นัเรไม่สามารถที่จะพูดประโยคและชื่อนี้ได้ในตอนนี้ก่อนที่พยัคฆ์สวรรค์จะหายออกไปจากห้วงมิติ..เหลือแค่เพียงเท่ามิฬและมังกรทอง…
“ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการที่เบี่ยงเบนความสนใจ..หวงหลง แต่เจ้าเนี่ยน่า..ปลอบผู้อื่นไม่เป็นด้วยอุปนิสัยที่เย่อหยิ่งของเจ้า คงจะยากสำหรับการที่ต้องปลอบใครสักคนสินะ.. ”
“ เต่าทมิฬเจ้าอย่ามารู้ดีไปมากกว่าตัวข้า.. ”
“ ข้าก็ไม่ได้บอกว่ารู้ดีกว่าเจ้า..ข้าก็แค่บอกให้เจ้าเข้าใจก็เท่านั้น..เฟิงหวงและไป๋หู่นั้น บนแดนสวรรค์เมื่อครั้งที่เรามีหน้าที่พิทักษ์ประตูแดนสวรรค์..สองคนนั้นเปรียบดั่งพี่น้อง..การที่ไป๋หู่จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่แปลก แม้เจ้ากับข้าจะรู้สึกเศร้าอยู่บ้างแต่เชื่อสิ..ไป๋หู่เจ้านั่นเสียใจมากกว่าพวกเรารวมกันเสียอีก..เพราะเราไม่ได้มีความสัมพันธุ์ที่แน่นแฟ้นเช่นนั้น.. ”
สิ่งที่เต่าทมิฬพูดมานั้นย่อมเป็นความจริงทั้งหมด..การที่จะทำใจยอมรับว่าคนสำคัญในชีวิตนั้นได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ..
และไม่มีทางที่จะได้กลับมาเกิดใหม่ได้อีกแล้ว..เป็นความเศร้าและความทุกข์ของพยัคฆ์สวรรค์ที่ต้องแบกรับความรู้สึกเหลือคณานับในตอนนี้..
จบตอน