เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 371 เจ็ดสิบสองเสาหลักแห่งโลกมาร 3
ในตอนนี้นั้นเทียร์และอัลเบียร์ ยืนมองไป๋หลงที่กำลังเขียนอักขระโบราณบางอย่างอยู่บนพื้นศิลาโดยใช้ตรีศูลเทวะปีกดำในการเขียนเปรียบเหมือนกับพู่กัน..
ทุกอักขระล้วนเต็มไปด้วยพลังงานลึกลับที่ไม่สามารถบรรยายได้..
ซึ่งแน่นอนว่าอัลเบียร์ย่อมรู้ดีว่าไป๋หลงนั้นกำลังเขียนอักขระในการเรียกเสาหลักแห่งโลกมารทั้ง72ตนมาที่แห่งนี้แต่ทว่ามีบางอย่างที่อัลเบียร์นั้นยังคงคาใจอยู่เกี่ยวกับไป๋หลง…
“ ไม่ได้เจอกันเพียงชั่วคราวกลิ่นอายของเด็กคนนั้น…ดูลึกลับและแฝงไปด้วยความน่าสะพรึงสุดหยั่งถึง..สิ่งใดกันที่ทำให้เด็กน้อยในตอนนั้นเติบโตและดูลึกลับถึงเพียงนี้… ”
เมื่อเทียร์ได้ยินอัลเบียร์พูดเช่นนั้น เด็กสาวก็กล่าวอธิบายให้อัลเบียร์รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที…
“ ท่านผู้อาวุโสท่านอาจจะยังไม่รู้แต่..ไป๋หลงนั้นได้เลือกจุติใหม่เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ..นั่นอาจจะทำให้กลิ่นอายของเขาผิดแปลกไปก็เป็นได้.. ”
“ อะไรนะ!!! ”
“ ท่านได้ยินไม่ผิด…ไป๋หลงตัดสินใจจุติใหม่เป็นเผ่าปีศาจด้วยเจตจำนงของตัวเองและก็ดูเหมือนว่าไป๋หลงนั้นจะมีแผนการบางอย่างถึงได้ทำ— ”
ขณะที่เทียร์กล่าวอธิบายอัลเบียร์ก็หัวเราะออกมา…ทำให้เทียร์รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“ ท่านผู้อาวุโสมีอะไรอย่างงั้นหรือ.. ”
“ เปล่าๆ ฮ่าฮ่าฮ่า..ข้าก็แค่อดคิดไม่ได้ว่านิสัยของเด็กคนนั้นเหมือนกับพ่อของตนเอง..นิสัยมุทะลุแบบนั้นแล้วไหนจะทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อต่างๆอีกมากมาย..เหมือนกันไม่มีผิดราวกับว่าถอดแบบออกมายังไงยังงั้น…”
อับเบียร์พูดจบก็หันมามองหน้าเทียร์พร้อมกับลูบหัวเทียร์เบาๆไปมาด้วยความเอ็นดู…ทำให้เทียร์นั้นรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว..
“ เทียร์ ดิอาร์ค..ข้าขอถามเจ้าในฐานะท่านป้าของไป๋หลง..สิ่งที่พูดกันต่อไปนี้เด็กคนนั้นคงจะไม่ได้ยินเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการเขียนอักขระ และข้าได้ใช้พลังในการปิดกั้นการได้ยินทั้งหมด…เอาล่ะ..ข้าจะขอถามเจ้าตรงๆเลยแล้วกัน..ต่อหน้าราชินีแห่งแวมไพร์..เจ้าชอบไป๋หลงหรือไม่.. ”
คำถามที่เทียร์ได้ยินนั้น ทำให้เด็กสาวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีราวกับลูกตำลึงสุก…อีกอย่างเทียร์นั้นย่อมรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่การถามเล่นๆทั่วไป…
“ ถะ..ถ้าจะให้พูดตรงๆ..ขะ..ข้าก็ไม่ได้เกลียดเจ้าคนบ้ามุทะลุทำอะไรก็ไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำอะไรก็ไม่เคยรู้เลยว่าคนอื่นต้องเป็นห่วงขนาดไหน..แต่ว่าสำหรับความรู้สึกของข้าในตอนนี้นั้นบอกได้เพียงว่า..ขะ..ข้าอาจจะชอบ..เจ้าบ้าไป๋หลง!!! ”
เทียร์พูดพลางนำมือทั้งสองข้าปิดหน้าของตัวเองเอาไว้ด้วยความเขินอาย…
ทางด้านไป๋หลงที่กำลังเขียนอักขระอยู่ก็เห็นทั้งสองคนคุยกันแต่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้งสองนั้นกำลังคุยอะไรกันอยู่..
“ ดีมากที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง..ต่อจากนี้เป็นต้นไปเจ้าคือหลานสะใภ้ของข้าอย่างเต็มตัว..เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงข้าจะจัดพิธีหมั้นหมายให้พวกเจ้าทั้งสองคน..”
“ !!!!!! ”
“ แต่ก็นะคงต้องรอให้เรื่องทุกอย่างจบลงก่อน…อ้อ อีกอย่างข้าลืมบอกเจ้าเกี่ยวกับพ่อของเจ้า…พ่อของเจ้าต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อปกป้องเจ้า..เขาเป็นพ่อที่ดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกตัวช้าไปหน่อยก็เท่านั้น… ”
เทียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มอ่อนออกมาพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องนภา…
“ ข้ารับรู้ได้ว่าท่านพ่อกำลังเฝ้ามองข้าอยู่..จากสถานที่อันห่างไกลออกไป..”
“ นั่นสินะ… ”
อัลเบียร์พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ยอดไม้ต้นหนึ่งที่มีเงาสีดำคล้ายกับว่ามีใครบางคนกำลังหลบซ่อนอยู่..อัลเบียร์ที่ได้เห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย…
“ ท่านอัลเบียร์เป็นอะไรอย่างงั้นหรือ.. ”
เทียร์สังเกตเห็นอับเบียร์นั้นถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมาจึงเกิดความรู้สึกเป็นห่วง…
“ เปล่าหรอก..อีกอย่างหนึ่งต่อไปนี้เรียกข้าว่าท่านป้าก็พอ..”
“ แต่ว่า— ”
“ นี่เป็นคำขอของข้า..”
แน่นอนว่าเทียร์นั้นไม่สามารถขัดอัลเบียร์ได้ด้วยความเกรงใจของเด็กสาวที่มีต่อราชินีแวมไพร์ผู้นี้…
“ ข้า..ข้าเข้าใจแล้วท่านป้า.. ”
ขณะนั้นเองดูเหมือนว่าไป๋หลงจะเขียนอักขระเสร็จสิ้นพอดี…ชายหนุ่มเหงื่อไหลโชคก่อนจะกัดนิ้วของตัวเองให้โลหิตไหลออกมา…
ทันทีที่โลหิตของไป๋หลงหยดลงโดนอักขระที่อยู่บนพื้นทันใดนั้นก็อักขระทั้งหมดก็ส่องแสงเรืองรองสีแดงออกมา…
พร้อมกับการปรากฎตัวของกลุ่มเงาประหลาดที่ค่อยๆโผล่ออกมาจากอักขระ จาก หนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนมีเงาครบทั้ง 72 ซึ่งกลุ่มเงาเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น..
แต่เป็นเสาหลักทั้ง 72 ของโลกมารที่คอยปกป้องราชวงศ์และโลกมารเอาไว้ภายในเงามืด!!!
“ จงแสดงหลักฐานความเป็นนายเหนือหัวของเจ้าออกมา..หากเจ้าไม่ใช่..รับรองได้เลยว่าเจ้าไม่ได้ตายดีแน่…”
หนึ่งในเงามืดทั้ง 72 กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแห่งความเย่อหยิ่งและแฝงไปด้วยโทสะ..แต่ในขณะนั้นเอง
อัลเบียร์ที่ได้ยินเข้านั้นดูเหมือนจะรู้สึกไม่สบอารมณ์..แม้แต่เทียร์เองก็ไม่สามารถห้ามอัลเบียร์เอาไว้ได้..
“ พวกเจ้าทั้งหมดคงจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นสินะถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับหลานเพียงคนเดียวของข้า..ใจกล้าไม่เบาเลยหนิที่บังอาจจะมาเอาชีวิตหลานชายของข้าเพียงคนเดียว…ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสั่งสอนเรียกสติพวกเจ้าหน่อยแล้วสินะ… ”
ตึง!!!!
อัลเบียร์ปลดปล่อยแรงกดดันออกมาสะกดข่มเสาหลักทั้ง 72 เอาไว้อย่างง่ายดาย..ก่อนที่ทั้งหมดจะเปิดเผยร่างที่แท้จริงออกมา..
แม้แต่ไป๋หลงเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกกับแรงกดดันแบบนี้..ขนาดตนนั้นไม่ใช้เป้าหมายของแรงกดดันนี้ก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาผ่านแรงกดดัน…
“ ท่านป้าของเราแข็งแกร่งขนาดนี้เลยอย่างงั้นเหรอ..ถึงกับขนาดสยบเหล่าเสาหลักและบังคับให้เปิดเผยร่างที่แท้จริงออกมาแบบนี้ได้.. ”
“ ช่างเป็นสตรีที่งดงามและน่าสะพรึงในเวลาเดียวกัน เส้นผมสีทองนั่น นัยต์ตาสีแดงราวกับอัญมณี เคี้ยวเล็กๆทั้งสองข้างนั่นอีก ..อ่าาา..ทำให้ข้ารู้สึกใจเต้นขึ้นมาเลย..หรือว่านี่คือความรัก!!! ที่มนุษย์มักจะพูดกัน.. ”
ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าบึ้งตึงในทันที…
“ นั่นท่านป้าของข้านะ…อีกอย่างข้าคิดว่านั่นไม่ใช่ความรัก..แต่ท่านเป็นแค่ไอบ้าโรคจิตคนหนึ่งเท่านั้น ท่านไม่ใช่ผู้พิทักษ์คลังสมบัติแดนสวรรค์อะไรนั่นหรอก..อ่าข้ามองท่านผิดไปสินะ..คิดว่าจะเป็นเทพที่มีคุณธรรมหนักแน่น..แต่ที่ไหนได้ก็เป็นแค่ไอบ้าโรคจิตคนหนึ่ง.. ”
คล้ายกับว่ามีเสียงบางอย่างแตกก็เป็นเสี่ยงๆคล้ายกับเป็นเสียงของกระจก..หลังจากนั้น กาเบรียลก็เงียบหายไป…
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าอัลเบียร์นั้นมีความงดงามที่น่าดึงดูดและชวนหลงไหลเป็นอย่างมาก..นี่อาจจะเป็นพลังในการล่อลวงศัตรูด้วยเสน่ห์แต่ว่าตอนนี้นั้น…
เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง72 ของโลกมารที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้ำจุนโลกมารและคอยช่วยเหลือราชวงศ์อย่างลับๆกำลังก้มหัวให้กับอัลเบียร์ด้วยความหวาดกลัว…
“ ทะ..ท่านอัลเบียร์เรื่องเมื่อครู่ที่ท่านพูด.. ”
“ ลองเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองเด็กหนุ่มคนนั้นดีๆสิ..พวกเจ้าทั้งหมดนั่นแหละ..เจ้าคิดว่าใครจะสามารถเรียกพวกเจ้ามาได้ถ้าไม่ใช่เชื่อพระวงศ์สายเลือดแท้.. ”
อัลเบียร์พูดขึ้นพร้อมกับสลายแรงกดดันออกไปทั้งหมด…
เหล่าเสาหลักทั้ง 72 ต่างมองไปที่ไป๋หลงก่อนจะกวาดสายตาไปเห็นตรีศูลเทวะปีกดำในมือของไป๋หลง!!!
“ นะ..นั่นมัน!! ”
“ ไม่เป็นไรๆ..ข้าเข้าใจพวกท่านทั้งหมดคงจะคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูไร้พิษสงจะเป็นเชื้อราชวงศ์และเรียกพวกท่านมา…งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกันเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้าจะไม่ใช้ตรีศูลเทวะปีกดำ.. ”
ไป๋หลงเก็บตรีศูลเทวะปีกดำไว้ในห้วงมิติก่อนจะเดินไปหาเหล่าเสาหลักทั้ง 72 คน..
ซึ่งทั้งหมดนั้นรับรู้ได้ในทันทีตั้งแต่ที่เห็นตรีศูลเล่มนั้น..แต่ทว่าไป๋หลงนั้นเมื่อมองภายนอกก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป..แต่ทว่า…
“ สมกับที่เป็นหลานของข้า.. ”
“ ไป๋หลงคิดจะทำอะไร.. ”
“ เจ้ารอดูให้ดี…ข้าคิดว่าข้าเริ่มจะรู้สึกสงสารเสาหลักทั้ง 72 ตนนั่นซะแล้วสิ.. ”
เทียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้กล่าวถามสิ่งใดออกไป…เพียงแค่มองดูต่อไป..
“ ข้าควรจะแสดงให้พวกท่านเห็นสินะ.. ”
ไป๋หลงยิ้มเย็นออกมาก่อนจะค่อยๆปลดปล่อยจิตสังหารที่บ้าคลั่งออกมา!!
ตู้มมม!!!
ถ้าแรงกดดันของอัลเบียร์คือการสะกดข่มและทำให้ศัตรูหวาดหลัว..แรงกดดันของไป๋หลงไม่ได้ใช้สะกดข่มแต่เป็น..
จิตสังหารที่มากพอจะทำลายใจสู้ของอีกฝ่ายได้อย่างย่อยยับ!!!
เหล่าเสาหลักทั้ง 72 พลันใบหน้าซีดเผือดและรู้สึกสั่นกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน…พวกมันนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเกรงกลังต่อสิ่งใด..
ผ่านสนามรบก็มาตั้งมากมาย..แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่น่ากลัวถึงเพียงนี้!!!
ภายนอกที่ดูไร้พิษสงแต่กลับเป็นเพียงเปลือกนอกของนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดแห่งห่วงโซ่อาหาร!! แม้ทั้งหมดนั้นจะมีระดับพลังที่เหนือกว่าไป๋หลง..
แต่จิตสังหารนั้นไม่ใช่..ความรู้สึกของเหล่าเสาหลักที่ตอนนี้รับรู้ได้เหมือนกันก็คือ..คล้ายกับมีเคียวของพญามัจุราชกำลังจ่ออยู่ที่คอของตนราวกับว่าจะถูกช่วงชิงวิญญาณไปได้ชั่วทุกขณะ..ความรู้สึกนั้นก็คือ..
“ ความตาย!!! ”
จบตอน..