เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 378 การรวมตัวของเหล่าสัตว์ประหลาด 1
กาเบรียลที่อยู่ในห้วงจิตของไป๋หลงแสดงสีหน้าเคร่งครึมออกมา…
“ พลังแบบนี้มัน..เบลเซบับ!!! ”
แน่นอนว่ากาเบรียลย่อมสัมผัสได้ถึงเสาแห่งแสงสีเลือดที่น่าสะพรึงนั่นได้เป็นอย่างดี พลังที่สามารถทำให้ทั่วทั้งยุทธภพเกิดความตื่นตระหนกและรู้สึกขนลุกในเวลาเดียว..
เสาแสงนั่นก็เปรียบเสมือนกับการประกาศเริ่มสงคราม!!!
“ สงครามแร็คนาร็อคครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว…”
กาเบรียลกล่าวบอกแก่ไป๋หลง..ซึ่งตัวชายหนุ่มเองในตอนนี้ย่อมทราบถึงสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดี..
“ พวกเราต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด..แสงนั่นดูเหมืิอนว่าจะเป็นสัญญาณของการประกาศสงคราม…”
“ พวกเจ้าไปเถอะ ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ ดูแลตัวเองๆดี ข้าไม่อาจเข้าร่วมสงครามกับเจ้าได้ในตอนนี้..ส่วนหลานสะใภ้เจ้าต้องคอยดูแลเด็กคนนี้ให้ดี นิสัยมุทะลุไม่คิดหน้าคิดหลังอาจจะทำให้เจ้าปวดหัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว.. ”
เทียร์พยักหน้าเหมือนกับลูกนกตัวเล็กๆ..ส่วนทางด้านเซเรฟที่อยู่ในบุคลิกอีกคนหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะสงบเสงี่ยมกว่าเมื่อครู่เป็นร้อยเท่า…กำลังยืนพร้อมกับจ้องมองไปที่แสงสีโลหิตนั่น..
อัลเบียร์เมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็สลายตัวเองกลายเป็นกลุ่มค้างคาวมุ่งหน้าลงทิศใต้เพื่อทำอะไรบางอย่าง..ที่อาจจะส่งผลต่อการต่อสู้ในครั้งนี้..ไม่สิ ถ้าให้เรียกก็คือ ไพ่ตาย ที่ต้องใช้หากฝั่งมนุษย์นั้นเพรี่ยงพร้ำจริงๆ..
“ งั้นพวกเราก็รีบไปจากที่นี่กันเถอะ..แล้วเจ้า.. ”
ไป๋หลงจับมือเทียร์ก่อนจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของตนเองให้อยู่ในร่างของเทพรูปแบบจอมราชันย์ ออร่าสีทองปกคลุมตัวของไป๋หลงในทันที ปีกสีทองอัมพัน1คู่กลางแผ่นหลังถูกสยายออก พร้อมเรือนผมสีดำที่ค่อยๆถูกแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง ส่วนเทียร์ที่ได้สัมผัสกับแสงสว่างของไป๋หลงก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นอย่างชัดเจน..
เซเรฟรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เห็นพลังธาตุแห่งแสงที่ออกมาจากตัวของไป๋หลง เผลอๆความบริสุทธิ์แห่งแสงอาจจะมากกว่าเซเรฟอีกร่างหนึ่งเท่านั้น..
“ พลังแห่งแสงที่อบอุ่นและบริสุทธิ์แบบนี้มัน…จะไปสู้ได้ไงเจ้าบ้าเอ้ย!! ”
เซเรฟเพียงสถบขึ้นในใจก่อนจะตอบรับคำของไป๋หลง..
“ ก็ต้องตามท่านไปอยู่แล้วข้ามีทางเลือกได้อย่างงั้นหรือ.. ถ้าไม่ไปกับท่าน มีหวังข้าถูกชิงร่างพร้อมกับจิตสำนึกไปอีกเป็นแน่แท้และสุดท้ายก็ต้องกลับมาหาท่านด้วยจิตสำนึกของอีกร่างอยู่ดี..เชิญท่านนำทางเถอะ.. ”
ไป๋หลงพยักหน้าตอบรับก่อนจะสยายปีกสีทองกลางแผ่นหลังหนึ่งคู่พร้อมกับอุ้มเทียร์ขึ้นมาอยู่ในมือแกร่งทั้งสองข้าง…เพราะเทียร์ในตอนนี้นั้นไม่อาจตามความเร็วของไป๋หลงได้ทันอีกต่อไปแล้วเมื่อระดับพลังทั้งสองเทียงเคียงกัน..
ตัวของไป๋หลงนั้นมีความเร็วกว่าเทียร์หลายเท่าตัว..เพียงแค่สะบัดปีกสีทองคู่นั้นก็ทำให้บรรยากาศโดยรอบสั่นไหวในทันที..
ตึง!!!
ตัวของไป๋หลงมุ่งตรงไปกลับไปยังที่พัก ทางด้านเซเรฟก็สร้างปีกจากพลังธาตุแสง..ก่อนจะพุ่งทะยานตามไป๋หลงด้วยความเหนื่อยหน่ายและถอนหายใจ..
“ เห้อ..จะเร็วเกินไปแล้วไม่คิดจะรอกันเลยสินะ.. ”
“ ข้าจะช่วยเจ้าเอง..อีกอย่างถ้าเจ้าแพ้ก็เหมือนกับข้าแพ้ไปด้วยมันรู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย.. ”
อยู่ๆพลังของจักรพรรดิ์ธาตุจรัสก็ถูกยกระดับพลังขึ้น ความเร็วในการเคลื่อนไหวบนนภาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คล้ายกับดาวหางสีทอง สองดวงที่กำลังไล่ตามกันไปติดๆ…
เซเรฟย่อมรับรู้เสียงที่ดังก้องขึ้นภายในหัวของตนได้เป็นอย่างดี…
“ ขอบใจ..ถึงข้าจะไม่ต้องการให้เจ้าช่วยข้าก็เถอะ!! ”
“ หึ.. ”
บุคลิกของเซเรฟเพียงส่งเสียงหึในลำคอก่อนจะเงียบหายไป…
ส่วนทางด้านของไป๋หลงที่กำลังอุ้มเทียร์ก็ปลายตาสังเกตเห็นเซเรฟที่ตามมาติดๆ..แม้ตนเองจะยังไม่ได้ใช้ความเร็วทั้งหมด..แต่การที่สามารถติดตามตนมาได้แบบติดๆเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าจักรพรรดิ์จรัสแสงนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่พอสมควร…
“ ไป๋หลง…ศึกในครั้งนี้เจ้าคิดว่ายังไง..เสาแสงสีแดงนั่นแม้พวกเราจะอยู่ห่างจากมันพอสมควรแต่ข้าก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าขนลุก..ถ้าเจ้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น.. ”
เทียร์พูดพร้อมกับตัวสั่นเล็กน้อยคล้ายกับลูกนกที่กำลังโดนฝนจนหนาวสั่น…ตัวของไป๋หลงเองก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าขนลุกออกมาจากเสาแห่งแสงนั่นเช่นเดียวกัน…
ก่อนที่ไป๋หลงมองเข้าไปในนัยต์ตาสีแดงทัมทิมของเทียร์ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นกังวล โศกเศร้า เสียใจอย่างเห็นได้ชัด…ชายหนุ่มที่เห็นเช่นนั้นก็เพียงยิ้มอ่อนออกมา..
“ ไม่เป็นไร..ศึกครั้งนี้พวกเราต้องชนะ..อีกอย่างเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้าไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกนะ..เจ้ากำลังอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวสวรรค์เชียวนะ..ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก.. ”
ชายหนุ่มพยายามพูดติดตลกเพื่อไม่ให้เทียร์นั้นเป็นกังวลจนเกินไป..แต่ดูเหมือนว่าจะมีเทพอยู่ตนหนึ่งที่ แสดงใบหน้าบึ้งตึงออกมาภายในห้องจิตของไป๋หลง…
“ เป็นหนุ่มเป็นสาวนี่ดีจังเลยนะ..ข้าเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาพวกเจ้า..อยู่กับเจ้านานๆแบบนี้ข้าได้ตายพอดีเพราะความหวานของพวกเจ้า!!!.. ”
เสียงที่ดังขึ้นภายในจิตสำนึกของไป๋หลงก็คือเสียงของกาเบรียล…ไป๋หลงที่ได้ยินก็ตอบกลับผ่านห้วงจิตภายในทันที..
“ นี่ท่านเป็นเทพที่อยู่เหนือกว่าท่านตากับท่านลุงของข้าอีกนะ…จะตายเพราะเรื่องแค่นี้อย่างงั้นเหรอ..ว่าก็ว่าเถอะระหว่างนี้ข้าขอถามอะไรท่านสักอย่างได้ไหม.. ”
“ ว่ามาสิ..ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าตอบได้ข้าก็จะตอบ..ข้าก็มีเรื่องอยากจะบอกเจ้าไว้สักหน่อยเช่นกัน..เชิญเจ้าถามข้ามาก่อนได้เลย.. ”
“ ท่านเคยมีความรักมาก่อนหรือไม่…ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและความแข็งแกร่งของท่านข้ามั่นใจเลยว่าต้องมีเหล่าสตรีเทพหลายนางที่ตกหลุมรักท่านเป็นแน่แท้.. ”
กาเบรียลนิ่งเงียบไปขั่วขณะหนึ่งก่อนจะตอบคำถามไป๋หลง..
“ ข้าเคยมี..แต่ตอนนี้นางผู้นั้นได้จากข้าไปไกลแสนไกลแล้วไม่มีทางเลยที่มือคู่นี้ของข้าจะเอื้อมไปถึงนางได้อีก…แม้ข้าจะมีพลังที่มหาศาลแข็งแกร่งเพียงใด..แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไร้ค่าสำหรับข้า..เพียงแค่สตรีนางเดียวข้ายังช่วยนางไว้ไม่ได้..ช่างน่าขบขันซะจริงๆ..”
ด้วยคำง่ายๆสั้นๆแต่ความรู้สึกที่ออกมาจากคำพูดนั้นไป๋หลงสัมผัสได้ถึงความรักและความเศร้าโศกในเวลาเดียวกัน..
“ ข้าขอโทษ.. ”
“ จะขอโทษข้าทำไม..เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..เอาล่ะจบเรื่องคุยเล่นกันเพียงแค่นี้..ระหว่างที่จะถึงที่หมายข้าอยากจะเตือนเจ้าไว้บางอย่างเกี่ยวกับพลังที่เจ้าครอบครองอยู่”
“ คำเตือน? ”
น้ำเสียงของกาเบรียลเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมก่อนจะกล่าวถึงข้อควรระวังของพลังที่ไป๋หลงได้มา..ซึ่งหลังจากที่ไป๋หลงได้ฟังคำเตือนที่กาเบรียลได้บอกมานั้นตัวของชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงชั่วขณะหนึ่ง..
ถ้าหากเป็นอย่างที่กาเบรียลได้บอกมา..อาจจะเป็นไปได้ว่าตัวของไป๋หลงนั้นอาจจะ….เพียงแค่ไป๋หลงนึกคิดก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว…
“ การกลืนกินของพลัง… ”
จบตอน