เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่100 แสดงเจตจำนง 4 จบ
” เปลวเพลิงแห่งอนันตกาลรูปแบบที่1ราชันย์ดับสูญ!!!! ”
เปลวเพลิงแดงทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นมังกรขนาดใหญ่สยายปีกที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเปลวเพิลก่อนจะพุ่งทะยานไปยังปีศาจโลหิต…
ปีศาจโลหิตใบหน้าบิดเบี้ยวในทันทีเพราะพลังตรงหน้าตัวมันสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าตัวมันไม่สามารถตั้งรับกระบวนท่าอันรุนแรงเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน..
” บัดซบ!! เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์แล้ว ” ปีศาจโลหิตสถบออกมาก่อนจะระเบิดท่าร่างหมายจะหลบหนีแต่ถึงกระนั้นกลับมีแรงดึงดูดมหาศาลคอยรั้งเอาไว้และเมื่อมันหันหน้ากลับไปมองไม่กี่ลมอึดใจเปลวเพลิงแดงทมิฬก็กลืนกินร่างปีศาจโลหิต ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโหยหวยออกมามีแต่ความเงียบเท่านั้น..
มังกรเพลิงแดงทมิฬเมื่อบรรลุเป้าหมายของมันแล้วก็พลันสลายหายไปในทันทีเหลือไว้เพียงแค่ร่องลอยความเสียหายบริเวณโดยรอบเท่านั้น..
” ปะป๋าท่านอยู่ไหนกันนะ..เว่ยเว่ยจะไปรอข้างบนนะเพราะลุงแก่ๆที่เคยพูดเมื่อก่อนหน้านี้บอกว่าให้ไปถึง ด้านบนภายใน2วัน แค่ ขึ้นไปข้างบนนั้นก็พอสินะ ปะป๋าอาจจะไปรอ เว่ยเว่ยข้างบนก็ได้ ” เว่ยเว่ยกล่าวกับตนเองพลางเหลือบไปเห็นซากศพที่พลอยโดนผลกระทบก่อนจะผายมือน้อยๆไปข้างหน้าบังเกิดเป็นเปลวเพลิงสีส้มอ่อนแผ่ความอบอุ่นออกมา…
” เปลวเพลิงแห่งอันตกาลรูปแบบที่2 เปลวเพลิงส่งวิญญาณ!! ”
เปลวเพลิงสีส้มอ่อนลอยออกจากมือของเว่ยเว่ยและคลอบคลุมร่างอันไร้ลมหายใจพลางก่อนจะเอ่ยขึ้น..
” เว่ยเว่ยจะนำพาดวงวิญญาณของพวกท่านไปสู่ปรโลกให้เอง..ต่อจากนั้นจะมีผู้พิจรณาว่าพวกท่านจะขึ้นสวรรค์หรือตกนรกอเวจี เว่ยเว่ยช่วยได้เท่านี้ ” เว่ยเว่ยกล่าวจบเปลวเพลิงสีส้มก็เปล่งแสงจ้าออกมาร่างอันไร้ลมหายใจหายไปจนหมดเหลือเพียงแค่เถ้าถ่านเท่านั้น..
เหล่าดวงวิญญาณโดยรอบก้มลงเอาหัวลงก่อนจะสลายหายไปในทันที..
เว่ยเว่ยไม่ได้หันกลับไปมองก่อนจะมุ่งหน้าไปด้านบนภูเขา….
………………………………………….
ยามราตรีมาเยือนเหล่าผู้เข้าทดสอบต่างตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา..และระแวดระวังตัวมากกว่าตอนกลางวันมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว!!
ไป๋หลงตัดสินใจเข้ามาพักในถ้ำแห่งหนึ่งพร้อมกับเก๋อเก๋อที่ติดตามมาด้วยสาเหตุหลักที่ไป๋หลงเลือกมายังถ้ำอันมืดมิดเช่นนี้เพราะว่าคล้ายกับมีบางอย่างดึงดูดไป๋หลงให้มา ณ ที่แห่งนี้..
” เก๋อเก๋อ..เจ้าอยู่ตรงนี้นะอย่าไปไหนเป็นอันขาด ข้าจะสร้างอักขระพื้นที่เอาไว้ทำให้สัตว์อสูรทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของเจ้า ”
ไป๋หลงกล่าวจบก็นำแกนอสูรขั้นกลางออกมาขีดเขียนอักขระขนาดเล็กลงบนแกนอสูรและฝังลงพื้นดินม่านพลังโปร่งใส่ก่อตัวขึ้นก่อนจะปกปิดหน้าปากถ้ำไว้ถ้ามองจากภายนอกจะเห็นเป็นเพียงก้อนหินขนาดใหญ่ปกปิดไว้แต่สามารถมองเห็นจากภายในได้ปกติ…
เป็นอีกศาสตร์แขนงหนึ่งที่ไป๋หลงไม่ถึงกับเชี่ยวชาญแต่พอที่จะใช้งานมันได้เก๋อเก๋อเบิกตากว้างก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง..
” ไม่น่าเชื่อ!! น้อยคนนักที่สามารถใช้รูปแบบอักขระเช่นนี้ได้ข้ามีเรื่องไปเเล่าให้สหายข้าฟังแล้วสิ…เทพสังหารไป๋หลง ความสามารถรอบตัวจริงๆ ข้า เก๋อเก๋อนับถือ ถ้าไม่ติดเรื่องที่เจ้าเคยสังหารข้าไปในบททดสอบแรกละก็ ข้าคงจะชื่นชมเจ้ามากกว่านี้…อีกอย่างเจ้าจะไปไหน? ”
เก๋อเก๋อเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย..
” ข้าจะเข้าไปสำรวจข้างในถ้ำสักหน่อยเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายมาทำร้ายพวกเราได้..ข้าจะรีบมาเจ้าเห็นอะไรภายนอกห้ามออกไปเป็นอันขาดพลังอักขระจะสลายไปในทันที..ไม่ว่าจะเป็นใครอย่าเปิดรับผู้คนภายนอกมาเด็ดขาด..เราไม่สามารถระบุได้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นอสูรหรือปีศาจจำแลงกายมาเพื่อหลอกล่อ ให้เราหลงกลมัน…อีกอย่างเจ้าเห็นอะไรก็ห้ามโคจรพลังออกมาเป็นอันขาด!!! เป็นไปได้ในยามนี้เจ้า ควรเก็บซ่อนพลังเอาไว้ให้ดี อสูรบางตัวมีสัมผัสที่เฉียบคมสามารถสัมผัสอ่อนที่แผ่ออกมาได้เช่นกัน เรื่องที่ข้าจะบอกก็มีแค่นี้ ”
ไป๋หลงกล่าวย้ำเตือนพลางอธิบายด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมจนเก๋อเก๋ออดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์!!!
เก๋อเก๋อนั้นรับรู้ได้ในทันทีว่าถึงตนดื้อรั้นที่จะตามไปแต่คงไม่พ้นที่จะเป็นตัวถ่วงเป็นแน่เเท้เผลอๆอาจจะทำให้ไป๋หลงลำบากมากยิ่งขึ้นหากเกิดเรื่องราวที่ไม่คาดคิด…
” อืมข้าเข้าใจแล้วดูแลตัวเองด้วยข้าจะรอเจ้าอยู่ตรงนี้ ” เก๋อเก๋อกล่าวอย่างว่าง่ายทำให้ไป๋หลงแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็มิได้กล่าวสิ่งใดก่อนจะเดินหายเข้าไปในความืดมิด..
เก๋อเก๋อเมื่อเห็นไป๋หลงเดินหายไปก็ทรุดตัวลงและนั่งกอดเข่าก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง..
” เห้อ..ลืมถามเลยว่าจิวซือ(ตอนที่65) สบาดีหรือไม่น้องข้าเจ้าจะเป็นยังไงบ้างนะ.. ”
……………………………………..
ไป๋หลงเดินลึกเข้ามาสาเหตุที่ไป๋หลงไม่เรียกศาสตร์ตราจิตวิญญาณออกมาหรือแม้แต่เผยปีกออกมาเพราะม่านอักขระน้ำนั้นอันตรายเกินไป แม้เข้ามาพายในถ้ำแล้วก็ตามแต่..ไป๋หลงจะไม่เปิดเผยฝีมือที่แท้จริงออกมาหากไม่ถึงแก่ชีวิต..
ลึกเข้ามาภายในถ้ำบรรยากาศเย็นยะเยือกขึ้นทุกช่วงขณะไป๋หลงไม่สามารถอัญเชิญสัตว์อสูรในพันธะสัญญาออกมาได้ไม่ว่าจะเป็นอสรพิษ7สีหรือแม้แต่หลิงหลุนเองก็ตามเนื่องด้วยกฏในการสอบเข้าครั้งนี้…ไป๋หลงเข้าไปลึกทุกขณะจนมามาถึงทางที่แยกออกไปเป็น2ทางไป๋หลงหลับตาลงและเพ่งสัมผัส พลังที่ดึงดูดไป๋หลงมายังที่นี้กำลังชักนำพาไป๋หลงไปสู่ขุมพลังอันยิ่งใหญ่หรืออันตรายสุดหยั่งถึงกันแน่…
ไป๋หลงตัดสินใจเลือกเส้นทางที่มีพลังบางอย่างที่เบาบางเป็นอย่างมากไม่นานไป๋หลงก็เจอเข้ากับประตูศิลาขนาดใหญ่มหึมาอีกทั้งยังมิใช่ศิลาธรรมดาเป็นศิลาที่ไป๋หลงไม่รู้จัก ข้างประตูมีข้อความบางอย่างเขียนเอาไว้ไป๋หลงเพ่งพินิจก่อนจะพิจรณาข้อความดังกล่าว
” เหล่าผู้แสวงหาพลังเอ๋ย..ตัวเราคือผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกันซึ้งในอดีตกาลตัวเรามุ่งเน้นและแสวงหาพลังมากจนเกินไปเป็นเหตุให้นำภัยมาสู่ตัวเราเองแม้เราจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด..แต่ยังไงตัวเราก็เป็นแค่มนุษย์คนนึงเท่านั้นก่อนที่ตัวเราจะหมดลมหายใจตัวเราได้สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง…ภายหลังประตูศิลาบานนี้คือศาสตร์เทพชิ้นหนึ่งที่เราได้สร้างขึ้นเลียนแบบอาวุธของเทพที่เรานั้นเคยประมือด้วย ถึงยังไงก็เป็นเพียงแค่ของเลียนแบบเท่านั้น..ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถครอบครองได้ง่ายอย่างที่คิด..ขอเตือนครั้งสุดท้าย ผู้ที่จิตใจไม่บริสุทธิ์ แสวงหาแต่ขุมพลังอย่างเดียวแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ออก!! จงหันหลังกลับไปบัดเดี๋ยวนี้ แต่หากต้องการพลังเพื่อปกป้องจงก้าวเข้ามา!! ตัวเรานั้นเคยทำผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง..จงอย่าทำผิดเฉกเช่นเดียวกับเราในอดีต เมื่อยามช่วยเหลือได้แต่ไม่ช่วยเหลือยึดกฏเกณฑ์และเคารพในกฏนั้นสุดท้ายมันคือเส้นทางที่ผิด..สิ่งที่เจ้าคิดอาจจะถูกหรือผิดไม่มีใครรู้ตัวเจ้าเองเท่านั้นถึงจะรู้เอาละ…ผู้ที่คู่ควรแก่พลังแห่งข้าจงก้าวเข้ามา ตัวเราที่ได้รับการขนานนามว่า เทพแห่งการทำลาย เห่ยเจี้ย!! ขอฟังเจตจำนงที่แท้จริงของเจ้าว่ามาเพื่อสิ่งใด? ”
ไป๋หลงอ่านข้อความมาจนจบก็รู้สึกได้ถึงความเศร้าในคำพูดก่อนที่ไป๋หลงจะก็ฉายแววตาอันแน่วแน่และกล่าวขึ้น..
” ตัวข้าไป๋หลง หาได้แสวงหาพลังเพื่อทำลายแต่เพื่อปกป้องหากผู้ใดขัดขวางข้าจะทำลายพวกมันให้สิ้นซาก…แม้ในยามนี้หลายคนอาจจะมองว่าข้าแข็งแกร่งแต่ป่าวเลยตัวข้าในยามนี้อ่อนหัดยิ่งนัก!!!..เพื่อการนั้นข้าจึงแสวงหาพลังข้าขอให้สัตย์สาบาน พลังที่ได้รับมามิใช่เพื่อข้าแต่เพื่อคนที่ข้าต้องการจะปกป้องหากข้ากล่าวโป้ปดในเรื่องที่กล่าวมาตัวข้ายินดีน้อมรับความตาย!!! ”
ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างยึดมั่นเพราะเป้าหมายที่ไป๋หลงมีในยามนี้คือเพิ่มพูนความแข็งแกร่งและนำบางสิ่งที่เป็นของบิดาตนกลับมา!!
ครืน!!
ประตูศิลาเปิดออกในบัดดลราวกับรับรู้ถึงเจตนที่แท้จริงของไป๋หลง..ไป๋หลงไม่รอช้าเดินเข้าไปภายในทันทีก่อนประตูศิลาจะปิดลง..
ตึง!!