เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่101 จักรพรรดิเงา 1
เวลาผ่านไปจนถึงรุ่งเช้านั้นก็หมายความว่าเวลาในการสอบเหลืออีกแค่1วันเท่านั้นเหล่าผู้เข้าสอบต่างรีบมุ่งหน้าไปสู่ยอดเขา สมุนไพรต่างๆถูกเก็บเกี่ยวไปพอสมควรแต่ ณ ตอนนี้ไม่มีชื่อของใครกระพิบเป็นสีทองแม้แต่น้อย…
อู้เฉียงในยามนี้สามารถเอาตัวรอดด้วยพลังของตัวเองได้และทำการยกระดับพลังตัวเองขึ้นมาได้เพราะพบเจอกับโชควาสนาอย่าง สมุนไพรเก้าจันทรา!! สามารถยกระดับแบบก้าวกระโดดได้ในทันที ผลข้างเคียงก็คือ ไม่สามารถทำการยกระดับพลังได้อีกภายในครึ่งปี แต่ปัญหานี้ไม่ค่อยจะมีผลกับอู้เฉียงสักเท่าไหร่.. อู้เฉียงในยามนี้ใกล้ถึงยอดเขาขึ้นทุกขณะ..
” ไป๋หลงขอให้เจ้าปลอดภัยก็แล้วกัน ” อู้เฉียงกล่าวพึมพำก่อนจะมุ่งหน้าสู่ยอดเขา..
ภายในถ้ำ…
เก๋อเก๋อลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ..
” นี้ข้าเผลอหลับไปรึเนี้ย…แล้วไป๋หลงละ? ” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นพลางวิตกตกังวล..
เก๋อเก๋อกำลังจะมุ่งตรงเข้าไปในถ้ำเพราะอาจะเกิดเรื่องขึ้นกับไป๋หลงขณะนั้นเองก็มีบางคนเดินออกมาในสภาพเลือดท้วมตัวบาดแผลสาหัสมากเส้นผมยุ่งกระเซอ โลหิตสีแดงไหลหยดเป็นทาง แต่ใบหน้ากลับประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม..
” ปะ..ไป๋หลงเจ้าไปเจอกับอะไรมากันแน่!! ” เก๋อเก๋อกล่าวจบก็เข้าไปพยุงไป๋หลงให้นั่งลงพลางสำรวจบาดแผล..
” บาดแผลเจ้าสาหัสมาก!! กระดูกซี่โครงร้าว!! ขาข้างขวาหัก!! ไหปลาร้าของเจ้าเกิดรอบร้าว!!เพราะกระทบกับบางสิ่งอย่างรุ่นแรงพลังภายในของเจ้าปั่นป่วนไปหมด!! ”
เก๋อเก๋อกล่าวด้วยใบหน้าขาวซีดและเพียงส่งพลังเข้าไปสำรวจเพียงน้อยนิดเท่านั้นซึ้งการจะทำเช่นนี้ได้ต้องเชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์ระดับสูง!!
” เจ้าเป็นหมอรึไงกัน? ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้น
” ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงบาดแผลเจ้าสาหัสเกินไปแล้ว!! เจ้าไปเจอกับอะไรมาทั้งคืน!! ” เก๋อเก๋อกล่าวออกมาด้วยความสงสัยและเป็นห่วงเป็นใย..
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาอย่างมีเลศนัย..
” ไม่ใช่ไปเจอกับอะไรมา..แต่ได้บางอย่างกลับมาต่างหาก!! อีกอย่างเรื่องบาดแผลเจ้าไม่ต้องห่วงร่างกายข้าสามารถฟื้นฟูได้ในเวลาเพียงไม่นานกับเม็ดยาสมุนไพรที่ข้ามีติดตัวไม่เกินครึ่งวันบาดแผลของข้าก็จะหายเป็นปกติ..”
ไป๋หลงกล่าวด้วยท่าทีสบายๆเพราะสาเหตุหลักที่ไป๋หลงฟื้นฟูตัวได้เร็วเพราะมีเชื้อของเผ่าเทพและเผ่ามารอยู่ในตัวไป๋หลงคอยเกื้อหนุนกันหรือที่เรียกกันสั้นว่า สายเลือดผสม!!
ซึ้งสายเลือดผสมนั้นมีให้เจอได้ในยุทธภพแต่จะไม่ค่อยทราบว่าใครคือสายเลือดผสมเช่นต๋าเฉิง( ตอนที่ 92 ) ต๋าเฉิงเป็น ครึ่งมารกับอสูร ซึ้งนี้ก็เป็นสายเลือดผสมเช่นกัน แต่ไป๋หลงนั้นกรณีพิเศษที่ยากมากที่จะเกิดขึ้นหรือแม้แต่จะไม่เกิดขึ้นเลยเว้นก็แต่เพียงไป๋หลงผู้เดียวเท่านั้น…
เก๋อเก๋อได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่ทันที…
” พูดเป็นเรื่องตลกไปได้..ข้าไม่เชื่อ!! มนุษย์ที่ไหนจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็วปานนั้น ” เก๋อเก๋อกล่าวออกมาก่อนจะเช็ดเลือดที่เปื้อนตามตัวของไป๋หลง..
” ถ้าเจ้าไม่เชื่อ..ก็ลองส่งพลังเข้าไปตรวจสอบภายในร่างกายข้าสิว่าตอนนี้เป็นไร? แล้วใครบอกว่าข้าเป็นมนุษย์กันละ ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบาของท้ายประโยตทำให้เก๋อเก๋อมิอาจได้ยินถ้อยคำนั้นได้ สิ่งที่ไป๋หลงกล่าวออกมาเป็นการเปรียบเสมือนท้าทายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เก๋อจับข้อมือของไป๋หลงก่อนจะส่งพลังเข้าไปตรวจสอบภายในก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งตัวและเบิกตากว้างออกมา..
” นะ..นี้มันเป็นไปไม่ได้อวัยวะต่างๆกำลังฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว กระดูกซี่โครงกำลังรักษาตัวเองรวมไปถึง ส่วนอื่นๆด้วยเช่นกัน!! ”
” ก็ข้าบอกเจ้าแล้ว ” ไป๋หลงกล่าวพลางยกยิ้มออกมาแต่เมื่อนึกถึงอาวุธชิ้นนั้นกลับทำให้ไป๋หลงเสียวสันหลังในทันที เป็นอาวุธที่ไป๋หลงยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้าของมันโดยสมบูณ์หรือไม่…
………………………………………………
สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังชื่อ ชื่อนึงที่กำลังกระพริบเป็นสีทองและเลือนหายไปซึ้งชื่อที่ปรากฏนั้นเป็นชื่อของไป๋หลงนั่นเอง..
” ชะ..ชื่อเป็นสีทองไม่ผิดแน่สมบัติของ ท่าน เห่ยเจี้ย ถูกค้นพบอีกชิ้นแล้ว!!! ”
” แม่เจ้าโว้ย!! คนที่ชื่อไป๋หลงมีโชควาสนาถึงเพียงใดกันที่สามารถครอบครองหนึ่งในของวิเศษผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่าน เห่ยเจี้ย จะเป็นของวิเศษแบบไหนกันนะ ”
เสียงของเหล่าผู้ชมต่างกล่าวกันอย่างสนุกปากแต่ก็ยังมีกลุ่มที่อิจฉาริษยาอยู่เช่นกัน…
องค์จักรพรรดิ์แห่งทวีปมืด ซ้วนตี้เองก็อดที่จะชื่นชมในความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่ลึกๆถึงแม้จะไม่เคยพบเจอก็ตาม..
ทางด้านผู้อาวุโสชุดดำ ใบหน้ายิ้มเบิกบานออกมาเป็นรอยยิ้มชราที่ดูอบอุ่น..
” พวกเจ้ามากับข้าไปรอ เจ้าหนูนั่นข้างบนกัน!! ” ผู้อาวุโสชุดดำกล่าวจบก็หยิบหยกออกมาชิ้นนึงก่อนจะกล่าวบางอย่างก่อนที่ร่างจะหายไปและไปโผล่ ณ บนยอดเขา…
เหล่าศิษย์ต่างสงสัยในฉับพลันเหลือเวลาอีก1วันแท้ๆกลับทำราวกับว่าเด็กหนุ่มนั่นจะขึ้นมาได้ก่อนเวลาที่กำหนด!!ทั้งๆที่เป็นเรื่อวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ..
………………………………………………………….
ไป๋หลงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ใหม่ซึ้งถูดจัดเตรียมไว้หลายชุดในแหวนมิติ หลังจากนั้นไป๋หลงก็ได้รู้ว่า เก๋อเก๋อกับจิวซือเป็นพี่น้องกันแต่อยู่กันคนละฝ่าย เก๋อเก๋ออยู่ฝ่ายพ่อ จิวซืออยู่ฝ่ายแม่ทำให้ทั้งสองต้องแยกกันเพราะเหตุผลทางบ้าน…
” ไม่น่าเชื่อเจ้ากับจิวซือเป็นพี่น้องกัน…นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวน้องเจ้ายังดูสุขุมหนักแน่นกว่าเจ้าด้วยซ้ำ” ไป๋หลงกล่าวพลางพยามกั้นหัวเราะเมื่อสองคนนี้มาเทียบกันไม่มีส่วนใดเลยที่เหมือนเป็นพี่น้องกันเว้นก็แต่เพียงหน้าตาเท่านั้น…
” นี้เจ้า..เอาเถอะอยากจะพูดอะไรก็พูดไปว่าแต่ว่าเจ้าไม่เป็นห่วงสหายเจ้ารึยังไงกัน? ” เก๋อเก๋อเอ่ยถามขึ้นเพราะคราแรกที่ไป๋หลงบอกว่าพลัดหลงกับสหายถ้าบอกว่ามาคนเดียวคงดูน่าเชื่อถือกว่านี้..
” พวกนั้นเอาตัวรอดได้แน่นอน..เอาเป็นว่า พรุ้งนี้ ก่อนพระอาทิตย์ตกเย็นคือวันสุดท้ายดูจากเส้นทางเราคงอยู่ไม่ไกล เราจะออกเดินทางกันตอนต่ำเพราะ จะไม่เป็นที่เพ่งเล็งและสามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย ขอเพียงอย่าไปเจอกับอสูรที่มีสัมผัสเฉียบคมก็คงพอ!! ” ไป๋หลงกล่าวบอกพลางปรับพลังให้เข้าที่หลังจากที่ผ่านศึกอันดุเดือดมา..หรือจะเรียกว่าโดนยำอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า..
เก๋อเก๋อเห็นด้วยกับไป๋หลงจึงนั่งคุยเรื่องทั่วไปและการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆเก๋อเก๋อรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากตนนั้นเป็นพวกที่เข้าหากับบรุษได้ยากแต่กับไป๋หลงมันกลับพิเศษยิ่งกว่า..
จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนค่ำเก๋อเก๋อและไป๋หลงออกจากถ้ำก่อนจะทะยานร่างไปบนกิ่งไม้อย่างรวดเร็วระหว่างทางเจอพวกอสูรและมารนอกรีต…รวมถึงอาชญากรร้ายแรงที่เป็นมนุษย์ด้วย ระหว่างนั้นไป๋หลงเห็นซากศพของเหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างนอนกันเกลื่อนกราดข้างล่าง…แต่ไป๋หลงกลับฉายแววตาที่เรียบเฉยออกมา ผิดกับเก๋อเก๋อที่ทำหน้าจะอาเจียนตลอดเวลาเมื่อเห็นภาพอันโหดร้ายด้านล่าง..
หากจะพูดว่าการเข้ามาสอบเปลี่ยนเป็นการเดินข้ามาตายยังจะฟังขึ้นหูกว่าเป็นกองขณะนั้นเองมีบางอย่างพุ่งมาด้วยความเร็วสูงจากพื้นดินโจมตีใส่ไป๋หลงอย่างฉับพลัน..
ไป๋หลงมิอาจสัมผัสได้ถึงการโจมตีนั้นก่อนจะโดนโจมตีเข้าอย่างจังแต่โชคดีที่ไป๋หลงสามารถเข้นพลังออกมาคุ้มกันได้บางส่วน…
” บัดซบ!! ” ไป๋หลงสถบออกมาก่อนจะโดนพลังลึกลับบางอย่างเล่นงานเข้าอย่างจัง…
ตู้มมมม!!
เก๋อเก๋อตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะมุ่งลงข้างล่างเพื่อไปช่วยไป๋หลงในทันที….
ไป๋หลงสั่นสะท้านในทันทีเพราะพลังเมื่อกี้เห็นได้ชัดถูกยั้งเอาไว้ มิฉะนั้น ความเสียหายคงจะมากกว่านี้..
” ไป๋หลงเจ้าเป็นอะไรบ้าง!! ” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นด้วยความร้อนรน
ไป๋หลงส่ายหน้าก่อนจะยืนขึ้นฉายแววตาแข็งกร้าวออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น…
” หนีไป!! รีบมุ่งหน้าไปบนยอดเขาเดี๋ยวนี้ข้าจะรีบตามไป ”
เก๋อเก๋อได้ยินเช่นนั้นก็เตรียมจะกล่าวออกมา…
” แต่… ”
” ไม่มีแต่!! รีบไป ”
ไป๋หลงประกาศกร้าวขึ้นพร้อมกับจิตสังหารที่พุ่งพล่านออกมา..
เก๋อเก๋อใบหน้าขาวซีดในบัดดลก่อนจะทะยานร่างไปตามที่ไป๋หลงบอกเก๋อเก๋อมุ่งหน้าไปบนยอดเขาในทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือถึงแม้จะเป็นหนทางที่ริบหลี่ก็ตาม…
” เจ้าเป็นใคร!! ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาแววตาสีแดงฉายแววดุดันออกมาและปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างไม่ปิดบัง…
ทันใดนั้นก็มีชายชราเดินมาพร้อมกับถือไหเหล้ามาด้วยชายชราเหลียวมองไป๋หลงก่อนจะกระดกเหล้ากินอย่างเบิกบาน!!!
” หึๆๆ..ไม่เลวแววตาเยี่ยม!! จิตสังหารเยี่ยมยอด!! ระดับพลังพอไปวัดไปวาได้..โอ้วทูท่าเจ้าจะพกเหล้าชั้นดีมาด้วยภายในแหวนมิตินิ เอาออกมาๆ ของดีๆมีไม่กินตอนนี้จะกินตอนไหนเล่า…ลดจิตสังหารลงได้แล้วไอหนู ถ้าข้าตั้งใจจะสังหารเจ้าจริงๆ เจ้าคงไม่ได้มายืนมองข้าอยู่แบบนี้หรอก ”
ไป๋หลงระเบิดพลังออกมาก่อนจะเเค่นเสียงเย็นชา..
” ข้าถามว่าท่านเป็นใครกันแน่!! ”
ชายชราถลึงตาใส่ก่อนจะส่ายหน้าออกมาพลางเบื่อหน่าย..
” ไอหนูมานี้!! ”
ชายชรากล่าวจบก็มีพลังบางอย่างฉุดดึงไป๋หลงอย่างรุนแรงจนห่างกันเพียงไม่กี่ก้าวสร้างความตกตะลึงให้กับไป๋หลงเป็นอย่างมาก
” กะ..เกิดอะไรขึ้นร่างกายข้าขยับไปเองได้ยังไง!! ”
” ผิดแล้วแต่เป็นเงาต่างหาก!! ” ชายชราเอ่ยพลางยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย
………………………………………………………………..
บนยอดเขา……..
” เกิดอะไรขึ้น? นี้มันผิดสังเกตุเกินไป เด็กนั่นไม่น่าจะช้าได้ขนาดนี้ ” ผู้อาวุโสชุดดำกล่าวขึ้น..
ทันใดนั้นศิษย์ที่ตามมาด้วยเรียกอาจารย์ก่อนจะชี้ไปยังภาพน้ำอักขระ..
” อาจารย์ดูนั่น!!! ”
เมื่อผู้อาวุโสเมื่อเงยหน้าขึ้นไปพลันระเบิดพลังออกมาจนศิษย์รอบข้างพลอยได้รับผลกระทบไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล…
” จักรพรรดิ์เงา!!! ”