เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่107 จอมมารและจักรพรรดิมาร
ไป๋หลงตั้งจิตสงบก่อนจะดึงดาบเล่มนึงออกมาจากความว่างเปล่าตัวดาบมีละอองแสงสีขาวปกคลุมทั่วตัวดาบไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงได้…ศาสตร์ตราจิตวิญญาณ!!! นี้ชื่อเดิมของมันเหล่าเทพบนสรวงสวรรค์ยังต้องก้มหัว เหล่ามารปีศาจยังพากันหลีกหนี…
” ดาบแห่งการพิชิต!!! ”
ซึ้งแน่นอนว่าดาบศาสตร์ตราจิตวิญญาณเล่มนี้…เคยเป็นของราฟาเอล ที่เคยถูกขนานนามว่าเทพแห่งความรักและการทำลาย..บัดนี้ดาบเล่มนั้นได้อยู่ในมือของไป๋หลงเปล่งรัศมีศักดิ์สิทธิ์ออกมา..
ไป๋หลงตหวัดดาบผ่าเปลวเพลิงสีม่วง!!! เพลิงสีม่วงเมื่อถูกดาบเล่มนี้ตัดผ่านเปลวเพลิงสีม่วงก็สลายหายไปในทันที..ราชันย์มังกรเพลิงขมวดคิ้วแนบแน่นแต่ก็ไม่สามารถทราบได้ก่อนจะถอนหายใจออกมา…
” ดาบเล่มนั้นมัน…เอาเถอะถือว่าข้าสามารถฝากลูกของเราไว้กับเจ้าก็แล้วกันเราจะกลับไปยังอาณาจักรของเราเมื่อตัวเจ้าคิดว่าถึงเวลาจงมาหาเราที่แห่งนั้น… ”
ไป๋หลงล้มลงถอนหายใจหนักหน่วงก่อนก่อนที่ดาบเล่มนั้นจะสลายกลับไปอยู่ในดวงจิตเช่นเดิม..
” เอาละข้าต้องไปแล้ว..ระวังจอมมาร!!!เอาไว้ให้ดีตัวมันแฝงเข้ามายังสถาบันแห่งนี้แล้ว ” ราชันย์มังกรเพลิงในร่างสตีรเอ่ยขึ้นราวกับเป็นการเตือนบางอย่าง..
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย..
” จอมมาร คืออะไรทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนแล้วมันมีจุดประสงค์อันใด? ”
ราชันย์มังกรเพลิงได้ยินเช่นนั้นก่อนจะส่ายหน้าพลางถอนหายใจออกมา..
” ข้าไม่รู้จุดประสงค์ของมัน..แต่ตอนที่ข้าใช้เพียงแค่ร่างจิตมาเท่านั้นข้าสัมผัสถึงกลุ่มก้อนพลังที่น่ารังเกียจมันอยู่ในรูปลักษณ์ของชายชราผู้หนึ่ง…อีกย่างจอมมารคือ ผู้ปกครองย่อยในเผ่ามารเป็นผู้ปกครองตามเมืองต่างๆ และอยู่สูงขึ้นไปคือ จักรพรรดิ์มาร!! มีหน้าที่สำคัญไม่ต่างจาก เสาหลักทั้ง72ตนในโลกมาร ต่างกันเพียงแค่ จักรพรรดิ์มารมีอิสระในการเคลื่อนไหวต่างจาก72เสาหลัก..จะไม่สามารถเคลื่อนไหวตามใจชอบได้..ต้องรอฟังคำสั่งจากเทพมาร!!! เท่านั้น ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมา…
” ไม่แปลกที่คนทั่วไปจะไม่รู้เพราะ จอมมารนั้นเป็นนามที่โลกภายนอกไม่รู้จักแต่ในโลกมารนั้นย่อมเป็นที่น่าเกรงขามและหวาดหวั่น!!!! ยิ่งจักรพรรดิ์มาร ย่อมไม่ต้องพูดถึงว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน..แม้แต่ข้าก็มีความมั่นใจเพียง8ใน10ส่วนเท่านั้นที่จะชนะหากปะทะกันซึ้งๆหน้าโดยไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง…แต่พวกมันเล่ห์เหลี่ยมร้อยเลห์เพทุบาย..เพราะแบบนั้นข้าจึงอยากพาลูกของข้ากลับไปแต่..เจ้าพิสูจน์ให้ข้าเห็นข้าจะเชื่อใจเจ้าก็แล้วกัน.. ”
ไป๋หลงโค้งตัวลงก่อนจะประสานมือก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันแน่วแน่…
” ข้าไป๋หลงขอใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน!!! ”
ราชันย์มังกรเพลิงปริยิ้มอันอ่อนหวานออกมาขณะหนึ่งก่อนที่ร่างจะสลายไปและพูดทิ้งท่ายไว้..
” เราจะรอในวันที่ท่านคู่ควร..จอมราชันย์แห่งเรา!!! อีกอย่างเจ้าแมวนิสัยโง่กับนกน้อย ข้าหวังให้พวกเจ้าช่วยเหลือเกื้อหนุนราชันย์แห่งเราอยู่ ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็แววตาเปล่งประกายออกมา..แต่ก่อนหน้านั้น..
” ห๊าาา!!!เจ้าว่าใครโง่เป็นแค่มังกรริอาจมาหยามพยัคฆ์อย่างข้า…แน่จริงก็อย่าหายไปสิมาสู้กันข้าจะแสดงให้เห็นว่าทำไมข้าถึงได้ชื่อว่าพยัคฆ์สวรรค์…เหอะหายไปได้ก็ดีเจอครั้งหน้าข้าจะถล่มอาณาจักรของเจ้าให้หมด ฮ่าๆๆๆ ”
หลิงหลุนกล่าวออกมาอย่างสนุกปากก่อนจะเงียบหายไป….ไม่นานเหล่าอาจารย์ต่างมาที่ห้องรับรองของไป๋หลงซึ้งสภาพห้องคล้ายกับเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นแต่ความจริงมันควรจะเป็นเช่นนั้น..แต่ราชันย์มังกรเพลิงได้ย้อนเวลาในห้องกลับไปอยู่ในสภาพเดิมก่อนจะจากไป!!!
ไป๋หลงจึงเอ่ยไปว่าฝึกวิชาผิดพลาดทำให้เกิดเสียงดังเช่นนั้นเหล่าผู้อาวุโสต่างพยัคหน้าตอบรับเพราะบุคคลตรงหน้านั้นคือไป๋หลงผู้ที่ได้900คะแนนในการอบแข่งขันและยังได้ของวิเศษจากที่แห่งนั้นด้วยจึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่แสวงหาความแข็งแกร่ง..
” เอ่อ…ของวิเศษที่เจ้าได้มาคืออะไรบอกข้าได้หรือไม่ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป? ” หนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้น
เหล่าคณาจารย์และเหล่าผู้อาวุโสต่างอดไม่ได้ที่จะใช้สายตาจิกไปยังผู้อาวุโสที่กล่าวถาม..
” ข้าต้องขอประทานท่านด้วย..ข้ามิอาจบอกได้จริงๆ ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
” ไม่เป็นไรข้าเข้าใจ…อีกอย่างพรุ้งนี้จะเป็นวันที่เหล่าศิษย์ใหม่จะเลือกสายการเข้าเรียน..เจ้าคิดไว้แล้วยังว่าจะเข้าเป็น ศิษย์ สายนอก สายใน หรือสายหลัก ” ผู้อาวุโสที่ดูทรงภูมิเอ่ยขึ้น
ไป๋หลงเพียงปริยิ้มอ่อนออกมาก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยความเคารพ..
” ข้าจะเข้าเป็นศิษย์สายนอกขอรับ!!! ”
ผู้อาวุโสได้ยินเช่นนั้นก็มิได้แปลกใจกับสิ่งที่ไป๋หลงเอ่ยขึ้น..
” ข้าเข้าใจแล้วเอาเป็นว่าขอให้เจ้าโชคดี..พวกท่านทั้งหลายพวกเรายังเหลืองานต้อนรับศิษย์ใหม่อีกนะ ไปจัดการกันได้แล้ว.. ”
ไม่นานเหล่าผู้อาวุโสก็จากไป..อู้เฉียงและเว่ยเว่ยก็กลับมาพอดียังไม่ทันทีไป๋หลงจะได้เอ่ยสิ่งใด หลิงหลุนก็จำแลงร่างเป็นแมวตัวสีขาวสลับดำมาเกาะที่บ่นบ่าของไป๋หลง..
” นี้ๆ เจ้านกน้อย!! ออกมาคุยกับข้าหน่อย..ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอก ” หลิงหลุนเอ่ยเรียก เฟิงหวงที่อยู่ภายในดวงจิตของอู้เฉียง ก่อนที่เฟิงหวงจะจำแลงร่างเป็นนกฟินิกซ์ขนาดเล็กมาเกาะที่ไหล่อู้เฉัยงเช่นกัน
” มีอะไรรึเจ้าแมวน้อย..ที่เรียกข้าออกมาเช่นนี้ ”
หลิงหลุนแสยะยิ้มในร่างแมวน้อยก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสลด…
” เมื่อกี้ตอนที่เจ้าออกไปมีมังกรปากเสียตัวนึงเอ่ยวาจาดูถูกเจ้ากับข้า..มังกรตัวนั้นันบอกว่าเจ้าเป็นนกขี้เรื้อนสติปัญญาไม่สมประกอบ…ข้าก็โดนดูถูกเช่นกันข้ายอมไม่ได้แต่ก็มิอาจทำอะไรมันได้เพราะมันเป็นแค่ร่างจำแลงข้าสาบานว่า..ข้าจะไปถล่มอาณาจักรของมัน ก่อนที่มันจะหายไป.. ”
เฟิงหวงได้ยินเช่นก็แววตาลุกเป็นไฟเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ…
” มันอยู่ที่ไหนข้าจะไปเผามันด้วยไฟโลกันต์!! ”
หลิงหลุนได้ยินเช่นนั้นก็แปลเปลี่ยนน้ำเสียงในทันที..
” ข้าและเจ้าร่วมมือกัน..รับรองว่ามันต้องกลัวหัวหดเป็นแน่ ”
เฟิงหวงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขอบคุณออกมา…
” ขอบใจเจ้ามากที่ไม่ปล่อยให้เกียรติยศของข้าต้องเสื่อมเสีย ”
ไป๋หลงได้ยินถึงกับมือกุมขมับ..ส่วนเว่ยเว่ยและอู้เฉียงยังไม่เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
……………………………………………
ไม่นานเช้าวันใหม่ก็มาถึง การต่อสู้อันดุเดือดภายในสถาบันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น….