เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่11 ปะทะ
หลังจากไป๋หลงมาหน้าถึงตระกูลชิน ก็มีพวกทหารยามที่รักษาการอยู่เข้ามาถาม
” พวกเจ้า เป็นใครมีธุระอะไรกับตระกูลชิน “ทหารยามนายหนึ่งจ้องมองมาที่ไป๋หลงด้วยความดูถูกเพราะเสื้อผ้าที่ใส่และหน้ากากอสูรทำให้ทหารยามต่างมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ไป๋หลงไม่ได้สนใจกับสายตาเหล่านั้นแม้แต่น้อย รวมทั้งมู่จินและมู่หลานตอนนี้กำลังเดือดดาลที่มีคนใช้สายตาแบบนี้มองมาที่นายน้อยของตน แต่ก็ต้องข่มความโกรธนี้ไว้
“ข้ามาหาผู้นำตระกูลชิน!! ” ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่ทหารเหล่านั้นได้ยินสิ่งที่ไป๋หลงพวกมันต่างพากันหัวเราะเยอะ
” ฮ่าๆๆ คนอย่างเจ้าเนี้ยนะจะมาพบกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ” ทหารยามนายหนึ่งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แต่ไป๋หลงหาได้สนใจไม่
“ข้าจะพบแล้วจะทำไม? ” ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆสร้างความไม่พอใจแก่พวกทหาร
” นี้เจ้า กล้าพูดกับพวกข้าจนนี้ไม่กลัวตายรึ!! ” น้ำเสียงของทหารนายหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล
” คำพูดนี้มันเหมาะสำหรับพวกเจ้ามากกว่า ถ้ายังไม่หลีกข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งหมด” ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
” ฮ่าๆ คนชั้… ” ทหารนายนั้นพูดไม่ทันจบก็โดนมู่จินที่ทนไม่ไหวใช้ดาบตัดหัวของทหารนายนั้น จนเลือด พุ่งกระฉูดไปทั่วสร้างความตกตะลึงและเคียดแค้น ไป๋หลงเป็นอย่างมาก
” จะ เจ้ากะ กล้ามากที่ทำกับคนของตระกูลชินพวกเจ้าไม่ได้ตายดีแน่” นายทหารคนนั้นกล่าวจบก็วิ่งเข้าไปรายงายเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับชินหลงที่เป็นผู้นำตระกูลทันที
” ทะ ท่านผู้นำตระกูลมีคนมาท่านและได้สังหารคนของเราไปแล้ว1คนท่านได้โปรดล้างแค้นให้กับพวกข้าด้วย” ทหารยามนายนั้นกล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
“อะไรน่ะ!! นี่เจ้าบอกว่ามีคนมาสังหารคนของข้าอย่างงั้นรึ มันเป็นใคร พาข้าไปหามันเดี๋ยวนี้ ส่วนท่านบอกให้ผู้อาวุโสทั้ง6และคนของตระกูลของเราเตรียมพร้อมไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
“ข้าทราบแล้วท่านชินหลงโปรดวางใจ ” ชายชรายกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
ชินหลงเดินตาม ทหารยามนายนั้นมาถึงหน้าประตูก็เจอกับไป๋หลง มู่จินและมู่หลาน ที่ ยืนรอตนอยู่แบบไม่สะทกสะท้าน
“พวกเจ้า3คนกล้าดียังไงมาสังหารคนของข้า!! ” ชินหลงกล่าวด้วยความเดือดดาลก่อนจะระเบิดพลังระดับจักรพรรดิออกมา
ตู้มม!!
พลังระดับจักรพรรดิ ขั้นที่1 ระเบิดออกมาสร้างความกดดันให้ทหารยามบริเวณนั้นกระอักเลือดออกมาเพราะทนแรงกดดันเพราะความต่างชั้นของพลังไม่ไหว ชินหลงมองทั้ง3 คนด้วยสายตาตกตะลึงที่ทั้งสามคนไม่โดนผลกระทบจากแรงกดดัน แถมยังไม่สามารถตรวจสอบพลังของทั้ง3คนได้
” พวกเจ้าเป็นใครที่มาหาเรื่องตระกูลข้า ” ชินหลงกล่าวด้วยความเดือดดาล
” หาเรื่อง ? หึ ใครกันแน่ที่หาเรื่อง ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา
ชินหลงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเพราะความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม
“ข้าไปหาเรื่องพวกเจ้าตอนไหนกัน ” ชินหลงตอบออกมาด้วยความสงสัย
“ถ้ายังไม่รู้ข้าจะบอกให้ คืนสัตว์อสูรทุกตนที่เจ้าจับมาจากป่าอสูรทั้งหมดก่อนที่ตระกูลเจ้าจะล่มสลาย
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา ชินหลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ระเบิดพลังออกมาด้วยความโกรธ
ตู้มมม!!
“จะทำให้ตระกูลข้าล่มสลายงั้นรึน่าขำสิ้นดี ส่วนพวกสัตว์อสูรมันก็แค่พวกที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ ข้าก็แค่นำมันมาใช้ประโยชน์เท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ เหตุใดข้าต้องทำตามที่เจ้าบอก ฝันไปเถอะ ” ชินหลงกล่าวออกมาด้วยความเยอะเย้ย
“ได้ในเมื่อเจ้าเลือกแบบนี้ข้าก็จะสนองให้ อ้อ อีกอย่าง เจ้ารู้จักชินจ้าวใช่หรือไม่!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา พลางมองไปที่ใบหน้าของชินหลงที่ตอนนี้ เริ่มสับสน
“ทำไมเจ้ารู้จักบุตรของข้า หรือว่าเจ้าเอาเขาไปซ่อนไว้ ” ชินหลงกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาล
” ฮ่าๆๆ ซ่อนงั้นรึ มันกล้ามากที่ทำร้ายสหายข้าและเกือบจะทำสำเร็จแต่เสียดายที่มันยังไม่ได้ทำสำเร็จเพราะข้าไปเจอพวกมันซะก่อนข้าเลยสังหารพวกมันทั้งหมด ซึ่งแน่นอนรวมถึงชินจ้าว ลูกของเจ้าด้วย ” ไป๋หลงกล่าวจบ ชินหลงตอนนี้ในสมองขาวโพลน คิดอะไรไม่ออก บุตรเพียงคนเดียวของมันโดนสังหารไปซะแล้ว ทำให้มันถึงกับตะลึง โดยระเบิดความโกรธออกมา
เจ้าตายยยยยยยยยย!!!
ชินหลงกล่าวออกมาด้วยความเคียดแค้นเป็นอย่างมาก ไป๋หลงก็ยกยิ้มมุมปาก
” ผู้อาวุโสทั้งหมดจัดการกับสหายของมัน ข้าจะจัดการเจ้าสวะที่ฆ่าลูกชายข้าเอง ” ชินหลงกล่าวจบก็พุ่งไปหาไป๋หลงในทันที ไป๋หลงไม่รอช้าหลบหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังก่อนจะใช้ บาทาอัสนี เตะสวนกลับเข้าที่ชายโครงแต่ชินหลงใช้มือป้องกันการโจมตีของไป๋หลงไว้ได้
ตัดมาทางด้านมู่จินและมู่หลาน
” มู่หลานเจ้ารู้ใช้ไหมว่าสัตย์อสูรทั้งหมดอยู่ไหน ” มู่จินผู้เป็นพี่กล่าวถามแก่มู่หลานผู้เป็นน้อง
“ข้าสามารถจับสัมผัสอ่อนๆได้ทางด้านทิศใต้ของตระกูลชิน ” มู่หลานกบ่าวตอบ
” ดี เจ้าไปช่วยสัตย์อสูรพวกนั้นแล้วใช้ ประตูมิติ ที่ข้ามอบไว้ให้เจ้าก่อนมาหานายน้อยที่ตระกูลชุนเจ้าจำได้ใช่หรือไม่ ”
“ขอรับท่านพี่ โปรดรักษาตัว ” มู่หลานกล่าวจบก็พุ่งทะยานหายไปสร้างความแปลกใจแก่พวกผู้อาวุโสทั้ง6คน
” ดูเหมือนว่า เพื่อนเจ้าจะหนีไปซะแล้วน่ะ ฮ่าๆๆ ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวขึ้น
” นั้นมันก็แล้วแต่ท่านจะคิดเรามาเริ่มศึกของเรากันเถอะ “มู่จินกล่าวบอกแก่ผู้อาวุโสก่อนจะระเบิดพลังจักรพรรดิขั้นที่7 ออกมา ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับเหล่าผู้อาวุโสทั้ง6คน มู่จินสำรวจพลังของผู้อาวุโสทั้งหมดแล้วก่อนจะถอนหายใจออกมาเพราะ ผู้อาวุโสที่มีพลังเยอะที่สุดคือ ราชันนักรบที่แท้จริงขั้น6
ส่วนที่เหลือก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
“พวกท่านอย่าไปกลัวเรามีกำลังเยอะกว่าสามารถจัดการมันได้แน่ ” ผู้อาวุโสที่ดูแล้วมีความรู้ที่สุดกล่าวออกมา
” เป็นอย่างที่ท่านว่าทำให้มันรู้สำนึกซะว่ามาหาเรื่องผิดคนซะแล้ว ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวเสริม
” ดีงั้นพวกเราเข้าไปพร้อมกัน” ผู้อาวุโสกล่าวจบก็มุ่งเป้าไปที่มู่จินทันที
ตัดมาทางด้านมู่หลาน
“หืม? ”
” คงจะเป็นที่นี้แหละน่ะ ” มู่หลานกล่าวออกมา มีประตูสีดำขนาดใหญ่ที่ทำจากแร่พิเศษที่ทำให้พวกอสูรอ่อนแรง แต่มันใช้ไม่ได้กับมู่หลานเพราะมู่หลานเดิมทีเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์และอสูร ลูกที่เกิดจากการข้ามสายพันธ์มีโอกาศรอดต่ำมากมีโอกาศตายถึง 99 เปอร์เซ็นแต่เด็กที่รอดมาได้จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มู่หลานต่อยประตูที่ทำจากแร่พิเศษจนร้าว จึงทำให้เห็นสภาพข้างใน มู่หลานถึงกับตกตะลึงในสิ่งที่เห็น
” นี่มัน… ”
ตัดมาทางด้านไป๋หลง ที่ตอนนี้กำลังปะทะอยู่กับผู้นำตระกูลชิน นั้นคือ ชินหลง
” สงสัยข้าคงต้องเอาจริงซะแล้วเพราะถ้าขืนไม่เอาจริงมีหวังพลาดท่าแน่” ไป๋หลงพูดจบก็ห่อหุ้มร่างกายด้วยสายฟ้า กายาอัสนี สามารถเพิ่มความเร็วให้กับผู้ใช้ได้หลายเท่าตัว
ชินหลงคิวขมวดก่อนที่จะเริ่มใช้วิชาบางอย่าง
” หึ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีดีกว่าที่เห็นแต่น่าเสียดายเพราะเมื่อไหร่พลังเจ้าหมดนั้นก็คือเวลาตายของเจ้า รับไปซะ หมัดทะลายวิณญาณ ” ชินหลงกล่าวจบก็ห่อหุ้มไอพลังสีม่วง ก่อเกิดเป็นรูป งูพิษ พันที่มือขวา ก่อนที่จะพุ่งไปหาร่างของไป๋หลง
ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ไม่รอช้าใช้วิชา ย่างก้าวอัสนีบวกกับกายอัสนี เพิ่มความเร็วหลายเท่าตัวแต่ก็ใช้พลังไปไม่น้อยเพื่อแลกกับความเร็วที่ได้มาตอนนี้ใช้พลังไปแล้ว3ส่วนใน10 นี้เป็นครั้งแรกที่ไป๋หลงนั้นใช้พลังเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ไป๋หลงเห็นการเคลื่อนไหวของชินหลงเป็นภาพสโลว์ หมัดที่ชินหลงต่อยออกมา อยู่ดีๆก็เหมือนต่อยเข้ากับอากาศ ไป๋หลงอ้อม มาด้านหลังก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าที่ลำตัวของชินหลงจนกระเด็นติดกำแพง
ตู้มมมม!!
เสียงของชินหลงที่กระแทกเข้ากับกำแพง สร้างความตกตะลึงให้กับเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายที่เหลืออยู่เพราะ ตอนนี่เหลือผู้อาวุโสอยู่4 คน โดนมู่จินสังหารไปแล้วสองเพราะความ เย่อหยิ่ง
” บัดซบเป็นไปไม่ได้ข้าผู้นี้ เนี้ยหน่ะ เจ้าต้องชดใช้ ” ชินหลงกล่าวจบก็เรียกศาสาตร์ตราจิตวิณญาณออกมา ไป๋หลงยังคงแสดงสีหน้านิ่งไม่วิตกกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น อาวุธวุธของชินหลงนั้นอยู่ระดับขั้น ราชา มีรูปลักษณะเป็นเคียว
“เจ้าจะต้องตายอย่างทรมาน ” ชินหลงกล่าวจบก็พุ่งเข้าไปหาไป๋หลงในทันที
ไป๋หลงหยิบกระบี่เล่มหนึ่งที่ได้มาจากมู่จิน เพราะกระบี่เหมันต์ได้มอบให้ชุนยี่ไปแล้ว ไป๋หลง ไม่รอช้านำกระบี่ขึ้นมาปะทะกับศาสตร์ตราจิตวิณญาณของชินหลง ก็เกิดเสียง พลังทั้งอาวุธทั้งสองปะทะกัน
ตู้ม!!!
เปร้ง!!!
เสียงอาวุธทั้งสองปะทะกันดังสนั่นไปทั่วเรื่องนี้รู้ไปถึงหูเจ้าเมืองจรัสแสง
ณ.ที่ตั้งของเจ้าเมืองจรัสแสง
“เจ้าว่าอะไรน่ะมีคนกำลังต่อสู้กันอยู่กับตระกูลชิน ” น้ำเสียงของชายวัยกลางคนกล่าวขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ใช่ขอรับ ข้าให้สายของข้าไปสืบและดูเหตุการณ์มาแล้ว ตอนนี้เหตุการณ์กำลังจะย่ำแย่ข้าเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานอาจจะส่งผลกระทบต่อเมืองจรัสแสงขอรับ ” ชายชุดดำกล่าวออกมาด้วยความเคารพ
” บอกให้ทุกคนเตรียมเราจะมุ่งหน้าไปตระกูลชิน ” ชายกลางคนที่เป็นเจ้าเมืองจรัสแสงออกคำสั่งแก่ชายชุดดำ
ตัดมาทางด้านไป๋หลง ตอนนี้ร่างกายของชินหลงเกิดอาการชาตามร่างกายจนขยับตัวลำบาก ส่วนไป๋หลงยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคงแต่ตอนนี่พลังหายไปถึง6ส่วนทำให้ไป๋หลงเริ่มคิดที่จะจบการต่อสู้นี้สักทีแต่ทันใดนั้นเองร่างกายของไป๋หลงก็ขยับไม่ได้ขึ้นมาสร้างความแปลกใจให้แก่ไป๋หลงเป็นอย่างมาก
” ฮ่าๆๆ เจ้ากำลังสงสัยอยู่สิน่ะว่าทำไมเจ้าถึงขยับตัวไม่ได้ข้าจะบอกให้เป็นของขวัญก่อนลงนรกก็แล้วกัน วิชาที่ข้าใช้คือ วิชาค่ายกลตรึงวิณญาณ ผู้ที่อยู่ในเขตรแดนนี้จะไม่สามารถขยับตัวได้ ซึ่งเจ้าก็มาติดกับข้าพอดีทีนี้เจ้าได้ตาย ไปขอ ขมา ลูกชายข้าใน นรกซะ วิชาต้องห้ามเปลวเพลิงทมิฬ เป็นวิชาต้องห้ามเป็นวิชาที่กลืนกินอายุขัยของผู้ใช้ ชินหลงลอยตัวขึ้นไปกลางอากาศ เหนือหัวชินหลงนั้นมี เปลวเพลิงทมิฬ ขนาดใหญ่ ดูแล้วสามารถรับรู้ถึงพลังทำลายล้างของมันได้
มู่จินที่เห็นนายน้อยเสียท่า จึงพยามเข้าไปช่วยแต่โดน ผู้อาวุโสทั้ง4ขัดขวางอย่างสุดกำลัง
“เอาล่ะ ตายไปซะ รับไปเปลวเพลิงทมิฬ ” ชินหลังกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งด้วยความเหนื่อยล้าที่สูญเสียอายุขัยของตนจนเกือบหมด บอลเพลิงขนาดใหญ่พุ้งเข้ามาที่ไป๋หลง ไป๋หลงยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะโดนเปลวขนาดใหญ่กลืนกินหายไป จนเกิดเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังสนั้นเมืองจรัสแสง
ตู้มมมมมมมมมมมมมม!!!
จบ…