เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่115 การฝึก 3 จบ
หลินหลินได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาออกมาในทันที..ก่อนจะปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมาทำให้ไป๋หลงถึงกับใบหน้าขาวซีดในทันที…
” พลังนี้มัน..เผ่ามาร!!! ”
หลินหลินได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันทีก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก..
” เจ้ารู้? ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที…เพราะไป๋หลงไม่เคยเจอพลังของเผ่ามารที่มีความเข้มข้นเช่นนี้มาก่อน..อาจจะเป็นไปได้ว่านางคือเผ่ามารชั้นสูง!!!
” ข้ารู้เพราะพลังของท่านมันเข้มข้นจนเกินมารธรรมดาทั่วไป!!! ข้าสามารถระบุชนิดของพลังได้แต่ในกรณีที่เคยเจอมาแล้วเท่านั้นซึ้งตัวของท่านมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวอยู่ ”
ไป๋หลงกล่าวพยามหาเหตุผลมาเสริมแต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์จึงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือ หนี!!!
หลินหลินราวกับอ่านความคิดของไป๋หลงได้พุ่งเข้ามาจับข้อเสื้อของไป๋หลงไว้ด้วยความเร็วที่อู้เฉียงยังเทียบไม่ติด!!!
” อย่าคิดหนีเสียดีกว่า..แม้เจ้าจะแข็งแกร่งแต่เจ้ากับข้าในตอนนี้ต่างกันเกินไปจงบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร!!! ”
หลินหลินกล่าวถามซ้ำอีกครั้งโดยที่ใบหน้าของหลินหลินห่างกับไป๋หลงเพียงคืบเดียวเท่านั้น…ไป๋หลงราวกับมืดแปดด้านก่อนแววตาจะขุ่นมัวลง..
หลินหลินสัมผัสได้ถึงพลังที่คล้ายคลึงกับตนแต่กลับทรงพลังกว่านับหมื่นนับแสนเท่า!!! เมื่อหลินหลินเห็นเช่นนั้นก็ถอยห่างจากไป๋หลงในทันที พร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัวที่เกิดขึ้นจากส่วนลึกภายในจิตใจถึงแม้ภายนอกจะยังคงแสดงท่าทีเยือกเย็นก็ตาม!!!
” ในเมื่อท่านอยากรู้ข้าก็จะบอก..ข้าเป็นลูกครึ่งระหว่างเผ่ามารกับมนุษย์!!! ”
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด..
” ตัวข้านั้นเกิดมา..ข้ายังไม่รู้จักหน้าตาพ่อของข้าด้วยซ้ำ..ส่วนท่านแม่จากไปเมื่อปีก่อนโดยที่ก่อนจากโลกใบนี้ไปท่านได้บอกความลับที่ตัวท่านแม่นั้นเก็บมาตลอดทั้งชีวิต..ว่าข้าเป็นลูกครึ่งระหว่าง มารกับมนุษย์!!! ”
หลินหลินได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าปั้นยากในทันที…เพราะลูกครึ่งระหว่างเผ่าพันธ์อื่นมักจะโดนกีดกันและไม่ยอมรับ..ยิ่งที่ตนนั้นใจร้อนจนเกินไปแล้วมาบังคับด้วยกำลังเช่นนี้เห็นทีเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง!!!
ไป๋หลงยังคงกล่าวอธิบายต่ออย่างต่อเนื่อง..จนหลุงหลินแทบจะอดกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ อาเป่าในรูปร่างของงูตัวเล็กสีรุ้งก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้…
” นายท่าน..ข้าว่าท่านผันตัวไปเป็นนักแสดงแถวโรงละครข้าว่ายังไงก็รุ่ง!!! ” หลิงหลุนกล่าวออกมาผ่านจิตสำนึก..
” นายท่าน ชั่งมีความสามารถในการตบตาผู้คนสมแล้วที่เป็นนายท่าน ” อาเป่าก็กล่าวขึ้นเช่นกัน..
ไป๋หลงได้ยินแทบจะสะดุดในการแต่งเรื่องจนมาถึงช่วงสุดท้าย..
” นี้จึงเป็นเหตุผลหลักที่ข้าไม่เคยแสดงพลังนี้ออกมา…ข้ากลัว กลัวว่าทุกคนจะพากันกีดกันและทิ้งห่างจากข้าไป…ส่วนท่านแข็งแกร่งกว่าข้าก็จริงแต่นั่นไม่ได้หมายถึงท่านจะทำอะไรกับข้าก็ได้!! ” ไป๋หลงบีบน้ำตาจนมีน้ำไหลออกมาจากตาเพียงเล็กน้อยราวกับเด็กน้อยที่ถูกรังแก…
” ข้า..ข้าแค่ ” หลินยิ่งแสดงสีหน้าปั้นยากไปใหญ่ก่อนจะกล่าวออกมาอีกครั้งนึง..
” ข้าขอโทษ!! ”
ความจริงไขกระจ่างแล้วว่านางนั้นอาจจะคิดผิด..นี้เป็นเพียงลูกครึ่งระหว่างเผ่ามารและมนุษย์เท่านั้นแต่พลังที่สัมผัสได้เมื่อครู่คืออะไรกัน..คำถามเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ภายในความคิด
และใครจะคิดเล่าว่าศิษย์ต้องห้ามแห่งสถาบันเทพมาร!! จะกล่าวขอโทษผู้อื่นเช่นนี้..
” ไม่เป็นไรข้าเข้าใจในสิ่งที่ท่านทำ..แต่ท่านอย่าเอาเรื่องที่ข้าบอกท่านไปบอกใครนะ ข้าขอร้อง ” ไป๋หลงพยามจะคุกเข่าลง…หลินหลินพุ่งเข้ามาจับไป๋หลงก่อนจะพยุงตัวขึ้น
” ข้าสัญญา..ข้าขอโทษ ข้าชื่อหลินหลิน ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อข้าผ่านหยกสื่อสารชิ้นนี้ ” หลินหลินกล่าวพลางยื่นหยกสื่อสารให้ไป๋หลง..มีหรือไป๋หลงจะปฏิเสธ
เงาจันทราสาดส่องมายังระหว่างไป๋หลงและหลินหลิน แววตาของทั้งสองประสานกัน..น่าแปลกไป๋หลงราวกับลืมเลือนสติไปครู่นึงเกือบจะโผลเข้าไปกอดหลินหลิน..ลมพัดที่แผ่วเบาในยามราตรี กลิ่นอายของหลินหลินรอยเข้าไปถึงทุกโสตประสาทสัมผัสของไป๋หลง…
หลินหลินนั้นราวกับบังเกิดความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นความรู้สึกโหยหาและต้องการบางอย่าง…หลินหลินถอนห่างจากไป๋หลงนี้เป็นครั้งแรกที่หลินหลินสังเกตมองไป๋หลงก่อนจะเห็นถึงความหล่อเหลา และ เส้นผมและดวงตาที่คล้ายกับของตนก่อนที่หลินหลินจะรีบกล่าวและหายไปจากสายตาและประสาทสัมผัสของไป๋หลง…
” ข้าขอตัวก่อน!! ”
” เดี๋ยว… ”
ไป๋หลงยังกล่าวไม่ทันจบหลินหลินก็หายไปแล้ว..เด็กหนุ่มค่อยๆเงยหน้ามองดวงจันทร์และเอามือกุมหน้าอกทางด้านซ้ายของตัวเองก่อนจะกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา…
” นี้ข้าเป็นอะไรไป ”
รุ่งเช้ามาถึงเหล่าศิษย์กว่า30ชีวิตต่างมารอไป๋หลงตามแบบปกติ..ผ่านไปสักผักไป๋หลงเดินออกมาจากที่พักก่อนจะหอบเอาหนังสือหลายสิบเล่มออกมาด้วย..และสามารถสังเกตเห็นได้ว่าไป๋หลงขอบตาคล้ำนิดหน่อย..เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนไป๋หลงก็นอนไม่หลับและสร้างตำราเฉพาะเล่มของแต่ละคนขึ้นมา!!!
ซึ้งอู้เฉียงได้ขออนุญาติผู้อาวุโสเพื่อออกจากสถาบันเพื่อไปซื้อของบางอย่างซึ้งปกติแน่นอนว่าการให้ศิษย์เข้าออกสถาบันนั้นเป็นเรื่องไม่ควรแต่นี้เป็นกรณียกเว้น..
ไป๋หลงเรียกชื่อของทุกคนจนหมดและให้ทุกคนรับตำราของแต่ละคนพร้อมโอสถคนละหนึ่งเม็ด รวมทั้งสิ้น30เม็ดแถมยังเป็นโอสถขั้นสูงเสียด้วย..
” ที่พวกเจ้าเห็นอยู่ในมือคือ ข้าปรับกระบวนท่าและแก้ไขกระบวนการฝึกของเจ้าแต่ละคนหมดแล้ว..และโอสถที่อยู่ในมือพวกเจ้าเป็นโอสถที่จะช่วยยกระดับพลังของพวกเจ้าขึ้นในระหว่างบ่มเพาะจงคิดให้ดีก่อนจะใช้….เพราะระดับพลังยิ่งสูงยิ่งผ่านขึ้นไปได้ยากเท่านั้น!!! ”
หลังจากสิ้นเสียงประกาศของไป๋หลงทุกคนต่างเปิดดูตำราก็ถึงกับสั่นสะท้านเพราะทั้งหมดถูกเขียนขึ้นพร้อมบอกจุดแนะและจุดที่ต้องแก้ไขในแต่ละจุดอีกทั้งเม็ดยาที่เป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าไป๋หลงก็ยังหยิบยื่นให้ด้วยความใจกว้าง..นี้เทียบเท่ากับทรัพยากรที่ได้รับจากสถาบันด้วยซ้ำ..
” พี่ใหญ่นี้มัน..มากเกินไปแล้วพวกข้า.. ”
ไป๋หลงยกมือห้ามก่อนจะกล่าวออกมาด้วยถ้อยคำที่ปลุกขวัญกำลังใจ!!!
” นี้เป็นเพียงข้าวแรกเท่านั้น…พวกเจ้าทุกคนหลังจากนี้อีก5 วันอย่ามาที่นี้จนกว่าจะครบ 5 วันกลับไปฝึกฝนและทำตามตำราที่ข้าแนะนำพวกเจ้าทุกคน!!! ”
ศิษย์เผ่ามังกรกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย..
” หลังจาก 5 วันแล้วยังไงต่อพี่ใหญ่? ”
ไป๋หลงปริยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวออกมา……..
” ข้าจะสู้กับพวกเจ้าเป็นรายบุคคลทั้งหมด!!! ”
” !!!!!!! ”
…………………………………………………
ณ ห้องพักของศิษย์สายหลัก
” ศิษย์ข้าเจ้าเป็นอะไร…ข้าติดต่อหาเจ้าแต่เจ้ากลับตัดการสื่อสารทิ้งนับวันจะเอาใหญ่แล้วนะ…แล้วนั้นเจ้าเป็นอะไรหน้าแดงไปหมดแล้วนั่น!! ” ผู้อาวุโสหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงสัยเพราะศิษย์ของตนนั้นไม่เคยเป็นเช่นนี้มก่อน
” ท่านไม่ต้องมายุ่ง!!! เรื่องของข้าท่านออกไปได้แล้วข้าอยากพักผ่อน ” หลินหลินกล่าวไล่อาจารย์ของตนให้ออกไปจากห้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด…
ผู้อาวุโสหยวนเพ่งสายตาก่อนจะสังเกตุการเต้นของหัวใจของหลินหลินก่อนจะเบิกตากว้างและแย้มยิ้มออกมา..
” หรือว่าเจ้ากำลังมีความรัก? ”
……………………………..
เขตพักของศิษย์หญิงยามนี้เว่ยเว่ยได้กลายเป็นจักรพรรดินีไปเสียแล้ว!!!
จบ.