เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่117 พัฒนาชั่วข้ามคืน 2 จบ
การต่อสู้ดำเนินมาถึงเกือบถึงตอนเย็นคราแรกไป๋หลงคิดไว้ว่าจะมอบหน้าที่การฝึกฝนให้กับอู้เฉียง..แต่ตอนนี้อู้เฉียงโดนจับปิดมากและมัดไว้กับเสาเป็นภาพที่ชวนแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง..
เหล่าศิษย์ที่ได้ประลองกับไป๋หลงต่างพากันนั่งหอบเหนื่อยเหงื่อตกในขณะที่ไป๋หลงไม่ได้แสดงอาการว่าเหนื่อยออกมาเสียด้วยซ้ำเพราะระดับขั้นพลังห่างกันเกินไป!!!..แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีศิษย์ที่สามารถต่อต้านบัญญัติแห่งราชันย์ของไป๋หลงได้..เวลานี้เหลือเพียงศิษย์เผ่ามังกรคนเดียวเท่านั้นที่เหลื่ออยู่ส่วนที่เหลือต่างพากันนอนหมอบราบด้วยอาการเหนื่อยล้า…
” เหลือเจ้าเป็นคนสุดท้ายงั้นสินะ..ดูท่าเจ้าคงมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ถูกต้องหรือไม่? ” ไป๋หลงเอ่ยพลางเพ่งพินิจเห็นพลังงานบางอย่างที่จุดบ่มเพาะภายในแต่ราวกับโดนพลังบางอย่างสะกดไว้!!..ซึ้งแน่นอนว่าพลังเช่นนี้จะมิอาจสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าหรือความรู้สึก..แต่เป็นเพราะตาเทพ!!! ทำให้ไป๋หลงมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด แต่ไป๋หลงมิไ้ด้กล่าวถึงในส่วนที่เหมือนโดนผนึกเอาไว้…
” สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ที่ข้าให้ความเคารพและยอมรับ..ตัวข้านั้นเป็นสายเลือดมังกรที่แท้จริง!!! ซึ้งเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในหมู่ของตระกูลมังกร..แต่ข้ามิอาจปลุกพลังที่แท้จริงขึ้นมาได้ ทำให้ข้าโดนกีดกันในด้านต่างๆแทบจะทั้งหมด!!…การที่ข้ามาอยู่ ณ ตรงนี้หมายถึงข้าได้ออกจากตระกูลบัดซบ!! นั่นแล้วเมื่อข้าแข็งแกร่งเมื่อไหร่ซักวันจะต้องเป็นวันของข้า ”
ศิษย์ครึ่งมังกรที่ท่อนบนอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเกร็ดสีดำทมิฬตามแผ่นหลัง หางสีดำยาวถูกปกคลุมไปด้วยเกร็ดทมิฬมันวาว และเกร็ดบนใบหน้า เล็กน้อยแต่กลับแสดงให้เห็นถึงความสง่างามในเผ่ามังกร..เลือนผมสีดำแววตาสีน้ำเงินดุจมหาสมุทร
การเดินทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยพลังที่อัดแน่น..และมาหยุดลงตรงหน้าไป๋หลงทั้งสองผสานสายตากันก่อเกิดเป็นละลอกคลื่นบนสนามประลอง!!
” เจ้ามีชื่อว่าอะไร? ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้น
เมื่อศิษย์ครึ่งมังกรผู้นั้นได้ยินก็ผสานมือขึ้นเอยด้วยวาจาที่สุภาพและให้การเคารพไป๋หลง
” ข้าชื่อ เหิงฟู เป็นผู้สืบทอดสายเลือดมังกรที่แท้จริง!!…. ปกติข้าคงจะพูดเช่นนั้นแต่ข้าได้ทิ้งผู้สืบทอดไร้สาระนั้นไปแล้ว ข้าชื่อเฟิงหู เป็นนักสู้มังกรเท่านั้น!! ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมา..
” เอาละ..ใช้ทุกอย่างที่มีโค่นข้าให้ได้!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจัง…
เหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านต่างตกตะลึง..ไป๋หลงเห็นอะไรในตัวของเฟิงฟูกันแน่!!
” เหิงฟู…พี่ใหญ่เห็นอะไรในตัวเจ้ากันแน่ข้าอยากรู้จริงๆ ” ศิษย์เผ่ามังกรอีกคนกล่าวขึ้นด้วยท่าทีพิจรณาบางอย่าง…
” กังเหอ…เจ้ากับข้าติดตาม เหิงฟูมาตั้งแต่ เจ้านั่นโดนไล่ออกจากตระกูล..ไม่สิเจ้านั่นอาจจะออกมาเองมากกว่า เจ้าไม่สังเกตเห็นบางอย่างเลยอย่างงั้นรึ!! ” ศิษย์เผ่ามังกรที่ดูท่าจะเป็นสหายกันเอ่ยขึ้ย..
” เฉิงซุนเจ้าหมายความว่ายังไง!! ” กังเหอกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย..
” รอดูไปก็แล้วกัน..การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว!! ” เฉิงซุนกล่าวจบไป๋หลงและเหิงฟูกำลังเปิดม่าการต่อสู้อันดุเดือดครั้งนี้ขึ้น..
ตู้ม!!!
หมัดของทั้งสองคนปะทะกันจนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือนเวทีประลองแห่งนี้..ไป๋หลงเบิกตากว้างเพราะระดับพลังที่ปะทะเข้ากับหมัดของตนนั้นเป็นระดับพลังที่ทัดเทียมกันหรือเหนือกว่านั้น นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!!!
” คิดไว้แล้วว่าพี่ใหญ่ปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้แต่…ไม่สามารถปกปิดข้าได้หรอกจะบอกไว้ก่อน!! ” เหิงฟู กล่าวก่อนจะระเบิดพลังที่เหนือล้ำออกมา!!
นักรบที่แท้จริงขั้นที่9!!!
” ไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องปิดบังอีกต่อไป!!!… ”
เหิงฟูปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดออกมาก่อนจะหายไปจากสายตาของไป๋หลง..และโผล่มาอีกทีคือด้านหลังของไป๋หลง เหิงฟูปล่อยหมัดที่อัดแน่นก่อเกิดเป็นศรีษะมังกรขนาดใหญ่!!
” หมัดเศียรมังกร!! ”
ไป๋หลงตกตะลึงชั่วครูก่อนจะต่อยสวนกลับด้วยกระบวนท่าราชันย์ที่สาปสูญ
” หัตถ์ราชันย์!! ”
ตู้ม!!
ระดับพลังของไป๋หลงในยามนี้คือ นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!! หลังจากไป๋หลงได้กลายเป็นจักรพรรดิ์เงาไปแล้วทำให้ระดับพลังของไป๋หลงเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาลจากขั้นเดิมราชันนักรบที่แท้จริงขั้นที่4 แต่ถึงกระนั้นระดับพลังของไป๋หลงยังไม่เสถียรพอ!!
ระดับพลังถึงแม้จะห่างกันหนึ่งขั้นแต่ว่าในแต่ละขั้นพลังจะห่างกันถึง10เท่า!!! ของช่วงพลังซึ้งสาเหตุที่ไป๋หลงยังคงต่อสู้ได้อย่างไม่ลำบากเพราะกระบวนท่าอันพิศดารและวิชาเฉพาะของตนทำให้ไม่เพลี้ยงพล้ำไปตั้งแต่ทีแรก..
เหล่าศิษย์มากมายต่างตกตะลึงกับระดับพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมา…
” ระดับพลังขั้นนี้มันไม่แปลกเลยที่พี่ใหญ่จะไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าออกมา…เพราะระดับที่ห่างกันเกินไป!!! ”
” ใช่พี่ใหญ่คงเห็นถึงระดับพลังของเผ่ามังกรนั่น…แต่ไม่น่าเชื่อว่าพี่ใหญ่จะปกปิดพลังเอาไว้ตลอดเวลา ”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆดังกระหึ่ม…กังเหอแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงยิ่งกว่าไม่คิดว่าเหิงฟูจะปิดซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้!!!
” กังเหอทีนี้เจ้าเข้าใจรึยังว่าพี่ใหญ่เห็นอะไรในตัว เหิงฟู ” เฉิงซุนกล่าวขึ้นพลางจับจ้องการต่อสู้บนเวที..
” นี้ข้ากับเจ้า..ห่างกันถึงเพียงนี้เชียว ” กังเหอกล่าวอย่างแผ่วเบาแต่ในแววตาราวกับมีบางอย่างถูกจุดประกายขึ้น…
หลังจากหมัดทั้งสองปะทะกันต่างฝ่ายต่างถอยกันไปคนละห้าก้าว..เหิงฟูไม่รอให้ไป๋หลงตั้งตัวระเบิดพลังออกมาจนเป็นคลื่นกดดันให้ไป๋หลงต้องป้องกันอยู่ฝ่ายเดียว!!
เหิงฟูตวัดหางฟาดใส่ไป๋หลงที่กำลังป้องกันอยู่..เมื่อเด็กหนุ่มเห็นเช่นนั้น( จะแทนการเรียกไป๋หลง ว่าเด็กหนุ่มในบางครั้ง) ก็รวบรวมพลังอัสนีสีแดงไว้ที่เท้าระเบิดความเร็วอันเหลื่อเชื่อหลบเลี่ยงหางของของเหิงฟูได้อย่างฉุวเฉียด..ก่อนที่ห่างของเหิงฟูจะฟาดลงไปที่ความว่างเปล่านั่นก็คือพื้นของสนามประลอง..
ตู้ม!!!
พื้นสนามประลองแหลกละเอียดเป็นผุยผง!!
” ทูท่าถ้าข้าหลบไม่พ้นคงจะเป็นเหมือนพื้นตรงนั้นแน่!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นพลางวิเคราะห์บางอย่างก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลน
” ถ้าเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เหตุใดตอนสอบเข้าเจ้าถึงไม่แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา? ”
เหิงฟูได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบขึ้น..
” อาจจะเป็นเพราะว่าข้าหมดไฟในการต่อสู้แต่ข้าจดจำทุกประโยคที่ท่านพูดเมื่อก่อตั้งกองกำลัง ปีกสวรรค์ขึ้นข้าก็สาบานจะติดตามท่านไปแล้ว..กองกำลังปีกสวรรค์จะฉีกกระชากโชคชะตา น้คือคำพูดที่ตราตรึงในใจของข้าไปแล้ว!!!เพราะเหตุนี้ข้าจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องปกปิดพลังเอาไว้อีก!! ”
เหิงฟูกล่าวจบก็สยายปีกกลางแผ่นหลังปีกแห่งมังกรสายเลือดที่แท้จริงย่อมแตกต่างจากสายเลือดธรรมดากลิ่นอายแห่งความดุดันถาโถมเข้ามาสนามประลองสนั่นหวั่นไหวใกล้จะพงทะลายเต็มที
” เห็นทีข้าต้องเอาจริงด้วยซะแล้ว ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เร่งเร้าระเบิดพลังทั้งหมดออกมา
นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!!!
ไป๋หลงสร้างกระบี่โปร่งใสขึ้นอีกครั้งแต่จำนวนไม่ได้มากกว่าครั้งที่แล้ว เหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านล่างเห็นกระบี่โปร่งใสแบบนี้ทีไรกฌอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงตอนนั้น..
หมื่นกระบี่สยบเทวา!!
กระบี่โปร่งใสพุ่งตรงไปหาเหิงฟู…แต่ว่ากระบี่เหล่านั้นมิอาจทำอะไรเหิงฟูได้แม้แต่น้อย!!!
เคร้ง!!
กระบี่ทั้งหมดกระทบเข้ากับเกร็ดมังกรของเหิงฟู…นั้นทำให้เหิงฟูหาได้สนใจไม่เพียงพุ่งเป้าไปที่ไป๋หลงเท่านั้น..
” กะไว้แล้ว…งั้นเรามาจบการต่อสู้นี้กันเถอะ!!! ”
ไป๋หลงกล่าวจบก็ปลดปล่อยเงามืดออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งสนามทำให้ภายนอกมิอาจมองเห็นข้างในได้..
” วิชาประหลาดนี้มันอะไรกัน? ” เหิงฟูกล่าวขึ้นพยามจะทำลายเงามืดนี้ด้วยคลื่นพลังแต่ดูเหมือนว่าระดับพลังที่มีไม่มากพอทำให้เพียงแค่สร้างแรงสั่นสะเทือนเท่านั้น..
” มัวสนใจอะไรอยู่ข้าอยู่นี้…” ไป๋หลงโผล่มาจากความมืดในระยะที่เหิงฟูมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้สร้างความตกตะลึงให้กับเหิงฟูเป็นอย่างมาก
ก่อนที่เหิงฟูจะปล่อยหมัดออกมาป้องกันตัวไป๋หลงยื่นมือขวากางนิ้วทั้งห้าออกแตะตรงจุดบ่มพลังก่อนจะวิเคราะห์รูปแบบที่ผนึกพลังของเหิงฟู..ก่อนจะแสยะยิ้ม..
” ผนึกกระจอกๆแบบนี้คิดจะมาผนึกพลังของพี่น้องข้าอย่างงั้นรึ..หายไปซะ!! ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นก่อนจะส่งพลังเข้าไปภายในร่างของเหิงฟู..
เหิงฟูชะงักข้างก่อนจะหยุดหมัดที่กำลังจะถึงตัวไป๋หลงในขณะที่ไป๋หลงไม่ได้เค้นพลังป้องกันออกมาแม้แต่น้อย!!
” นะ..นี้ท่านทำอะไรท่านบ้าไปแล้วรึหากเมื่อกี้ข้าไม่หยุดหมัดเอาไว้ท่านอาจจะบาดเจ็บสาหัสได้เลยนะ!! ” เหิงฟูกล่าวขึ้นด้วยด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิไป๋หลง
ไป๋หลงเพียงปริยิ้มออกมา..
” ก็คงจะเป็นเช่นนั้นฮ่าๆๆ ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นพลางหัวเราะออกมา เพราะถึงยังไงไป๋หลงก็มีพลังในการฟื้นฟูตัวเองในระดับที่ใครรู้แล้วอยากจะฉีกไป๋หลงเป็นชิ้นๆเลยก็ได้
เหิงฟูใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที..ทันใดนั้นความรู้สึกราวกับพลังมหาศาลระเบิดออกมาจากภายในร่าง!!
” คลายผนึก!!! ”
” นะ..นี้มันพลังของข้ากำลังยกระดับขึ้น!!! พลังทั้งหมดกำลังถูกปลดปล่อยออกมา.. ” เหิงฟูกล่าวในขณะที่รูปร่างครึ่งมังกรคล่อยๆเปลี่ยนไป เกร็ดจากสีดำ กลายเป็นสีทองคำ!!!
บรรลุระดับพลังราชันนักรบขั้นที่ 1 !!
” ข้าคลายผนึกพลังให้แล้ว..ดูเหมือนว่าพลังของเจ้าจะโดนผนึกมาตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับผนึกนั่นก็ค่อยมาหาข้าแล้วกัน แล้วก็ปกปิดระดับพลังและรูปลักษณ์เจ้าซะด้วยมันเด่นเกินไป… ขี้โกงจริงๆเลยเจ้านะแค่ข้าปลดผนึกก็ทะลวงขั้นพลังทันที ข้าไปละ !! ครั้งนี้ถือว่าข้า แพ้ก็แล้วกัน ”
ไป๋หลงกล่าวจบก็สลายเขตแดนจักรพรรดิ์และโดนลงจากเวทีในทันทีทุกสายตาจับจ้องไปยัง เหิงฟู… ไป๋หลงเดินลงมาเองเช่นนี้ก็แปลว่าไป๋หลงยอมแพ้!!
” บะ บ้าน่า พี่ใหญ่แพ้เนี้ยนะ ”
” แต่เมื่อครู่พลังของทั้งสองสูสีกันมากภายในเงามืดพิศดารนั่นต้องเกิดบางอย่างขึ้นแน่!! ”
เหล่าศิษย์มากมายต่างถกเถียงกันไปมา..
เหิงฟูมองไป๋หลงด้วยแววตาที่ยากจะอธิบายเรื่องราวในอดีตทั้งหมดผ่านเข้ามาภายในความคิด ทั้งการดูถูก ข่มเหง กระถูกกีดกันเพราะไร้พลัง บัดนี้ผู้ที่ทำให้หนทางอันมืดมิดถูกเติมเต็มด้วยแสงสว่าง
” พี่ใหญ่..ข้าสาบานจะติดตามท่านไปทุกหนแห่ง ชีวิตข้าเป็นของท่าน!!! ” เหิงฟูกล่าวจบก็เอาหัวโขกพื้นจนสนามประลองพังทะลายในทันที!!!
ไป๋หลงหันกลับมาก่อนจะปริยิ้มอ่อน..
” เอาละ พรุ้งนี้เริ่มการฝึกแบบพิเศษได้!! ” ไป๋หลงกล่าวจบก็ลากอู้เฉียงกลับเข้าไปในที่พักในทันที
ผ่านไปสักระยะเสียงร้องโหยหวนดังออกมาเป็นระยะ..แม้แต่ศิษ ที่ยังอยู่ต่างรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่น่ากลัวแม้แต่หญิงสาวที่ชอบไป๋หลงยังอดไม่ได้ที่จะเป็นกัวล
” ม่ายยยยยยยยยยยยย!!! ”
จบ…
ระดับพลังของไป๋หลงคือ นักรบที่แท้จริงขั้นที่8
ระดับพลังของอู้เฉียงคือ นักรบที่แท้จริง ขั้นที่ 1 แต่ด้วยอู้เฉียงเพิ่มพลังโดยการใช้สมุนไรเก้าจันทราทำให้มิอาจยกระดับพลังได้อีกภายในครึ่งปี ในตอนที่ 106
ส่วนคนอื่นๆไรท์จะมาลงให้นะจ้ะ