เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่120 แตกต่าง 3 จบ
สองสาวงามกับกองกำลังหญิงสาวนับร้อยคนต่างมาถึงหน้าสถานที่ตั้งกองกำลังของไปหลงที่ยามนี้ถูกดัดแปลงและเสริมแต่งจนมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมคล้ายกับเป็นสำนักขนาดใหญ่ก็ไม่เชิง…โดยที่ด้านประตูทางเข้ามีศิษย์อยู่เพียง3คนเท่านั้น..ซึ้งก็คือเหิงฟู กังเหอ รวมถึงจางลี่ผู้ที่มีสติปัญญาอันเฉียบขาดเป็นจุดเด่น…
ซึ้งแน่นอนการเคลื่อนไหวกองกำลังขนาดใหญ่เชนนี้ย่อมเป็นที่จับตามองจากกองกำลังอื่นเช่นกันส่วนอาจารย์ก็แอบลอบมองสังเกตุการณ์เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น..
” นั้นมันกองกำลังหงส์ฟ้านิ..มาทำอะไรในที่แห่งนี้กัน ”
” ข้าก็ไม่รู้ดูท่ากองกำลังที่เอามาด้วยคงไม่ใช่เอามาเล่นๆเป็นแน่.. ”
เหล่ากองกองกำลังและศิษย์สายนอกที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้เพราะอาจจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย…
” หนึ่งในแกนนำทั้งสิบก็มาด้วยเช่นนี้ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว ”
ขณะนั้นเองเหิงฟูก็กล่าวถามขึ้นด้วยความฉงนแต่ก็มิได้กังวลถึงกองกำลังเหล่านี้แม้แต่น้อย..
” พวกท่านมาทำอะไร? แล้วเหตุใดถึงขนเอากองกำลังขนาดนี้มาด้วย!!! ”
เหิงฟูกล่าวพลางสำรวจระดับพลังกองกำลังเหล่านี้..
” ส่วนใหญ่อยู่นักรบที่แท้จริงขั้น3 เกือบทั้งสิ้นแต่สองสตรีนางนี้..แข็งแกร่งใช่เล่นคงต้องระวังตัวเอาไว้หน่อยแล้ว ”
เหิงฟูกล่าวขึ้นกับตนเองพลางดูท่าที..ก่อนที่เหมยชาจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง…
” ข้ามาหา..คนที่ชื่อว่าไป๋หลงหลีกทางให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้!! ”
เมื่อเหิงฟู กังเหอ รวมถึงจางลี่ได้ยินเช่นนั้นก็คิดได้เหมือนกันในทันที…หากสตรีสองนางนี้รวมถึงกองกำลังเหล่านี้เข้าไปได้เกิดเรื่องใหญ่แน่!!!
” เห็นทีคงจะไม่ได้ตอนนี้..พี่ใหญ่ของเรากำลังภารกิจบางอย่างไม่สามารถออกมาพบเจอพวกท่านได้ในตอนนี้..ไว้พี่ใหญ่เสร็จสิ้นภารกิจ ข้าจะบอกท่านอีกครั้งนึง.. ” จางลี่กล่าวพลางอธิบายพร้อมยกเหตุผลแต่ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์
ยามนี้อู้เฉียงก็เข้าไปฝึกพลังในกล่องย่นเวลา!!! ( ตอนที่ 119 ) ไม่คาดคิดว่าเมื่อพี่ใหญ่อย่างไป๋หลงและพี่รองอย่างอู้เฉียงจะไม่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้…
” พวกท่านไม่มีสิทธิเข้ามาภายในกองกำลังของพวกเรา..พวกท่านกลับไปเสียเถอะ!! ” เหิงฟูกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีโทสะเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าสตรีสองนางนี้มิได้มีความเคารพแก่กันเลย!!!
เหล่าศิษย์หญิงนับร้อยที่ติดตามมาด้วยได้ยินเช่นนั้นก็พลันเดือดดาลในทันที…
” นี้เจ้ากล้าดียังไง!! ไม่รู้รึไงว่าสองท่านนี้เป็นใครถึงกล่าววาจาสามหาวเช่นนั้นออกมา ”
” ศิษย์พี่ให้ข้าออกไปสั่งสอนมันผู้นี้ด้วยเถอะ..ข้าจะทำให้ันคุกเข่าขอชีวิตจากศิษย์พี่!! ”
เหมยชายกมือห้ามปรามก่อนจะฉายแววตาอันเย็นเฉียบไปที่เหิงฟู…
” ข้าจะแนะนำตัวเองอีกครั้งตัวข้าคือ เหมยชา หัวหน้ากองกำลังหงส์ฟ้า!! และนี้พี่ข้าเหมยหลินหนึ่งในแกนหลักทั้งสิบ!!! แห่งศิษย์สายนอก พวกเรามาเพื่อพบ หัวหน้าของพวกเจ้าเท่านั้นหาได้ต้องการ ต่อสู้ไม่ แต่หากพวกเจ้ายังไม่หลีกทางให้..ข้าคงต้องทำตามที่เห็นสมควร!! ”
เหิงฟูได้ยินเช่นนั้นก็หดนัยน์ตาแคบลงทันที..เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจคำพูดของฝ่ายตนแม้แต่น้อย!!
” ข้าบอกแล้วว่า..ไม่ได้!! ” เหิงฟูประกาศกร้าวขึ้นก่อนที่จะฉายแววตาแข็งกร้าว..แม้เหิงฟูจะรับพลังสูงส่งเพียงใดแต่ก็มิอาจประมาทสองพี่น้องคู่นี้ได้..นี้อาจจะเป็นสัญชาตญาณของเผ่ามังกรก็เป็นได้!!!
เหมยหลินที่นิ่งเงียบอยู่นานกล่าวพลางยกยิ้มอันมีเสน่ห์แต่แฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง..
” ดูท่าหลังประตูบานนั้นคงจะเก็บความลับบางอย่างไว้สินะ..เช่นนั้น ” เหมยหลินกล่าวจบก็ทะยานร่างอันรวดเร็วเพื่อที่จะก้ามประตูขนาดใหญ่บานนี้ไปด้วยความเร็วเช่นนี้ต่อให้เป็นระดับพลังเดียวกันก็มิอาจไล่ตามทันแต่…
ระหว่างนั้นเองตอนที่เหมยหลินแสยะยิ้มกำลังจะก้าวข้ามไปได้มีร่างขนาดมหึมาด้วยใบหน้าและตัวเต็มไปด้วยเกร็ดสีดำ ลอยอยู่กลางนภาพร้อมกับแววตาที่แข็งกร้าว..
” ข้าเตือนท่านแล้ว!!! ” เหิงฟูกล่าวจบก็ระเบิดพลังออกมาเกิดเป็นคลื่นอัดกระแทกใส่เหมยหลินจนต้องถอยล่นลงไปเบื้องล่างเช่นเดิม!!
” ความเร็วนั้นมัน…เจ้าเป็นเผ่ามังกร!! ” เหมยหลินกล่าวด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสงบสติได้อีกครั้ง
” ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยอมสวามิภักดิ์แก่มนุษย์…ดูท่าไป๋หลงผู้นั้นจะไม่ธรรมดาเสียแล้วไป ”
เหมยชากล่าวขึ้นพลางขมวดคิ้วแนบแน่น..เหล่าศิษย์หญิงต่างแสดงสีหน้าวิตกเล็กน้อย..เพราะเผ่ามังกรถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงและความรู้สึกที่สัมผัสได้ยัง…
” ใจเย็นก่อนเหิงฟู..การทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบในอนาคตได้ทางที่ดีเราต้องถ่วงเวลาให้พี่ใหญ่ออกมาด้วยตนเอง!! ”
” ใช่แล้ว ”
จางลี่และกังเหอกล่าวอธิบายขึ้นให้เหิงฟูลดโทสะลงเล็กน้อย…แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ
” ในเมื่อพวกเจ้าทำเช่นนี้เราก็จะไม่ปราณีอีกต่อไป…หากพวกเจ้าเป็นอะไรขึ้นมาอย่ามาหาว่าพวกข้าโหดร้ายก็แล้วกัน ”
เหมยชาสั่งกองกำลังกองตนให้แยกออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวาค่อยๆโอบล้อมพวกเหิงฟู…
” ดูท่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปฝ่ายเราต่างหากที่จะโดนเล่นนงาน…งั้นจางลี่เจ้าเข้าไปตามพี่ใหญ่ข้าและกังเหอะจะต้านพวกนี้ไว้เองแม้ไม่ชนะแต่ก็พอจะถ่วงเวลาได้รีบไป!!! ”
จางลี่แสดงสีหน้าปั้นยากเพราะตนนั้นแม้จะไม่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู่แต่การทิ้งพรรคพวกไว้ด้านหลัง..ตายเสียยังดีกว่า!!
” ไม่ขืนข้าไปพวกเจ้าสองคนต้านได้ไม่ถึง100ลมหายใจ ข้าแม้ไม่เก่งด้านการต่อสู้แต่ข้าสามารถช่วยสนับสนุนพวกเจ้าได้!!! ”
เหิงฟูและกังเหอได้ยินเช่นนั้นต่างปริยิ้มออกมา..
” ข้าให้โอกาสเจ้าไปแจ้งพี่ใหญ่แล้วนะ..แต่นี้สิสมเป็นคนที่พี่ใหญ่เชื่อใจ!!! ”
เหิงฟูเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว..ก่อนจะฉายแววตาเปล่งประกายออกมาบรรยากาศรอบๆสั่นไหวราวกับโดนฉีกกระชากออก..
ตู้มม!!!
” ราชันย์นักรบขั้นที่1!! ” เหิงฟูไม่ปิดบังพลังที่แท้จริงอีกต่อไป..เหล่าสตรีนับร้อยต่างถอยห่างไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวเพราะความห่าวของระดับพลัง..
เหมยหลินและเหมยชาเบิกตากว้างขึ้น..
” ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้..เทียบได้กับศิษย์สายหลักบางคนแต่เมื่อเราพี่น้องอยู่พร้อมหน้ากันคงต้องให้ชนชั้นจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะเอาพวกเราอยู่!!! ”
เหมยหลินและเหมยชามิได้แสดงอาการวิตกกังวลออกมา..กลับแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกันเสียด้วยซ้ำ!!
” บ้าน่ามีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในศิษย์สายนอกด้วยเช่นนั้นรึ!! ”
” แต่ดูเหมือนว่าท่านเหมยหลินและเหมยชากำลังจะทำบางอย่าง…นะ..นั้นมัน!! ”
เหล่าผู้คนที่จับตาอยู่ต่างเบิกตากว้างเพราะทั้งสองคนกำลังเรียกใช้ศาสตร์ตราจิตวิญญาณ!!
เหิงฟูแม้อยู่ชนชั้นราชันนักรบ กลับต้องสั่นไหวเพราะอาวุธที่อยู่ในมือของทั้งสองคน..
” นั้นมัน!!! ”
…………………………………………………………………………
ภายในห้วงจิตวิญญาณของไป๋หลง..มีดาบสองเล่มลอยเขว้างขว้างอยู่รอบตัวไป๋หลงโดยดาบเล่มสีดำไป๋หลงรู้สึกผูกพันธ์อย่างบอกไม่ถูกส่วนดาบเล่มสีขาวให้ความรู้สึกอันอบอุ่นและโหยหา!!
” นี้มันอะไรกันดาบทั้งสองเล่มนี้อยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาซะงั้น…ท่านรู้รึป่าวว่าดาบทั้งสองเล่มนี้โผล่ขึ้นมาได้อย่างไร ” ไป๋หลงเอ่ยถามเทพองค์เดิมที่ไม่เคบปริปากพูดกับไป๋หลงแม้แต่น้อย..
” กระบวนท่าที่ท่านสอนข้าเมื่อครู่…มัน ” ไป๋หลงยังเอ่ยไม่ทันจบอยู่ๆก็รู้สึกไม่ดีอย่างรุนแรงราวกับหัวใจของตนกำลังสูญเสียบางอย่างไป!!
” หรือว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น!! ”
…………………………………………………..
” ไม่เลว..อุตรส่าต่อต้านพวกเราสองพี่น้องได้ถึงเพียงนี้..แต่ดูเหมือนว่าพลังอย่างเดียวจะไม่ใช่ทุกสิ่ง!! ”
เหมยหลินกล่าวพลางถือกระบี่เล่มหนึ่งสีน้ำเงินเข้ม…และเหมยชาถือกงจักรสีดำขนาดใหญ่หมุนไปมาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย..
เหิงฟูยังคงยืนหยัดแม้จะมีบาดแผลยาวตั้งแต่หัวไหล่ลงมา..และบาดแผลที่ลึกอีกหลายแห่งแต่ด้วยพลังชีวิตและพลังกำลังอันมหาศาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เหิงฟูยังคงยืนหยัดอยู่ได้…
กังเหอในร่างครึ่งมังกรก็มิได้มีสภาพต่างไปจากกัน..ผิดกับจางลี่ที่รับการโจมตีครั้งสุดท้ายแทนกังเหอจนบาดเจ็บสาหัส!!
และสาเหตุที่แค่3คนเท่านั้นที่ยืนหยัดต่อสู้อยู่เพราะทั้งหมดนั้นต่างอยู่ใน กล่องย่นเวลา ที่ไป๋หลงสร้างไว้แม้ภายนอกจะเป็นกล่องสีดำขนาดใหญ่ไม่มากแต่พื้นที่ข้างในนั้นกว้างใหญ่จนไม่อาจคาดเดาได้!!
ประตูบานใหญ่ไร้ลอยขีดข่วนแต่ทั้งสามคนกำลังอยู่ในสถานะที่ถ้าโดนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าอีกครั้งสองครั้งก็อาจจะต้องเสียท่าก็เป็นได้โดยที่เหล่าศิษย์หญิงนับร้อยเพียงคุมเชิงเท่านั้น…
” เอาละ..จบสิ้นเสียที ” เหยชากล่าวขึ้นก่อนจะปากงจักรสีดำทมิฬแฝงไว้ด้วยพลังอันพิศดารที่ผู้ใดถูกสร้างบาดแผลพละกำลังจะถูกลดทอนลงและการป้องการทุกอย่างจะไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้ากงจักรทมิฬ…ไม่มีการป้องกันใดที่กงจักรทมิฬจะฝ่าไม่ได้…
“จงโทษความอ่อนแอและโอหังของเจ้าเสียเถอะ….กงจักรสูบวิญญาณ!! ”
กงจักรสีดำทมิฬถูกขว้างออกมาพร้อมกับไอสีดำที่ประทุออกมา…เหิงฟูฟืนร่างกายเร่งเร้าพลังเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งนี้…อาจารย์ที่เฝ้าสังเกตุการณ์เห็นท่าไม่ดีกำลังจะเข้าช่วยเหลือทันใดนั้น…ก่อนที่กงจักรจะเข้าถึงตัวของเหิงฟู..
ตู้ม!!!!
บางสิ่งบางอย่างคล้ายกับร่วงลงมาจากท้องนภา..ก่อนที่กลุ่มควันจะหายไปปรากฏเด็กหนุ่มผู้หนึ่งดวงตาสีแดงโลหิตเส้นผมสีดำมันขรับรูปร่างองอาจเปร่งประกายรัศมีบางอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาโดยที่ภายในมือขวากำลังถือกงจักรสีดำขนาดใหญ่อยู่…โดยที่มือข้างขวาของไป๋หลงที่กำลังกำกงจักรสีดำไว้ด้วยพละกำลังที่มิอาจคาดเดาได้พร้อมกับโลหิตสีแดงไหลหยดลงพื้น..ท่ามกลางความตกตะลึงของสายตานับร้อย!!!
ไป๋หลงปากงจักรกลับไปด้วยความเร็วที่มิอาจมองเห็นกงจักรสีดำทมิฬพุ่งผ่านหน้าเหมยชาไป..ราวกับไป๋หลงจงใจให้เป็นอย่างงั้น
ตู้มม!!
กงจักรสีดำปักเข้ากับฝาผนังที่สร้างด้วยศิลาที่คงทนที่สุดแต่ยามนี้กลับปริแตกเป็นทางยาว…เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทุกคนในที่นี้ต่าง..สับสนและวิตกกังวล เหมยชาและเหมยหลินต่างแสดงสีหน้าที่ไม่เคยเป็นมาก่อนโดนเฉพาะเหมยชา..ที่ยามนี้กำลังสั่นกลัวโดยไม่มีสาเหตุ!!
” พี่ใหญ่!!! ”
” พี่ใหญ่!! ”
เหิงฟูและกังเหอกล่าวขึ้นพร้อมกันก่อนจะทอดร่างนอนลงบนพื้นราวกับว่าศึกครั้งนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป!!
ไป๋หลงเพียงเหลียวหันไปมองทั้งสามคนโดยเฉพาะจางลี่ที่บาดแผลนั้นถือว่าสาหัสเป็นอย่างมากแต่ยังไม่ถึงแก่ชีวิต..
” กล้าดีนี่!! ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะยกเท้าข้างขวาขึ้นก่อนจะกระทืบลงบนพื้นอย่างแรง.
ตู้ม!!!!
พื้นศิลาแตกละเอียดเป็นฝุ่นผงแสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่มากเกินมนุษย์ทั่วไปเหล่าสตรีนับร้อยต่างล้มลงด้วยแรงสั่นไหวที่ไป๋หลงสร้างขึ้น..
ไป๋หลงค่อยๆหยิบบางอย่างออกมาจากความว่างเปล่าเป็นตรีศูลสีแดงโลหิตขนาดใหญ่ออกมา..ก่อนจะชี้ตรีศูลสีแดงโลหิตไปยังสองพี่น้องเหมยหลินและเหมยชา..ซึ้งที่ไป๋หลงใช้ครั้งนี้ก็คือ..
” ตรีศูลดับสุริยันต์!! ”
ไป๋หลงฉายแววตาอันเย็นเฉียบออกมาก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา…
” เข้ามา!!! ”
จบ…