เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่132 เทพแห่งความตายและพญายม
อาจจะเป็นภาพช่วงสั้นๆเพียงเสี้ยววินาทีแต่ทำให้ไป๋หลงเห็นเหตุการณ์ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น!!!
” นี้มัน!!! ”
ไป๋หลงผงะถอยหลังโดยไม่รู้ตัวราวกับวิตกกังวลและใบหน้าที่ขาวซีด..
” เมื่อครู่มันอะไรกัน..ภาพนั้นมันถ้า..มันเกิดขึ้นจริงโลกต้องพบกับจุดจบเป็นแน่!! ”
ไป๋หลงสถบขึ้นก่อนจะเรียบเรียงความคิดใหม่อีกรอบ..
” อย่างแรกเลยความแข็งแกร่งของเรายังมีไม่มากพอ..เห็นทางเดียวคงเป็น ณ ที่แห่งนั้น ”
ระหว่างกำลังเดินไปตรงประตูนั่นเองไป๋หลงจึงเอ่ยถามเบลขึ้น..
” ท่านเบล..ข้ามีอะไรอยากจะถามท่านหน่อยเกี่ยวกับเรื่อง หอคอยมรณะ ในโลกมาร!! ”
เบลได้ยินเช่นนั้นก็แปลกใจเล็กน้อยที่มารชั้นสูงอย่างไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นอย่างสุภาพ..ทั้งๆที่จะบังคับก็ได้แท้ๆ
” ถ้าเป็นเรื่องนี้ข้าพอจะทราบข้อมูลมาบางส่วน..ส่วนที่ตั้งก็อยู่บริเวณใจกลางของเมืองหลวงของโลกมาร..แต่กลับไม่มีใครคิดจะเข้าไปแม้แต่น้อย.. แม้แต่เหล่าราชวงศ์มารเองก็ไม่เข้าไปใกล้หอคอยเป็นเวลาหลายปีแล้ว…ทุกครั้งที่มีใครเข้าไป จะไม่มีใครได้กลับออกมาแม้แต่น้อย!! และอีกอย่างนึงหอคอยมรณะนั้น ถูกปิดผนึกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างขึ้น..
” อะไรนะ!! เหตุใดถึงต้องทำเช่นนั้น ”
ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นด้วยความร้อนรนเพราะหอคอยมรณะอาจจะมีเบาะแสบางอย่าง…
” ถึงข้าจะบอกแบบนั้นไปแต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว..เพราะหลังจากที่ราชวงศ์เผ่ามารรุ่นก่อนๆเข้าไป แล้วไม่ได้กลับออกมา เทพมารคนก่อนจึงสั่งปิดผนึกหอคอยรวมทั้ง..ฝากกุญแจในการเปิดหอคอยไว้กับ พญายมในแดน นรก และ เทพอีกตน ถ้าข้าจำไม่ผิดน่าจะมีชื่อว่า..ฮาเดส!!
”
ไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที..
” บัดซบ!! กุญแจก็ยังฝากแยกกันอีกเทพมารองค์ก่อนกลัวอะไรกันแน่..ทีนี้ก็มาลำบากข้าอีกที่ต้องไปเก็บรวบรวม ”
ไป๋หลงกล่าวสถบขึ้นก่อนจะฉายแววตาเป็นประกายออกมาอีกครั้งอารมณ์ของไป๋หลงในยามนี้ราวกับคลื่นทะเลที่ขึ้นๆลงๆราวกับคนเสียสติ…
” ละ..แล้วท่านรู้ไหมว่า ใครเป็นคนสร้างหอคอยนั่นขึ้นมา!! ”
เบลเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยตอบทันทีราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ…
” เทพมารคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์…แต่ไปพบรักกับเผ่าเทพที่เป็นฝ่ายตรงข้ามและคนละเผ่าพันธุ์กันจนถูกสภาโลกมารถอดถอนจากตำแหน่งเทพมาร…หลังจากนั้นเพื่อไปหาคนรักที่อยู่บนสรวงสวรรค์ก็ระเบิดพลังโทสะเป่า สภาโลกมารให้หายไป!! ก่อนทั้งคู่จะถูกปิดผนึกทั้งคู่เพราะละเมิดข้อห้ามร้ายแรง และยังคงมีการประนามเทพมารรุ่นแรกนั้นอย่างต่อเนื่องจนถึงบัจจุบัน!!…เทพมารที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์โลกมาร เทพมารอัลบาร์!!! ”
ไป๋หลงแสดงสีหน้าที่ยากจะอธิบายออกมาก่อนจะหยาดน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา..
” ท่านพ่อ!! ”
………………………………………………..
ณ แดนนรก
สตรีนางหนึ่งเส้นผมสีดำยาวดวงตาสีม่วง ริมฝีปากสีดำ อ่อน ใต้ตาขล้ำเล็กน้อยแต่ก็ยังมิอาจบดบังความงดงามของนางได้!!
และยังมีสตรีอีกนางหนึ่งที่ผิวกายขาวดุจหยกดวงตาสีแดงโลกันต์ เขาทั้งสองข้างที่เด่นเป็นสง่าพร้อมกับระดับพลังที่ไม่อาจจะบรรยายได้ กำลังจ้องเขม็ง สตรีผมสีดำ…
” ลมอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี้ละ ฮาเดส!! ”
สตรีผมสีดำเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเยาะออกมา…
” หึ..ข้าก็แค่มาดูให้แน่ใจว่าเจ้าไม่ได้หนีออกไปเที่ยวเล่น ณ โลกเบื้องบน แต่ดูเหมือนว่า ข้าจะมาขัดอะไรเจ้ารึเปล่า…แต่เอาเถอะข้าแค่จะมาเตือนว่าอย่าขึ้นไปโลกเบื้องบนเพราะเจ้าและข้าต่างก็มีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ!! ”
ฮาเดสกล่าวพลางมองไปรอบๆ…
” ดูเหมือนว่าพวกสัตว์นรกเตรียมจะใช้โอกาสนี้หนีออกไปข้างนอก ข้าจึงไม่เห็นพวกมันตอนเดินเข้ามา และ ผู้คุมนรกยังเดินกันตรวจตราตามเขตแดนของนรก….รับผิดชอบหน้าที่ตรงนี้ให้ดี!! ”
พญายมสาวเนั้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับออกมา…
” ข้าจะขึ้นไปโลกเบื้องบนแล้วมันจะทำไม!! ข้างล่างนี้ร้อนก็ร้อน มองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงข้าเบื่อ..ข้าจะออกไปข้างนอกไม่ว่ายังไงก็ตาม!! ”
ฮาเดชเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา..
” แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะให้เจ้าขึ้นไปข้างบนเหรอ…ข้าเห็นว่ามีกระเป๋าใบใหญ่ซ่อนไว้หลังบัลลังค์ของเจ้า!! ”
พญายมสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็สถบออกมาในทันที..
” โถ่เอ้ยย!! แล้วใครมันเป็นผู้ขีดเขียนกฏในนรกกัน..ว่าห้ามเหล่ายมบาลและรวมถึงพญายมห้ามใช้แหวนมิติ ถ้าไม่มีกฏบ้าบอนั้นข้าก็ไม่ต้องขนสัมภาระมากมายขนาดนี้… ”
ฮาเดชยิ้มเยาะออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น..
” แล้วเจ้าคิดว่า..เจ้าจะได้ออกไปเหรอ!! อีกอย่างผู้ที่ขีดเขียนกฏนั้นก็คือ โซโลม่อน!! ผู้ที่มอบหมายงานให้เจ้าและข้าไว้ก่อนจะหายตัวไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน!!! ”
พญายมสาวเส้นเลือดผุดขึ้นมาออร่าพลังระเบิดออกมาดวงวิญญาณนับล้านดวงบริเวณนั้นแตกดับในทันที!!..ถึงแม้จะฟื้นคืนได้แต่ก็ต้องใช้เวลา…
ฮาเดชเห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมาก่อนที่ทั้งสองคนจะปลดปล่อยพลังระดับผู้ปกครองแดนนรกออกมา!!
ตู้มมมม!!
แดนนรกสั่นสะเทือนราวกับจะแตกดับสัตว์นรกพากันแตกตื่น ผู้คุมดวงวิญญาณทั้งหมดต่างแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา…
” เอาอีกแล้ว ท่านฮาเดช กับ ท่านพญายม แดนนรกเห็นทีจะล่มสลายเพราะท่านทั้งสองคนนี้แหละ!! ”
ผู้คุมดวงวิญญาณเอ่ยขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมา….
………………………………………………………..
ณ ปากทางเข้าหอคอยเทพสถิต..
เวลานี้กองทัพหุ่นอักขระ..รวมถึงผู้อาวุโสนับร้อยคนต่างประจัญหน้ากับมารตนหนึ่งรูปร่างสมส่วนเส้นผมสีขาวยาวดวงตาสีแดง กำลังยืนเด่นอยู่หน้าประตูพร้อมกับปลดปล่อยระดับพลังที่สูงล้ำออกมาพร้อมกับ ร่างของไป๋หลงที่หมดสติอยู่!!!