เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่14 ความต่างชั้น
หลังจากไท่ซู่ที่เป็นถึงหนึ่งในหัวหน้า4ทิศ พ่ายแพ้ไม่ถึง10ลมหายใจสร้างความตกตะลึงให้กับอสูรตนอื่นๆอย่างมากไม่คิดว่านายน้อยผู้จะเก่งกาจถึงเพียงนี้ เมื่อกลุ่มควันหายไป ก็ปรากฏร่างไท่ซู่ที่ติดกับกำแพงจนล่วงลงมา ทำให้หัวหน้าทิศใต้ ทิศใต้ที่เหลือใบหน้าบิดเบี้ยวยกเว้นเพียงแต่หัวหน้าทิศตะวันตกที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวหน้าทิศทั้ง4 ยังคงแสดงใบหน้านิ่งเฉยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาต่างกับหัวหน้าทิศใต้ และ หัวหน้าทิศตะวันออก
” จะ เจ้ารอบโจมตีข้า!! ” ไท่ซู่ที่โดนเตะออกนอกสนามจนไปกระแทกกับกำแพงกำลังยืนขึ้นด้วยความทุรักทุเร กำลังกล่าวขึ้นน้ำเสียงไม่พอใจ
” ข้ารอบโจมตี ท่าน ข้าเกรงว่าท่านกำลังคิดเข้าข้างตัวเองมากกว่ากระมัง ท่านก็ได้ยินมิใช่รึ ว่า มู่จิน กล่าวเริ่มการประลองข้าก็แค่พุ่งไปหาท่านในขณะที่ท่านกำลังพูดมาก ขณะที่เริ่มการประลองแล้ว ข้าผิดเช่นไรช่วยท่านไท่ซุ่ อธิบาย ” ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ทำให้ไท่ซู่ ถึงกับพูดไม่ออก
” จะ เจ้า!! ” ไท่ซู่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
“ข้าทำไมรึ? ” ไป๋หลวกล่าวออกมาพรางจ้องมองไปยังไท่ซู่ด้วยสายตาที่เย็นชา ทำให้ไท่ซู่ถึงกับเสียงสันหลังทันที จนไม่สามารถพูดหาข้ออ้างต่อได้
” ได้ เจ้าชนะ ” ไท่ซู่กล่าวออกมาแบบไม่ได้สนใจแต่ในใจร้อนลุ่มดั่งเปลวเพลิง
“เอาล่ะคนต่อไปถ้าไม่มีข้าจะขออธิบายต่อ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาพลางสำสวจรอบๆจนมีเสียงๆนึงดังขึ้นมา
“ข้า อี้หยง หนึ่งในหัวหน้าทิศทั้ง4 ตัวข้าคุมเขตทางทิศตะวันตก ขอท้าประลองท่านหากท่านชนะพวกเราทั้ง4จะอยู่ภายใต้อำนาจของท่านไม่เพียงเท่านั้นพวกข้าทั้ง4จะให้การคุ้มครองแก่บอกอสูรเขตนอกเช่นกัน แต่ถ้าท่านพ่ายแพ้โปรดเลิกล้มเรื่องที่ท่านกำลังจะทำด้วย ” อี้หยงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แนวแน่และซื่อตรง ทำให้ไป๋หลง อดชมเชยในความเด็ดเดี่ยวไม่ได้
“ในเมื่อท่านกล้าท้าข้าก็กล้ารับเช่นกัน เชิญ ” ไป๋หลงเตรียมทั้งท่าต่อสู้ มู่จินจึงเริ่มกล่าวการประลอง
การประลองระหว่างนายน้อยไป๋หลง และ หนึ่งในหัวหน้าทิศทั้ง4 อี้หยง เริ่มได้!!
เมื่อมู่จินกล่าวเริ่มการประลอง อี้หยงพุ้งเข้ามาหาไป๋หลงด้วยความเร็ว พริบตาเดียว อี้หยงก็ง้างหมัด มาโผล่ตรงหน้าไป๋หลง ไป๋หลงตกตะลึงกับความเร็วของ อี้หยงเป็นอย่างมาก แต่ สามารถนำมือมามาป้องกันไว้ได้ทัน เกิดเสียงปะทะกันของคลื่นพลังทั้งสอง
ตู้ม!!!
หลังจากกลุ่มควันหายไปก็เห็นไปหล๋งถอยจากที่เดิม4ก้าว ส่วนอี้หยงนั้น โดนพลังของตัวเองตีกลับทำให้ถอยมา2ก้าว สร้างความตกตะลึงให้อสูรโดยรอบเป็นอย่างมาก
“เจ้าเห็นไหมนายน้อยสามารถต้านทานการโจมตีของอี้หยงได้ ” อสูรตนนั้นกล่าวออกมาด้วยความชื่นชม
“เจ้าอย่าพึ่งดีใจไป การประลองมันพึ่งจะเริ่มเท่านั้น ” อสูรตนนั้นกล่าวออกมาพรางสังเกตุการประลอง
อี้หยงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่นายน้อยผู้นี้สามมารถทำให้ตนเองนั้นถอยกลับมาได้ จึงแอบชื่นชมไป๋หลงอยู่ในใจนิดๆ ส่วนไป๋หลง ตอนนี้รู้แขนชาเป็นอย่างมากที่รับหมัดนั้น ถ้ารับไว้ไม่ได้เกรงว่าคงจะบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่
” นายน้อยข้าประมาทท่านเกินไปจริงๆข้าจะเอาจริงล่ะน่ะ นายน้อยเตรียมรับมือ ” อี้หยงกล่าวจบก็ระเบิดพลังระดับจักรพรรดิอสูรขั้น6ออกมา
ตู้มมม!!
แรงกดดันที่ปรากฏออกมาสร้างความกดดันให้กับไป๋หลงมิใช่น้อยเพราะ รวมทั้งเหล่าอูรที่มีพลังไม่มากพอจะต้านทานก็รู้สึกหายใจลำบากมากขึ้น
“ในเมื่อท่านเอาจริงข้าก็จะเอาจริงเช่นกัน เตรียมรับมือ ” ไป๋หลงกล่าวจบ ก็ใช้ วิชากายาอัสนี ออกมาทำให้ตอนนี่ร่างกายของไป๋หลงปกคลุมไปด้วยสายฟ้า ทำให้ร่างกายมีความเพิ่มขึ้นเท่าตัว
อี้หยงไม่รอช้าพุ่งเข้าไปหาไป๋หลงทันที ไป๋หลงเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงระเบิดพลังของสายฟ้าออกมา
ตู้มมม!!
ร่างของไป๋หลงหายไปจากสายตาของอี้หยงทันที อี้หยงไม่รอช้ารีบใช้พลังตรวจจับพลังของไป๋หลง อี้หยงขมวดคิ้วก่อนที่จะเงยหน้ามองข้างบน ปรากฏร่างของไป๋หลงที่กำลังดิ่งลงมา
” รับไปซะ ฝ่ามือสยบสรรพสิ่ง!! ” หลังจากไป๋หลงใช้วิชาฝ่ามือสยบสรรพสิ่งก็มีฝ่ามือขนาดใหญ่เทียบเท่าลานประลองพุ่งลงมาที่ร่างของอี้หยง เมื่อ อี้หยงเห็นเช่นนั้นจึง เรียกบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ ฝ่ามือสีทองที่กำลังเข้าปะทะกับอี้หยง ฉีกขาดออกราวกับกระดาษ ไป๋หลงขมวดคิ้วทันทีก่อนจะเห็นลำแสงสีเงินที่พุ่งตรงมา ไป๋หลงไม่รอช้า เอี้ยวตัวหลบทันทีทำให้เสื้อที่ใส่ฉีกขาดเล็กน้อย
“นายน้อยข้าขอยอมรับว่าท่านนั้นมีความสามารถมากจนทำให้ข้า อี้หยงผู้นี้ถึงกับใช้อาวุธประจำกายของข้า ชื่อของมันคือ กระบี่โลหิต เป็นอาวุธระดับ6 ดาวชนชั้นราชัน เพราะฉะนั้นท่านโปรดยอมแพ้เถิดข้าไม่อยากให้ท่านต้องเจ็บตัวเพราะถ้าหากข้าลงมือ ข้าไม่สามารถควบคุมความรุนแรงของท่าได้ อี้หยงเอ่ยพลางด้วยการก้มหัวลง” อี้หยงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ให้เกียรติแก่ไป๋หลง
ตอนนี้อสูรทุกตนตกใจภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก ที่ อี้หยงผู้นี้ถึงกับเรียกอาวุธคู่กายออกมา ทำให้ไท่ซู่ต้องมองไป๋หลงใหม่และหัวหน้า4ทิศอีก2คนที่เหลือ ต่างมองไป๋หลงใหม่เพราะไม่คิดว่านายน้อยผู้นี้สามารถทำให้อี้หยงสามารถเอาจริงได้ขนาดนี้
“ข้าขอขอบคุณสำหรับความกรุณาของท่าน แต่ ข้าคงต้องปฏิเสธ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเคารพ
“ก็ได้ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของนายน้อยข้าก็ไม่ขัด เตรียมรับมือ ”
หลังจากอี้หยงกล่าวจบก็พุ้งมาหาไป๋หลงทันทีพร้อมกับกระบี่โลหิตกระชับอยู่ในมือพร้อมกับกลิ่นไอสีแดงเลือด พร้อมกับตั้งท่า
“รับไปซะ โลหิตสีชาด!! อี้หยงนำกระบี่ที่อาบไปด้วยกลิ่นไอสีโลหิต ก่อน จะมีกลุ้มก้อนสีแดงที่เป็นละลองเลือด พุ้งเข้ามาไป๋หลง เมื่อไป๋หลงเห็นเช่นนั้น ไม่รอช้า รีบใช้วิชา ย่างก้าวอัสนี ออกมา บวกกับ กายาอัสนี ทำให้พลังความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กลุ้มก้อนสีแดงพุ้งตรงลงมา แต่ไม่สามารถโดนตัวของไป๋หลงได้ด้วยความเร็วที่ต่างกัน กลุ้มก้อนสีแดงปะทะกับสนาม จนเกิดเสียงระเบิดขึ้น
ตู้มมมม!!
เมื่อไป๋หลงเห็นเช่นนั้น ก็เข้าใจทันทีว่ามันคือระเบิดโลหิตขนาดใหญ่ ที่มีพลังทำลายสูงสังเกตุจากพื้นลานประลองที่ทำมาจากแร่พิเศษที่มีความคงทนเป็นอย่างมาก แต่ยังโดน ระเบิดจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ อี้หยงประหลาดใจเล็กน้อย ที่ ไป๋หลงสามารถหลบท่า โจมตีของมันได้
ไป๋หลงไม่รอช้าใช้โอกาสที่อี้หยงกำลังตกตะลึง อ้อมไปทางด้านหลังอี้หยงแล้ว ใช้เท้าเตะเข้ากลางลำตัวทันที เมื่ออี้หยงรับรู้ภัยที่มาถตัวไม่รอช้าใช้พลังสร้างเป็นเกราะทำให้ อี้หยงกระอักเลือกออกมาคำโต ภาพลงนี้ตราตรึงลงไปในความทรงจำอสูรทุกตน พวกมันเข้าใจทันทีว่าไป๋หลงนั้นเป็นคนเก่งกาจและเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง
“ไม่คิดเลยว่านายน้อยจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่ต้องจบเพียงเท่านี้แล้วหล่ะ กระบวนท่า เผด็จศึกอาณาเขตโลหิต อี้หยงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง อี้หยงนำกระบี่ปักลงพื้นก่อนบริเวณบนลานประลองจะแรากฏ หมอกโลหิตเข้าปกคลุมทั้วทั้งสนาม ไป๋หยางคิ้วขมวดเตรียมจะหยุดการต่อสู้แต่ไป๋หลงส่งโทรจิตบอกว่ายังไหว เลยทำให้ตัวมันได้แต่เฝ้าดูด้วยความเป็นห่วง
” ในพื้นของ อาณาเขตโลหิตจะทำให้คนที่สู้ด้วยอ่อนแอลงและเพิ่มความแข็งให้กับผู้ใช้แต่แลกมาด้วยพลังมหาศาล ” อี้หยงพลางอธิบาย ตอนนี้ไป๋หลงหน้าซีดกำลังจะสูญเสียพลังทั้งหมดก็ได้มีเสียงดังภายในหัวของไป๋หลง นี้เจ้าหนูลืมวิชาที่ข้าฝึกให้อย่างงั้นรึ ก็แค่อาณาเขตพันนี้เจ้าสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
“จริงของท่านอาจารย์แต่ข้าได้แค่ขั้นเดียวน่ะ แหะๆ ” ไป๋หลงกล่าวด้วยความตอบผ่านจิตด้วยความเขิลอาย
“แค่ขั้นแรกก็เพียงพอ เอาล่ะ ลงมือซะ ข้าขอพักก่อนล่ะ !! ” ขงจือกล่าวออกมาก่อนที่เสียงจะเงียบและหายไป ไป๋หลงกลับมาตั้งสมาธิกับการประลองอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวบอกแก่อี้หยง
“เอาล่ะในเมื่อท่านทุ่มสุดตัวก็ไม่อยากให้ท่านผิดหวังเตรียมรับมือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า “ไป๋หลงพูดด้วยน้ำเสียงที่องอาจ
หมื่นกระบี่สยบเทวา ขั้นที่1
ไป๋หลงกล่าวจบก็มีกระบี่โปร่งแสงสีขาวซึ่งเป็นเพียงแค่ขั้นแรกเท่านั้นไม่สามารถ แสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ กระบี่โปรงแสงสีขาว ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยตัวอยู่กลางอากาศนับพันเล่ม ซึ่งข้างนอกไม่อาจทราบถึงสถาณการณ์ ข้างในได้ อี้หยงเห็นเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วทันท้
“แข็งแกร่ง.. ” อี้หยงกล่าวขึ้นด้วยความชื่นชมไป๋หลงด้วยความนับถืออย่างแท้จริง
ไป๋หลงไม่รอช้าบังคับกระบี่โปร่งแสง พุ่งไปทางอี้หยงในทัน อี้หยงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็สร้างม่านหมอกโลหิต เป็นกระบี่สีโลหิตพุ่งเข้าประทะกับกระบี่ของไป๋หลงทันที จนเกิดเสียงระเบิดพลังของทั้งสองที่เข้าประทะกัน
ตู้มมมมมม!!
จบ