เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่28 ตื่นขึ้นจากการหลับไหล
ณ.ราชสำนักอาณาจักร จรัสแสง
” นี้ๆข้าได้ยินมาว่ามีผู้อัญเชิญสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ มาเป็นอสูรในพันธะสัณญาด้วยนั้นเป็นความจริงหรือ? ” เสียงทหารองค์รักษ์ที่คอยดูแลรักษาความปลอดถัยภายในราชสำนักกล่าวขึ้น
” ข้าก็ได้ยินเช่นนั้น นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ยิ่งนักที่สามารถทำพันธะสัณญากับสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่… ” เสียงของทหารองค์รักษ์อีกคนกล่าวข้างไว้
” แต่อะไรเล่าบอกข้ามาซิ ข้าอยากรู้ ” ทหารองค์รักษ์อีกคนกล่าวออกมาด้วยความใคร่รู้
” แต่จะควบคุมให้ทำตามคำสั่งนั้นเล่า ข้าเกรงว่าอาจจะมีปัญหาก็เป็นได้ ดูอย่างสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ของท่านจักรพรรดิถังหน่านเหิงสิ ยังไม่ยอมก้มหัวให้กับท่านเลย เพียงแค่บอกให้ทำสั่งนั้นยากยิ่งนักถ้าไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยน ” ทหารองค์รักษ์ กล่าวอธิบายออกมา
” อาจจะ เป็นอย่างที่เจ้าว่า หลังจากท่านแม่ทัพกลับมารายงานเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ภายในราชสำนักทันที ตอนนี้ท่านแม่ทัพนำราชโองการจากท่านจักรพรรดิ ไปเรียนเชิญ คนที่เรียกสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ มาแล้วอีกไม่นานคงจะมาถึง ”
ตัดมาทางไป๋หลง
” ท่านแม่ทัพ อีกนานแค่ไหนกว่าจะถึงราชสำนักหรือ? ” ไป๋หลงถามออกมาด้วยความใคร่รู้ เมื่อท่านแม่ทัพเห็นเช่นนั้น ก็กล่าวบอกแก่ไป๋หลงทันที โดยที่อู้เฉียงนั่งฟังอยู่ใกล้ๆกับไป๋หลง
” อีกไม่นานแล้วล่ะ ” ท่านแม่ทัพกล่าวขึ้น
” ท่านแม่ทัพทำไมพวกเราถึงได้รับราชโองการให้ไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิด้วยล่ะ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความใคร่รู้
” นี้เจ้าไม่รู้เลยเหรอว่าเจ้าเรียกสิ่งใดออกมา สัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ใช่ใครๆก็เรียกออกมาได้แต่ต้องมีความสามารถและพรสวรรค์ทางสายเลือด ยกตัวอย่างเช่น องค์จักรพรรดิถังหน่านเหิงที่พวกเจ้ากำลังจะไปเข้าเฝ้านั้น มีสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธะสัณญาก็จริง แต่จะควบคุมให้เชื่อฟังคำสั่งนั้นยากมาก สัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นที่ต้องการของทุกทวีป ถ้าข่าวนี้แพร่งพรายออกไปรับลองว่าได้เกิดสงคราแย่งชิงตัวเจ้าแน่!! ” แม่ทัพกล่าวออกมาด้วยความไม่สบายใจ
หลังจากไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตระหนักในเรื่องนี้ทันทีถ้าไม่จวนตัวหรืออยู่ในอันตรายถึงแก่ชีวิตจริงๆจะไม่เรียกหลิงหลุนออกมาเด็ดขาด ส่วนอู้เฉียงที่ได้อยู่ก็ รู้สึกว่าปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นแน่ถ้าซี้ซั้วเรียก นกฟีนิกซ์เพลิงอัมตะออกมา
” เอาล่ะใกล้จะถึงแล้ว ” เมื่อท่านแม่ทัพย์กล่าวจบไป๋หลงก็บอกหลิงหลุนทันที
” หลิง หลุนเข้ามาในตัวข้าได้หรือไม่เหมือนที่ ฟีนิกซ์ทำกับอู้เฉียง ” ไป๋หลงกล่าวถามหลิงหลุนที่นอนอยู่บนหัวของตน
” ได้แน่นอน นายท่าน ” หลิงหลุนกล่าวจบก็กลายเป็นแสงสีขาวเข้ามาในตัวไป๋หลงทัน
” เดี๋ยวก่อน!! เมื่อกี้เจ้าบอกว่า ฟีนิกซ์ ใช่ไหม ”
เสียงนี้เป็นเสียงของท่านแม่ทัพที่ได้ยินไป๋หลงคุยกับหลิงหลุน สาเหตุที่แม่ทัพไม่รู้เรื่องนี้เพราะก่อนแม่ทัพจะมาถึงเหตุการณ์ทั้งหมดก็จบลงเรียบร้อยเพียงสัมผัสได้ถึงพลังงานอันมหาศาลเท่านั้นจึงคิดว่าเป็นพยักฆ์ขาวของไป๋หลงนี้เป็นสาเหตุที่ แม่ทัพคนนี้ไม่รู้ว่าอู้เฉียงนั้นสามารถเรียกสัตว์เทพอสูรออกมาได้อีกคน
” ใช่แล้วท่านแม่ทัพ สหายข้าสามารถเรียก นกฟีนิกซ์ออกมาได้ ถึงจะยังไม่เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ก็เถอะ ” เมื่อไป๋หลวกล่าวจบก็หันมามองอู้เฉียงด้วยความตกตะลึงจนไม่อาจรักษาความเป็นแม่ทัพไว้ได้อีก เมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นได้
อู้เฉียงเห็นท่านแม่ทัพมองมาก็กล่าวอธิบายทันที
” เป็นอย่างที่ไป๋หลงพูด แต่ข้ายังไม่รู้เลยว่าบททดสอบที่ฟีนิกซ์ให้นั้นเป็นแบบไหน ” อู้เฉียงกล่าวออกมาพลางเกาหัวเล็กน้อย ตอนนี้แม่ทัพได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัว
บ้าน่า!! ผู้เยาว์สองคนนี้เป็นใครกันแน่ภูมิหลังจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน อีกอย่างถ้าผู้เยาว์สองคนนี้จะต้องเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ของทวีปจรัสแสงเป็นแน่แต่ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงพวกอาณาจักรหรือทวีปใกล้เคียง ทวีปจรัสแสงคงลุกเป็นไฟแน่
“เอาล่ะเรื่องนี้ เจ้าห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าเจ้าครอบครองสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์!! มิเช่นพวกเจ้าจะมีอันตราย ” แม่ทัพพูดด้วยน้ำเสียงเค่งขรึมทำให้ไป๋หลงและอู้เฉียงตอบรับพร้อมกันทันที
” ขอรับ ”
” ขอรับ ”
” ข้าเกือบลืมไป ข้าชื่อ ไคเฉินเป็น แม่ทัพทิศเหนือ ” ไคเฉินกล่าวบอกชื่อของตนออกมา ไป๋หลงและอู้เฉียงต่างบอกชื่อกลับโดยทันทีเพราะมันเป้นมารยาท
” ข้าน้อยชื่อ ไป๋หลง ”
” ข้าน้อยชื่อ อู้เฉียง ”
หลังจากไป่หลงและอู้เฉียงกล่าวแนะนำตัวเสร็จไคเฉินก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
” เอาล่ะถึงแล้ว ” หลังจากไคเฉินกล่าวจบเหยี่ยวสายฟ้าก็บินลงพื้น พร้อมกับมีทหารยามหลายคนมารอรับ
” ทำความเคารพท่านแม่ทัพ ” เสียงของทหารยามนายหนึ่งดังขึ้นดูท่าจะเป็นหัวหน้าของทหารยาม30กว่าคนไป๋หลงตรวจสอบพลังของทุกคนแล้วส่วนใหญ่อยู่ที่นักรบหลอมขั้น 8ถึง9 ซะส่วนใหญ่ ส่วนคนที่ดูท่าเป็นหัวหน้า อยู่ที่นักรบที่แท้จริงขั้น5 ถือว่าแข็งแกร่งพอสมควร
” ไม่ต้องมากพิธี ข้าจะพาพวกเขาสองคนเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิโดยด่วน ” ไคเฉินพูดจบก็พาไป๋หลงและอู้เฉียงเข้าพบองค์จักรพรรดิทันที ทหารยามทั้งหมดต่างมองอู้เฉียงและไป๋หลงด้วยแววตาที่ซับซ้อน แต่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของไป๋หลงและอู้เฉียงได้
” นั้นคือ คนในข่าวลือรึ ที่ว่าทำพันธะสัณญาอสูรกับสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์น่ะ ” เสียงของทหารยามรูปร่างผอมบางกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
“ถ้ามากับท่านแม่ทัพก็น่าจะใช่ ”
” น่าแปลกข้าไม่สามารถ ตรวจสอบพลังของพวกเขาได้อีกอย่างข้าไม่สามารถมองเห็นใบหน้าพวกเขาได้ ”
ตอนนี้ทหารยามต่างพูดคุยของพวกทหารยามต่างๆนาๆ
” ในพระราชสำนักชั่งงดงามจริงรูปลักษณ์ที่สลักลงบนกำแพงลวดลายต่างพร้อมกับทางเดินที่มีขนาดใหญ่ ” ไป๋หลงอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา
” ใช้ข้าก็คิดเช่นนั้น ข้าอยากรู้จังใครเป็นคนลงรูปลักษณ์บนกำแพงถึงทำออกมาได้สวยงามเช่นนี้ ” อู้เฉียงกล่าวเสริมออกมา
ไคเฉินได้ยินไป๋หลงและอู้เฉียงพูดก็ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความภูมิใจเพราะลายลักษณ์บนกำแพงนั้นเป็นฝีมือของไคเฉินนั้นเอง ผ่านไปสักก็มาถึงหน้าประตูบานใหญ่ที่มีทหารองค์รักษณ์ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ เมื่อองค์รักษ์ที่เห็นไคเฉินเดินมาก็ต่างทำความเคารพไคเฉินทันที
” คาราวะท่านแม่ทัพ ” ทหารองค์รักษ์กล่าวทำความเคารพไคเฉินพร้อมเพรียงกัน ไคเฉินพยักหน้าให้ก่อนที่องค์รักษ์จะเปิดประตูให้ไคเฉินทันที ทหารองค์รักษ์ ต่างมองไป๋หลงและอู้เฉียงด้วยความสงสัยทันทีก่อนที่ ทหารองค์รักษ์ นายหนึ่งจะกล่าวขึ้น
” เดี๋ยว ก่อนพวกท่านช่วยเอาฮู้ดออกได้หรือไม่ เพื่อความสบายใจของพวกเรา ” องค์รักษ์คนนั้นกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อมไม่มีความเย้ยหยันหรือดูถูกในน้ำเสียงทำให้ไป๋หลงตอบกลับไปในทันที พร้อมกับไคเฉินที่ไม่ได้กล่าวห้ามอะไร
” ถ้าเพื่อความสบายใจของพวกท่าน อู้เฉียงเจ้าเอาฮู้ดลงให้พวกเขาหายสงสัยเถอะ ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เอาฮู้ดออกในทันที ทหารองค์รักษ์เหล่านั้นเมื่อเห็นไป๋หลงก็ทำหน้าเหวอในทันที ไคเฉินก็เช่นกันไม่นึกว่า พวกไป๋หลงจะมีอายุเพียงเท่านี้ ตาสีแดงสดราวกับอัญมณี ผมสีดำที่เงางามผิวขาวดุจหิมะ ถ้าสตรีนางใดได้เห็นคงอิจฉาตาร้อนและยอมพลีกายให้ไป๋หลงทันทีส่วนอู้เฉียงนั้นนับว่าหล่อเหลาในระดับนึงเมื่อไป๋หลง เอาฮู้ดออกก็กล่าวออกมาทัน
” พวกท่านสบายใจแล้วใช่หรือไม่? ” ไป๋หลงกล่ามแก่องค์รักษ์ที่ยืนอยู่ไป๋หลงพลางตรวจสอบพลังก็ตกตะลึงเล็กน้อยเพราะส่วนใหญ่อยู้นักรบที่แท้จริงขั้น8 ถือว่าแข็งแกร่งในระดับนึง
” ชะ เชิญ พวกเจ้าเข้าไปได้ ” ทหารองค์รักษ์ คนนั้นกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง ก่อนที่ไป๋หลงและอู้เฉียงจะเดินเข้าไปในประตูทันที
“นี้พวกเจ้า เห็นเหมือนข้าใช่ไหม เป็นเพียงแค่ผู้เยาว์แต่สามารถ.. ”
” เจ้าควรเงียบเอาไว้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ” ทหารองค์รักษ์ อักคนกล่าวขัดขึ้น
” อัจฉริยะโดยแท้ สงสัยคราวนี้ทวีปจรัสแสงคงรุ่งเรื่องเป็นแน่ ” ทหารองค์รักษ์ อีกคนกล่าวเสริม
ทหารองค์รักษ์ต่างพูดกันต่างๆนาๆเกี่ยวกับการมาของไป๋หลงและอู้เฉียง
” ถวายบังคมองค์จักรพรรดิ ข้าพาพวกเขามาแล้ว ” ไคเฉินกล่าวออกมาด้วยความเคารพ เมื่อไป๋หลงและอู้เฉียงเห็นเช่นนั้นก็คราวทำความเคารพทันที
” ถวายบังคมองค์จักรพรรดิ ” ไป๋หลงและอู้เฉียงกล่าวออกมาพร้อมกันพลางมองดูองค์จักรพรรดิ เป็นชายวัยกลางคนผมสีขาว รูปร่างสมส่วนใบหน้าคมคาย
” ฮ่าๆ ไม่ต้องมากพิธี ลุกขึ้นเถิด ” องค์จักรพรรดิกล่าวจบ ไป๋หลงและอู้เฉียงรวมทั้งไคเฉินลุกขึ้นทันที
” พวกเจ้ามีชื่อว่าอะไรหรือ ? ” องค์จักรพรรดิกล่าวถามออกมา เมื่อไป๋หลงแบะอู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็ บอกกล่าวชื่อของตัวเองทันที
” ข้าน้อยมีชื่อว่า ไป๋หลง ”
” ข้าน้อยมีชื่อว่ส อู้เฉียง ”
ไป๋หลงและอู้เฉียงกล่าวออกมาด้วยความเคารพ
“พวกเจ้าเจอลูกของข้าหรือยัง พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง? ” องค์จักรพรรดิถามออกมาด้วยความใคร่รู้
” ข้าได้เจอกับพวกเขาแล้วแต่ยังไม่ได้พูดคุยกันมากเท่าไหร่ ” ไป๋หลงกล่าวอธิบาย
” ข้าเข้าใจแล้วเอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันเถอะ ” องค์จักรพรรดิ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
” พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ถึงสามารถทำพันธะสัณญาอสูรกับสัตว์เทพอสูรได้? ”
เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้น ก็กล่าวตอบออกมาทันที
” เกรงว่าข้าไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ” ไป๋หลงตอบออกมาด้วยความเคารพ
” ไม่เป็นไร งั้นเจ้ามาเข้าร่วมกับราชวงศ์ของข้าหรือไม่? ” เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบออกมาด้วยความเคารพอีกครั้ง
“เรื่องนี้ข้าได้พูดกับองค์ชายถังเทียนไปแล้ว ข้าขอเวลาตัดสินใจ ”
” เป็นเช่นนั้นนี้เองว่าแต่ข้าขอดู สัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้หรือไม่ “องค์จักรพรรดิถามออกมาด้วยความอยากรู้นิสัยส่วนตัวขององค์จักรพรรดินั้นชอบเกี่ยวกับเรื่องสัตว์อสูร เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาทันที
” ได้ ขอรับ หลิงหลุนออกมา ” ไป๋หลงกล่าวจบก็มีพยักฆ์สีขาวสลับดำขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที องค์จักรพรรดิเบิกตากว้างในทันทีเพราะไม่คิดว่าไป๋หลงจะบอกพยักฆ์ตัวนี้ออกมาได้ ขนาดสัตว์เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ ของตนนั้นยังไม่สามารถเรียกออกมาตามใจชอบได้เลย
” เอ่อ.องค์จักรพรรดิข้าเกรงว่าข้าไม่สามารถเรียกออกมาได้เหมือนไป๋หลงขอรับ แฮะๆ ” อู้เฉียงกบ่าวออกมาพลางยิ้มแล้วเกาหัวด้วยความเขิลอายเล็กน้อยแต่เมื่อองค์จักรพรรดิได้ยินเช่นนั้นก็แปลกใจทันทีก่อนจะกล่าวถามไคเฉินที่ยืนอยู่
” ไคเฉินนี้มันยังไงกันแน่” องค์จักรพรรดิ ถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อไคเฉินได้ยินเช่นนี้ก็กล่าวอธิบายทันที
“เรียนองค์จักรพรรดิ ถามเจ้าตัวดูท่าจะเหมาะสมกว่า ” ไคเฉินกล่าวจบก็ผายมือมาทางอู้เฉียงในทันที
” เรียนท่านองค์จักรพรรดิ สัตว์อสูรในพันธะสัณญาของข้าคือ นกฟีนิกซ์เพลิงอมตะ!!! ” อู้เฉียงกล่าวจบองค์จักรพรรดิ ก็ทำสีหน้าตกตะลึงในทันที
” นะ นี้เจ้าบอกว่าเจ้ามี ฟีนิกซ์เป็นสัตว์อสูรในพันธะเช่นนั้นรึ!! ”
” เป็นเช่น แต่ข้ายัง ไม่ได้ทำการทดสอบที่ ฟีนิกซ์ตั้งไว้ จะเรียกว่า ยังเป็นเจ้าของโดยไม่สมบูรณ์ก็ได้ขอรับ แฮะๆ ” อู้เฉียงกล่าวจบ
องค์จักรพรรดิก็ทำหน้าเหนื่อยใจในทันที
” เฮ้อ…พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ ” องค์จักรพรรดิบ่นขึ้นมาทันใดนั้นเองสัตว์เทพอสูรของ
องค์จักรพรรดิก็ตื่นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนานเพราะมันสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่น่าหวาดหวั่นและน่าเคารพราวกับเป็นพลังของเทพและมาร
ทันใดก็เกิดแสงสว่างไปทั่วห้องก่อนจะปรากฏอะไรบางอย่างตรงหน้าไป๋หลง
นี้มัน!!!
จบ.