เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่32 การปะทะระหว่างมหาวิชาชั้นสูง
เมื่อไป๋หลงเห็นเอลฟ์ตนนั้นชี้มาที่ตน ก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะไม่คิดว่าเอลฟ์นั้นจะเลือกตนจึงถามเพื่อควมแน่ใจ
“ข้าเหรอ? ” ไป๋หลงถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ
” ใช่ข้าเรียกเจ้านั้นแหละมาสู้กับข้าซะ ข้าไม่ชอบใจเลยคนที่ทำตัวลึกลับตรวจวัดระดับพลังก็ไม่ได้ ใบหน้าข้าก็ไม่เห็น นั้นแหละถึงทำให้ข้าหงุดหงิด ” เอลฟ์สาวกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับกุมขมับไม่คิดว่า เหตุผลไร้สาระแบบนี้จะทำให้เอลฟ์สาวไม่พอใจ
หลังจากเอลฟ์สาวกล่าวเลือกไป๋หลงไป๋หลงคนที่กำลังทยอยกลับก็หยุดชะงักลง พร้อมกับจับตามองไปที่ไป๋หลง ว่าไป๋หลงจะกล่าวตอบออกไปว่าอย่างไร
” ได้ข้าจะสู้กับเจ้า ถ้าข้าชนะจงมาเป็นผู้ติดตามของข้าซะ ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่เอลฟ์สาวตนนั้นในทันที ทางด้านเอลฟ์สาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เพราะตนนั้ันไม่ได้รู้สึกโกรธกับการที่ไป๋หลงพูดออกมาเช่นนั้น อีกอย่างน้ำเสียงที่ไป๋หลงใช้ไม่ได้มีความเยาะเย้ยอยู่ในน้ำเสียงแม้แต่น้อย
” ได้ข้าตกลง ” เอลฟ์สาวตนนั้นตอบรับทันทีเมื่อไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้เล็กน้อย ตอนนี้ซานอี้มองไป๋ด้วยแววตาที่ซบซ้อน เหตุใดถึงต้องรับคำท้าสู้ เมื่อซานอี้คิดเช่นนั้นก็กล่าวถามไป๋หลงทันที
“นี้เจ้าทำไมถึงรับคำท้าประลองของนางล่ะ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะสัตว์ประหลาดพันธ์นั้นได้เหรอ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ” ซานอี้กล่าวออกมาด้วยความสงสัย เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบออกมาทันที
” ข้าก็ไม่รู้ เดี๋ยวเจ้าก็เห็นเอง ข้าขอตัว ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่ซานอี้ เมื่อซานอี้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเป็นห่วง ไป๋หลงขึ้นมาเล้กน้อยโดยไม่รู้ตัว ทางด้านผู้ติดตามของซานอี้นั้น ได้แต่มองไป๋หลงด้วยความหวาดกลัว เพราะคนที่โดนจิตสังหารมีแค่ตนเท่านั้น คนอื่นมิอาจรับรู้ได้
คนทั่วทั้งโรงประมูลต่างคิดว่าไป๋หลงนั้นอวดดีเกินไป บางคนก็บอกไป๋หลงนั้นมีฝีมือต่างฝ่ายต่างถกเถียงกัน
” เป็นอย่างที่เอลฟ์สาวตนนั้นบอก ข้าไม่สามาถมองเห็นระดับพลังหรือ ใบหน้าของคนผู้นั้นได้ หรือจะเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลใหญ่ ” เสียงของคนที่ยืนดูอยู่กล่าวออกมา
” มันจะเป็นไปได้อย่างไรฟังจากน้ำเสียง ข้าว่ายังไงก็ไม่ใช่ผุ้อาวุโสแน่นอน ” เสียงอีกคนกล่าวเถียงขึ้นมา
” พวกเจ้าจะเถียงกันทำไมรอดูว่าคนผู้นั้นฝีมือจะดีเหมือนฝีมากรึเปล่าถ้าไม่ก็แค่ตายตามชายเมื่อครู่ก็แค่นั้น ” เสียงของอีกคนกล่าวเสริมขึ้น
ตอนนี้คนทั้งหมดต่างล้วนจับตามองไปที่ไป๋หลงส่วนคุณชายเหลียงนั้นนั่งยิ้มพึงพอใจเพราะมันนั้นคิดว่าไป๋หลงจะต้องพ่ายแพ้และโดนสังหารอย่างแน่นอน ขณะนั้นเองบุรุษชุดดำที่ตัวเองได้สั่งให้ไปสืบข้อมูลของไป๋หลงกลับมาด้วยสีหน้าแตกตื่น
” คะ คุณชายเหลียงข้าทราบแล้วว่าคนผู้นั้นมาจากไหน ” เสียงของบุรุษชุดดำกล่าวออกมาด้วยความที่ข่าวที่มันได้มานั้น แทบจะทำให้มันล้มทั้งยืน
” ดีๆมาก เอาล่ะว่ามา ถ้ามันไม่ใช่คนของตระกูลใหญ่ต่อ ข้าจะฆ่ามันเองโทษฐานที่มันบังอาจประมูลสินค้าตัดหน้าข้า ” เมื่อบุรุษชุดดำได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวห้ามออกมาแทบจะทันที
” ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้น!! ” บุรุษชุดดำกล่าวห้ามออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เมื่อ เหลียงเวิ่น เห็นเช่นนั้น ทำให้เหลียงเวิ่นนั้นรู้สึกแปลกใจทันที เพราะปกตินั้น ข้ารับใช้ของมันจะไม่ขึ้นเสียงแบบนี้ จึงกล่าวถามออกมาทันที
” ทำไม บอกข้ามา!! ” เมื่อบุรุษชุดดำได้ยินเช่นนั้นก็บอกข่าวที่ได้มาทันที ด้วยน้ำเสียงที่ จริงจัง
” เพราะว่า…คนผู้นั้นออกมาจากราชสำนัก ขององค์จักรพรรดิ และข้าน้อยได้สืบต่อมาอีกว่า คนผู้นั้น เป็นแขกพิเศษ ขององค์จักรพรรดิ์!! ” บุรุษชุดดำกล่าวบอกแก่เหลียงเวิ่น
เมื่อเหลียงเวิ่นได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงทันที เพราะ การที่องค์จักรพรรดิมีแขกคนพิเศษนั้น คนผู้นั้นย่อมไม่ธรรมดา
” ถะ ถ้าเจ้าพูดมาเป็นความจริงพวกเราอย่าไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนผู้นั้น เด็ดขาด! ! ” เหลียงเวิ่นกล่าวสั่งบุรุษชุดดำ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
” ขอรับ ” บุรุษชุดดำกล่าวออกมาก่อนจะหายไปในเงามืด
ไป๋หลงตอนนี้เดินมาถึงเวทีการประลองที่ถูกจัดเตรียมไว้ภายในโรงประมูล เมื่อพิธีกรสาวเห็นเช่นนั้นก็กล่าวถามแก่ไป๋หลงทันที
” ต้องการใช้อาวุธที่เราเตรียมให้หรือไม่หรือจะใช้อาวุธของตนเองก็ได้ ” พิธีกรสาวกล่าวถามแก่ไป๋หลง เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบ
” ไม่ต้อง ” ไป๋หลงตอบกลับออกมาแบบเรียบๆ
” เช่นนั้นก็เชิญขึ้นประลองหวังว่า…จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ” พิธีกรสาวกล่าวบอกแก่ไป๋หลงอย่างมีเลศนัย ไป๋หลงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ตอนนี้ไป๋หลงได้เดินขึ้นไปบนลานประลองรูปกรงนก ที่มีเอลฟ์สาวยืนอยู่กลางลานประลอง ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะฉีกขาด ผ้าสกปรกแต่มิอาจบดบังความงามของนางได้แม้แต่น้อย
” ข้าสงสัยซะแล้วสิ ว่าลานประลองรูปกรงนกเช่นนี้ ไม่ใช่กันให้เจ้าหลบหนีแต่กันไม่ให้คนที่สู้ด้วยหนี้ได้มากกว่าละมั้ง ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่เอลฟ์สาวด้วยน้ำเสียงกวนๆ
” หึ!! อาจจะเป็นอย่างที่เจ้าว่าเรามาเริ่มกันดีกว่า การต่อสู้ที่เจ้ามีชีวิตไว้เดิมพัน ” เมื่อเอลฟ์สาวพูดจบ พิธีกรสาวก็กล่าวเริ่มการประลองในทันที
การประลองเริ่มได้!!
หลังสิ้นเสียงการประลอง เอลฟ์สาวได้หายไปจากตรงหน้าของไป๋หลงทันที ผู้คนทั้ง โรงประมูลต่างตกตะลึงในความเร็วของเอลฟ์สาว ไป๋หลงแผ่จิตสัมผัสออกไปก็รู้ได้ทันที
” ข้างบน สินะ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาอย่างเรียบเฉย ก่อนจะกระโดดหลบ หลังจากไป๋หลง กระโดดหลบ เอลฟ์สาวก็เปลี่ยนทิศการโจมตีไปยังจุดที่ไป๋หลงเคลื่อนที่ไปทันทีจนเกิดเสียงปะทะกันดังลั่น
ตู้มมม!!
หลังจากเสียงของพลังที่ปะทะกัน ทั่วทั้งโรงประมูลต่างอ้าปากค้าง ไป๋ ใช้เพียงมือเดียว ในการหยุดการโจมตีของเอลฟ์สาว เมื่อเอลฟ์สาวอยู่ในท่าทีตกตะลุง ไป๋หลงก็ไม่ปล่อยโอกาศนี้ให้พลาด ก่อนจะใช้เท้าห่อหุ้มไปด้วยอัสนี
บาทาอัสนี!!
ไป๋หลงใช้เท้าเตะไปที่ช่วงลำตัวของเอลฟ์สาวในทันที เมื่อเอลฟ์สาวเห็นดังนั้นก็มิอาจหลบได้ เพียงแค่ ใช้พลังป้องกัน ตรงที่ไป๋หลงเตะในทันที แต่ความต่างของความเร็วทำให้ไป๋หลง โจมตีโดนเอลฟ์สาวก่อนจะรวบรวมพลังป้องกันเสร็จ
ตู้มม!!
“อึก..ร้ายกาจเจ้ากล้าเตะสตรีได้เยี่ยงไร หน้าไม่อาย ” เอลฟ์สาวกล่าวออกมาพร้อมกับกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ตอบออกมาด้วยท่าทีเรียบเฉย
” การประลองที่เจ้าจ้องจะเอาชีวิตข้ามีหรือ ข้าจะยอม ” เมื่อเอลฟ์สาวได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีกเลย
” เอาล่ะมาต่อรอบที่2 กันเถอะ ” ไป๋หลงกล่าวจบก็พุ่งไปหาเอลฟ์สาวในทันที ขณะนั้นเอง เอลฟ์สาวก็ระเบิดพลังออกมา
ตู้ม!!
ไป๋หลงที่พุ่งเข้าไปถึงกับกระเด็นออกมาก่อนจะคิ้วขมวดเมื่อเห็นระดับพลังของเอลฟ์ อยู่ที่ จักรพรรดิ ขั้นที่1 เมื่อเอลฟ์สาวเห็นไป๋หลงถอยไป ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที
” การต่อสู้ที่แท้จริงมันจะเริ่มต่อจากนี้!! ”
หลังจากเอลฟ์สาวกล่าวจบก็พุ่งมาหาไป๋หลงในทันที แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกคือ ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไป๋หลงไม่อาจหาทิศทางที่เอลฟ์สาวนั้นพุ่งมาหาตนได้ทันใดนั้น เอลฟ์สาวโผล่ออกมาข้างหลังไป๋หลง พร้อมใช้เท้าฟาดไปที่ต้นคอของไป๋หลงอย่างจัง
ครื่นๆ!!
เปรี้ยง!!
เสียงฟ้าผ้าลงมาทำให้เอลฟ์สาวนั้นชะงักการโจมตีซึ่งแน่นอน นี้เป็นฝีมือของหลิงหลุน ที่เห็นว่าเจ้านายกำลังมีภัยจึงใช้พลังส่วนหนึ่งในการช่วยไป๋หลง เมื่อไป๋หลงเห็นเอลฟ์สาวอยู่ข้างหลังตนก็ล่นถอยห่างออกมาทันที
” ชิ้ พลาดจนได้แต่เมื่อกี้ใครหน้าไหนเป็นคำทำกัน ” เอลฟ์ สาวกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
” ขอบใจเจ้ามาก หลิงหลุน ” ไป๋หลงกล่าวขอบคุณหลิงหลุน ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้หลิงหลุนช่วยไว้คงแย่แน่ๆ
” มันคือหน้าที่ของข้าที่จะต้องปกป้องนายท่าน ” หลิงหลุนออกมาด้วยความเคารพ
ไป๋หลงตอนนี้เสียพลังไปแล้วใน2ส่วน10 จึงมิอาจจะประมาทได้อีกต่อไป ตอนนี้ไป๋หลงกำลังจะลองวิชาที่ได้มา จากขงจือ ถึงท่านี้จะยังไม่สมบูณ์ แต่ก็ต้องลองเสี่ยงเพราะถ้ายิ่งยืดเยื้อ ฝ่ายที่จะเสียเปรียบก็จะเป็นไป๋หลงในที่สุด
” เอาล่ะเตรียมรับมือ ใช้พลังทั้งหมดที่เจ้ามีป้องกันท่านี้จากข้าให้ได้ ” ไป๋หลงบอกกล่าวแก่เอลฟ์สาว
” หึ!! ถ้าเจ้าพูดถึงขนาดนี้ ข้าก็จะใช้พลังทั้งหมดโจมตีใส่เจ้าเช่นกันเรามาตัดสินกัน ใครจะแพ้ใครจะชนะ ”
” ได้ ” ไป๋หลงตอบรับคำในทันที
ตอนนี้ทั้งโรงประมูลสามารถรู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมาได้ว่ามันมหาศาลยิ่งนักราวกับการต่อสู้ของระดับจักรพรรดิ ก่อนจะมี คนที่ยืนดูอยู่ด้วยความวิตกกล่าวขึ้น
” รีบหนีเร็วเข้า พลังระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะรับได้ ”
” เจ้าอย่าได้กังวลไป ในโรงประมูลแห่งนี้มีกระบวนอักระที่แข็งแกร่งคุ้มกันไว้อยู่ ” เสียงของอีกคนกล่าวออกมา ทำให้คนส่วนใหญ่คลายความวิตกลง
ซานอี้ที่กำลังเฝ้ามองไป๋หลงอยู่ก็ตกตะลึงในระดับพลังของไป๋หลงไม่ได้ ขณะนั้นเองไป๋หลงและเอลฟ์สาวก็ใช้มหาวิชาปะทะกันทันที จนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั๋วเมือง
” หมื่นกระบี่สยบเทวา!! ขั้น2 ”
” วารีสะบั้นนภา ขั้นสูงสุด!! ”
ตู้มมมมมมมมม!!
จบ.