เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่40 คำใบ้
” โอ๊ย!!.. แข็งชะมัด เมื่อไหร่ข้าจะทำลายหินก้อนนี้ได้สักทีเนี้ย ข้าทั้งปล่อยหมัดเตะและรวบรวมพลังเอาไว้จุดเดียวแล้วทำไมแท่งหินก้อนนี้ถึงยังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยละเนี้ยทางด้านไป๋หลงจะเป็นยังไงบ้างน่ะ ” เสียงของอู้เฉียงที่บ่นออกมาด้วยความท้อใจ
เป็นเวลากว่า3 เดือนแล้วที่อู้เฉียงได้รับบททดสอบจากราฟาเอลที่ ต้องทำให้ แท่งหินสีดำ ที่มีลวดลายอักขระโบราณกำกับเอาไว้ซึ่งดูยังไงก็น่าจะเป็น อาคมป้องกันแน่นอนซึ่งเป็นระดับที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
” ทำไมท่านแม่ของไป๋หลงถึงให้สร้างบททดสอบนี้ให้ข้านะ… อีกอย่างรูปลักษณ์และออร่าที่แผ่ออกมาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…เฮ้ออ คิดอะไรไปก็ไม่ได้ประโยชน์ มาดูกันข้ากับเจ้าแท่งหินสีดำนี้ใครจะทนทานกว่ากัน ” อู้เฉียงกล่าวจบก็รวบรวมพลังไว้ที่เท้าขวาอีกรอบ ก่อนจะเตะออกไปสุดแรง
ตู้มมม!!
ย้อนกลับไปเมื่อ1เดือนก่อนตอนที่อู้เฉียงเข้ามาและราฟาเอลได้มอบบททดสอบให้….
” ห้องนี้มันอะไรกันเนี้ย…มีแต่แท่งหินสีดำประหลาดๆทั้งนั้น แล้วข้าควรทำอย่างไรดีละทีนี้ ” อู้เฉียงกล่าวออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงนึงดังแว่วขึ้นมา ทำให้อู้เฉียงสะดุ้งด้วยความตกใจทันที
” เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงข้ามีบททดสอบให้เจ้าแล้ว เห็นแท่งหินสีดำรอบๆนี้หรือไม่ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า แท่งหินนิรันดร์ เป็นแท่งหินที่แข็งแกร่งและไม่มีวันเสื่อมสลายตามกาลเวลาตามชื่อนั้นแหละ ”
” ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านผู้อาวุโสอย่าบอกนะว่า… ” อู้เฉียงกล่าวเว้นช่วงไว้ ราฟาเอลเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มให้อย่างอบอุ่นแล้วกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่มันทำให้อู้เฉียงเสียวสันหลังวาบไม่ได้
” เป็นอย่างที่เจ้าคิดจงฝึกฝนตนเองและทำลายแท่งหินนี้ให้หมดแล้วบททดสอบต่อไปจะปรากฏ ข้าจะบอกใบ้ให้สักอย่างนะอู้เฉียงจงฟังให้ดี คนเรานั้นล้วนมีดำและขาวอยู่ภายในจงควบคุมส่วนที่เป็นสีดำนั้นให้ได้และอย่าให้ สีขาวหรือสีดำมากกว่ากัน จงทำให้มันรวมเป็นหนึ่งเดียว!! ”
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็งุนงง กับคำบอกใบ้ของราฟาเอล
” เดี๋ยวก่อนท่านมันหมายความว่ายัง… ” อู้เฉียงกล่าวไม่ทันจบราฟาเอลก็หายจากตรงนั้นซะแล้ว
” มันหมายความว่ายังไงกันนะ..ดำและขาว รวมเป็นหนึ่งโอ้ยย ข้าไม่ได้หัวไวเหมือนไป๋หลงนะ มันหมายความว่ายังไงกัน ”
อู้เฉียงได้แต่พึมพำกับตนเองอยู่อย่างงั้นและฝึกแบบปูๆปลาๆจนมาถึงบัจจุบัน
บัจจุบัน…
ภายในห้องๆหนึ่งที่มีแต่ความมืดมิดได้มีร่างๆหนึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศโดยที่บนแผ่นหลังนั้น มีปีกคู่หนึ่งซึ่งเป็นสีขาวและสีดำอย่างละข้าง สีขาวให้ความรู้สึกอบอุ่นยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ส่วนสีดำนั้นให้ความรู้สึก ที่น่าหวาดหวั่นน่าเกรงขาม และอันตรายแฝงเอาไว้ ตอนนี้ สีขาวและสีดำกำลังเข้าห้ำหั่นกัน
อักกก!!
” อย่าเสียสมาธิไป๋หลงควบคุมความโกรธและจิตสังหารให้ได้ เจ้าจงควบคุมปีกให้มีสีแค่สีเดียวในการเรียกใช้แต่ละครั้งจะเป็นประโยชน์แก่เจ้าเอง และจะทำให้ง่ายต่อการใช้วิชาที่เป็นของเผ่าเทพ ถ้าปีกที่เป็นสีดำของเจ้ายังเป็นสีดำอยู่เจ้าก็จะไม่สามารถฝึกฝนวิชาของเผ่าเทพได้…..ตรงกันข้ามถ้าปีกของเจ้าอีกข้างยังเป็นสีขาวอยู่ เจ้าก็จะไม่สามารถฝึกฝนวิชาเผ่ามารได้ เพราะฉะนั้นจงตั้งสมาธิซะลูกแม่ แม่เชื่อนะว่าเจ้าสามารถทำได้ ”
ราฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและให้คำแนะนำแก่ไป๋หลง ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ กลืนเลือดที่กระอักออกมาลงคอไปในอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
” ขอรับท่านแม่ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ”
ภายนอก…..
” ไป๋หยาง..นี้มันก็3เดือนแล้วนะทำไมถึงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้เลยละทั้ง อู้เฉียงและไป๋หลงอยู่ในลูกบอลทรงกลมสีขาวนี้ อยู่นานแล้วนะจะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ ” เสียงของอู้หยาง กลาวออกมาด้วยความกังวลใจ
” ไป๋หลงและอู้เฉียงยังปลอดภัยดีข้ารู้สึกได้เช่นนั้น…สิ่งที่เราทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น ” ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ แต่ภานในจิตใจส่วนลึกนั้นกระส่ำกระส่ายไปหมด ถึงแม้จะเป็นเทพอสูร เป็นเผ่าพันธ์ที่เรียกว่าตายด้านกับความรู้สึกแต่ไม่ใช่กับไป๋หยางที่ตอนนี้ แปลกไปจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด
” แต่ว่า… ” อู้หยางกล่าวขึ้นด้วยความร้อนรน ก็โดนไป๋หยางยกมือห้ามไว้
” จงเชื่อมั่นในตัวของพวกเขา ที่ทำได้มีเพียงเท่านี้… ” ไป๋หยางกล่าวจบก็จดจ่ออยู่กับวัตถุทรงกลมสีขาวตรงหน้าอีกครั้ง ลูกบอลสีขาวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่อู้เฉียงนั้น ก้าวเข้าไป และใช้พลังบางอย่างจนหยุดการประทุพลังของไป๋หลงเหลือทิ้งไว้เพียง ลูกบอลสีขาวนี้เท่านั้น
ภายในมิติที่ไป๋หลงและอู้เฉียงอยู่…
” โอ้ย…เตะจนเท้าข้าจะหักอยู่แล้ว แท่งหินนิรันดร์ นี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อจริงๆ ข้าจะทำยังไงดีนะ ” ขณะที่อู้เฉียงใช้ความคิดอยู่นั้นเองมีเสียงนึงดังขึ้นทำให้อู้เฉียงหลุดออกจากพะวังความคิด
” เจ้าโง่!! ข้าคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่มาอยู่กับเจ้าเนี้ย ถ้าแค่นี้เจ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ บททดสอบที่จะครอบครองข้าโดยสมบูรณ์ ตัดทิ้งไปได้เลย ”
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้งขึ้นทันที
” นี้ท่าน…หายไปนานเลยนะเนี้ย นึกว่าจะตายไปซะแล้ว ” อู้เฉียงกล่าวถามย้อนกลับไปด้วยความเคือง
” เจ้าเด็กปากเสีย!! ได้ทีเอาใหญ่เลยน่ะ ข้าไม่ได้ชื่อท่าน เรียกข้าว่า เฟิงห๋วง ”
” แล้วท่าน เฟิงห๋วงมีอะไรถึงมาพูดกับข้าละ ” อู้เฉียงกล่าวด้วยตวามสงสัย
” ไม่ชัดหรือไง ข้าบอกว่าเจ้ามันโง่เง่า ขนาดท่านผู้นั้นบอกใบ้ถึงขนาดนั้น แต่ก็ยังแปลความหมายไม่ออก ” เฟิงห๋วงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียง เดือดดาล
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้น ก็กล่าวขึ้นด้วยความสงสัยทันที
” ท่านเข้าใจความหมายที่ท่านแม่ของไป๋หลงพูดเหรอ…ข้าจะไม่ขอคำตอบจากท่ายหรอกนะ แต่ช่วยออกมาพบข้าหน่อย ท่านพูดผ่านจิตแบบนี้ข้าคุยไม่ค่อยถนัด ” อู้เฉียงกล่าวพลางเอามือเกาหัว เพราะตนนั้นไไม่ค่อยถนัดคุยผ่านจิตสักเท่าไหร่คงเป็นความรู้สึกส่วนตัวละมั้ง
เฟิงห๋วงได้ยินเช่นนั้นเพียงส่งเสียง หึ นำลำคอก่อนจะยอมโผล่ออกมา รูปลักษณ์ที่อู้เฉียงได้เห็นนั้นเรียกว่า ตะลึงเลยก็ว่าได้ เส้นผมสีแดงราวกับเปลวเพลิง ดวงตาสีแดง ริมฝีปากสีชมพู ผิวพรรณขาวราวกับหิวชมะ รูปร่างและภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ทั้งสองข้างเข้ากันยิ่งนัก เรียกว่า ถ้าบุรุษใดได้เห็นต้องเกิดศึกชิงนางแน่นอน
” เป็นไงข้าออกมาพบเจ้าตามต้องการแล้ว ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องกันได้แล้ว ” เฟิงห๋วงกล่าวพลางเดินเข้ามาใกล้อู้เฉียง อู้เฉียงในตอนนี้ตะลึงกับความงดงามของเฟิงห๋วงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
” งดงามยิ่งนัก…เอ้ยย!! ข้าหมายถึง ชุดที่ท่านใส่งดงามยิ่งนักแล้ว เรื่องที่ท่าจะพูดคืออะไรเหรอ? ” อู้เฉียงรีบกล่าวเปลี่ยนเรื่องทันทีพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ
” เจ้าเป็นอะไรถึงหน้าแดง..ชั่งเถอะ ข้าจะเป็นคนฝึกเจ้าเองเตรียมตัวเตรียมใจไว้ซะ ”
” อ่อ..ท่านจะฝึกข้างั้นเหรอได้……. ” อู้เฉียงตอบรับโดยไม่ทันได้คิด และในอนาคตอันใกล้นี้ อู้เฉียง จะมีอีกชื่อเรียกนึงที่รู้จักกันไปทั่วดินแดนนี้ก็คือ อู้เฉียงเปลวเพลิงอมตะ อู้เฉียงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมา เพราะ การฝึกกับ เฟิงห๋วงจะต้องราวกับตกนรกทั้งเป็นแน่นอน
ม่ายยยยยยย!!
ไป๋หลงตอนนี้ กำลังทำสมาธิอยู่ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้หลังจากได้ฟังคำแนะนำจากราฟาเอล
” หรือว่า…เป็นแบบนี้นี่เองข้าเข้าใจแล้วท่านแม่ ” ไป๋หลงกล่าวทิ้งช่วงไว้ก่อนจะยกยิ้มขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความยินดีไว้
” ดูเหมือนจะจับทิศทางการฝึกได้แล้วสินะ…การฝึกต่อไปยากกว่านี้หลายเท่าเตรียมใจเอาไว้ให้ดีละลูกแม่…. ”
ราฟาเอลกล่าวด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย ก่อนที่ร่างจะเลือนหายไปทิ้งไว้เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า เหลือเพียงไป๋หลงที่ยังฝึกอยู่เท่านั้น
จบ……