เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่42 ภัยร้ายที่กำลังก่อตัว
” ท่านแม่ท่านบอกว่า ท่านกับท่านพ่อตกหลุมรักตอนต่อสู้กันอย่างงั้นเหรอ ” ไป๋หลงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
” ใช่แล้วละ เป็นความหลังที่น่าคิดถึงจนเกิดเหตุดังกล่าวที่ข้าได้ถ่ายทอดความคิดให้เจ้าเห็นนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้น….เพราะฉะนั้นเจ้าต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องสวรรค์จากสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตห้ามเล่าเรื่องที่แม่บอกไปให้ใครฟังเด็ดขาดแม้แต่ ไป๋หยางก็ตาม ” ราฟาเอลกล่าวด้วยน้ำเสียงจิงจังและเคร่งขรึม
” ข้าเข้าใจแล้ว..แล้วการฝึกต่อจากนี้เป็นแบบไหนต่อละท่านแม่ ” ไป๋หลงกล่าวถามราฟาเอลด้วยความใคร่รู้ ก่อนที่ราฟาเอลจะยกยิ้มขึ้น
” การฝึกต่อไปของเจ้าก็คือ…ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ”
เมื่อไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตาโตเท่าไข่ห่านในทันที เพราะศาสตร์ตราวิณญาณ นั้นไป๋หลงอยากจะเรียกออกมาใจแทบขาดแต่ไม่สามารถเรียกออกมาได้
” ท่านแม่คือ..ข้าไม่สามารถเรียก ศาสตร์ตราวิณญาณ ได้ข้าเคยพยามแล้วแต่เหมือนมีพลังบางอย่างขวางกั้นไว้ ”
ไป๋หลงกล่าวออกมาตามจริงน้ำเสียงแฝงไปด้วยความผิดหวังทันใดนั้น ราฟาเอลก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
” ลองดูอีกรอบ ” เพียงคำพูดสั้นๆเท่านั้นทำให้ไป๋หลงมีแรงใจขึ้นมาอีกครั้ง
” ขอรับท่านแม่ ”
ไป๋หลงกล่าวจบก็ยื่นมือออกมาพร้อมกับหลับตาลง ในสมาธิของไป๋หลงนั้นในตอนนี้ ทางด้านขวามีดาบสีขาวบริสุทธิ์ ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก เป็นศาสตร์ตราวิณญาณ ระดับเทวะ อย่างไม่ต้องสงสัย ทางด้านซ้ายนั้นเป็นดาบสีดำทมิฬ มีสายฟ้าสีแดงเลือดแล่นผ่านเป็นบางช่วงดูแล้วน่าเกรงขามและน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก ไป๋หลงเอื้อมมือไปจับดาบเล่มสีขาวทันใดนั้น ก็เกิดแสงสว่างขึ้น จนไป๋หลงต้องเอามือมาปิดตาเอาไว้ หลังจากแสงสว่างหายไป ไป๋หลงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง และต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
” นี้มัน…ออร่าและพลังที่แผ่ออกมาแข็งแกร่งมากแต่ทำไมมันถึงดูมีพลังน้อยกว่าที่ข้าเห็นในสมาธิกันละ ”
หลังจากไป๋หลงลืมตาขึ้นก็มีดาบเล่มสีขาวบริสุทธิ์ด้ามจับทำจากวัตถุที่ไม่มีในโลกนี้แน่นอนเพราะส่องแสงสีทองตลอดเวลา ตัวดาบนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เป็นดาบที่งดงามเป็นอย่างมาก
” มันก็ต้องเป็นแบบอยู่แล้วสิลูกแม่…ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ นั้นจะแข็งแกร่งตามระดับของผู้ใช้แต่ พลังที่ลูกมีอยู่ ซึ่งตอนนี้ลูก มี พลังอยู่ที่ระดับ นักรบที่แท้จริงขั้นที่4 เพียงเท่านั้น ระดับก็จะอยู่ที่ขั้น นักรบ ซึ่งลูกไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันออกมาได้ ระดับยิ่งสูงก็ยิ่งควบคุมยาก จงจำเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี ที่เจ้าเห็นนั้นคือ ระดับพลังที่เจ้าของคนก่อนทิ้งไว้ ซึ่งก็คือ แม่นั้นเอง ”
ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างทันที ด้วยความตกตะลึง เพราะระดับพลังที่แผ่ออกมาจากตัวดาบก่อนหน้านี้ อยู่ระดับเทวะอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พอมาอยู่ในมือของตนนั้น เหลืออยู่แค่ขั้นนักรบเท่านั้น
” งั้น…นี้ก็คืออาวุธของท่านแม่อย่าง งั้นเหรอ? แล้วดาบสีดำทมิฬอีกเล่มหรือว่าจะเป็นของ…” ไป๋หลงถามออกมาด้วยความไม่แน่ใจถ้าเป็นอย่างั้นจริง แม่และพ่อของตนก็จะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาถึงตอนนี้ ตน นั้นไม่เคยถามถึงระดับพลังที่แท้จริงของแม่และพ่อตนเอง
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่นก่อนจะกล่าวตอบ
” ไม่…ไม่ใช่อีกแล้วต่อไปมันก็คือของลูกทั้งสองเล่ม จงตั้งชื่อให้ดาบทั้งสองเล่มนั้นและแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อมกับดาบทั้งสองเล่มนั้นซะ ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในคำพูดนั้นทันที ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น ส่วนเรื่องชื่อนั้นไป๋หลงยังไม่คิดที่จะตั้งในตอนนี้ เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญเท่าไหร่ในตอนนี้
” ท่านแม่ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังและจะไปช่วยท่านให้ได้..ข้าให้สัตย์สาบานด้วยดาบทั้งสองเล่มนี้”
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราฟาเอลรีบเข้ามาพยุงไป๋หลงขึ้นทันที
” ลูกข้า..ข้าจะรอจนถึงวันนั้น แต่ก่อนอื่นแม่ขอ ไปดูเจ้าหนูอู้เฉียงหน่อยก็แล้วกันว่าฝึกไปถึงไหนแล้ว และก็นี้รับไว้ ”
ไป๋หลงเอื้อมมือไปรับ เป็นตำรา วิชาดาบสองเล่ม เล่มแรก ก่อนจะไล่อ่านชื่อตำราหนึ่งดาบสะบั้นนภา เล่มที่สอง ดาบประหารเทพ
” เป็นตำราวิชาดาบ ในเวลา 2ปีกว่าๆ ลูกต้องชำนาญวิชาทั้งสองนี้ให้ได้มันจะมีประโยชน์ ในภายภาคหน้า แม่ขอไปดูเจ้าหนูอู้เฉียงหน่อยก็แล้วกัน ”
ราฟาเอลกล่าวจบก็เตรียมตัวที่จะไปที่อู้เฉียง
” เดี๋ยวก่อนท่านแม่…การฝึกของอู้เฉียงที่ท่านแม่ให้เป็นแบบไหนรึ? ” ไป๋หลงถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงอู้เฉียงเล็กน้อย
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกและหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัยทันที เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ไป๋หลงเสียวสันหลังวาบ
” หึๆ!! ไม่ถึงชีวิตแน่อน แม่บอกได้แค่นี้แหละฝึกวิชาที่แม่ให้ไปได้แล้ว แล้วเดี๋ยวแม่จะมาทดสอบ ถ้าทำได้ไม่ดีระวังเจ็บตัวละ แม่ควบคุมพลังไม่ค่อยดีสะด้วย..แม่ไปละ ”
ราฟาเอลกล่าวจบก็หายไปในทันที ไป๋หลงเห็นดังนั้นก็ล้มตัวลงนอนทันทีก่อนจะบ่นออกมา
” ท่านพ่อ..ท่านหลงรักกับท่านแม่ได้ยังไงกัน ข้าคิดถึงท่านช่วยข้าด้วย…อู้เฉียงขอให้เจ้าปลอดภัยครบสามสิบสองนะ ข้าทำได้เพียงเท่านี้… ”
ทางด้านอู้เฉียง…..
” บัดซบ!! ทำไมบททดสอบนี้ถึงยากนักนะ หุ่นเชิดพวกนี้ทำลายไปเท่าไหร่ก็ยังไม่หมดสักที…ข้าไม่ยอมหรอก ” อู้เฉียงสถบออกมาด้วยความไม่พอใจ หลังจากไป๋หลงทำลายแท่งหินนิรันดร์ จนหมดแล้ว ก็มีหุ่นเชิด รูปร่างมนุษย์โผล่มาไม่หยุดหย่อน อู้เฉียงในตอนนี้สามารถควบคุมสายฟ้าสีดำ ให้ไปยังตำแหน่งต่างๆของร่างกายได้แล้ว ซึ่งง่ายต่อการใช้ในการต่อสู้
เฟิงห๋วงนั่งมองอยู่ใต้ต้นไม้แล้วได้แต่ส่ายหัวให้กับอู้เฉียง
” เฮ้อ…ถ้าสังเกตุสักนิดก็จะสามารถสังเกตุเห็นแหล่งกำเนิดพลังงานก็พวกหุ่นเชิดนี้ได้แล้วแท้ๆ ถ้าไม่ทำลายแหล่งพลังงานของมัน มันก็จะออกมาเรื่อยๆ รู้ตัวสักทีสิเจ้าโง่อู้เฉียง…ถ้าเป็นแบบนี้เจ้าแพ้แน่” เฟิงห๋วงกล่าวออกมาอย่างท้อใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงนึงดังขึ้นทำให้เฟิงห๋วงต้องหันหลังไปมองด้านหลังทันที
” นั้นสิ..เป็นอย่างที่เจ้าพูดนั้นแหละเจ้านกน้อย ข้าไม่คิดเลยนะว่า ฟินิกส์ สวรรค์อย่างเจ้าจะช่วยฝึกสอนให้กับมนุษย์เช่นนี้ เจ้าเปลี่ยนไปมากนะ ฮ่าๆๆ ”
เสียงพูดนี้ก็คือเสียงของราฟาเอลนั้นเอง เฟิงห๋วงเห็นดังนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นทำความเคารพทันที
” เฟิงห๋วง ขอคาราวะท่านเทพราฟาเอล!! ”
เฟิงห๋วงกล่าวออกมาด้วยความเคารพและยำเกรงเป็นอย่างมาก ราฟาเอลเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้
” ลุกขึ้นเถิด..ไม่ต้องมากพิธี แต่เจ้าก็เปลี่ยนไปมากนะ เฟิงห๋วงเจ้ารู้ตัวบ้างหรือไม่ ถ้าเป็นปกติ เจ้าไม่มีทางสอน หรือ แนะนำอะไรแบบนี้ให้มนุษย์แน่ ”
เฟิงห๋วงได้ยินราฟาเอลพูดเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นทันที
” ท่านคิดอย่างงั้นเหรอ…อาจจะใช่ก็ได้ เพราะเขาแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ข้าสัมผัสได้เช่นนั้น ” เฟิงห๋วงกล่าวอธิบาย ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อม
” เอาเถอะ..อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาที่นำมาเจ้ามาพบกับเจ้าหนูนั้นก็ได้ ข้าฝากคัมภีร์ ทั้งสองเล่มนี้ไว้ให้อู้เฉียงก็แล้วกัน…ดูสิ เหมือนเด็กนั่น จะรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ”
ราฟาเอลกล่าวพลางหันไปมองทิศทางที่อู้เฉียงอยู่ เฟิงห๋วงก็อดชื่นชมอู้เฉียงในใจลึกๆไม่ได้
” นี้สินะแหล่งกำเนิดพลังทำให้ข้าเสียเวลาอยู่ตั้งนานเอาละ จบเพียงเท่านี้ ” อู้เฉียงกล่าวจบก็ซัดพลังลงไปที่อัญมณีสีม่วง ที่คอยเชื่อมต่อกับ หุ่นเชิดทันที
ตู้มมม!!
” เฮ้อ…จบสักที ขอพักหน่อยเถอะ ” อู้เฉียงกล่าวจบก็ล้มลงนอนกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้าทันที โดยที่ไม่ได้สังเกตุเห็นราฟาเอล ที่กำลังคุยอยู่กับเฟิงห๋วง
” เอาละ…ข้าไปก่อนละฝากเจ้าฝึกฝนและดูแลอู้เฉียงด้วยก็แล้วกัน ” ราฟาเอลกล่าวบอกแก่เฟิงห๋วง
” รับบัญชา ” เฟิงห๋วงคุกเข่าลงและทำความเคารพอีกรอบ
ขณะที่ราฟาเอลกำลังจะไปนั้นเอง เฟิงห๋วงกล่าวขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
” คะ..คือ สวรรค์รู้เรื่อง ที่ท่านกำลังทำอยู่หรือไม่ ”
ราฟาเอลได้ยินเช่นนั้นก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” นั้นสิ..ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ”
ราฟาเอลกล่าวจบก็หายไปทันที
ณ ทวีปมังกร…
ในปราสาทสีทองแห่งหนึ่ง มีใครบางคนนั่งอยู่บนบัลลังก์สีทอง พลังที่แผ่ออกมาอยู่ในระดับ จักรพรรดิ ที่กำลังจะก้าวเข้าจักรพรรดิที่แท้จริงในไม่ช้าแน่นอน ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงที่ทรงพลังดังขึ้น จากบนที่นั่งบัลลังก์
” จัดทัพ เตรียมความพร้อม!! เราจะบุกทวีป จรัสแสง ในอีก 2 ปีข้างหน้า เรียกกำลังคนทั้งหมดที่ประจำอยู่ตามที่ต่างทั่วยุทธภพ เราจะต้องยึดทวีปจรัสแสงให้ได้ แต่ ก่อนอื่น ต้องทำลาย ป่าอสูรที่เป็นที่อยู่ของอดีตสหายข้า!! ที่เป็นเสี้ยนหนามของเราสะก่อน ต่อจากนั้นก็บุกยึดวังหลวงซะ ”
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!
จบ.