เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่61 อับอาย 1
หลังจากที่ไป๋หลงกล่าวอธิบายเรื่องราวทั้งหมดจบแต่เว้นไว้เพียงเรื่องของราฟาเอลเท่านั้นที่ไม่ได้กล่าวออกมา…ไป๋หลงได้ขอใบจบการศึกษาจากสำนักหมื่นกระบี่ มา2ฉบับด้วยกัน ใบแรกซึ่งแน่นอนเป็นของไป๋หลงเองและอีกใบนึงก็คือของอู้เฉียงที่กำลังเดินทางมา…ปกตินั้นการจะขอใบจบการศึกษานั้นจะต้องขอท้าสู้กับ1ใน12ผู้อาวุโส
ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าศิษย์ทุกคนไม่ว่าจะสายนอก สายใน หรือ สายหลัก มีสิทธิ์ในการท้าสู้เพียง1ครั้งเท่านั้น ถ้าทำให้ผู้อาวุโสยอมรับได้ถือว่าผ่านแต่ถ้าไม่ก็ต้องรอไปอีก3ปีและจะไม่ได้รับทรัยพยากรในการฝึกที่สำนักแจกจ่ายให้เดือนละครั้ง…ถือเป็นเรื่องลำบากเป็นอย่างมากการที่ขาดทรัยพยากรในการบ่มเพาะ…ยิ่งเป็นศิษย์ที่มาจากครอบครัวยากจนซึ่งแน่นอนว่า…ไม่มีเงินซื้อทรัยพยากรจากภายนอกเป็นแน่..ทำให้การถ้าสู้กับ1ในผู้อาวุโส จะต้องมั่นใจในฝีมือพอสมควร…
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้บอกไปคงไม่มีใครเชื่อซ้ำยังจะเป็นเรื่องที่น่าขบขันในวงเหล้าเสียมากกว่า เด็กหนุ่มอายุราวๆ17ปี ทำให้ผู้อาวุโสทั้ง12คุกเข่าต่อหน้าตนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดอย่างแน่นอนว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ…
การที่ไป๋หลงขอใบจบการศึกษาจากเจ้าสำนักนั้นไม่มีใครเคลือบแคลงใจหรือไม่เห็นด้วยแม้แต่คนเดียวเพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ผู้อาวุโสทั้ง12ต่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว
” เจ้าหนูเจ้าเอาใบจบการศึกษาไปแล้วเจ้าจะไปสอบเข้าที่สถาบันไหนอย่างงั้นหรือให้ข้าแนะนำสถาบันที่ข้าพอรู้จักให้หรือไม่ ” เจ้าสำนักกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเชิงแนะนำ ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมาก่อนจะผสานมือแล้วกล่าวมาอย่างสุภาพ..
” ข้ามีสถาบันที่อยากเข้าแล้ว..ข้าขอขอบคุณท่านเจ้าสำนักที่แนะนำ ”
เจ้าสำนักหวังหย่งได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยความสงสัย…
” สถาบันไหนหรือ..ที่เจ้าต้องการจะเข้า ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้ก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติราวกับไม่ทุกข์ไม่ร้อนที่กล่าวชื่อสถาบันนั้นออกมา..
” สถาบันเทพมารขอรับ!! ”
ผู้อาวุโสทั้ง12ต่างสั่นสะท้านในทันทีแต่ก็ไม่มีใครปริปากพูดออกมามีเพียงเจ้าสำนักหมื่นกระบี่เท่านั้นที่นิ่งเงียบก่อนจะปริยิ้มและหัวเราะออกมา..
” ฮ่าๆๆ!! ดี ข้าเชื่อว่าเป็นเจ้าคงสามารถสอบเท้าที่นั้นได้แน่นอนเอาละข้าขอให้เจ้าโชคดีก็แล้วกันทั้งเจ้าทั้งเด็กที่ชื่ออู้เฉียงนั้น…ข้าขอฝากชื่อสำนักหมื่นกระบี่ไว้กับเจ้า ”
” ข้าไป๋หลงจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตั้งมั่นแต่ในขณะนั้นเอง..
ปึง!!
เสียงประตูถูกเปิดออกอย่างรุนแรงก่อนจะมีศิษย์คนนึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน…
” ท่านเจ้าสำนัก สำนักวารีพิสุทธิ์!! มาก่อเรื่องทำร้ายศิษย์ของพวกเราอีกแล้วขอรับ!! ”
เจ้าสำนักได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าแปรเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นใบหน้าที่น่ากลัวเป็นอย่างมากก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความโกรธแค้น..
” มันจะมากเกินไปแล้ว!! เห็นทีข้าต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียทีถึงแม้จะต้องแตกหักกับสำนักวารีพิสุทธิ์ก็ตามที.. ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็แย้มยิ้มออกมาทันทีก่อนจะกล่าวออกมาราวกับนึกสนุกบางอย่างขึ้น…
” ท่านเจ้าสำนักท่านพอจะมีชุดของศิษย์สายนอกให้ข้ายืมสัก1ชุดหรือไม่? ”
เจ้าสำหนักหวังหย่งได้ยินเช่นนั้นก็กำลังจะกล่าวถามขึ้นแต่เห็นรอยยิ้มบนหน้าของไป๋หลงเจ้าสำนักก็เข้าใจได้ในทันที…ไป๋หลงเมื่อเห็นว่าเจ้าสำนักเข้าใจถึงเจตนาที่ไป๋หลงต้องการจะสื่อก็กล่าวออกมาด้วยความเคารพทันที
” ไหนๆข้าก็ได้ใบจบการศึกษามาแล้วข้าจะต้องตอบแทนท่านเจ้าสำนักสักเล็กน้อย พวกท่านคิดว่ายังไงผู้อาวุโส ”
ไป๋หลงกล่าวแย้มยิ้มออกมาแต่กลับสร้างความสั่นสะท้านให้กับผู้อาวุโสทั้ง12ในทันที ทำให้นึกถึงรอยยิ้มเมื่อก่อนหน้านี้มันซ้อนทับกัน..เป็นรอยยิ้มของมัจจุราชโดยแท้!!…ผู้อาวุโสทั้ง12ต่างพยักหน้าพร้อมกัน
ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้ง12ต่างพากันเวทนาและสงสารสำนักวารีพิสุทธิ์โดยแท้ที่มาไม่ดูฤกษ์ยามเช่นนี้ทำให้ต้องมาเจอกับหายนะเดินได้เช่นนี้…
เขตศิษย์สายนอก…
” ท่านอาจารย์ ศิษย์ของสำนักหมื่นกระบี่ถึงไร้ฝีมือเช่นนี้เลยหรือ ข้ายังไม่ทันได้ออกแรงเต็มที่เลย…พวกนี้ต่างพากันหมดสภาพสะแล้วจะมีดีก็เพียงแต่…ศิษย์หญิงเท่านั้นที่งดงามเช่นนี้ ”
หนึ่งในศิษย์ของสำนักวารีพิสุทธิ์กล่าวขึ้นพลางเอื้อมมือกำลังจะแตะเนื้อต้องตัวศิษย์หญิงของสำนักหมื่นกระบี่ที่ประลองแพ้อย่างหมดสภาพเสื้อผ้าขาดหลุดรุ่ย ซึ่งศิษย์หญิงคนนั้นก็คือ ศิษย์หญิงที่ประมือกับไป๋หลงเมื่อก่อนหน้านี้….เหล่าศิษย์สำนักหมื่นกระบี่พยามเข้าไปช่วยแต่โดนขวางไว้โดยเหล่าศิษย์นับ10ของสำนักวารีพิสุทธิ์…
ทันใดนั้นเองมีร่างๆหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนแม้แต่ผู้อาวุโสของสำนักวารีพิสุทธฺ์ที่ตามมาด้วยยังมองตามเคลื่อนไหวไม่ทันจนสร้างความตกตะลึงให้กับศิษย์ทั้งสองสำนักเป็นอย่างมาก ในที่สุดร่างๆนั้นก็ไปหยุดตรงศิษย์หญิงคนนั้นทันที ในขณะที่มือขวาจับแขนของศิษย์สำนักวารีพิสุทธิ์คนนั้นไว้…
” โถ่วๆ…พี่ชายข้าได้ยินว่าท่านอยากออกแรงเช่นนั้นหรือ? ท่านได้ตามคำขอ.. ” ไป๋หลงกล่าวออกมาก่อนจะเหวี่ยงศิษย์สำนักวารีพิสุทธิ์คนนั้นไปชนกับกำแพงหิน..โดยศิษย์คนนั้นยังไม่ได้กล่าวอะไรออกมาด้วยซ้ำ
ตึง!!
” อะไรกัน!! ข้ายังไม่ทันได้ออกแรงเสียด้วยซ้ำทำไมศิษย์สำนักวารีพิสุทธิ์ที่เก่งนักหนาถึงโดนเหวี่ยงไปติดกำแพงเช่นนั้นเล่าโถ่ถัง..ทำไมพวกเจ้าไม่เข้ามาพร้อมกันทั้งหมดละ ข้าเกรงว่าถ้าทีละคนมันจะทำให้ข้าเสียเวลา ”
ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและเป็นการตบหน้าสำนักวารีพิสุทธิ์เข้าอย่างจัง…