เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่63 สัญลักษณ์แห่งเทพมาร 1
ระหว่งทางที่เหล่าศิษย์สายนอกกำลังกลับที่พักทันใดนั้นจิวซือที่กำลังขบคิดอะไรบางอย่างก็เบิกตากว้างในทันที…
” พวกเจ้าข้านึกออกแล้ว พวกเจ้าจำเด็กที่ชื่อ ไป๋หลง ที่เค้ามาสอบที่สำนักแห่งนี้ได้หรือไม่ ”
พวกศิษย์ร่วมชั้นอื่นๆได้ยินก็กล่าวขึ้นมาในทันที..
” จริงอยู่ที่เด็กนั้นชื่อไป๋หลง ซึ่งชื่อเดียวกันกับคนที่ช่วยเราเมื่อกี้…นี้เจ้าคงไม่คิดว่าทั้งสองคนนั้นคือคน คนเดียวกันหรอกนะ..ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด!! อีกอย่างไป๋หลงโดนราชวงศ์เรียกตัวไปเมื่อ3เดื่อนก่อน ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย… ”
หนึ่งในหมู่ศิษย์กล่าวขึ้น…
” เดี๋ยวก่อน…ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้จำที่เจ้าสำนักพูดไม่ได้รึ…ม่านกล่าวออกมาว่าเคยเป็น ทั้งๆที่เราไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเสียด้วยซ้ำนี้มันจะไม่ผิดปกติไปหน่อยเหรอ ”
” ถึงยังไงรูปร่างหน้าตาและอายุยังไงก็เทียบกันไม่ได้นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ”
” พวกเจ้าข้าว่าพูดเยอะไปจะเป็นอันตรายต่อตัวเราเองนะ จำราชโองการขององค์จักรพรรดิ์ได้หรือไม่ ผู้ใดแพร่งพรายเรื่องนั้นไปสู่ภายนอก จะต้องโดนล้างบางทั้งตระกูล!! ”
หนึ่งในศิษย์ที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หวาดระแวง
ขณะที่เหล่าศิษย์กำลังถกเทียกันก็เกิดเสียงบางอย่างขึ้นหน้าสำนัก..
ตู้มม!!
” เกิดอะไรขึ้น!! ” จิวซือ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงสัยและกังวล
” พวกเราไปดูกันเถอะ!! ”
เหล่าศิษย์ไม่ว่าจะสายนอกสายในหรือแม้แต่ศิษย์หลักบางคนยังออกมาเพราะเสียงที่เกิดขึ้น…
บริเวณด้านหน้าสำนัก…
” หวังหย่ง!! คืนตัวผู้อาวุโสและศิษย์ของข้ามาเดี๋ยวนี้!! อย่าให้มันมากเกินไป ”
เสียงที่กล่าวออกมาด้วยเด็ดขาดและเผด็จการ สามารถบ่งบอกนิสัยได้ชัดเจน…
” แหม่ๆ..ดูสิว่าใครเจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์มาด้วยตัวเองเช่นนี้เป็นเกียรติข้าหวังหย่งผู้นี้ยิ่งนัก…แต่ข้าคงจะทำตามที่ท่านบอกไม่ได้หรอกนะ…เพราะแผนการของท่านหรือจะให้เรียก ชวี่เอ๋อ ดีละ” สำนักหย่งกล่าวขึ้น
” ท่านเจ้าสำนักช่วยพวกเราด้วย!! ”
” ท่านเจ้าสำนักได้โปรด!! ”
เหล่าศิษย์จากสำนักวารีพิสุทธิ์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนและน่าเวทนาไม่เหลือความองอาจเหลืออยู่แม้แต่น้อย…
เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์เห็นว่ามีพลังบางอย่างกำลังกดทับเหล่าผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ ก็คิ้วขมวดทันที…
” นี้มัน…วิชาของเผ่าเทพ!! ส่วนต้นตอของพลัง.. ” เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์ปลายตามองไป๋หลงในทันที…
” เด็กจากเผ่าเทพทำไมถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้หรือว่ามหาเทพจะล่วงรู้ถึงเผ่ามารแล้ว…ไม่สิไม่น่าจะเป็นไปได้ ดูจากระดับพลังคงจะเป็นเทพที่ต่อกรได้ไม่ยาก ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ” เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์สถบขึ้นในใจ..
เจ้าสำนักวารีถือว่าเป็นหญิงงามล้มแคว้นเลยก็ว่าได้เพราะดวงตาสีแดงเส้นผมสีดำมันวาว ผิวขาวเนียนดุจหยกกับภูเขาคู่งามทั้งสองริมฝีปากสีชมพู…ทำให้เป็นที่หมายปองต่อบุรุษทั้งหลาย..
” นายท่านผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดามีโอกาศเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนของเผ่ามารซึ่งผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะรู้แล้วเหมือนกันว่านายท่านมิใช่มนุษย์ แต่เป็นสายเลือดของเทพ.. ” หลิงหลุนกล่าวขึ้นเพื่อบอกกล่าวแก่ไป๋หลง
” อืมขอบใจเจ้ามากข้าจะวังตัว ”
” ขอรับนายท่าน ”
เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์กล่าวขึ้นมาพลางมองไปที่ไป๋หลงในทันที…
” เด็กน้อยข้าว่าเจ้าควรปล่อยพวกเขาได้แล้วมิฉะนั้นอย่าหาว่าข้ารังแกเด็ก ”
ไป๋หลงเพียงยกยิ้มขึ้นเท่านั้นก็ยกยิ้มขึ้นทันที…
” ท่านไม่ใช่อาจารย์หรือพ่อแม่ข้าทำไม ข้าต้องฟังท่านกัน ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกวนประสาท เจ้าสำหนักหย่งและผู้อาวุโสทั้ง12 ต่างไม่คาดคิดว่าไป๋หงจะปากกล้าถึงเพียงนี้..
” ดี!! ถือว่าข้าเตือนแล้ว ”
เทพมารครองร่าง!!
เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์เรียกใช้วิชาที่มีความสามารถในการบังคับจิตใจและสะกดจิตของคนผู้นั้นรวมทั้งเจาะเข้าไปในความทรงจำทั้งหมด…
” บัดซบ!! ข้าขยับไม่ได้ความทรงจำของข้ากำลังโดนผู้อื่นอ่าน.. ” ไป๋หลงวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
” ดูเหมือนความทรงจำของเจ้าจะล้ำค่าไม่น้อยงั้นข้าขอขโมยมันไปทั้งหมดก็แล้วกัน!! ”
แต่ในขณะนั้นเอง มีสัญลักษร์รูปปีกสีดำสนิท เป็นสีดำทมิฬที่หน้าเกรงกลัวเป็นอย่างมาก ปรากฏขึ้นก่อนจะผลัก จำสำนักวารีพิสุทธิ์ออกไปราวกับความทรงจำส่วนนั้นเป็นที่ต้องห้ามแม้แต่ไป๋หลงก็ยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน…
เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์กระอักเลือดออกมาเป็นทางยาวในทันทีพร้อมกับใบหน้าขาวซีดไม่หลงเหลือความงดงามอยู่บนหน้าแม้แต่น้อย..ก่อนจะจ้องมองมาที่ไป๋หลงด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด…
” จะ..เจ้าเป็นใครกันแน่!! แล้วมีสิ่งนั้นได้อย่างไร “