เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่67 ฟักตัว
“ หยุดเดี๋ยวนี้!! “
ลิ่วหลงกุนหันไปตามเสียงก็เจอกับ..ไป๋หยางซึ่งพึ่งจะมาถึงเห็นซากศพเหล่ายอดฝีมือมากมายก่อนที่ไป๋หยางจะมายังข้างในนี้ก็เห็นซากศพเกลื่อนกราดอยู่ภายนอก ไป๋หยางจึงมุ่งหน้ามาเข้ามาภายในนี้ทันที ไป๋หลงนั้น…ได้คำนวณผิดไปอย่างนึงนั้นก็คือ ของวิเศษ รองเท้าเมฆา!! เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเร่งเวลาในการเดินทางโดยการดึงพลังมาจากผู้ใช้ยิ่งใส่พลังเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็จะเร็วขึ้นเท่านั้นซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับ ของผู้นั้นเช่นกัน ซึ่งไปหยางที่อยู่ถึงระดับเทพอสูร!! ย่อมดึงความสามารถออกมาได้จนถึงขีดสุด…
สาเหตุที่ไป๋หยางไม่ใช้ร่างอสูรในการเดินทางเพราะว่าจะเป็นจุดเด่นมากจนเกินไป..โดยเฉพาะคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นปรปักษ์ กับเผ่าอสูร เผ่ามารและปีศาจย่อมเป็นจุดสังเกตุและสัมผัสถึงพลังของเผ่าอสูรได้อย่างง่ายดาย…
ฉางเฉินที่เห็นว่าบุคคลที่เข้ามาคือใครก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้น…
” ไป๋หยาง…เจ้าเหมือนเมื่อก่อนไม่เคยเปลี่ยน..เจ้าจะมาหยุดข้าใช่ไหมเล่าแต่เสียใจด้วย มีคนมาถึงก่อนเจ้าแล้วทำลายของทัพของข้าจนย่อยยับนี้มันสัตว์ประหลาดในคราบตาแก่ชัดๆ.. ”
” ปากเสีย!! ข้าอายุไม่กี่ร้อยปีเทียบกันแล้วเจ้าก็แค่รุ่นเหลนข้าเท่านั้น..เอาละในเมื่อสหายของเจ้ามาแล้ว..ไม่สิควรจะเรียกอดีตสหายเสียมากกว่า..เจ้าชื่อไป๋หยางใช่หรือไม่!! ”
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดและแปลกใจในทันที..
” ท่านรู้ชื่อข้าได้ยังไง? แล้วท่านเป็นใคร ” ไป๋หยางถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่รัศมีที่แผ่ออกมานั้นไม่ธรรมดาและไม่ควรล่วงเกินอย่างเด็ดขาด จึงกล่าวออกมาด้วยความสุภาพ..
” ข้าเป็นใครหาใช่สำคัญ…แต่ที่ข้าอยากจะรู้คือไป๋หลงเป็นบุตรของใคร!! ”
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็พลันหน้าขาวซีดในทันที..
“ทะ..ท่านรู้จักไป๋หลงได้ยังไง!! ” ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง..
” ตอบคำถามข้ามา!! ” ลิ่วหลงกุนแค่นเสียงเย็นยะเยือก
ฉางเฉินที่นอนหมดสภาพค่อยๆยันตัวขึ้น..ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง..
” ไป๋หยางนี้มันเรื่องอะไรกัน…บุตรของเจ้าตายไปแล้วนิ!! ” ไป๋หยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที…
” เจ้ารู้? ” ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง..
” เรื่องที่เจ้าบุกไปถล่มราชวัง!! แห่งนั้นจนเสียหายไปกว่าครึ่งทหารของราชวงศ์ ตายนับหมื่นซึ่งนี้ทำให็ เป็นข่าวดังไปทั่วยุทธภพ ต่อให้เป็นข้า ก็ยังมีสายข่าวทำให้ข้าทราบเรื่องของเจ้า ”
ไป๋หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นกับหันมามองหน้าลิ่วหลงกุนก็ระเบิดพลังระดับเทพอสูร ขั้นที่7!! ออกมา พร้อมกับเปลี่ยนร่างเป็นอสูรขนาดมหึมา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าร่างเก่าที่เคยสู้กับฉางเฉินในอดีต… ปีกกระดูกขนาดมหึมา เขาขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปลักษ์้ป็นเขาวัว แต่เป็นสีดำทมิฬ เกร็ดสีดำขึ้นมาตามร่างจนครอบคลุมร่างกายทั้งหมด…ดวงตาสีแดงฉานพร้อมกับระเบิดพลังเทพอสูรขั้น ขั้นที่9!! ออกมา…
จำแลงร่างเทพอูร!!
” ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะไม่บอกอะไรท่านทั้งนั้น!! ”
” ไม่เลว!! แต่… ” ลิ่วหลงกุนกล่าวจบก็สร้างรางเทพจำแลงสีทองขึ้นมาทันใดนั้นก็ฉุกคิดเรื่องนึงขึ้นมาได้ก่อนจะสลายร่างเทพออก และเก็บพลังทั้งหมดจนไป๋หยางแทบจะจับสัมผัสไม่ได้..
” เกือบไปๆ…ไม่ได้สนุกตั้งนาน สงสัยพวกนั้นคงจับสัมผัสข้าไม่ได้ ต้องรีบออกเดินทางแล้ว.. ” ลิ่วหลงกุน พึมพำกับตัวเอง
ไป๋หยางและฉางเฉินต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..
” เอาละข้าไม่ถามเจ้าก็ได้..อีกอย่างเป้าหมายข้าไม่ได้มาทีเรื่องกับพวกเจ้านายน้อยข้าสั่งเอาไว้ ข้าไปละ.. ” ลิ่วหลงกุนกล่าวจบก็กระโดดทะลุเพดานข้างบนแล้วพุ่งหายไปในทันที…
หลังจากลิ่วหลงกุนจากไปภายในห้องโถงแห่งนี้..ที่พังพินาศเละเทะไม่เหลือชิ้นดี ก็เหลือแต่ ไป๋หยางและฉางเฉินรวมทั้งกองซากศพเท่านั้น…ไป๋หยางสลายพลังและกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์เช่นเดิมก่อนที่ฉางเฉนจะกล่าวกับไป๋หลงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง…
” มาลำลึกความหลังกันดีหรือไม่ ”
” ก็ดีเหมือนกันสหายข้า ” ไป๋หยางกล่าวจบก่อนจะนำสุราชั้นดีออกมาแล้วยื่นให้กับฉางเฉิน..
สาเหตุที่ฉางเฉินสงบได้เช่นนี้ก็เพราะโดนลิ่วหลงกุนสังหารไปเกือบร้อยรอบจนจิตใจความเป็นมนุษย์กลับมาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งถึงแม้จะคล้ายกับเป็นอัมตะแต่ก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ การฟื้นตัวจะช้าลงเรื่อยๆหากโดนสังหารมากจนเกินไป…ซึ่งไป๋หยางรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ณ..โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
ภายในโบสถ์นั้นกว้างใหญ่ตัวอาคารภายในเป็นสีขาว พลังศักดิ์ศิทธิ์มีอยู่เต็มเปี่ยม ณ..ที่แห่งนี้ บนโต๊ะทำงานมีชายชรากำลังอ่านบันทึกบางอย่างอยู่..
” องค์จักรพรรดิ์ถังหนานเหิงติดต่อกับเผ่าอสูรเช่นนั้นหรือ!!..กล้าไม่เบานึกว่ามีมังทองหนึ่งในสัตว์เทพอสูรศักดิ์ศิทธิ์ คุ้มกะลาหัวนึกว่าข้าจะไม่กล้ารึไงกัน.. ” ชายชราใส่ชุดสีขาวกล่าวออกมาพลางแสยะยิ้มที่น่ารังเกียจ..
” ยื่นเรื่องนี้ในที่ประชุม ถอดถอนถังหนานเหิงออกจากการเป็นจักรพรรดิ์ ความผิดก็คือ ติดต่อกับพวกอสูรอย่างลับๆ…ทำให้ทางเราโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ไว้วางใจ ในการทำหน้าที่เป็นองค์จักรพรรดิ์ !! แจ้งตามที่ข้าบอกไปตามนั้นได้ยินไหม ”
” ขอรับ ”
หลังจากชายชรากล่าวสั่งแก่ผู้ช่วยของตนก็ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความมีไชแต่รอยยิ้มนั้นคงจะอยู่ได้อีกไม่นานในอนาคต…
ณ..เมืองจรัสแสง
หลังจากไป๋หลงและอู้เฉียงต่อสู้กันไป๋หลงสูญเสียเงินในแหวนมิติไปทั้งหมดกับค่าซ่อมแซมร้านค้าและสิ่งก่อสร้างอื่นๆและค่าบาดเจ็บของทหารประจำเมือง จนถังแตก..ก่อนจะเดินก้มหน้าลงกับพื้น อู้เฉียงก็เดินตามหลังไป๋หลงไปแบบติดๆ..
” ไป๋หลงเอ่อ..ข้าขอโทษเมื่อตอนนั้นข้ารู้สึกว่าจิตใจของข้าไม่คงที่เหมือนกับอีกตัวตนหนึ่งของข้าจะออกมา ทำให้ข้าคุมอารมณ์ไม่อยู่ในชั่งขณะ ” อู้เฉียง กล่าวขึ้นด้วยความสำนึก ว่าตนนั้นทำเกินไปจริงๆ..
ไป๋หลงหยุดเดินแล้วหยิบบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ..แล้วโยนให้กับอู้เฉียง..
” นั้นคือใบการจบการศึกษาของเจ้า เราจะสอบเข้าสถาบันเทพมารในเดือนหน้า!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาก่อนจะเดินต่อไป…
” ไป๋หลงข้าขอโทษษษษษ!! ” อู้เฉียงกล่าวขณะที่มีเฟยเฟยเกาะแขนอยู่ ไป๋หลงกำลังทำใจกับการสูยเสียเงินครั้งใหญ่ ตลอดทางมีเสียก่นด่าและสาปแช่งไป๋หลงและอู้เฉียงเพราะต้องทำให้เมืองเกือบพังพินาศ….สาเหตุที่ไม่มีใครกล้ามาตอแยเพราะพลังที่ไป๋หลงและอู้เฉียงแสดงออกมานั้นไม่เหมือนกับคในรุ่นเดียวกัน
” นายท่านเรากำลังจะไปไหน? ” จี้กงกล่าวถามออกมา
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบในทันที…
” ตระกูลชุน ”
” ขอรับ ”
ในขณะที่ไป๋หลงเดินอยู่นั้นเสียงที่ห่างหายไปนานก็ดังขึ้นอีกครั้ง..จนไป๋หลงสะดุ้งจนลืมไปแล้วว่ามีอีกดวงจิตนึงที่อยูภายในร่าง
อาจารย์ขงจือ!!
” เจ้าหนู ไข่มังกรที่เจ้าประมูลมากำลังจะฟักตัวแล้ว!! รีบพาไปให้ออกห่างจากสิ่งมีชีวิตโดยด่วนมิฉะนั้น.. ”
” สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ โดยธาตุไฟแตกซ่านและโดนสูบพลังออกไปทั้งหมด นี้คือการถือกำเนิด ของ ราชันมังกรเพลิง!! ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที…
” อาจารย์ นี้ท่านหายไปไหนตั้งนานทำไมท่านโผล่มาก็มีแต่เรื่อง อีกอย่างไข่ก็อยู่ในแหวนมิติ จะเป็นแบบนั้นไปได้เช่นไร ” ไป๋หงกล่าวผ่านจิตกับขงจือ
” เจ้าเด็กโง่ขืนปล่อยให้เป็นแบบนั้นแหวนมิติเจ้าระเบิดแน่!! ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นใบหน้าขาวซีดในทันที..ถึงแม้เงินจะหมดไปแต่ยาและสมุนไพรยังเหลืออยู่ไม่น้อยไป๋หลงคิดได้เช่นนั้นก็ระเบิดฝีเท้าวิ่งออกจากตัวเมืองในทันที…สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนจำนวนมากแม้แต่อู้เฉียงยังงุนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนจี้กงตามไป๋หลงไปแบบติดๆ.. ไป๋หลงสถบออกมาด้วยความแค้นใจ..
” บัดซบ!! ทำไมมีแต่เรื่องปวดหัวให้ข้าทั้งนั้นข้าเบื่อออออ!! ศิษย์พี่ชุนยี่รอข้าก่อนรอให้เสร็จเรื่องข้าจะไปหาท่านแน่อน… ”
จบ…