เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่70 ปล้น 1
มังกรสีทองขนาดมหึมา!!…กำลังโอบร้อมองค์จักรพรรดิ์ผู้เป็นนายอยู่พลางจดจ้องไปยังสมาชิกโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรง…
” กล้ามากมากที่กล้าหันคมดาบเค้าหาองค์จักรพรรดิ์ผู้ปกครองทวีปจรัสแสงแห่งนี้โทษของพวกเจ้าคือ…หายไปซะ!! ”
หวงหลงในร่างมังกรทองกล่าวผ่านกระแสพลัง..โดยที่สมาชิกกลุ่มโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ทั้งหมดล้วนใบหน้าขาวซีดในบัดดล…เมื่ออยู่ต่อหน้า1ในสัตว์อสูรศักดิ์ศิทธิ์ แม้จะมีพลังระดับ เทพสงครามยังยากจะต่อกร มีหรือที่ระดับ ราชันนักรบทั่วไปจะอยู่ในสายตา
” ดะ..ได้โปรดช้าก่อ… ” เสียงของสมาชิกของโบสถ์ยังมิได้เอ่ยถ้อยคำใดก็โดนลำแสงสีทองที่ถูกปล่อยออกมาจากปากของ หวงหลงจนครอบคลุมสมาชิกของโบสถ์ทั้งหมดก่อนจะปรากฏพื้นที่ว่างเปล่าลงเหลือไว้เพียงเท่านั้น…
เหล่าทหารต่างสั่นสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าองค์จักรพรรดิ์จะกล้าสังหารคนของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ ด้วยมือตนเอง…
” ใครบอกว่าข้าสังหารพวกมัน…ข้าแค่ส่งมันออกนอกทวีปจรัสแสงเท่านั้น!! ” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงกล่าวออกมาราวกับคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า…
เหล่าทหารต่างพากันถอนหายใจถึงแม้โบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์จะสร้างปัญหาให้แต่การที่จะสังหารอย่างอุกอาจแบบนี้ก็ออกจะเกินไป…ในช่วงท้ายนั้น ถังหน่านเหิงได้เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายบอกให้หวงหลง พาพวกนี้ออกไปนอกทวีปทั้งหมดแทนที่จะสังหารทิ้ง…
” เอาละ…ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป ทวีปจรัสแสงไม่ขอต้อนรับโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์อีกต่อไป!! และเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้ได้ตลอดเวลา…ติดต่อถังเทียน และถังอวี้ด้วย ข้ามีบางอย่างอยากจะบอกกับพวกเขา ”
” รับด้วยเกล้าฝ่าบาท..” ผู้อาวุโสกล่าวก่อนนจะทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสั่งต่ออีกที ส่วนองค์รักษ์เงาที่แอบแฝงอยู่ก็กลับไปประจำตำแหน่งเดิมอีกครั้ง..ส่วนหวงหลงก็คืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้งและนำมือมาจับบ่า ขององค์จักรพรรดิ์เอาไว้ ซึ่งแน่นอน มิมีทหารคนใดกล่าวขัดแม้แต่น้อย เพราะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น ซ้ำถ้าจะให้เรียงลำดับ ฐานะ องค์จักรพรรดิ์เป็นเพียงข้ารับใช้ก็มิอาจผิดแปลกไปจากนี้…
” ทำไมเจ้าถึงปล่อยพวกมันไปเช่นนั้นเล่า..จักรพรรดิ์น้อยไม่คิดว่าพวกมันจะหาทางเอาคืนเจ้าหรือ? ” หวงหลงกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงสามัญ..
” ข้าแค่คิดว่าการปล่อยพวกมันไปอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้… ” องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงกล่าวอย่างมีเลิศนัย หวงหลงหาได้สนใจก่อนจะพูดเรื่องข้อตกลง..
” อย่าลืม ทองคำ 1 ตัน กับเหล้า ชั้นดี!! เตรียมไว้ให้ข้าด้วย เหมือนครั้งก่อนๆ ” หวงหลงกล่าว ก่อนจะกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปยังตราประทับที่อยู่บน แผ่นหลังองคจักรพรรดิ์ทันที…..
สุดขอบทวีปจรัสแสง…
มีลำแสงสายหนึ่งพุ่งลงมาก่อนจะปรากฏกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ที่ก่อนหน้านี้โดนจักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงส่งออกมาอกทวีป…
” บัดซบ!! ไม่คิดว่ามันจะกล้าถึงเพียงนี้มันกล้าแตกหักกับทางโบสถ์จริงๆหรือนี้ ” ผู้อาวุโสในกลุ่มของโบสถ์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและประหลาดใจ
” เรื่องนั้นชังมัน…รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปที่ศูนย์กลางของโบสถ์ที่ทวีปมืด!! ในทันที… ”
” แต่ว่า… ”
” ไม่มีแต่..ไปได้แล้ว ” ผู้อาวุโสจำใจต้องปฏิบัติตามคำสั่งก่อนจะนำพากลุ่มคนกลับไปยังศูนย์ใหญ่ในทันที..
” ถังหน่านเหิง…จงใช้ชีวิตที่เหลือของเจ้าให้คุ้มเถิดอีกไม่นาน ชีวิตของเจ้าจะต้องจบลง ”
กลุ่มของโบสถ์ศักดิ์ศิทธิ์ก็พากันกลับทวีปมืดในทันที…
……………………………………………………
” ไป๋หลงเป็นเจ้าจริงๆ…ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจ้าแล้วรูปลักษณ์นี้มันอะไรกันทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้ไปได้..เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ” เสียงที่กล่าวออกมาแฝงไว้ด้วยความห่วงใยและโหยหา
” เอ่อ..เรื่องมันยาวนะศิษย์พี่ชุนยี่ เอาเป็นว่าเพราะวิชาบางอย่างทำให้ศิษย์น้องต้องอยู่ในสภาพนี้…อีกอย่างท่านช่วยหาเสื้อผ้าให้กับเด็กคนนี้หน่อยได้หรือไหม? ” ไป๋หลงกล่าวถามแก่ชุนยี่…
ชุนยี่และชุนไห่ที่ยืนอยูเหลือบหันไปมองเด็กน้อยหน้าตาน่ารักเส้นผมสีแดงโลหิต ดวงตาเป็นสีแดงมองแล้วชวนให้หลงไหล ผิวกายขาวเนียนดุจหยก จนหญิงสาวด้วยกันยังต้องอาย…แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับน่าขนลุกเป็นอย่างมาก..
” ศิษย์น้อง…ไม่ทราบว่าเด็กคนนี้คือ.. ” ชุนไห่กล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัยและความงามที่แผ่ออกมาตั้งแต่เด็กๆโตขึ้นไปย่อมเป็นหญิงงามล่มเมืองเป็นแน่แท้
ยังไม่ทันที่ไป๋หลงจะกล่าวอธิบายเสียงใสๆก็ดังขึ้น…
” ปะ ป๋า หิวแล้ว หิว !! ”
ชุ่นยี่และชุนไห่ต่างตกตะลึงในทันทีก่อนจะจ้องไป๋หลงด้วยความหลากหลายอารมณ์…
” เดี๋ยวๆพวกท่านเข้าใจผิดแล้ว…เรื่องมันยาวแต่ที่แน่ๆเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของข้าแน่นอนเรื่องนี้ข้าขอยืนยันได้…ใช่ไหมอู้เฉียง จี้กง ”
ไป๋หลงคล้อยตาหันมามองอู้เฉียงที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้กับจี้กงที่เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรทั้งสิ้น…
” ย่อมเป็นเช่นนั้น ขอรับ ”
” เจ้าว่าไงก็แบบนั้นแหละ ”
จี้กงและอู้เฉียงกล่าวออกมาก่อนจะนั่งอยู่เงียบๆเช่นเดิม..
” ศิษย์พี่ชุนยี่ ข้าไม่เห็นท่านชุนเปียวเลยไม่ทราบว่าท่านชุนเปียวไปไหนหรือท ” ไป๋หลงกล่าวถามด้วยความสงสัยตั้งแต่เข้ามาไป๋หลงยังไม่เห็นชุนเปียวเลยตั้งแต่เข้ามา…
ชุนยี่ได้ยินแบบนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์และแค่นเสียงออกมาในทันที…
” จะอะไรซะอีกละ…ก็ไปต่อลองเจรากับตระกูลอื่นๆ ที่หวังจะเอาที่ของตระกูลชิน ที่เหลือแต่หลุมลึกเท่านั้น กับพื้นที่รอบๆที่เหลือ ที่ท่านพ่อไปร่วมการต่อลองนี้ก็เพราะว่าข้างล่างนั้นมีแร่บางอย่างอยู่… ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วในทันที..จริงอยู่ว่าแร่ต่างๆสามารถหาได้ตามธรรมชาติทั่วไปเช่นทองคำแต่แร่ที่พิเศษจะพบในพื้นที่ที่พิเศษเท่านั้นมูลค่าของมันมหาศาลเป็นอย่างมากในตลาดมืดและโรประมูล..ไป๋หลงในตอนนี้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่นิดเดียวนี้จึงเป็นหนทางใหม่ในการหาเงิน ไป๋หลงคิดเช่นนั้นก็แสร้งถามในทันที…
” ศิษย์พี่เรื่องมันเป็นมายังไง..ช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ บางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้ ”
ชุนยี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบในทันที…
” คือเรื่องมันเริ่มจาก….. ”
ชุนยี่เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนหมดไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นเพียงแสยะยิ้มเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนจะปรับสีหน้าเป็นเหมือนเดิม โดยที่อู้เฉียงลอบสังเกตุไป๋หลงก่อนจะรู้สึกกังวลแปลกๆ….
จบ…