เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่75 สร้างเมือง 2
หลังจากไป๋หลงพูดลายละเอียดคร่าวๆทำให้ชุนเปียวตัดสินใจช่วยเหลือไป๋หลงในครั้งนี้โดยการจัดสรรหาแรงงานคนและอุปกรณ์ต่างๆให้อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด..คราแรกไป๋หลงปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงแต่ก็มิอาจปฏิเสธน้ำใจที่ชุนเปียวมอบให้ได้…ส่วนเรื่องพื้นที่ชุนเปียวจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้แต่ครานี้ไป๋หลงปฏิเสธเสียงแข็งว่าจะไม่ขอรับพื้นที่ในส่วนนี้….ชุนเปียวยอมรับการตัดสินใจของไป๋หลงก่อนจะจัดสรรหาอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติม..
ไป๋หลงตัดสินใจกลับมายังเมืองหลวงของทวีปจรัสแสงอีกครั้งพร้อมกับเด็กสาวผมแดงโลหิตส่วนอู้เฉียง นั้นไป๋หลงได้บอกให้กลับไปที่ป่าอสูรก่อนเพราะเกรงว่าอู้หยางจะเป็นห่วงอู้เฉียงแน่แท้..ส่วนจี้กงไป๋หลงสั่งห้ามว่าอย่าตามมาเป็นอันขาดให้ติดตามอู้เฉียงกลับไปยังป่าอสูรก่อน..
เมือไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ ลิ่วหลงกุน ได้ติดต่อหาไป๋หลงผ่านจิต และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับไปผ่านจิต..
” ท่านลิ่วหลงกุน..ท่านมุ่งหน้าไปรอข้าที่ป่าอสูรได้เลยตอนนี้ข้าอยู่ที่เมืองหลวงของทวีปจรัสแสงเพื่อมาทำภารกิจนิดหน่อย..”
ลิ่วหลงกุนได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวถามด้วยความเป็นห่วงทันที..
” นายท่าน..ดูแลตัวเองด้วยในเมื่อท่านยืนกรานที่จะไม่ให้ข้าไปด้วยข้าก็เคารพการตัดสินใจของท่าน..ส่วนเรื่องค่ายกล!! ที่ท่านขอข้าสามารถช่วยท่านได้แน่นอน.. ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในทันที..ถ้าสามารถติดตั้งค่ายกลนั้นได้จริงๆละก็ ต่อให้ชนชั้นจักรพรรดิ์นับสิบรวมพลังกันทำลายก็ทำได้เพียงสร้างลอยขีดข่วนเท่านั้น..
” เรื่องนี้ ข้าจะคุยกับท่านอีกที ข้อขอตัวก่อน.. ”
” ขอรับ..นานท่าน ” ลิ่วหลงกุนกล่าวจบก็ตัดการเชื่อมต่อไปในทันที…
ชนชั้นระดับเทพสงคราม!!.น่ากลัวจริงๆขนาดอยู่ไกลเป็นพันลี้สามารถติดต่อผ่านจิตได้โดยตรง เป็นระดับที่ยากราวกับปืนป่ายขึ้นสวรรค์…
ไป๋หลงตัดสินใจไปที่แรกนั้นก็คือโรงประมูล..เพื่อรับใครบางคนในระหว่างเดินมีสายตานับร้อยคู่จับจ้องมายังไป๋หลงและเด็กน้อยผมสีแดงโลหิตที่หน้าตาน่ารักโตขึ้นไปไม่พ้นเป็นหญิงงามล้มเมือง…ไม่สิอาจจะเป็นหญิงงามล้มทวีปเสียด้วยซ้ำ…
” นี้เจ้าเห็นหรือไม่..เด็กหนุ่มคนนั้นกับเด็กสาวที่เดินอยู่คู่กัน ชั่งงดงามยิ่งนักเจ้าว่าอาจจะเป็นขุนนางจากตระกูลชั้นสูงรึเปล่า? ” หนึ่งในชาวเมืองระแวกนั้นเอ่ยขึ้น..
” อย่าแส่หาเรื่องเลยดีกว่าเจ้าก็รู้ว่าพวกขุนนางนิสัยเป็นยังไง…ข้าว่าเราอย่าไปยุ่งเลย ดูสิมีพวกโง่แถวนี้แส่หาเรื่องแล้ว ข้าว่าเรามารอดูชะตากรรมของพวกโง่นี้ดีกว่า.. ”
ในขณะที่ไป๋หลงเดินอยู่นั้นก็มีกลุ่มคนแต่งตัวคล้ายยอมยุทธ์ราวๆ4-5คน…เดินเข้ามาล้อมรอบไป๋หลง..ซึ่งขณะนั้นเองมีชายร่างสูงใหญ่ก้าวเดินออกมาแล้วกล่าวกับไป๋หลง…
” นี้น้องชาย..ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อนคงจะพึ่งเข้ามาใหม่สินะเจ้ารู้หรือไม่ว่าแถวนี้การที่จะสามารถอาศัยอยู่ได้ต้องจ่ายค่าคุ้มครองมาก่อน.. ” ชายร่างสูงใหญ่มองไป๋หลงตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางเหลือบตาไปมองแล้วเจอเข้ากับเด็กสาวเส้นผมแดงโลหิตที่หน้าตาน่ารักเป็นอย่างมาก…แม้จะอยู่ในวัยเด็กก็ตาม
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ปลายตามองไปยังคนที่เหลือก่อนจะสำรวจระดับพลังก็พบว่า พลังของคนทั้งหมดนั้นอยู่ราวๆ นักรบหลอมรวมขั้นที่6 ทั้งสิ้น ซึ้งถือว่าเป็นระดับที่ปกติ…ถึงแม้กลุ่มคนพวกนี้พยามปกปิดระดับพลังแต่ก็เหมือนจะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าไป๋หลง…
” ค่าคุ้มครอง?…ข้าไม่เคยได้ยินทำไมข้าต้องจ่ายค่าคุ้มครองด้วย..ข้าเพียงแค่เดินทางผ่านมาเท่านั้นไม่ได้คิดจะแวะพักที่ไหนสักหน่อย…อีกอย่างเลิกมองน้องของข้าด้วยสายตาหยาบโลนเช่นนั้น!! ข้าขอเตือนไว้ ” ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นพลางปลดปล่อยจิตสังหารออกมาโดยตรง
ฟึบ!!
ชายร่างสูงใหญ่คุกเค่าลงกับพื้นพน้อมใบหน้าที่ขาวซีดสร้างความตกตะลึงให้แก่ชาวเมืองโดยรอบและลูกสมุนที่ตามมาด้วยเป็นอย่างมาก…
” พี่ใหญ่!!..ท่านเป็นอะไรไป..เจ้าทำอะไรพี่ใหญ่ของพวกข้า ” หนึ่งในคนที่ติดตามมาด้วยกล่าวขึ้นด้วยโทสะหมายจะพุ่งไปหาไป๋หลงทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นไม่ใช่ใครอื่นนั้นก็คือพี่ใหญ่ที่นั่งกองลงกับพื้นเพราะทนรับจิตสังหารที่ไป๋หลงแผ่พุ่งออกมาเจาะจงตัวมันโดยเฉพาะ…
” อย่า!! ”
กลุ่มคนที่เหลือต่างงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น…ก่อนที่ชายร่างสูงใหญ่จะก้มหัวให้ไป๋หลง..
” พวกข้ามีตาหามีแววไม่!!..โปรดท่านจอมยุทธ์ทรงเมตตา ” กลุ่มคนทั้งหมดต่างได้ยินทุกคำที่ออกมาจากปากของชายร่างสูงใหญ่ที่ไม่เคยแม้แต่จะก้มหัวให้ใครแต่ตอนนี้กลับ…
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็น…
” ถือว่าเจ้าพอมีสมองอยู่บ้าง…คิดไตร่ตรองได้ดีไม่รนหาที่ตาย ไสหัวไปซะ!! ”
กลุ่มคนทั้งหมดต่างวิ่งหนีในขณะที่มีคำถามค้างคาอยู่ในใจที่จะถาม..
” พี่ใหญ่ทำไมเราไม่… ” ยังกล่าวไม่ทันจบเสียงตะวาดก็ดังขึ้นอีกรอบด้วยความไม่สบอารมณ์
” ถ้าเจ้าอยากตายก็เชิญ…เจ้าไม่รู้หรอกว่าเด็กนั่นจิตสังหาร!!มันรุนแรงขนาดไหน…เป็นจิตสังหารที่เต็มไปด้วยความดำมืดจนน่ากลัว!! ”
หลังจากกลุ่มคนทั้งหมดได้ยินเช่นนั้นก็ต่างเงียบไม่พูดในระหว่างทางอีกเลยเป็นบทเรียนที่ต้องเกือบแลกมาด้วยชีวิต…ชายร่างสูงใหญ่ได้แต่คิดอยู่ภายในห้วงจิตสำนึก..
…………………………………………………………………..
ณ.โรงประมูล
ไป๋หลงเดินทางมาถึงโรงประมูลในที่สุดพร้อมกับเด็กสาวที่จับมือไป๋หลงไม่ห่างแม้แต่นิดเดียว…บรรยากาศทุกอย่างที่โรงประมูลแห่งนี้เปลี่ยนไปมาก..ไป๋หลงเดินเข้ามาภายในโรงประมูลก่อนจะมีพนักงานสาวเข้ามาให้บริการ…
” เอ่อ..นายท่านกับคุณหนูท่านนี้ต้องการสิ่งใดหรือเจ้าค่ะ ” พนักงานสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรก่อนที่ไป๋หลงจะตอบกลับไปในทันที..
” ข้ามาหาคน…ไม่สิเอลฟ์ ข้ามาหาเอลฟ์นางนึงมิทราบว่าพี่สาวพอจะรู้จักบ้างไหม.. ” ไป๋หลงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ราบลื่น พนักสาวได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดทันที…
” นายท่านเจ้าค่ะเอลฟ์ที่ท่านหมายถึงคือ เอลฟ์ที่อยู่หลังม่านนั้นรึเปล่าเจ้าค่ะ? แต่ข้าว่าท่านน่าจะเข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับเอลฟ์ตนนี้ก็เป็นได้… ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยความแปลกใจในทันที…ขณะนั้นเองมีเสียงๆนึงดังขึ้นกลางเวที..
” เอาละ ท่านผู้ชมทั้งหลายวันนี้ก็พบกับการต่อสู้สุดดุเดือดระหว่างเอลฟ์สาวสุดสวยกับผู้ที่ยอมจ่ายเงินในการแข่งครั้งนี้ถ้าชนะ จะได้ตัวนางไปครองนั้นเอง!! ใครมันใจในฝีมือตัวเองก็ลงสมัครกันได้เลย.. ”
ไป๋หลงไดยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที..ไป๋หลงไม่ทันจะได้กล่าวถามม่านก็ถูกดึงขึ้น เผยให้เห็นกรงเหล็ก ที่ทำหน้าที่ ป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น…
” เอาล่ะค่ะ คนแรก คือคนที่รู้จักกันดีซึ่งก็คือ ศิษย์หลักอันดับ1!! แห่งสำนักวารีพิสุทธิ์ หลี่อาน!! ”
” ไม่น่าเชื่อท่านหลี่อานจะมาด้วยตัวเองเช่นนี้.. ”
” ข้าว่าเรามาอดูกันดีกว่า ”
เสียงผู้ชมในโรงประมูลต่างพูดกันไปต่างๆนาๆ
หลี่อ่านโดนเข้าไปในกรงเหล็กพร้อมกับจ้อมมองเอลฟ์สาวด้วยสายตาที่หื่นกระหาย…
” วันนี้แหละเจ้าต้องเป็นของข้า..รับมือ ” หลี่อานระเบิดพลังราชันย์นักรบขั้นที่ 4 !! ออกมาหมายพุ่งเข้าจะปิดฉากในทันที
” กรงเล็บทรราช!! ”
เกิดเป็นกรงเล็บสีดำทมิฬอันน่าเกรงขามพุ่งเข้ามาหาเอลฟ์สาว….เอลฟ์สาวกำลังจะทำการป้องกันแต่อยู่ก็มีบางอย่างพุ่งเข้ามาในกรงเหล็ก
ตู้มมม!!
จนกรงเล็กพังพินาศจนหมดสิ้น กรงเล็บทรราชที่อัดแน่นไปด้วยพลังธาตุมืด ที่กำลังจะไปถึงเอลฟ์สาวกลับถูกหยุดเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว…
…………………………………………………………….
ตระกูลหลี่….
” เป็นยังไงบ้างเรื่องที่ข้ให้เจ้าไปหาเบาะแสมา.. ” หลี่หยางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน
” เรียนท่านผู้นำ ก่อนที่ จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมีคนเห็นเด็กหนุ่ม2คนกับสตรีอีกหนึ่งคนกระโดดลงไปยังปากหลุม อายุราวๆ16-17ปีขอรับ!! ” ทหารองค์รักษ์ที่กล่าวรายงานยังอยากที่จะเชื่อแต่ในเมื่อมีหลักฐานชิ้นสำคัญก็ต้องยอมรับเรื่องนั้นจริงๆ…
หลี่หยางใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที…
” ข้าลองเช็คภาพที่ อุปกรณ์อักขระที่ใช้ในการบันทึกภาพและตรวจจับสิ่งมีชีวิตต่างๆก็ไปเจอกับหลักฐานนี้ในทันทีขอรับ… ”
หลีหยางสงบสติอารมณ์โดยเร็วก่อนจะนำภาพนั้นขึ้นมาดูก่อนจะเบอกตากว้าง…
” เจ้าเด็กนี้มัน!!…. “