เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่76 สร้างเมือง 3
ภาพตรงหน้าที่หลี่อานเห็นนั้นแทบจะเรียกได้ว่าสั่นครอนประสบการณ์การต่อสู้และพลัง..กรงเล็บทรราช!! ที่ตัวเองนั้นแสนมั่นใจกลับโดนหยุดไว้ได้เพียงมีข้างเดียวแถมดูท่ายังไม่ได้ใช้กระบวนท่าใดๆในการตั้งรับด้วยซ้ำ…หลี่อ่านเห็นเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นด้วยโทสะทันที…
” เเกเป็นใครเหตุใดถึงเข้ามายุ่งกับของ..ของข้าอยากตาย!!มากรึไง ”
หลี่อานแม้ไม่สามารถตรวจดูระดับพลังของอีกฝ่ายได้แต่ยังคงมั่นใจว่าระดับพลังยังไม่ห่างกันมากนักทำให้หลี่อานมั่นใจที่จะกล่วข่มไปเช่นนั้นรวมทั้งตัวมันที่เป็นบุตรของหลี่หยางตระกูลอันดับ1แห่งเมืองจรัสแสงทำให้ตัวมันมิต้องเกรงกลัวสิ่งใด…
” ของของเจ้า? หึ!! ชั่งไม่รู้จักเจียมตัวคราแรกแค่กะจะพาคนของข้ากลับเท่านั้นแต่…ข้าขอฝากบทเรียนไว้ให้เจ้าสักหน่อยก็แล้วกัน ” เสียงๆนึงกล่าวออกมาก่อนที่ฝุ่นควันจะจางหายไปก็พบกับร่างหนุ่มรูปงามเส้นผมสีดำสลวยดวงตาสีแดงโลหิต ผิวพรรณขาวใสดุจหยก เหล่าผู้ที่มาประมูลกัน ต่างตกตะลึงในความหล่อเหลาเช่นนี้ ราวกับเป็นคุณชายหรือองค์ชายจากต่างแดนเสียด้วยซ้ำ…
” เด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นใครกัน..หรือจะเป็นเชื่อพระวงศ์!! จากทวีปอื่นกัน ” เสียงของคนในงานประมูลกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง..
” ไม่มีทาง..อย่างน้อยก็ต้องมีองค์รักษ์หรือผู้ติดตามมาสิ..แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางที่จะเป็นคนธรรมดาๆแน่นอน ”
เสียงของคนในงานงานประมูลต่างกล่าวกันไปคนละทิศคนละทาง…
เอลฟ์สาวขมวดคิ้วเพราะกลิ่นอายที่คนผู้นี้แผ่ออกมาช่างเหมือนกับนายท่านของตนยิ่งนัก..ก่อนจะเบิกตากว้างพร้อมกับน้ำใสๆไหลออกมาแม้รูปลักษณ์จะเปลียนไปแต่กลิ่นอายยังคงเดิมมิเปลี่ยนแปลง…พร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
“ห..หรือว่าท่านกลับมาแล้ว ”
เอลฟ์สาวกำลังจะโผกอดแต่โดนสันมือของเด็กหนุ่มตีลงมาบนหัวอย่างแผ่วเบา..
” ข้ายังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นหรอกนะ..กลับไปเรามีเรื่องต้องคุยกัน… ” ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจ้องมองเอลฟ์สาว..
” เจ้ามีความสามารถ ด้านการเงินรึเปล่า? แล้วเจ้าชื่ออะไรข้าลืมซะสนิท ” ไป๋หลงกล่าวถามด้วยความใคร่รู้
เอลฟ์สาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบด้วยความกระตือรือร้นทันที…
” ด้านการเงินก็…ข้าเก่งด้านการคำนวณทำไมหรือเจ้าค่ะนายท่าน.อีกอย่างข้าชื่อ ฟา. ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มออกมาไปทันที….
” พวกเจ้าบังอาจเมินข้า!!…รนหาที่ตาย ” หลี่อานกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารและมีพลังแปลกๆบางอย่างประทุออกมา
ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแนบนั้นในทันที..
” พลังแบบนี้มัน!!…วิชาเผ่ามาร!! ”
ไป๋หลงกล่าวออกมาแม้จะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาแต่หลี่อานนั้นได้ยินทุกประโยค ทำให้หลี่อานใบหน้าซีดเซียว..
” เจ้ารู้ได้ยังไงเห็นที..เจ้าคงต้องตายไปพร้อมกับความลับของข้าแล้ว..ตายซะ!! ” หลี่อ่านพุ่งเข้ามาพร้อมกับออร่าสีดำประทุออกมา ก่อนจะเรียกบางอย่างออกมานั้นก็คือ ศาสตร์ตราจิตวิญญาณ!! รูปร่างเป็นเคียวขนาดใหญ่สีดำทมิฬ ระดับพลังที่แผ่ออกมา พาลาดิน!!
ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็มิกล้าประมาทอีกต่อไปตั้งท่าเตรียมสู้ในทันทีพร้อมกับให้เอลฟ์สาวถอยออกไป ผู้คนในงานประมูลต่างตกตะลึงกับเคียวสีดำทมิฬขนาดใหญ่…ซึ่งมันก็คือศาสตร์ตราจิตวิญญาณของหลี่อานนั้นเอง..
ทันใดนั้นก็มีเด็กสาวผมสีแดงโลหิตโผล่ขึ้นมากลางเวทีพร้อมกับกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ใสแจ้ว..
” อย่ามารังแกปะป๋านะ คนไม่ดี!! ” เด็กสาวผมสีแดงกล่าวขึ้นพร้อมกับขว้าจับเคียวสีดำทมิฬที่กำลังจะถึงตัวไป๋หลง ก่อนจะกำเคียวแน่นขึ้นไปอีก…
เคร้ง!!
เสียงบางอย่างที่แตกร้าวนั้นก็คือเคียวขนาดใหญ่เกิดรอยร้าวขึ้นตรงที่เด็กสาวผมสีแดงโลหิตจับไว้หลี่อานเห็นเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที..พร้อมกับสลายเคียวทมิฬในทันทีเพราะมิอาจที่จะแบกรับความเสี่ยงที่ศาสตร์ตราวิญญาณเสียหาได้..
” ไม่มีทางเจ้า..ไม่ใช่มนุษย์!! เจ้าเป็นใคร ” หลี่อานกล่าวด้วยความวิตกกังวลเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวตรงหน้ามีบางอย่างที่น่าหวาดหวั่นซ่อนอยู่..
ไป๋หลงเห็นท่าไม่ดีเพราะคนในงานประมูลเริ่มจับจ้องมายังเด็กสาวผมโลหิตด้วยสายตาที่มีความอยากครอบครอง..
บัญญัติแห่งราชันย์!!
ผู้คนในงานประมูลต่างทรุดเข่าลงกับพื้นเว้นก็แต่มีบางคนเท่านั้นที่ต้านทานเอาไว้ได้แสดงให้เห็นถึงมียอดฝีมือแอบซ่อนอยู่นั้นเองหลี่อานก็ตกตะลึงก่อจะทรุดเข่าลงแต่ก็สามารถกลับมายืนได้อย่างสมบูณ์..
” บัดซบ!! นี้มันวิชาอะไรกัน ”
” ทำไมร่างกายข้าหนักอย่างกับแบกภูเขา..วิชานี้มันเป็นวิชาระดับไหนกันแน่ ”
ผู้คนในงานประมูลต่างทรุดเข่าลงกับพื้น…หลี่อ่านกวาดสายตามองหาตัวไป๋หลงเด็กสาวผมโลหิตและเอลฟ์สาวแต่ไม่พบ…หลี่อานใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที..
” บัดซบ!!.มันหนีไปได้ยังไง ”
ห่างไกลออกมาจากโรงประมูล….
” เจ้าอย่าได้ทำเช่นนั้นอีกเข้าใจไหม..มันจะทำให้เจ้าสะดุดตามากขึ้น ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง เด็กสาวผมแดงโลหิต เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น ไป๋หลงก็ยังสงสัยอยู่มิใช่น้อยว่าเหตุใดเด็กสาวผมแดงโลหิตถึงไม่ยอมพูดกับตน..
ไป๋หลงจงใจหนีออกมาไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้แต่ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่จะโดนเพ่งเล็งมากขึ้นจึงตัดสินใจหนีออกมา…
” นายท่านเราจะไปไหนกันต่อ ” เอลฟ์สาวดูจะไม่ตกใจและรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยกับเรื่องเมื่อครู่แต่ไป๋หลงก็ไม่ได้กล่าวถามสิ่งใด..
” วังชั้นในที่องค์จักรพรรดิ์ถังหน่านเหิงทรงประทับอยู่!! เป็นสถานที่ที่ข้าต้องเดินทางไปในตอนนี้เวลานี้และยามนี้เท่านั้น..ไปกันได้แล้ว…”