เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่78 สร้างเมือง 5 จบ
ลิ่วหลงกุนเห็นเห็นเช่นนั้นก็สลายแลงกดดันทั้งหมดในทันที..ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็น
” ตอนนี้นายท่านของข้ากำลังทำภารกิจบางอย่างอยู่..แต่อีกไม่นานคงจะกลับมาอีกอย่างข้ามีบางอย่างจะถามเจ้าสักหน่อย เทพอสูรไป๋หยางผู้เคยเป็นผู้ติดตามคนสนิทของเทพมารอัลบาร์ !! ”
ไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าขาวซีดในทันที…ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่..
” ท่านรู้?แต่…ข้าไม่สามารถบอกท่านได้!!..ไม่ว่าจะยังไงก็ตามหรือท่านจะสังหารข้า!!ในตอนนี้ข้าก็บอกไม่ได้เด็ดขาด ”
ลิ่วหลงกุนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็มิมีความจำเป็นจะต้องคุยอีกจึงเดินเข้าไปในป่าอสูรในทันทีพร้อมกับจี้กง..ที่ตามมาหลังลิ่วหลงกุนมาเช่นกัน.
” อีกอย่างข้าไม่ใช่มนุษย์!!วางใจได้เรื่องนี้เจ้าไม่บอกข้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับเจ้า…ข้ามาที่นี้เพื่อรอนายท่านนั้นคือจุดประสงค์ที่แท้จริง.. ” ลิ่วหลงกุนกล่าวออกมาก่อนจะโดนผ่านไป๋หยางซึ่งยืนไม่ไหวติงก่อนจะหันหลังกลับมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึงเพราะกลิ่นอายที่สัมผัสได้เมื่อครู่เป็นกลิ่นอายที่สะอาดและบริสุทธิ์แฝงไว้ด้วยพลังศักดิ์ศิทธิ์..
” ทะ…ท่านคือเผ่าเทพ!! ”
ลิ่วหลงกุนเพียงแย้มยิ้มออกมาเท่านั้นก่อนจะเดินมุ่งหน้าเข้าไปในที่พักที่อยู่ส่วนในของป่าอสูรนั้นก็คือที่พักของเทพอสูรไป๋หยางนั้นเอง…
เทพอสูรไป๋หยางได้แต่ตกตะลึงและมิอาจจะทำอะไรได้ในตอนนี้เพราะเผ่าเทพ!! ถือเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด มิอาจจะเทียบกับเผ่าพันธ์ทั่วไปได้คราแรกที่ลิ่วหลงกุนเจอกับไป๋หยางนั้นลิ่วหลงกุนจงใจปกปิดกลิ่นอายของเทพเอาไว้แต่ครั้งนี้ลิ่วหลงกุนตั้งใจแผ่กลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าเทพออกมาเพื่อจงใจให้ไป๋หยางได้รับรู้…
” หรือว่าสวรรค์จะรู้ล่วงของไป๋หลงแล้ว!! ” ไป๋หยางกล่าวขึ้นภายในจิตสำนึกพลางวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งแต่ด้วยคำพูดที่ลิ่วหลงกุนกล่าวออกมาโดยไม่มีท่าทีมุ่งร้ายทำให้ไป๋หยางนั้นเบาใจลงไปเล็กน้อยก็ยังอดวิตกกังวลไม่ได้อยู่ดี…
ณ พื้นที่โล่งกว้างห่างไกลจากวังหลวงนับพันลี้!!
ไป๋หลงลงสู่พื้นพร้อมกับสลายปีกคู่ขาวดำไปในทันทีและเมื่อสำรวจรอบๆบริเวณนี้…ไป๋หลงพบกับแม่น้ำขนาดใหญ่และสมุนไพรต่างๆมากมายเหมาะแก่การทำโอสถเป็นอย่างมาก
” ที่นี้แหละเหมาะมาก!!ในการที่จะสร้างเมืองที่มนุษย์และสัตว์อสูรสามารถอยู่ร่วมด้วยกันได้…เพื่อลดความขัดแย้งเรื่องความต่างของเผ่าพันธ์นี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น…ฟาหลังจากกลับไป เจ้าช่วยกระจายข่าวไปว่าเมืองที่ต้อนรับทั้งอสูรและมนุษย์กำลังจะเกิดขึ้น!!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้นถึงแผนการที่วางเอาไว้
” รับคำสั่งนายท่าน ” ฟาตอบกลับออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้ด้วยความสงสัยเพราะตลอดผ่านการเดินทางฟามิได้ไตร่ถามเรื่องที่เกิดขึ้นหรือแม้แต่จะถามเกี่ยวกับตนแม้แต่น้อย…
” เจ้าไม่มีอะไรจะถามข้าจริงๆอย่างงั้นรึ..ตั้งแต่ที่ข้าปล่อยเจ้าไว้เกือบครึ่งปีแล้วข้าพึ่งจะมาเอาตอนนี้? ”
ฟาเพียงหัวเราะเบาๆและส่งยิ้มให้ไป๋หลงก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันทรงเสน่ห์…
” ถ้านายท่านอยากเล่าหรือบอกข้า..ข้าพร้อมรับฟังทุกเมื่อเจ้าค่ะนายท่าน ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจความหมายที่ฟา กล่าวออกมาได้อย่างทันทีทำให้ไป๋หลงเลือกที่จะไม่พูดในตอนนี้ ก่อนจะสำรวจบริเวณรอบๆต่อไปพร้อมกับฟาและเด็กสาวผมแดงโลหิตที่เดินจับมือไป๋หลงเดินต้อยๆ…
” นี้ไอหนู…เจ้าต้องการสร้างเมืองเพื่อสิ่งใดกันเหลือเวลาไม่ถึงสองเดือนแล้วที่เจ้าต้องเดินทางไปสถาบันเทพมารอะไรนั้นนะ…ข้าสังเกตุเจ้ามานานแล้วเหตุผลที่แท้จริงในการสร้างเมืองครั้งนี้ของเจ้าคืออะไรกันศิษย์ข้า? ” อยู่ๆขงจือก็กล่าวโผลงขึ้นไม่คิดว่าอาจารย์ตนจะสังเกตุลายละเอียดยิบย่อยขนาดนี้..
” อาจารย์ที่ไหนกันจะจงใจฆ่าศิษย์ตัวเองมิหนำซ้ำยังปล้นใช้กำลังบีบบังคับให้ข้าต้องส่งมอบแร่ศักดิ์สิทธิ์ให้บางส่วนเล่า..เหอะ!! ” ไป๋หลงบ่นออกมาผ่านจิตสำนึกทำให้ขงจือถึงกับใบหน้าบิดเบี้ยว..
” ข้าถามเจ้าดีๆ..ข้าก็แค่อยากรู้เท่านั้นถ้าเจ้าไม่บอกข้าก็ไม่อยากจะรู้นักหรอกไอข้าก็ถือว่าจะมอบเคล็ดวิชาให้เป็นการขอโทษ!!ที่ข้าทำกับเจ้าไปเมื่อตอนนั้นแต่ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้แสดงว่าเจ้าไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ” ขงจือกล่าวจบไป๋หลงก็ตาลุกวาวในทันทีเมื่อได้ยินว่าเคล็ดวิชาก่อนจะกล่าวกับขงจือด้วยท่าทีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง..
” โถ่วท่านอาจารย์ข้าก็แค่พูดล้อท่านเล่นแค่นั้นแหละ..ความจริงอีกอย่างที่ข้าต้องสร้างเมืองเช่นนี้เพราะข้าต้องการสร้างกองกำลังลับ!! ขึ้นมาเองโดยขึ้นตรงคำสั่งโดยข้าเท่านั้น…ส่วนเหตุผลนั้นข้ามิอาจบอกท่านได้ ” ไป๋หลงล่าวด้วยท่าทีนอบน้อมจนทำให้ขงจือถึงกับกุมขมับ..
” เจ้านี้มัน…เอาเถอะข้าจะแสดงให้ดูรอบเดียวเท่านั้น!!เจ้าต้องจดจำและนำไปประยุกต์เป็นของตนเอง.. ”
ขงจือกล่าวจบก็ออกมาจากร่างของไป๋หลงในสภาพดวงจิตที่มีรูปร่างเป็นคนจริงๆ เสื้อสีขาวกับหยวดเครายาวเฟื้อยสีขาวทำให้ผู้พบเห็นต่างพากันเลื่อมใสราวกับนักพรตผู้ทรงธรรม.. ฟามีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อไป๋หลงอธิบายให้ฟาเข้าใจฟาก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติเว้นซะแต่เพียงเด็กสาวผมโลหิตที่มิได้มีท่าทีตกใจหรือแสดงอาการอะไรออกมาแม้แต่น้อยยังคงจับมือไป๋หลงไว้อยู่เช่นเดิม….
” อาจารย์ท่านจะแสดงให้ข้าดูอย่างงั้นรึ?เหตุใดถึงต้องทำเช่นนี้ แล้วพลังในการคงสภาพอยู่ในสภาพนี้ของท่านละ ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อยพลางสงสัย..
” เจ้าศิษย์โง่จงฟังให้ดีวิชาที่ข้าจะแสดงให้เจ้าดูเรียกว่า เทพวิชา!! เป็นวิชาที่ข้าแตกแขนงและรู้แจ้งจนถึงขีดสุดในยุคนนั้น สาเหตุที่ข้าต้องแสดงให้ดูเพราะ เทพวิชา นั้นมิสามารถส่งต่อได้ ไม่สามารถคัดลอกเป็นรูปเล่มลงตำรายุทธ์ได้ หนทางเดียวคือ ใช้ทุกอย่างในการจดจำผ่านความรู้สึกเท่านั้น!! ” ขงจือกล่าวอธิบายก่อนบรรยากาศรอบตัวไป๋หลงจะร้อนขึ้นพลังแปลประหลาด
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านในทันทีพลางจดจ้องและใช้สมาธิในตอนนี้จนถึงขีดสุด..ก่อนที่ไป๋หลงจะเบิกตากว้างแและสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัวไม่เว้นแม้แต่ฟา ที่ตอนนี้ขาสั่นเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล..เพราะตอนนี้มีมังกรนับร้อยตัว!!ถูกสร้างขึ้นจากเปลวเพลิงสีฟ้าใสกำลังกู่ร้องออกมาราวกับมีชีวิตอยู่บนท้องนภา…
” นี้คือ เทพวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยของข้า… ” ขงจือกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นพร้อมกับแววตาที่แข็งกร้าว..
” ร้อยมังกรถล่มปฐพี!!