เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่80 จักรพรรดิทั้ง 6
ในห้องๆหนึ่งมีเด็กหนุ่ม เด็กสาวผมโลหิตและเอลฟ์สาวที่กำลังนอนเข้าสู่นิททราในยามค่ำคืน…
” ตำราเล่มนี้มันคืออะไรกัน…กระบวนท่าราชันย์คือสิ่งใด? เหตุใดตำราทุกหน้าถึงว่างเปล่าเช่นนี้ ” ไป๋หลงกำลังนั่งอ่านตำราไปมาโดยที่ไม่มีตัวอักษรแม้แต่หน้าเดียวเว้นก็แต่เพียงหน้าตำราที่เขียนว่า กระบวนท่าราชันย์..
” หลิงหลุนเจ้ารู้อะไร้บ้างเกี่ยวกับตำราเล่มนี้ ” ไป๋หลงกล่าวถามขึ้นภายดวงจิตก่อนที่หลิงหลุนจะตอบกลับมา…
” เรียนนายท่าน…ข้าไม่สามารถตอบท่านได้ในเรื่องนี้..แต่ข้าสามารถบอกได้ว่า หนังสือเล่มนี้ท่านต้องเป็นคนเปิดผนึกเองเท่านั้น!!! ”
ไป๋หลงพยามจะกล่าวถามต่อแต่ดูเหมือนว่าหลิงหลุนพยามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบทำให้ไป๋หลงต้องเลิกล้มความคิดที่จะถามหลิงหลุน…
” ท่านแม่..ท่านพ่อข้าคิดถึงพวกท่านเหลือเกิน…เหตุใดพวกเราถึงต้องพลัดพรากแยกจากกันเช่นนี้ไม่ว่าพวกท่านจะอยู่ที่ไหน..ข้าก็จะตามหาพวกท่านให้เจอแต่ถ้าสวรรค์กีดกันข้าและพยามจะขัดขวางข้า..ข้าจะเป็นคนทำลายสวรรค์ด้วยมือข้าเอง!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงได้วยความโหยหาและคิดถึงพร้อมกับพลังด้านมืดที่เริ่มเกิดความปั่นป่วนเพราะจิตใจของไป๋หลงไม่คงที่นั้นเอง….
หลิงหลุนที่อยู่ภายในดวงจิตถึงกับสั่นสะท้านในทันทีเพราะมีขุมพลังงอันมหาศาลกำลังจะระเบิดออกมาหลิงหลุนใช้พลังของตนเองสะกดมันเอาไว้ในทันทีก่อนที่ไป๋หลงจะรู้สึกตัว…
” เมื่อกี้นี้มันอะไรกันความรู้เมื่อครู่.. ” ไป๋หลงได้แต่พึมพำกับตนเองและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนถึงเช้า…
เมื่อยามเช้ามาถึงไป๋หลงก็ลงไปข้างล่างในทันทีเมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับลิ่วหลงกุนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของไป๋หลง..
” นายน้อย..ข้าลิ่วหลงกุนขอติดตามนายน้อยไปทวีปมืดด้วย..จะไม่มีผู้ใดทำอะไรท่านได้แม้แต่เหล่าฑูตสวรรค์ที่แฝงตัวอยู่ก็ตามที ” ลิ่วหลงกุนกล่าวด้วยความเป็นห่วงเพราะการที่จะปล่อยให้ว่าที่จอมราชันย์!!ในอนาคตเป็นอะไรไปนั้นย่อมิใช่เรื่องดีเป็นแน่แท้..
” ไม่ได้…ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงแต่ข้าอยากให้ท่านดูแลความสงบภายในเมืองที่กำลังจะสร้างขึ้น..ข้าอยากให้ท่านเป็นผู้ดูแลเมืองนั้นจนกว่าข้าจะกลับมา..ถ้าท่านไม่มั่นใจก็นี้หยกสื่อสารข้าจะติดต่อท่านในทันทีเมื่อข้าตกอยู่ในอันตราย.. ” ไป๋หลงพยามกล่าวอธิบายแก่ลิ่วหลงกุน..
” แต่…. ”
” ไม่มีแต่นี้คือคำสั่ง!!…ข้าสามารถพึ่งพิงท่านได้แค่คนเดียวเท่านั้น ข้าอยากให้ท่านปกป้องเมืองที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นจากอุดมคติที่ข้าได้วางไว้..ท่านที่เป็นถึงชนชั้นเทพสงคราม!! ต่อให้ยกกำลังคนมาทั้งทวีปก็มิอาจจัดการกับท่านได้..เพราะเหตุนี้ข้าจึงอยากฝากฝังเรื่องนี้ไว้ให้ท่านดูแล ”
ไป๋หลงกล่าพลางคาราวะลิ่วหลงกุนเมื่อลิ่วหลงกุนได้ยินเช่นนั้นก็ยอมตกลงตามที่ไป๋หลงบอก..
” แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาท่านต้องติดต่อ ข้ามาทันที..อีกอย่างตำราที่ข้าให้อย่าให้ใครเปิดอ่านเป็นอันขาด!!เพราะตำราจะแปดเปื้อนและมีมลทิลจากความคิดอันเป็นอกุศล.. ” ลิ่วหลงกุนกล่าวอธิบายและกำชับเรื่องนี้ไป๋หลงอย่างจริงจรัง…
ไป๋หลงกำลังยืนคุยอยู่กับลิ่วหลงกุนขณะนั้นเองก็มีคนมาดึงชายเสื้อของไป๋หลง
” ปะ..ป๋าหิวแล้ว ” เสียงที่ดังใสแจ้วก็คือเสียงของเว่ยเว่ยนั้นเอง ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มอ่อนออกมาพลางรูปหัวอย่างเอ็นดู..
” ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ..เจ้าก็ด้วยฟา ข้ารู้เจ้าตื่นตั้งนานแล้วออกมา.. ” ไป๋หลงกล่าวจบฟาก็เิดนออกมาพลางยิ้มก่อนจะโดนลงข้างล่างในทันที..
ลิ่วหลงกุนหันไปมองเว่ยเว่ยก็ปริยิ้มออกมาในทันที…
” แค่เด็กคนนี้ไปด้วยกับท่านข้าก็หมดห่วงแล้ว อีกอย่างข้าว่าตอนนี้พ่อหรือแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนี้กำลังตามหาและในไม่ช้าท่านจะต้องเผชิญหน้ากับ1 ในราชันย์มังกรทั้ง12เป็นแน่!!ข้าขอตัว.. ”
ฟึบ!!
ไป๋หลงไม่ทันที่จะได้กล่าวสิ่งใดลิ่วหลงกุนก็หายไปในทันทีไป๋หลงพยามปล่อยสัมผัสพลังออกมาแต่ก็ไร้ประโยชน์ไร้ร่องรอยของลิ่วหลงกุน..
” ชนชั้นเทพสงคราม!! น่ากลัวยิ่งนัก หากข้าเจอยอดฝีมือเช่นนี้ที่ไม่ใช่ลิ่วหลงกุนข้าคงพ่ายแพ้ภายในไม่กี่อึดใจเป็นแน่… ”
ไป๋หลงเดินลงมาข้างล่างพร้อมกับเด็กสาวเว่ยเว่ยที่อยู่บ่นบ่าของไป๋หลง…
” ไป๋หลงลูกจะออกเดินทางในวันนี้ใช่หรือไม่? ” ไป๋หยางกล่าวถามแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเล็กน้อย..
” ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ..ข้า อู้เฉียง เว่ยเว่ย แล้วก็ฟาจะออกเดินทางในวันนี้ที่เมืองจรัสแสงขอรับ ” ไป๋หลงกล่าวอธิบาย…เมื่อไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบแหวนมิติออกมา1วงออกมาจากชายเสื้อ…
” นี้คือแหวนมิติของ ฉางเฉิน ข้ามอบให้เจ้า อย่านำสิ่งของภายในออกมาในตอนนี้จงใช้ในยามคับขันเท่านั้น ” ไป๋หยางกล่าวกำชับแก่ไป๋หลง
ไป๋หลงไม่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธจึงยอมรับมาแต่โดยดีแม้จะนึกสงสัยอยู่บ้างก็ตามที… อู้เฉียงและอู้หยางในตอนนี้กำลังร่ำลากันตามประสาแม่ลูก..
” อย่าไปเป็นตัวถ่วงไป๋หลงละเข้าใจไหม..ดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้ดีละ” อู้หยากล่าวพลางโอบกอดอู้เฉียงด้วยความเป็นห่วง..
” โถ่วว..ท่านแม่ข้าไม่เป็นตัวถ่วงหรอกข้าเก่งจะตายไป..ข้ารักท่านแม่นะ ข้าจะรีบกลับมา.. ” อู้เฉียงกล่าวล่ำลาจบก็เหลือเพียงไป๋หลงเท่านั้นที่ยังพูดคุยกับไป๋หยางอย่..
” จงฟังให้ดี…นี้คือสิ่งที่พ่ออยากจะเตือนเจ้า อย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับจักรพรรดิ์แห่งธาตุทั้ง6!!โดยเด็ดขาด ” ไป๋หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและความโกรธแค้นจากน้ำเสียงที่ไป๋หลงสัมผัสได้..
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที…
” อะไรคือ จักรพรรดิ์ทั้ง6!!? รึท่านพ่อ ”
” จักรพรรดิ์ทั้ง6!! คือ บุคคล6คนที่มีพลังธาตุจนอยู่จุดสูงสุดไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชา..ทั้ง8ล้วนขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดจนมิอาจจะพัฒนาธาตุของตนได้อีกต่อไป ได้แก่ จักรพรรดิ์อัคคี!! จักรพรรดิ์อัสนี!! จักรพรรดิ์วารี!! จักรพรรดิ์ทมิฬ!! จักรพรรดิ์น้ำแข็ง จักรพรรดิ์วายุ!! พวกคนเหล่านี้ต่างอาศัยอยู่คนละทวีป ซึ่งทวีปมืดที่เจ้าจะเดินทางไปนั้น มี 1 ใน 6 จักรพรรดิ์อยู่ด้วย จงระวังตัวเอาไว้ให้ดี และอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นเด็ดขาด!! ข้าไม่สามารถบอกเหตุผลเจ้าได้แต่อีกไม่ช้าข้าจะบอกเจ้าเอง ”
ไป๋หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่อาจจะกล่าวถามอะไรได้อีกก่อนจะจดจำเรื่องราวตรงนี้เอาไว้และออกเดินทางสู่ทวีปมืดซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันเทพมารขุมกำลังอันดับ5ภายในยุทธภพ…
………………………………………………………
ณ.สถาบันเทพมาร
ภายในห้องประชุมที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยอักขระมากมายที่โดนเขียนไว้รอบห้องประชุมแสดงให้เห็นถึงเรื่องที่จะกล่าวสำคัญเป็นอย่างมาก…
” การสอบครั้งนี้อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเป็นอันขาด!!…” เสียงที่ทรงอำนาจกล่าวขึ้นภายในห้องประชุมนี้มีเพียงบุคคล20คนเท่านั้น
” ขอรับท่านผู้นำ…ครั้งนี้ทางเราจะให้ผู้อาวุโสทั้ง50คนเป็นคนคิดบททดสอบภายในปีนี้และจะแจ้งไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันทีขอรับ ”
” ดีมาก…เตรียมต้อนรับพวกรุ่นเยาว์จากเผ่าเทพด้วยทำเหมือนที่ทำมาครั้งก่อนๆแต่อย่าให้มันมากเกินพิธีหวังว่าพวกท่านทุกคนคงจะเข้าใจ.. ”
” ขอรับ ”
” ขอรับ ”
ผู้อาวุโสทั้ง20คนต่างกล่าวพร้อมกันและก้มคาราวะแก่ท่านผู้นำ..
” เลิกการประชุม!! ”
ผู้อาวุโสต่างๆก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในทันทีเพราะอีกครึ่งเดือนการสอบเพื่อเข้าสถาบันก็จะเกิดขึ้น…
จบ…
ไรท์ – ให้ทายไป๋หลงซวยแน่ซึ่งไม่มีความรู้ด้านนี้เลย ให้ทายไป๋หลงจะซวยด่านทดสอบไหน ฮ่าๆๆๆๆ