เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่87 ขึ้นฝั่ง 3 จบ
” ข้าเรียกมันสั้นๆว่า ศาสตร์ตราอัสนี!!! ”
ไป๋หลงในยามนี้ราวกับเทพอัสนีลงมาจุติตั้งแต่หน้าอกลงมาถูกปรกคลุมไปด้วยอัสนีสีแดงฉานราวกับโลหิต..ผู้อาวุโสต่างแข็งค้างแม้แต่หวังฟางยังอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านกับความร้อนจากอัสนีที่แผ่ออกมาแต่กลับตกตะลึงยิ่งกว่าเด็กสาวที่อยู่บนหัวของไป๋หลงมิได้แสดงท่าทีทรมานหรือเจ็บปวดแม้แต่น้อยราวกับกำลังนอนเล่นเสียมากกว่า…..
” นะ..นี้เจ้าบรรลุแก่นแท้แห่งอัสนีได้แล้วอย่างงั้นรึ? ” เจ้าสำนักอัสอัสนีกล่าวด้วยความตกตะลึง..
ไป๋หลงส่ายหน้าก่อนจะสลายพลังอัสนีทั้งหมดทิ้งไป..
” เปล่าเลยขอรับ..ข้าเพียงประยุกต์ใช้อัสนีในรูปแบบนี้เท่านั้นถึงแม้จะเป็นรูปแบบพลังป้องกันแต่ก็ขึ้นอยู่กับระดับของตัวผู้ใช้เช่นกันยิ่งระดับพลังสูงเท่าไหร่พลังป้องกันก็จะสูงตามระดับผู้ใช้!! ” ไป๋หลงกล่าวอธิบายโดยรวมอย่างละเอียด..
จี้กงที่เฝ้าดูอยู่ยังอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับความสามารถในการประยุกต์ใช้พลังในด้านต่างๆไม่จำกัดอยู่แต่ภายในกรอบเผ่าเทพบางตนยังเทียบไม่ได้กับความสามารถของไป๋หลงก่อนจะจับตามองเด็กหนุ่มร่างผอมบางผมสีม่วงอ่อนเพราะจี้กงสัมผัสพลังได้ถึง2เผ่าพันธ์ในตัวของเด็กหนุ่มนั่นแต่ก็มิได้เอ่ยบอกกับไป๋หลง…ส่วนฟาได้แจ่จ้องมองไป๋หลงด้วยแววตาที่ยากจะอธิบายในตัวตนของไป๋หลง…
ไป๋หลงอธิบายและให้คำชี้แนะแก่เจ้าสำนักอัสนีซึ้งเจ้าสำนักอัสนีไม่ได้รู้สึกอับอายแม้แต่น้อยถึงแม้จะเป็นการแนะนำจากผู้เยาว์ก็ตามที…คราแรกเหล่าผู้อาวุโสไม่เห็นด้วยที่ได้รับการชี้แนะจากผู้เยาว์แต่ก็ต้องจำยอมในที่สุดจนกระทั้งเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่าย…
” ไป๋หลง…เจ้าช่วยประลองกับข้าจะได้หรือไม่!! ” หวังฟางเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินมาหาไป๋หลง…เป็นเรื่องที่หวังฟางจะยอมรับได้ยากว่าจะมีบุคคลที่เก่งกาจกว่านางแม้อยู่ในวัยเดียวกันการต่อสู้จึงเป็นทางเดียวที่หวังฟางจะยอมรับได้…
เจ้าสำนักอัสนีและเหล่าผู้อาวุโสต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหวังฟางนั้นเป็นคนยังไงจึงมิได้เอ่ยปาก…กลับกันสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ไป๋หลง..เจ้าสำนักอัสนีเมื่อเห็นเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นในทันที
” อย่าได้รีบร้อนไปยังไง..พวกเจ้าก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้วในการสอบเข้าสถาบันเทพมาร!! ” เจ้าสำนักอสนีกล่าวขึ้น..
” แต่ว่า.. ” หวังฟางกำลังจะเอ่ยต่อไป่หลงก็กล่าวขึ้นในทันที..
” ไม่เป็นไรขอรับอีกไม่นานก็จะถึงฝั่งพวกเราก็แยกกันแล้วสู้กระชับสายสัมพันธ์เอาไว้…ก็ไม่เสียหาย ” ไป๋หลงเอ่ยพลางหันไป๋หาหวังฟางก่อนจะปริยิ้มอ่อนๆให้..
หวังฟางพลันหน้าแดงขึ้นตามความเป็นจริงแล้วหวังฟางนั้นยังไม่ลืมเรื่องที่ไป๋หลงอุ้มตนขึ้นมาบวกกับใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตรผมยาวสีดำสลวยดวงตาสีแดงทับทึมผิวขาวเนียลดุจสตรีขัดกับบุคคลิก การต่อสู้โดยสิ้นเชิง…หวังฟางพยามทำสีหน้าให้กลับมาเป็นเช่นเดิมก่อนจะกล่าวตอบกลับไป
” ใช่แล้วท่านอาจารย์ข้าเพียงแค่อยากวัดฝีมือตัวเองเท่านั้น..”
” งั้นข้าก็ขอร่วมด้วย.. ” เสียงที่เอ่ยขึ้นนั้นก็คือเสียงของเหอจิงหัวบุรุษร่างใหญ่กำยำใบหน้าคมคาย
” ข้าก็จะเอาด้วย… ” เสียงเด็กผู้หญิงร่างเล็กนั้นก็คือศิษย์น้องเล็กของกลุ่ม
เด็กหนุ่มที่เอาแต่นิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาแต่รู้สึกบางอย่างแปลกที่ออกมาจากตัวไป๋หลงจึงตัดสินใจที่จะพิสูจน์บางอย่าง..
” ข้าขอร่วมด้วย.. ” เด็กหนุ่มร่างผอมบางกล่าวขึ้นแววตาสีน้ำตาลเส้นผมสีม่วงอ่อน..
หวังฟาง เหอจิงหัว และ ศิษย์น้องเล็ก ต่างแปลกใจมิใช่น้อยที่คนนิ่งเงียบอย่าง ต๋าเฉิงจะขอเข้าร่วมด้วยเช่นนี้..
” ต๋าเฉิง..หาได้ยากมากเลยนะที่เจ้าจะต่อสู้เช่นนี้มีอะไรน่าสนใจหรือเตะตาเจ้าเข้าละ.. ” เหอจิงหัวกล่าวขึ้นกับต๋าเฉิง
ต๋าเฉิงเพียงเพียงยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยก่อนจะกล่าวขึ้น..
” ข้าแค่เจอบางอย่างที่น่าสนใจ…ท่านรอดูก็แล้วกัน ”
ไป๋หลงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆก่อนจะตรวจสอบระดับพลังขอต๋าเฉิงแต่ก็ต้องคิ้วขมวดเมื่อไม่สามารถวัดระดับพลังต๋าเฉิงได้ราวกับมีพลังบางอย่างมาปกปิดไว้…
ต๋าเฉิงเมื่อรู้ว่าไป่หลงแอบตรวจสอบระดับของตนก็ยกยิ้มขึ้น…ไป๋หลงได้เห็นรอยยิ้มของต๋าเฉิงเป็นเพียงรอยยิ้มจาง..ทำให้ไป๋หลงอดที่จะตกตะลึงไม่ได้..
” นายท่านระวังตัวด้วย!! เด็กหนุ่มที่ท่านสบตาด้วยนั้นเป็นลูกครึ่งมารกับอสูร!! ”
อ่าเป่าอสรพิษ7สีเชื่อสายโบราณที่ไป๋หลงทำสัญญาด้วยกล่าวขึ้น..ภายในจิตสำนึกของไป๋หลง..ไป๋หลงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันที…
” ขอบใจเจ้ามาก..ข้าจะระวังตัว ” ไป๋หลงกล่าวตอบอาเป่าก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางยิ้มขึ้นที่มุมปาก…
” อีกไม่นานก็จะถึงฝั่งแล้วให้สู้กับพวกเจ้าทุกคนข้าว่าคงจะไม่ทันการเอาเป็นว่าถ้าพวกเจ้าต้องทะลายการป้องกันของข้าให้ได้ดีหรือไม่ถ้าทำให้ข้าถอยหลังได้ออกจากจุดนี้ถือว่าพวกเจ้าชนะ… ”
หวังฟางหันไปหาจิงเหอ..ตาเฉิงและศิษย์น้องเล็กทั้งหมดล้วนไม่ขัดข้องผู้อาวุโสและเจ้าสำนักก็มิได้กล่าวสิ่งใดเพียงเฝ้ามองเท่านั้น..
” ตกลง..เริ่มได้เลย ข้าจะเป็นฝ่ายเริ่มคนแรก ” หวังฟางเอ่ยขึ้นก่อนจะเร่งเร้าพลังขึ้น..ไอเย็นแผ่ออกมาปลกคลุมไปทั่วเรือ..
” รับมือ…หอกน้ำแข็ง!! ”
ไป๋หลงรีดเค้นพลังออกมาสร้างม่านพลังสีทองก่อรูปร่างเป็นรูปปีกขนาดยักษ์ขึ้นโอมร้อมไป๋หลงไว้…
” เทวาพิทักษ์!! ”
หอกน้ำแข็งนับร้อยพุ่งเข้าใส่ม่านพลังสีทองรูปปีกสีทองขนาดยักษ์เป็นกระบวนท่าป้องกันที่ราฟาเอลเคยสอนไป๋เมื่อครั้งยังอยู่ในด่านทดสอบและฝึกฝน..ต๋าเฉิงเห็นเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที..
ตู้มม!!
หอกน้ำแข็งไม่สามารถพังทะลายการป้องกันของไป๋หลงได้ทิ้งไว้แค่เศษของหอกน้ำแข็งที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ..
” เป็นกระบวนท่าที่ป้องกันและน่าทึ่งมาก..ข้าแพ้แล้ว ” หวังฟางเอ่ยขึ้นยอมรัมความพ่ายแพ้นี้เพราะตนนั้นใส่พลังเต็มสิบส่วนไปกับหอกน้ำแข็งแต่มิอาจสร้างความร่องรอยได้แม้แต่น้อย…
” ต่อไปๆ ข้าๆ ” ศิษย์น้องเล็กของกลุ่มเอ่ยขึ้น…
เฟยเฟยนั่งมองอยู่ริมเรือพลางกินขนมที่ไป๋หลงให้อย่างสบายใจขณะนั้นเองก็มีซุ่มเสียงนึงดังขึ้นภายในหัวของเฟยเฟย…
” บุตรแห่งข้าเจ้าอยู่ที่ไหน!! ”
ไป๋หลงเรียกใช้เทวาพิทักษ์อย่างต่อเนื่องจนมาถึงคนสุดท้าย…ต๋าเฉิง
” คนสุดท้ายคือเจ้าแล้ว…มีอะไรก็อย่ายั้งไว้มิฉะนั้นจะเสียใจ ” ไป๋หลงจงใจเอ่ยขึ้นเพื่อยั่วยุแต่ดูเหมือนจะไร้ผล…
” ไม่จำเป็นต้องยั่วยุข้าหรอก…การป้องกันของเจ้าข้าจะทำลายมันเดี๋ยวนี้!! ” ต๋าเฉิงเอ่ยจบ..บรรยากาศรอบๆนิ่งสงบก่อนจะเดินมาอย่างช่วงช้าจนเข้ามาประชิดกับม่านพลังของไป๋หลงก่อนจะนำมือขวามาแตะ..หวังฟางเบิกตากว้างในทันทีไม่เว้นแม้แต่เจ้าสำนักที่กำลังจะพุ่งมาหยุดแต่ก็ไม่ทันการ..
” หัตถ์ มารกลืนกิน!!. ”
อยู่ๆม่านพลังสีทองของไป๋หลงก็เกิดรอยร้าวและถูกดูดเข้าไปในมิติอันดำมืด…ไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวในทันทีก่อนจะสถบออกมา..
” บัดซบนี้มัม… ”
ณ. สำนักวารีพิสุทธ์
” เป็นความจริงอย่างงั้นรึที่เจ้าพบเจอเด็กหนุ่มที่ชื่อไป๋หลง” เสียงที่กล่าวขึ้นด้วยความแปลกใจนั้นก็คือเสียงของชวี่เอ๋อ เจ้าสำนักวารีพิสุทธิ์..
” ใช่ขอรับ..ข้าเกือบจะสังหารมันได้แล้วแท้ๆ!! ” หลี่อานกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง..ชวี่เอ๋อได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าบิดเี้ยวในทันที..
” อย่าได้ทำเช่นนั้นเป็นอันขาด!! ”
หลี่อานได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที..
” ทำไมกันท่านอาจารย์? ”
ชวี่เอ๋อได้ยินเช่นนั้นก็แผดเสียงขึ้นมาในทันทีพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันระดับจักรพรรดิ์ที่แท้จริงออกมา!!
” ไม่ใช่เรื่องของเจ้ารีบเตรียมตัวได้แล้ว!!…เวลาสอบเข้าสถาบันเทพมารใกล้เข้ามาแล้ว..และจงจำไว้อย่าได้แตะต้องเด็กที่ชื่อไป๋หลงเด็ดขาด…”
หลี่อานถูดแรงกดดันระดับจักรพรรดิ์ที่แท้จริงกดทับกระอักโลหิตออกมาคำโตก่อนจะกล่าวขึ้น..
” ขะ..ข้าเข้าใจแล้วท่านอาจารย์ ”
ชวี่เอ๋อสลายแรงกดดันออกทั้งหมดก่อนจะมุ่งตรงกลับไปยังห้องทำงานเพื่อติดต่อใครบางคน…
เมื่อเห็นว่าชวี่เอ๋อเดินจากไปหลี่อานก็สถบออกมาด้วยควาแค้นใจในทันที…
” บัดซบ!!…ถ้าเจอกันครั้งหน้าข้าจะสังหารเจ้าให้จงได้ไป๋หลง ”
จบ….