เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่89 เทพมารตกสวรรค์ จบภาค 2 กำเนิดจอมราชันย์
ณ.โรงเตี้ยมแสงจันทร์…
ไป๋หลงได้ขอให้อาเป่าสละเกร็ด7สีของตนออกมาบางส่วนซึ้งเหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างกรูกันเข้ามาเพราะเกร็ด7สีนี้มันมีมูลค่ามหาศาลเป็นอย่างมากในการทำเป็นโอสถชั้นสูงทำให้ไป๋หลงได้เงินมาอยู่พอสมควรเพียงพอที่จะใช้จ่ายในยามนี้…
หลังจากไป๋หลงได้รับฟังเรื่องราวต่างๆจาก ฟา ก็ทราบถึงสาเหตุที่ฟานั้นต้องมาอยู่ในสภาพนี้ตระกูลราชวงศ์ของฟาโดนกบฏภายในเผ่า!!…ยึดอำนาจและสังหารเหล่าราชวงศ์จนหมดมีแค่ฟาเพียงคนเดียวเท่านั้นในหมู่ราชวงศ์ที่สามารถหลบหนีออกมาได้…
ซึ้งแน่นอนว่าถ้าไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังฝ่ายกบฏย่อมมีอาจจะทำอะไรเหล่าราชวงศ์ที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าพันธ์เอลฟ์…ได้ซึ้งฝ่ายที่สนับสนุนกบฏนั้นความจริงที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือเผ่ามาร!!!
” แล้วพวกนั้นรู้หรือไม่ว่าเจ้ายังไม่ตาย? ” ไป๋หลงกล่าวถามขึ้นหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดพลางคิดวิเคราะห์ ส่วนอู้เฉียงก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อยที่เอลฟ์สาวตนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าตนจะเป็นถึงเชื้อสายราชวงศ์เช่นนี้…
ฟาได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บปวดสุดแสนจะทรมาน…
” พวกมันไม่รู้อย่างแน่นอน..เพราะพวกมันคิดว่าเหล่าราชวงศ์นั้นตายหมดแล้ว!! เพราะพวกมันได้ล่อให้พวกเราเหล่าเชื้อสายราชวงศ์ทั้งหมดให้มาอยู่รวมกันและใช้ค่ายกลของเผ่ามารสะกัดเอาพลังของพวกเราออกมาจนเกือบหมด!!…และสังหารพวกเราทิ้งระหว่างเกิดความโกลาหลในช่วงนั้นท่านแม่ของข้าได้ใช้สมบัติประจำราชวงศ์ที่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงการมีอยู่ของมันซึ้งมันทำให้ข้าหนีออกมาได้…แต่เหล่าพี่น้องพ่อแม่ของข้าต้องตายลงอย่างไร้เหตุผลและเท่าที่ข้ารู้มาเมื่อไม่นานมานี้พวกมันตั้งตนเป็นราชวงศ์ยุคใหม่แห่งเผ่าพันธ์เอลฟ์… ”
ไป๋หลงได้ยินก็รู้สึกสะเทือนใจและกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมิใช่น้อยเพราะมีเรื่องของเผ่ามารมาเกี่ยวข้องด้วยซึ้งดูท่าจะมีอะไรสักอย่างที่เผ่ามารต้องกำจัดเหล่าเชื้อสายราชวงศ์รุ่นดั้งเดิมทิ้งและใช้เหล่ากบฏที่ตั้งตนเป็นราชวงศ์ยุคใหม่ในการเป็นหุ่นเชิด…
” เรื่องนี้ไว้ให้ข้าจะช่วยเจ้าเองไม่ต้องห่วงหลังจากที่ข้าจัดตั้งกองกำลังเป็นของตน!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย..
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยขึ้น…
” กองกำลัง?กองกำลังอะไรของเจ้ากัน ”
” เดี๋ยวเจ้าก็รู้อีกไม่นานเจ้าจะเป็นรองผู้บัญชาการ!!กองกำลังที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น..” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันทีก่อนจะสถบขึ้นมา..
” รองผู้บัญชาการบ้านเจ้านะซิ!! ”
แต่ดูเหมือนว่าไป๋หลงจะไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเมื่อครู่ของอู้เฉียงแม้แต่น้อยในตอนนั้นเอง จี้กงได้เข้ามาผ่านทางหน้าต่างห้องที่เปิดกว้างอยู่..
เมื่อไป๋หลงเห็นจี้กงกลับมาก่อนจะเอ่ยถามขึ้น…
” เป็นอย่างไรบ้างทุกอย่างปกติดีหรือไม่? ”
จี้กงไม่รอช้ากล่าวรายงานในทันทีพร้อมกับหยิบยื่นอะไรบางอย่างที่เป็นกระดาษแผ่นบางๆให้ไป๋หลง…
” เรียนนายท่าย…ช่วงนี้เผ่ามารเคลื่อนไหวผิดปกติเป็นอย่างมากซึ้งในช่วงนี้มีเผ่ามารมากกว่าปกติถึง3เท่า!! ด้วยกันเป็นไปได้ว่าอาจจะมีราชวงศ์ของเผ่ามารมาเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ก็เป็นได้!! ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นพลางเปิดอ่านข้อความที่เขียนอยู่ภายใน..
” ไม่น่าแปลกเพราะสถาบันเทพมารและเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องสถานะความเป็นกลาง..ไม่ว่าเป็นปีศาจ มาร เทพ เอลฟ์ หรือเผ่ามังกรก็สามารถอยู่ที่นี้ได้เพียงแค่ไม่มีใครเผ่าไหนต้องการเท่านั้น…ถึงจะเป็นราชวงศ์เผ่ามารแต่ยังไงก็คลทำอะไรมากไม่ได้ภายในสถาบันเทพมารแห่งนั้น…แล้วนี้คือ ”
ไป๋หลงอ่านข้อความก็ต้องขมวดคิ้วแนบแน่น..
” ระเบียบการเข้ารับสมัครอย่างงั้นรึ..ภายใน15 วันให้ผู้ต้องการสอบมารวมตัวกัน ณ.ลานกว้างทางด้านทิศตะวันตกของเมืองซึ้งเป็นสถานที่ที่ทางสถาบันได้เตรียมไว้ให้…ส่วนสำคัญทางสถาบันจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นที่อาจจะถึงแก่ชีวิต!!..ไม่จำกัดระดับพลังผู้เข้าสอบ!! ไม่อนุญาติให้นำผู้ติดตามเข้าไปผู้ที่จะเข้าไปในลานกว้างได้ต้องเป็นผู้เข้าสอบเพียงเท่านั้น..ห้ามใช้สัตว์อสูรในพันธะสัญญาระหว่างการคัดเลือกถ้ามีผู้ใดไม่ทำตามคำบอกจะโดนตัดสิทธิ์ในทันที..ท้ายสุดสิ่งที่สำคัญคือ ใบรับรองจาก เจ้าสำนักว่าศิษย์ผู้นั้นจบการศึกษาแล้วเป็นที่เรียบร้อยถ้าไม่มีก็มิอาจสมัครได้เช่นกันและ ผู้ที่มีความสามารถและความแข็งแกร่งคือผู้ที่ได้ทุกอย่างมาในครอบครอง ไม่มีดี ไม่มีเลว ทุกอย่างล้วนเกิดจากการระทำ จงตั้งใจไว้ให้ดีผู้ที่ไร้ความสามารถจะโดนผู้อื่นเหยียบย่ำลงพื้นดิน..ถ้าไม่อยากเป็นเช่นนั้นก็จงพยามความสำเร็จรอเจ้าอยู่เบื้องหน้า!!!! ”
ไป๋หลงอ่านระเบียบการออกมาเพื่อให้อู้เฉียงได้ยินก่อนจะจับจุดผิดสังเกตุได้หลายแห่งว่าการสอบเข้าในครั้งนี้ไม่ธรรมดาและมีบางอย่างแปลกๆอย่างแน่นอน….ก่อนที่ไป๋หลงจะกำหมัดแน่พร้อมกับพลังที่หลิงหลุนเคยสะกดกำลังจะประทุขึ้นในไม่ช้า..
” ข้าจะบดขยี้และทำลายผู้ที่ขวางทางของข้าให้หมด…ข้าจะต้องนำเอาสิ่งนั้นกลับมาให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!! ”
จี้กงสัมผัสบางอย่างได้จากพลังของไป๋หลงก่อนที่พลังสายนั้นจะหายไปทำให้จี้กงสงสัยไป๋หลงเพิ่มขึ้นไปอีกว่าแท้จริงแล้วไป๋หลงเป็นเทพหรืออะไรกันแน่!! แล้วบิดามารดาของไป๋หลงคือใครกัน…จี้กงได้แต่คิดแล้วเก็บเงียบเอาไว้…
” ไป๋หลงใจเย็นลงก่อน..อย่าได้วู่วามถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งแต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า..ภายใน15 ข้าว่าเราเอาเวลามาเตรียมตัวไม่ดีกว่าหรือ? ”
อู้เฉียงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงจนไป๋หลงอดที่จะเอ่ยปากขึ้นไม่ได้..
” เดี๋ยวนี้เจ้าพูดประโยคลึกซึ้งแล้วเป็นด้วยอย่างงั้นรึอู้เฉียง..เจ้าโตขึ้นมากจริงๆ ”
อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นแทบจะปรี่เข้าไปปล่อยหมัดใส่ไป๋หลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยแต่ก็ได้เพียงคิดเท่านั้น..
หลายวันผ่านไปผู้คนจากทั่วทวีปเข้ามาดูชมการสอบเข้าสถาบันเทพมารซึ้งแน่นอนว่าเหล่าผู้ที่จะมาชมการคัดเลือกในครั้งนี้รู้ดีว่าเพียงด่ายทดสอบแรกเท่านั้นที่ผู้คนทั่วไปมิได้รับอนุญาติในการรับรู้ถึงการทดสอบด่านนี้..ซึ้งการทดสอบมีทั้งหมด10ด่านทดสอบด้วยกัน…
ไม่เว้นแม้แต่เหล่าราชวงศ์ในบรรดาทวีปต่างๆจะมารับชมในครั้งนี้ซึ้งในแต่ละสำนักต่างส่งบรรดาเหล่าศิษย์ที่แข็งแกร่งเข้ามาเพื่อร่วมทดสอบ..การได้เป็นศิษย์ของสถาบันเทพมารนั้นมีสิทธิประโยชน์มากมายแม้แต่เหล่าชนชั้นสูงยังต้องเกรงใจ..และอีกอย่างไม่ว่าจะเป็นโอสถเม็ดยา ตำราฝึก ก็มีให้อย่างไม่ขาดสายไม่เว้นแม้แต่ อำนาจทางการทหาร ศิษย์สถาบันเทพมารสามารถออกคำสั่งแก่กองทัพที่ทางสถาบันได้จัดเตรียมไว้ให้ศิษย์บางคนเท่านั้น..ซึ้งการมีอยู่ของกองทัพเหล่านั้นมิอาจทราบได้ว่าทางสถาบันคิดอะไรอยู่…
ผ่านพ้นไปหลายวันจนในที่สุดก็ถึงวันสอบคัดเลือก…
มีเพียงจี้กงและฟาเท่านั้นที่มิได้ร่วมการทดสอบถึงแม้ไป๋หลงจะพยามพูดให้ฟาเข้าร่วมการทดสอบแต่ดูเหมือนว่าจะเปล่าประโยชน์ ส่วนเว่ยเว่ย ที่ตามติดไป๋หลงอย่างกับลูกติดแม่ก็ได้ตามเข้าบททดสอบนี้ด้วยเช่นกันก่อนวันงานคัดเลือก ไป๋หลงได้ติดต่อ หวังย่ง เจ้าสำนักหมื่นกระบี่ให้ออกใบจบการศึกษาให้เว่ยเว่ย ซึ้งแน่นอนว่า หวังย่งมิได้กล่าวคัดค้านแต่อย่างใดซ้ำยังสนับสนุนอย่างเต็มที่ จี้กงอาสาไปนำใบจบการศึกษาจากสำนักหมื่นกระบี่ จนท้ายที่สุดเว่ยเว่ยก็ได้ใบจบการศึกษามาและสามารถเข้ารับการทดสอบได้…
” เอาละต่อจากนี้ข้า อู้เฉียงและเว่ยเว่ยจะเข้าไปในลานทดสอบ…จี้กงฝากดูแลฟาด้วยอีกไม่นานข้าจะกลับมา ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินหายเข้าไปในลานกว้างก่อนจะมาโผล่ที่ไหนไม่รู้ราวกับว่าที่นี้ตัดขาดจากโลกภายนอก ถึงแม้ก่อนจะเข้ามาไป๋หลงเห็นผู้คนบางส่วนเดินเข้าไปในลานแล้วหายไป ไป๋หลงจึงเข้าใจว่าเป็นค่ายกลของลานกว้างแห่งนี้อย่างแน่นอน…
ภายในมีผู้คนนับหมื่นที่เข้ามาสามารถเห็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้อย่างชัดเจน…รุ่นเยาว์ของเผ่าเทพในครั้งนี้มีมากถึง12ตนส่วนเผ่ามารนั้นราวๆ30กว่าตน ส่วนที่เหลือแยกเป็นเผ่าพันธุ์น้อยใหญ่ เผ่ามังกร เอลฟ์ ปีศาจ และมนุษย์เกือบครึ่งนึง ณ.ที่แห่งนี้ซึ้งแน่นอนว่าไป๋หลง อู้เฉียง และเว่ยเว่ย อยู่ฝั่งมนุษย์…
” ชิเอล..เจ้ารู้สึกเหมือนข้าใช่หรือไม่ว่ามนุษย์คนนั้นมีกลิ่นอายคล้ายแบบเดียวกับพวกเรา ” เสียงของผู้เยาว์เผ่าเทพเอ่ยขึ้น..
” ใช่..รอดูไปก่อนว่ามนุษย์ผู้นั้นเป็นใคร ”
เผ่าเทพทั้งสองต่างพูดคุยกันด้วยลักษณะเผ่าเทพที่มีเลือนผมสีทองเป็นประกาย ดวงตาสีเหลืองอัมพัน สร้างความน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง..
ในขณะนั้นเองก็มีผู้อาวุโส1คนโผล่ขึ้นมายังพื้นที่ว่างที่เว้นว่างเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว..
” กาารสอบเริ่มขึ้นแล้ว..อีก10ลมหายใจถ้าพวกเจ้ายังไม่เตรียมตัวได้ตายจริงๆแน่!!! ”
” !!!!!! ” เหล่าผู้เข้าร่วมการทดสอบต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงทันใดนั้นผ่านไปไม่นานไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ในทันที..เพราะทันใดนั้นไป๋หลงรู้สึกราวกับกำลังแบกภูเขาเอาไว้ทั้งภูเขาซึ้งแน่นอนว่าไป๋หลงรู้จักพลังนี้ดี…
” บัดซบ!!…จิตจักรพรรดิ์ที่แท้จริง!! ”