เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่90 เทพมารตกสวรรค์ ภาค 3 กองกำลังปีกสวรรค์
จับคู่ 1
” บัดซบ!!…จิตจักรพรรดิ์ที่แท้จริง!! ”
ไป๋หลงสถบออกมด้วยความตกตะตึงและเดือดดาลไม่คิดว่าเพียงแค่ด่านแรกกลับต้องเจอผู้อาวุโสระดับนี้ในด่านแรกยิ่งไปกว่านั้นจิตจักรพรรดิ์ที่แท้จริงนั้นสามารถบดขยี้ได้แม้กระทั่งภูเขาทั้งลูกไม่เว้นแม้แต่ผู้คนทั่วไปเช่นกันแต่เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสคนนี้ยังยั้งมือเอาไว้ถ้าไม่ป่านนี้ทั้งลานคงเต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน…
และอีกประการที่สำคัญจิตจักรพรรดิ์นั้นไม่สามารถฝึกฝนได้!! ไม่ว่าจะยามแค่ไหนก็ตามแม้จะเป็นชนชั้นจักรพรรดิ์ที่แท้จริงก็มิอาจจะมีพลังเช่นนี้ได้เป็นพลังที่เหล่าชนชั้นจักรพรรดิ์ที่แท้จริงโหยหายิ่งกว่าสิ่งใด!! ในหลายร้อยล้านคนถึงจะเจอสัก1คนในนั้นซึง1ในนั้นก็เป็นผู้อาวุโสแห่งสถาบันเทพมาร…
” แค่นี้อย่าคิดจะหยุดข้าได้…ข้าไป๋หลงจะไม่ขอใช้พลังใดๆทั้งสิ้นในด่านทดสอบแห่งนี้!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมุ่งมันใช้เพียงพละกำลังทางกายล้วนๆเส้นเลือดปูดบวมอย่างเห็นได้ชัดนัยน์ตาแดงก่ำ
ผู้อาวุโสเหมือนจะได้ยินสิ่งที่ไป๋หลงเอ่ยขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างเพราะสิ่งที่ผู้อาวุโสที่คุมการทดสอบแห่งนี้เห็นนั้นเผ่าพันธ์มนุษย์ล้มฟึบลงไปกับพื้นแม้ใช้พลังจนถึงขีดสุดแต่ก็มิอาจต้านทานแรงกดดันนี้ได้แต่มีอยู่เพียง3คนเท่านั้น..ไม่สิ2คนกับเด็กหน้าจิ้มลิ้มเส้นผมสีแดงโลหิตยื่นเด่นเป็นสง่าในหมู่ผู้เข้าสอบเผ่ามนุษย์…
” ไม่เลว!!พละกำลังทางกายแข็งแกร่งไม่ธรรมดา..ส่วนอีกคนรู้จักการควบคุมเปลวเปลิงเป็นม่านพลังในการต้านทานแรงกดดันที่ข้าสร้างขึ้นไม่เลวเลยแต่นั้นมันอะไร…กะ..กำลังกินขนมอยู่อย่างงั้นรึ!! ” ผู้ว่าวุโสอดไม่ได้ที่จะสถบออกมาพลางมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น..
” ไป๋หลงเราต้องอยู่แบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กันข้าไม่ชอบแรงกดดันแบบนี้เท่าไหร่เลย.. ” อู้เฉียงกล่าวขึ้น..
ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยความลำบากเล็กน้อย..
” ข้าจะไปรู้รึ!! ข้าละอิจฉาเว่ยเว่ย จริงไม่สะทกสะท้านกับแรงกดดันจาก จิตจักรพรรดิ์แม้แต่น้อย!! ”
เหล่าผู้เข้าแข็งขันโดยรอบยังลดลงไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำแต่ดูเหมือนว่าเผ่ามนุษย์จะลดลงจนแทบจะสามารถนับได้ในตอนนี้…
” นี้เรอะเผ่ามนุษย์!! ชั่งออนแอเสียจริงๆ ถ้าไม่มีสิทธิสัญญาสงบศึกกันป่านนี้พวกเราเผ่ามารคงงจะสามารถยึดครองพื้นที่ของเผ่ามนุษย์ได้แล้วแท้ๆ!! ” เสียงที่เอ่ยขึ้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ปีกสีดำทมิฬบนแผ่นหลัง1คู่ เขาโค้งอ กับหางที่ยาวเหยียด ใบหน้าที่ดุดัน และร่างกายที่กำยำย่อมสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้พบเห็น..
” เมล..เจ้าพูดแบบนั้นระวังจะไปเตะตาเจ้าเด็กจากเผ่าเทพเข้าหละเดี๋ยวก็เป็นเรื่องขึ้นมาหรอก!!อีกอย่างเผ่าพันธ์มนุษย์มิได้อ่อนแอซะหมดทุกคนดูนั่น มนุษย์ผู้นั้นมิได้โคจรพลังหรือใช้พลังต้านทาแรงกดดันเช่นนี้แม้แต่น้อยใช้เพียงพละกำลังทางกายล้วนๆแม้เป็นข้า..ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ที่ข้าพูดไม่ได้แปลว่าข้าเข้าข้างเผ่ามนุษย์ แต่ข้าชื่นชอบความแข็งแกร่งของคนผู้นั้น!! ” มารที่มีปีกสีดำทมิฬอยู่บนแผ่นหลัง1คู่ ผิวซีดเผือก ใบหน้าไร้ชีวิตชีวา รูปร่างสมส่วน สร้างความน่าดึงดูดในเผ่ามารด้วยกันมีนามว่า ซัส ที่เป็นหนึ่งในเผ่ามารและเข้ามาเข้ารับการศึกษาครั้งนี้เอ่ยขึ้น
” หึ!! หายากนะ ซัส!! ที่เจ้าจะเอ่ยออกมาเช่นนี้แต่ก็เอาเถอะข้าอยากทดสอบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ผู้นั้นกลิ่นอายคล้ายกับพวกเราแต่ก็ไม่..มนุษย์ผู้นั้นเป็นใครกันแน่ ” เมลกล่าวขึ้นพลางปล่อยจิตสังหารมุ่งตรงไปหาไป๋หลงในทันทีซึ้งแน่อนเป็นพียงแค่การทดสอบบางอย่างของเมลเท่านั้น..
ไป๋หลงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันรุนแรงพุ่งตรงมาแต่ไป๋หลงเพียงแค่ยกยิ้มที่มุมปากขึ้น..
” อยากจะทดสอบข้าอย่างงั้นรึ!! ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นใครแต่ข้าจะสนองให้!! ” ไป๋หลงกล่าวจบบรรยากาศรอบๆไป๋หลงลดต่ำลงจิตสังหารพุ่งตรงมาหาไป๋หลงทันใดนั้นจิตสังหารที่กำลังจะถึงตัวไป๋หลงก็หายไป..
” !!!! ” เมลแสดงสีหน้าตกตะลึงในขณะนั้นเองเมลสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นพุ่งตรงมา…
” อึก!!..เอ้ยๆๆๆ!!ไม่ตลกเลยนะแบบนี้เล่นสลายจิตสังหารข้าไปแล้วย้อนกลับมาเช่นนี้อันตรายจริงๆ ” เมล กล่าวพลางเช็ดเลือดสีดำบริเวณมุมปาก..
การกระทำของทั้งสองคนต่างถูกจับตามองโดยผู้อาวุโสโดยที่ไป๋หลงและเมลมิได้รู้ตัวแม้แต่น้อย..
ซัสเพียงจ้องมองไป๋หลงเท่านั้นก่อนจะเลิกสนใจเผ่ามารคนอื่นๆที่เหลือมิได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นซึ้งระดับพลังมั้งหมดของเผ่ามารคือ ราชันย์นักรบที่แท้จริง ทั้งหมด!!
” ชิเอล..ข้าเบื่อแล้วเมื่อไหร่จะจบสักทีข้าไม่เข้าใจเลยทำไมเราต้องลงมาโลกเบื้องล่างด้วยทั้งๆที่สถาบันเทพศักดิ์ศิทธิ์ พวกเราก็สามารถเข้าที่นั้นได้!! ” เสียงของหญิงสาวจากเผ่าเทพเอ่ยขึ้น…
” มันก็ใช่ ยูมิว ข้าอยากจะบอกว่า….” ชิเอลกล่าวไม่ทันจบเสียงประกาศจากผู้อาวุโสก็ดังขึ้นอีกครั้ง..
” การทดสอบในด่านนี้สิ้นสุดลงแล้ว!! การทดสอบต่อไปจะจัดขึ้นที่นี้เป็นเวลา10วัน และใน10วันนี้พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องรักษากฏเกิณฑ์ให้ดีห้ามพวกเจ้าต่อสู้กันเอง..แต่เมื่อกี้มีเพียง2คนเท่านั้นที่แอบละเมิดกฏเกิณฑ์ แต่ก็มิได้สู้กันอย่างโจ่งแจ้งเพราะฉะนั้นบทลงโทษของพวกเจ้ามิได้ถือว่าร้ายแรงซึ้งบทลงโทษของพวกเจ้าทั้งคู่คือ จงต่อสู้กับผู้คนในนี้ทั้งหมดเป็นเวลา1ชั่วยามถ้าพวกเจ้าทั้งคู่ผ่านไปได้ ข้าก็จะถือว่าเรื่องเมื่อครู่มิได้เกิดขึ้น ศิษย์จากสำนักหมื่นกระบี่ไป๋หลง!! ศิษย์จากสำนักมารพิษ เมล!! ”
ไป๋หลงและเมลได้ยินคำพูดที่ออกาจากปากของผู้อาวุโสก่อนจะสถบออกมาพร้อมกัน..
” บัดซบ!! บ้าไปแล้ว ”
” บัดซบ!! บ้าไปแล้ว”
จบ….