เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่99 แสดงเจตจำนง 3
หลังจากกลุ่มควันหายไป หล่าผู้ชมเห็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าคิเมร่าตัวนั้น…ขณะนั้นเองเมื่อเห็นว่าเหยื่อของมันยังไม่ตายและมีแถมมีคนมาขัดขวางมัน ทำให้โทสะของมันพุ่งขึ้นไปอีก..คิเมร่าเตรียมจะโจมตีอีกรอบทันใดนั้นเอง เมื่อกลุ่มควันหายไป มันได้สบตากับไป๋หลงลึกลงไปภายในแววตาของไป๋หลง มีสัญลักษณ์ปีกสีดำทมิฬอยู่คู่หนึ่งหลับไหลอยู่!! เมื่อมันได้เห็น คิเมร่าตัวนั้นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวเพียงได้มอง เหลือเพียงแค่…..
ความหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด!!!!
คิเมร่านั้นคือสัตว์อสูรกึ่งมารที่เกิดการกลายพันธ์ขณะถือกำเนิดขึ้นซึ้งปกติเผ่ามารนั้นสามารถรับรู้ได้ทันทีด้วยสัญชาตญาณอันเฉียบคมว่าบุคคลตรงนั้นคือบุคที่ตัวมันต้องยำเกรงและให้ความเคารพอย่างถึงที่สุด…กลับกันสัญลักษณ์แห่งเทพมารนั้นจะไม่ถูกรับรู้โดยเผ่าพันธ์อื่นอย่างเด็ดขาดเพราะเหตุผลบางประการ…
ซึ้งไป๋หลงไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าตนนั้นได้รับการสืบทอดสัญลักษณ์แห่งเทพมารเมื่อครั้งราฟาเอลได้ถ่ายทอดความทรงจำให้ไป๋หลงก็ได้ส่งมอบ สัญลักษณ์ทั้งสองให้ไป๋หลง ( ตอนที่41 ) ในอนาคตไป๋หลงจะเป็นตัวเชื่อมบางสิ่งบางอย่างและทำลายกฏเหล็กแห่งสวรรค์…
…………………………………………..
เหล่าผู้ชมต่างตกตะลึงไม่เว้นแม้แต่ผู้อาวุโสชุดสะดุ้งตัวขึ้นมาด้วยตนเอง…
” บะ..บ้าน่า!! ใช้เพียงแค่แขนข้างเดียวเนี้ยนะ ในการป้องกันการโจมตี ที่รุนแรงเช่นนั้น ”
” หรือเด็กนั่นจะเชี่ยวชาญการป้องอย่างถึงขีดสุดศาสตร์แห่งการป้องกัน!! ”
” พวกท่านอย่าเอะอะโวยวายไปลองดูที่แขนข้างขวาของเด็กนั้นให้ดี…คลื่นพลังบางอย่างแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง… ” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นไขข้อกระจ่างแก่ผู้คนรอบข้าง..
” แต่..ก็เป็นความจริงที่เด็กนั่นป้องกันการโจมตีของคิเมร่าได้!! ในที่นี้มีพวกเจ้าคนไหนแน่ใจว่าสามารถป้องกันการโจมตีนั่นได้บ้างละ…รอดูเถอะว่าเจ้าเด็กนั่นจะทำสิ่งใดต่อ ” ผู้อาวุโสท่านเดิมกล่าวตอกย้ำเข้าไปอีก…
เกิดความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะอยู่ๆก็มีคนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง!!
” นะ…นั่นมันเรื่องบ้าอะไรกัน!!! ”
เหล่าผู้ชมต่างจดจ้องไปยังผ่านน้ำอักขระอีกครั้งนึงก่อนที่ทุกคนจะใบหน้าแข็งข้าง..แม้แต่เหล่าองค์จักรพรรดิ์ยังแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมา…เพราะ คิเมร่าตัวนั้นได้หมอบก้มหัวแทบเท้าของไป๋หลง!!!
ไป๋หลงงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากเหตุใดสัตว์อสูรตนนี้ถึงหมอบราบลงแทบเท้าตน..คราแรกไป๋หลงคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้แข็งแกร่งพอสมควรถ้าให้สู้กันตรงๆถึงแม้ชนะแต่ความเสียหายที่ได้รับก็ไม่แพ้กัน…
ผู้เข้าสอบหญิงตรงหน้าตกตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากก่อนจะเอ่ยถามขึ้น..
” ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้…แต่ว่าเจ้าเป็นใครกัน..นี้มันชุดศิษย์หลักแห่งสำนักหมื่นกระบี่!! แล้วใบหน้านี้มัน ข้าจำได้แล้ว!! เจ้า คือเทพสังหาร!! เจ้าใช้ฝนกระบี่นับพันเล่มข้าเคยโดนเจ้าสังหารมาแล้วในสนามสอบรอบแรก รู้ไหมว่ามันเจ็บเหมือนตายจริงๆเลยนะ เจ้าเบามือหน่อยไม่ได้รึไง จะฆ่ากันให้ตายไปข้างนึงจริงๆอย่าง
งั้นรึ อ้อจริงสิ ข้าชื่อ เก๋อเก๋อ แล้วเจ้าละ ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นถึงกับขุมขมับพูดเร็วอย่างกับอะไรดีเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็วอีกเช่นกัน…
” ข้าชื่อไป๋หลง แล้ว พรรคพวกของเจ้าละ? ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้น
” ข้าไม่อยากนึกถึงพวกสารเลวนั้น!! อีกอย่าง…เจ้าอสูรนั้นทำไมมันถึงหมอบราบต่อหน้าเจ้ากัน!! ข้าชักจะกลัวเจ้ามากกว่า เจ้าอสูรตนนั้นแล้วนะ สมแล้ว ที่เป็นเทพสังหารแม้แต่สัตว์อสูรยังหวาดกลัว นับถือๆ ” เก๋อเก๋อ เอ่ยขึ้นพลางคำนับไป๋หลง
ไป๋หลงเพียงแค่ยิ้มแห้งๆออกมาก่อนจะจดจ้องไปยังคิเมร่า.. ไป๋หลงรู้สึกราวกับว่าตัวมันนั้นกำลังหวาดกลัวตน…
ไป๋หลงเดินไปข้างหน้าสามก้าวก็ถึงตัวคิเมร่า ไป๋หลงจับสัมผัสจิตสังหารจากคิเมร่าไม่ได้แม้แต่น้อยและรู้สึกว่ามันกำลังเกรงกลัวบางอย่างจากตน ไป๋หลงจึงเดินเข้ามาใกล้เช่นนี้…
การกระทำของไป๋หลงสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนที่ต่างเฝ้าชมเป็นจำนวนมาก…
” เจ้าหนูนั่นกำลังจะทำสิ่งใดกัน? ” องค์จักรพรรดิ์ซ้วนตี้กล่าวขึ้น..
ไป๋หลงเอื้อมมือไปจับบนหัวของคิเมร่า..ภาพนี้สร้างความแตกตื่นขึ้นอีกครั้ง..
” เด็กนั่นบ้าไปแล้วแน่ๆ !! สัตว์อสูรทุกตัวรักษาเกียรติของมันยิ่งกว่าชีวิต มิหนำซ้ำเจ้าเด็กนั่นกำลังจะไปจับหัวเนี้ยนะ บ้าสิ้นดี ”
” มันจะแน่รึพวกเจ้าทุกคนจงดูให้ดี!! ” ผู้อาวุโสที่เคยกล่าวเมื่อก่อนหน้านี้ ได้กล่าวขึ้นอีกครั้ง…
” นั่นเจ้าจะทำอะไรไป๋หลง..ถอยออกมาเถอะน่าา ” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล
ไป๋หลงไม่ได้ฟังคำเตือนดังกล่าวก่อนที่มือข้างขวาที่ไป๋หลงใช้ป้องกันการโจมตีเมื่อครู่นั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา…
คิเมร่าเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งสั่นสะท้านเข้าไปใหญ่ มันนึกย้อนกลับไปตอนโจมตีใส่ผู้เป็นนายเหนือหัว!!! ก่อนที่มันจะปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมาส่งเข้าไปที่มือข้างขวา..แผลสมานตัวในทันที ไป๋หลงตกตะลึงงัน สัตวอสูรตนนี้ส่งพลังผ่านมาที่มือขวา!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแน่นอนว่า เก๋อเก๋อ ก็ตกตะลึงไม่แพ้กันเพราะ เเขนข้างขวาของไป๋หลง แผลที่เกิดขึ้นนั้นหายสนิทแล้วจากการโดนโจมตีเมื่อครู่….
แต่สำหรับเหล่าผู้ชมที่เฝ้ามองต่างไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเห็นเพียงแค่คิเมร่าปล่อยพลังบางอย่างออกมาก่อนพลังนั้นจะหายไปแต่ก็ยังมีคนผู้หนึ่งคอยเฝ้ามองไป๋หลงอย่างมิคาดสายตา..ชวี่เอ๋อ
ชวี่เอ๋อแววตาเผยทั้งความประหลาดใจและความตกตะลึงออกมา..
” หึๆๆ!!..หากจะให้แน่ใจคงจะต้องมีการพิสูจน์เล็กน้อย ” ชวี่เอ๋อกล่าวจบจากดวงตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปลเปลี่ยนเป็นสีเลือดเข้มก่อนจะทำการใช้เล็บกรีดเลือดบนฝ่ามือของตนทันใดนั้นเลือดที่ไหลออกมากลับระเหยกลายเป็นไอ พุ่งเข้าไปในหุบเขาทันทีโดยที่ม่านพลังนั้นไม่สามารถป้องกันการแทรกแซงจากกระทำดังกล่าวได้..
เพราะม่านพลังที่มิอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทำการป้องกันเพียงแค่การโดนโจมตีเท่านั้นแต่มิได้ป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก!!
ไม่นานเลทอดที่ระเหยนั้นได้ผ่านเข้าไปในหุบเขาอเวจีก่อนจะพบเป้าหมายนั้นก็คืออสูรตนนึงที่กำลังหลับไหลอยู่..
ชวี่เอ๋อเพ่งสมาธิก่อนจะเข้าควบคุมสัตว์อสูรตนนั้น..
วิชามาร เลือดสะกดวิญญาณ!!
สัตว์อสูรตนนั้นลืมตาตื่นขึ้นแต่ภายในแววตาของสัตว์อสูรตนนี้ราวกับตาของปลาที่ตายไปแล้ว..
ระหว่างนั้นเองผู้อาวุโสชุดดำที่คอยดูเฝ้าดูการทดสอบก่อนจะขมวดคิ้วเข้มและจดจ้องไปยังเหล่าผู้ชมด้วยแววตาที่เฉียบคมดุจกระบี่..
” ใครกันที่บังอาจแทรกแซงการทดสอบแห่งนี้!! ” ผู้อาวุโสชุดดำกล่าวขึ้นภายในจิตใจพลางเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น
“ท่านอาจารย์ท่านกำลังมองหาสิ่งใด? ” ศิษย์ที่ตามมาด้วยเอ่ยถามขึ้น
ผู้อาวุโสชุดดำเพียงส่ายหน้าเท่านั้นแล้วกลับมาจดจ้องไปยังภาพน้ำอักขระ…
” นี้เจ้าเป็นตัวอะ… ” ไป๋หลงยังกล่าวไม่ทันจบก็มีสัตว์อสูรขนาดใหญ่มหึมา ลำตัวมีแต่มวลกล้ามเนื้อที่อัดแน่นพร้อมจะระเบิดตลอดเวลา และยังมีหัวถึงสามหัว!! ด้วยกันมันโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาดแสดงให้เห็นถึงระดับพลังที่ต่างกันอย่างเด่นชัด..ไป๋หลงไม่สามารถสัมผัสการมาของมันด้วยซ้ำ เก๋อเก๋อ สั่นสะท้านไปทั้งตัว พร้อมกับใบหน้าขาวซีด..
สัตว์อสูรตนนี้มีแขนถึง4แขนด้วยดันก่อนที่มันจะรวบรวมอัดพลังไว้ที่แขนจนเกิดเป็นกลุ่มก้อนพลังงานมหาศาล…
ก่อนที่กลุ่มก่อนหลังงานมหาศาลเหล่านั้นจะพุ่งตรงมาหาไป๋หลงคิเมร่าที่กำลังหมอบราบอยู่จะกระโจนไปขวางการโจมตีนั้นพลางปลดปล่อยพลังออกมากดดันแต่น่าเสียดายที่สัตว์อสูรตนนี้นั้นเพียงแค่โดนควบคุมเท่านั้นมิอาจรับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่คิเมร่าปลดปล่อยออกมา..
คิเมร่าอ้าปากกว้างก่อนจะคำรามออกมาเสียงดั่งสนั่นและปลดปล่อยพิษที่ร้ายแรงที่สุดออกมา..
โฮกกกกกก!!!
สัตว์อสูรตนนั้นไม่ได้มีมิได้มีสามัญสำนึกเป็นของตนจึงมิอาจหลบเลี่ยงพิษที่รุนแรงเช่นนี้ออกมาได้เมื่ออสูรตนนั้นโดนพิษสีดำทมิฬของคิเมร่า อสูรตนนั้นก็ละลายนทันที…
เหล่าผู้ชมต่างแสดงสีหน้าโง่งมออกมาชั่วขณะหนึ่งต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อให้เป็นเด็กก็ดูออกว่าคิเมร่าตัวนั้นกำลังปกป้องไป๋หลง!!…
” นะ..นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!! คิเมร่า กำลังปกป้องเด็กนั่นอย่างงั้นรึ ”
” นะ…นั่นมันพิษทมิฬ!! หนึ่งในราชาแห่งพิษ”
” หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีความสามารถควบคุมอสูรได้!! ” บรุษร่างท้วมเอ่ยขึ้น ซึ้งแน่นอนว่าศาสตร์การควบคุมสัตว์อสูรนั้นมีอยู่อย่างไม่แพร่หลายเป็นวิชาที่หาได้ยากยิ่ง..
ชวี่เอ๋อเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นไปอีกเป็นการชี้ชัดแล้วว่าข้อสันนิษฐานของตัวเองนั้นถูกต้อง..
” ไป๋หลงรีบไปกันได้แล้ว…เสียงคำรามเมื่อครู่อาจจะไปกระตุ้นพวกอสูรรอบๆก็เป็นได้ ” เก๋อเก๋อรีบกล่าวขึ้น
ไป๋หลงก็คิดเช่นเดียวกับเก๋อเก๋อ ก่อนจะทะยานและเหรียวหลังหันกลับไปอาจจะเป็นความรู้สึกไปเองแต่ไป๋หลงรู้สึกว่าคิเมร่าตัวนั้นกำลังเคารพตนอยู่..
” มันจะเป็นไปได้ยังไง..คงจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าละมั้ง ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นพลางขบคิดบางอย่างก่อนจะทะยานร่างไปพร้อมกับเก๋อเก๋อ..
อีกด้านหนึ่งของภูเขา….
” เด็กน้อย..เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียวหน้าตาจิ้มลิ้มเส้นผมสีแดงเพลิงโลหิตนั่นอีก แววตานั่นสวยดีจริงๆข้าอยากได้เหลือเกิน.. ”
บุคคลที่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยจุดประสงค์ร้ายอย่างเห็นได้ชัดกำลังพูดกับเว่ยเว่ยที่กำลังพลัดหลงกับไป๋หลงและอู้เฉียงและตอนนี้อารมณ์ของตนนั้นก็มาถึงจุดขีดสุด!!..
” หืม? เด็กน้อยเจ้ากลัวข้าละสิฮ่าๆๆๆๆ ไม่ต้องกลัวข้าจะทำให้เจ้าไม่ทรมานเหมือนกับคนพวกนั้นอย่างไรเล่า!! ” บุคคลตรงหน้ากล่าวพร้อมกับผายมือให้เห็นถึงซากศพและชิ้นส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นแขนหรือขาต่างถูกแยกสิ้นส่วนจดหมดจากอะไรบางอย่าง…
ในหมู่กองซากศพนั่นเองมีเสียงที่อ่อนแรงกล่าวขึ้นบอกกับเว่ยเว่ยที่ใบหน้ามืดมน..
” จะ..เจ้าหนีไปอย่าไปสู้กับมันพวกเราไม่มีทางชนะมันได้ ชื่อของเจ้าบัดซบนั้นก็คือ… ” เสียงที่เอ่ยขึ้นกล่าวไม่ทันจบ..อยู่ดีๆเจ้าของเสียงดังกล่าวก็ถูกใยแมงมุมโดยรอบตัด ศรีษะอย่างรวดเร็วจนเลือดสีแดงสดไหลลงสู่พื้นดินเป็นภาพที่น่าสยดสหยองเป็นอย่างมาก..
แต่เว่ยเว่ยก็มิได้แสดงสีหน้าอันใดออกมาเลยแม้แต่น้อย..
” จุ้ๆๆ!! เสียมารยาทจริงๆเจ้าว่าไหม คนกำลังเสวนาอยู่แท้ๆ ชื่อของข้าก็คือ อ้ะ..ลืมไปข้าทิ้งชื่อไปนานแล้ว ฉายาที่ผู้คนตั้งให้ข้าในยามที่ข้ายังไม่ถูกขุมขัง ณ ที่บัดซบนี้ดีกว่า ชื่อที่ใช้เรียกข้าก็คือ ปีศาจโลหิต เพราะข้ามักจะเก็บเลือดของคนที่ข้าสังหารได้ไปปรุงเป็นสมุนไพร ที่ส่วนผสมมาจากมนุษย์ไงละ และหนึงในนั้นก็คือเจ้าเด็กน้อย..ตายซะเถอะ!! ”
ปีศาจโลหิตกล่าวจบเส้นใยนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก่อนและแปลเปลี่ยนเป็นหอกพุ่งเข้ามาหาเว่ยเว่ย..
” มีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่…ไม่สินะเพราะคนตายไม่จำเป็นต้องพูดข้าจะเหลือตาสีแดงเพลิงคู่นั้นไว้ก็แล้วกันเอาละตายได้แล้วเด็กน้อย ”
หอกพุ่งมารวดเร็วดุจสายฟ้าฟาดไม่กี่วินาทีหอกเล่มนั้นก็ปักเข้ากลางอกของเว่ยเว่ยแต่…
เคร้ง!!
เสียงบางอย่างที่แข็งมากๆกระทบเข้ากับหอกสีเงินที่สร้างขึ้นมาจากใยที่สามารถทะลวงได้แม้แต่พลังคุ้มกันของชนชั้นจักรพรรดิ์ แต่กลับไม่สามารถทะลวงร่างของเด็กผู้หญิงตัวน้อยตรงหน้าไปได้
” บะ..บ้าน่าเป็นไปไม่ได้!! ” ปีศาจโลหิตกระโดดถอยหลังไปก่อนจะสร้างหอกขึ้นจากใยแมงมุมนับสิบ
” คราวนี้ละตายซะ!! ”
หอกนับสิบพุ้งเข้ามาหาเว่ยเว่ยรอบทิศทางแต่ผลกลับเป็นเหมือนกับรอบแรกไม่ผิดเพี้ยน..
เคร้ง!!
เคร้ง !!
เคร้ง!!
หอกสีเงินนับสิบมิอาจทำอะไรเว่ยเว่ยได้แม้แต่น้อย ปีศาจโลหิตแสดงสีหน้าตื่นตะลึงอย่างถึงขีดสุดมีเพียงชุดที่ไป๋หลงซื้อให้เว่ยเว่ยเท่านั้นที่ฉีกขาดเผยให้เห็นถึงผิวพรรณอันบริสุทธิ์โชคดีที่ภาพม่านน้ำอักรขระยังไม่ได้จับภาพตรงส่วนนี้เพราะเป็นส่วนที่เข้าถึงได้ยากเพราะความพิศดารของภูเขาแห่งนี้…
” บัดซบนี้มัน..เจ้าไม่ใช่มนุษย์แน่ๆเจ้าเป็นตัวอะไร!! ”
ปีศาจโลหิตแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาอย่างชัดเจนก่อนจะเบิดพลังชนชั้นจักรพรรดิ์ออกมาสร้างหอกสีแดงฉานซึ้งหอกทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาจากเลือดของปีศาจโลหิต…
” หอกโลหิตคลั่ง!! ”
หอกโลหิตสีแดงฉานหมุนเขว้งรอบตัวปีศาจโลหิต ก่อนจะหันคมแหลมหาเว่ยเว่ยที่แสดงใบหน้าสุดแสนจะเย็นชาออกมา..
เว่ยเว่ยในยามนี้หวนนึกกลับไปยังความทรงจำที่ไป๋หลงเป็นคนเลือกและซื้อชุดนี้ให้กับตนเองซึ้งในตอนนี้เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไป๋หลงซื้อให้ฉีกขาดจากคมหอก..
คลื่นบรรยากาศรอบตัวเว่ยเว่ยเปลี่ยนไปในฉับพลันอากาศรอบข้างสั่นสะเทือน!! ดวงตาสีแดงเพลิงเเสดงความเย็นชาออกมาพลางมองต่ำปีศาจโลหิต เส้นผมสีแดงเพลิงเปล่งประกายรัศมีความน่าเกรงขามออกมา..ต้นไม้โดยรอบพลันสลายเป็นผุยผงพื้นดินโดยรอบปริแตกเป็นวงกว้าง…
” นะ..นี้มันเกิดอะไรขึ้น นังตัวประหลาดตายซะเถอะ!! ”
ปีศาจโลหิตปาหอกโลหิตไปอย่างบ้าคลั้งหอกสีแดงฉานที่สร้างยากใยแมงมุมผสมเข้ากับเลือดของตัวมันเองสามารถสร้างพลังที่สามารถทะลวงได้แม้แต่เกราะอักขระแต่..
หอกทั้งหมดโดนเด้งออกและพลันสลายหายไปจนหมดสิ้น..
หลังจากหอกสีแดงฉานโดนเด้งออกเพราะออร่าพลังโดยรอบคำพูดอันสุดเเสนที่จะเย็นชาจับขั้วหัวใจได้ถูกกล่าวออกมาจากปากของเว่ยเว่ย..
” กล้าดียังไง!! บังอาจมากที่มาทำเสื้อผ้าที่ ปะป๋า!! ซื้อให้ต้องเป็นแบบนี้ คนอย่างเจ้าต้องโดนเปลวเพลิง!! แผดเผาจนไม่เหลือแม้แต่ดวงวิญญาณ ”
เว่ยเว่ยกล่าวออกมาก่อนจะปลดปล่อยเปลวเพลิงทมิฬที่ฝ่ามือด้านขวาและเปลวเพลงสีแดงโลหิตที่ฝ่ามือด้านซ้าย เว่ยเว่ยนำเปลวเพลิงทั้งสองมารวมเข้าด้วยกันกลายเป็นเปลวเพลิงสีแดงทมิฬเข้ม!! และขยายเปลวเพลิงก่อเกิดเป็นรูปลักษณ์มังกรเหนือศรีษะของเว่ยเว่ย..
” เปลวเพลิงแห่งอนันตกาลรูปแบบที่1ราชันย์ดับศูนย์!!!! ”