เทพสงครามพิทักษ์โลก - บทที่ 1017
หากวันใดที่เขาหมดประโยชน์ลงแล้วเขามิอยากที่จะโดนถูกกำจัดทิ้งราวกับของไร้ค่าเพียงชิ้นหนึ่ง
หยางเฟิงพยักหน้าลงเล็กน้อย
เขาเชื่อในทันที. ว่าเถียนเฟยกำลังพูดความจริง
ด้วยวิธีการของตระกูลเย่ฟอเรนท์นั้น เป็นวิธีการที่โหดร้ายและไร้ความปรานียิ่งกว่าตระกูลมหาเศรษฐีภายในประเทศเสียอีก!
หยางเฟิงพลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า “ไม่ต้องเป็นกังวลไป มีฉันอยู่ที่นี่ ตระกูลเย่ฟอเรนท์ไม่สามารถมาฆ่านายได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิงนั้น เถียนเฟยจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของหยางเฟยมามากนัก ทว่าด้วยทัศนคติและท่าทีที่เรียบนิ่งและทำให้ผู้คนคาดเดาได้ยากของหยางเฟิง กลับทำให้เขารู้สึกได้รับความไว้วางใจอย่างอธิบายออกมาไม่ได้!
เถียนเฟยกล่าวขอบคุณฟยางเฟิงด้วยความซาบซึ้งออกมาว่า “คุณหยางครับ ขอบคุณที่คุณได้ช่วยชีวิตของผมเอาไว้!ตราบใดที่ผมเถียนเฟยผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่แม้เพียงแค่วันเดียวผมก็จะอุทิศตัวตนของผมทั้งหมดให้กับเฟิงเมิ่งกรุ๊ป จนกว่าผมจะตายอย่างแน่นอนครับ!”
“ทว่า……”
พูดจบ
เถียนเฟยพลันทำสีหน้าดูลังเลใจออกมา
“มีอะไรงั้นหรือ? นายยังมีเรื่องอะไรอีก?”
หยางเฟิงพลันขมวดคิ้วลงและเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เถียนเฟยได้แต่กัดฟันกล่าวออกมาว่า “คุณหยางครับตามข้อมูลที่ผมได้รับมา คนที่ตระกูลเย่ฟอเรนท์ส่งตัวมาในครั้งนี้ก็คือนักฆ่ารัตติกาลที่มีชื่อว่าดาร์กไนท์ครับ !”
“ดาร์กไนท์?”
“ใครกัน? แข็งแกร่งมากหรือไม่?”
เถียนเฟยพลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยความหวาดกลัว ปรากฏขึ้นมาจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
“ดาร์กไนท์หรือที่ผู้คนรู้จักกันในนามนักฆ่ารัตติกาล! เขามีพลังอยู่ในขั้นผู้แข็งแกร่งแดนแปรเทพ และยังมีชื่อเสียงที่เลื่องลือไปมากอยู่ภายในเกาะดาวแห่งนั้น! หากใครทำให้ตระกูลเย่ไม่พอใจขึ้นมาละก็ดาร์กไนท์ผู้นี้สามารถทำการฆ่าคนเป็นนับพันได้ภายในคืนเดียว รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งแดนปรมาจารย์อีกสิบคน และผู้แข็งแกร่งเกือบเข้าขั้นแดนแปรเทพอีกสามคนได้เช่นกัน!”
“ในคืนนั้นเลือกของคนที่ถูกฆ่าตายภายในบนเกาะดาวพลันไหลนองราวกับแม่น้ำสีเลือด เขาทำการบุกฆ่าเสียจนผู้คนที่อยู่ภายในเกาะดาวต่างก็รู้สึกอกสั่นขวัญผวาไปกันหมด! นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อเสียงของดาร์กไนท์เลยโด่งดังไปทั่วในเกาะดาว อีกทั้งยังไม่มีใครกล้ามารุกรานตระกูลเย่อีกนั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่า หากเกิดไปมีเรื่องกับตระกูลเย่เมื่องไหร่นั้น นั่นถือเป็นหนทางตายสถานเดียว!”
“ตระกูลเย่ฟอเรนท์นั้นเอาแต่คอยพึ่งพานักฆ่าที่แข็งแกร่งเช่นดาร์กไนท์ พวกเขาถึงได้กลายมาเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นหนึ่งในสองของเกาะดาวได้!”
หลังจากพูดจบนั้น
แววตาของเถียนเฟยพลันแสดงออกถึงความหวาดกลัวออกมาในทันที
เขาเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ดาร์กไนท์คนนี้เป็นบุคคลที่น่ากลัวมากจริงๆ
วีรกรรมของเขานั้น หากจะให้เถียนเฟยพูดออกมา เขาคงไม่อาจเล่าหมดภายในสามวันสามคืนอย่างแน่นอนจะ
ภายในเกาะดาวนั้นมีครอบครัวและตระกูลนับไม่ถ้วนที่ถูกดาร์กไนท์กำจัดทิ้งไป
เขาถือได้ว่าเพชฌฆาตขนานแท้เชียว!
สองมือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดผู้คนมากมาย!
เถียนเฟยไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลเย่ฟอเรนท์จะเต็มใจใช้ดาร์กไนท์เข้ามาจัดการกับหยางเฟิงแบบนี้
นี่มิใช่ถือเป็นการฆ่าตัวตายอย่างสมบูรณ์หรอกเหรอ!
“ดาร์กไนท์? นักฆ่ารัตติกาลเหรอ?”
“น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น
หยางเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพึมพำกล่าวกับตัวเองเบา ๆ
ตระกูลเย่ฟอเรนท์ส่งดาร์กไนท์มาแบบนี้ คงไม่ได้คิดที่จะมาฆ่าเถียนเฟยเพียงคนเดียวหรอกมัง
หากต้องการจะฆ่าเถียนเฟยที่เป็นบุคคลไร้ที่พึ่ง คงมิจำเป็นต้องลำบากมากมายขนาดนั้น อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งนักฆ่าที่มีพลังถึงขั้นผู้แข็งแกร่งแดนแปรเทพ มาอีกด้วย
มันดูเหมือนว่า
คนที่พวกเขาต้องการจะฆ่าจริง ๆ คือตัวเขาเอง!
มีเพียงแค่ตระกูลเย่แห่งตงไห่เท่านั้น!
ทว่าตระกูลเย่ฟอเรนท์คิดว่า เพียงเพราะการยืมมือของนักฆ่านามว่าดาร์กไนท์มาฆ่าเขา? และจะสามารถทำลายตระกูลเย่แห่งตงไห่ลงได้ทั้งหมดงั้นเหรอ?
ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกเสียจริง!
“อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว นายไปได้!”
หยางเฟิงไม่พูดอะไรออกมามาก พร้อมกับโบกมือไล่ให้เถียนเฟยออกไปในทันที
“ครับ!”
เถียนเฟยรู้สึกลังเลไม่น้อย
แต่เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของหยางเฟิงนั้น เขาจึงทำได้เพียงถอยกลับออกไปแทน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขาก็หันมาเข้าร่วมกับหยางเฟิงไปแล้ว
ในเมื่อหยางเฟิงไม่คิดสนใจ แล้วทำไมเขาจะต้องรู้สึกกลัวด้วยเล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่เขาเลือกที่จะมาเข้าร่วมกับหยางเฟิงแล้วนั้น นับว่าเป็นการตัดสินใจที่เขาคิดมาเป็นอย่างดีแล้วเช่นกัน
ถึงอย่างไร การที่เขาตัดสินใจที่จะมาเข้าร่วมกับหยางเฟิง ก็ยังดีกว่าเป็นหมาตัวหนึ่งภายในตระกูลเย่ฟอเรนท์ ที่คิดจะคิดจะฆ่าจะแกงเขาเมื่อไหร่ก็ได้ ?
จนถึงตอนนี้
ความกลัวบนใบหน้าของเถียนเฟยก็พลันหายไปในทันที